มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าอยากจะถูกข้าจับเปลื้องผ้าอาภรณ์จนหมดและวางยา จากนั้นก็เอาเจ้าโยนเข้าไปในห้องขังพร้อมให้เจ้าใช้กลอุบายชายงามกับเจ้าหมอนั่น หรือว่าเจ้าจะกลับวังไปแต่โดยดี เจ้าเลือกเอาเอง”
หัวใจของเชียนอ้าวเซี่ยแทบจะแตกสลายกลายเป็นผุยผง “ซีซีน้อย เจ้าช่างโหดร้ายยิ่งนัก”
— ปัง! —
มู่เฉียนซีเตะเขาออกไป นางรำคาญเขาจริง ๆ
“คอยอยู่ตรงนั้นเฉย ๆ เรื่องเช่นนี้เจ้าอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวจะดีที่สุด เจ้าไม่รู้หรือว่านักฆ่ากับนักปรุงพิษนั้น… คนสองประเภทนี้เป็นคนประเภทที่ไม่ควรไปล่วงเกินอย่างที่สุด ?”
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว “ซีซีน้อย เพราะว่าข้านั้นไม่สามารถฝึกยุทธ์ได้ เช่นนั้นเจ้าจึงไม่ได้ให้ข้าเข้าร่วม เจ้าเป็นห่วงข้าใช่หรือไม่ ?”
— ปัง! —
รอบนี้ มู่เฉียนซีถีบเขาออกไปไกลกว่าเดิม
เชียนอ้าวเซี่ยล้มลงจมูกช้ำใบหน้าบวม เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายของศัตรูในวันนี้คือน่าหลานอวี้และมู่เฉียนซี แต่ผู้ที่บาดเจ็บหนักที่สุดกลับเป็นเขา นี่มันช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
ในเมื่อมู่เฉียนซีมีแผนการของนางเอง เชียนอ้าวเซี่ยก็จนปัญญา ทำได้เพียงคอตกกลับวังไป
เมื่อกลับมาถึงวังแล้ว เสด็จพ่อก็ได้เห็นสภาพนั้นเข้า เชียนเหวินเต๋อตะลึงตาค้าง เขากล่าวขึ้น “โอ้! นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าในใต้หล้านี้จะมีผู้กล้าลงมือกับลูกชายสุดที่รักของข้าได้หนักหน่วงเช่นนี้ และที่ใบหน้ายังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ช่างน่าแปลกเสียจริง” เชียนอ้าวเซี่ยเบิกตากว้าง เขากล่าวว่า “มีพ่ออย่างเสด็จพ่อด้วยรึ ? บุตรตนเองถูกซัดมายังมีความสุขเช่นนั้นได้”
ฮ่องเต้เหวินเต๋อ “หึ ๆ ข้าดูแล้ว เป็นสตรีที่โจมตีเจ้าใช่หรือไม่ ?”
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “เสด็จพ่อ ท่านทรงตรัสมากไปแล้ว”
“ฮ่า ๆ ดูเหมือนว่าอีกไม่นานข้าก็จะได้อุ้มหลานแล้ว มีผู้ที่สามารถจะสืบทอดบัลลังก์ต่อจากข้าได้แล้ว”
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว “เรื่องราวยังไปไม่ถึงไหนเลย เสด็จพ่อคิดมากไปแล้ว” “เจ้าอย่าบอกข้านะว่าเจ้าไม่อยากตบแต่งนาง ?”
“อยากแล้วอย่างไรเล่า ? นางนั้นไม่เหมือนคนอื่น นางเป็นสตรีที่พิเศษที่สุดที่ข้าเคยพบมา และก็เป็นสตรีที่ใจแข็งที่สุด” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวออกมาโดยมีความโศกเศร้าปนอยู่ในน้ำเสียงบ้าง
เชียนเหวินเต๋อตบไหล่บุตรชายเป็นการปลอบใจ ทว่านั่นเกือบทำให้กระดูกของเชียนอ้าวเซี่ยหลุดออกจากกัน “เจ้าช่างทำให้ข้าผู้เป็นเสด็จพ่อขายหน้านัก แม้แต่เรื่องภรรยายังจัดการไม่สำเร็จ จะให้ข้าออกโรงเองหรือไม่ ?”
เชียนอ้าวเซี่ยพลันโกรธกริ้วขึ้นมา “ท่านพ่ออย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่าม เสี่ยวซีซีไม่สนใจในตัวท่านหรอก ท่านอย่าได้คิดจะเป็นโคเฒ่ากินหญ้าอ่อน”
รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างเชียนอ้าวเซี่ยกับฮ่องเต้เชียนเหวินเต๋อนั้นแปลกประหลาดมาก ถึงแม้ว่าจะเกิดมาในราชนิกูล ทว่าเมื่อเทียบพวกเขากับพ่อลูกตระกูลน่าหลาน แบบนั้นจะดูเหมือนพ่อลูกกันมากกว่า “ข้านั้นแก่ที่ไหนเล่า ? เจ้าช่างหาเรื่องโดนอัดเสียจริง”
เชียนอ้าวเซี่ย “เสด็จพ่อ ถ้าหากว่าชีวิตนี้ข้าไม่สามารถคว้าสิ่งที่รักใคร่มาได้ ข้าควรทำเช่นไรรึ ?”
“หากเป็นเช่นนั้นจริงจะทำเช่นไรได้ ? อย่างไรเสียข้าก็ได้ทำใจในเรื่องที่จะไม่มีหลานสืบสกุลไว้แต่แรกแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าจงอย่าได้ทอดทิ้งหัวใจของตนเอง”
เชียนอ้าวเซี่ยยิ้ม กล่าวว่า “เสด็จพ่อ ดูเหมือนว่าท่านจะรู้แจ้ง…”
……
วันต่อมา องค์ฮ่องเต้เหวินเต๋อก็ล้มป่วยลง มีข่าวลือจากในวังว่าองค์ฮ่องเต้เหวินเต๋อประชวรเพราะกริ้วองค์รัชทายาทมากเกินไป
ส่วนเสด็จพี่เสด็จน้องในวังเหล่านั้น ก็ถือโอกาสตอนที่ฮ่องเต้เหวินเต๋อประชวรหนัก เชียนอ้าวเซี่ยนั้นไร้ซึ่งที่พึ่งพิง ก็ได้โจมตีเขาด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา
“ตาแก่บ้า ท่านอย่าได้แกล้งประชวร ถึงต่อให้ท่านแกล้งประชวรข้าก็จะไม่เป็นห่วงท่าน!” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวอย่างไม่พอใจ เขานั้นยังคงหยอกล้อกับพระบิดาของเขาเช่นเคย แต่ก็พบว่ามันมีอะไรไม่ถูกต้อง
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก พระองค์ทรงพระประชวรจริง ๆ! “หมอหลวง! หมอหลวงอยู่ไหน ?!”
“องค์รัชทายาทโปรดไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด องค์รัชทายาท… เราไม่รู้ว่าฝ่าบาททรงพระประชวรด้วยโรคอะไร”
“องค์รัชทายาท…”
“เชียนอ้าวเซี่ย เจ้าอย่าได้มาทำตัวแสแสร้งแกล้งทำที่นี่ เห็นได้ชัดว่าเจ้านั้นทำให้เสด็จพ่อประชวร”
“ทหาร! จับเขาไปขังเอาไว้”
พี่น้องต่อสู้กัน บุตรแห่งพระสนมวังหลังแย่งชิงกันเสียแล้ว
เวลานี้เชียนอ้าวเซี่ยกริ้วเป็นอย่างมาก เขากล่าวขึ้นด้วยใบหน้าเย็นชา “หุบปากให้หมดทุกคน ถึงแม้ว่าเสด็จพ่อจะประชวรแล้ว ข้าก็ยังคงเป็นองค์รัชทายาทแห่งแคว้นเฉียนเซี่ย และข้าไม่ใช่ผู้ที่พวกสุนัขหรือแมวเช่นเจ้าจะมาสั่งสอนได้! ไสหัวไป!”
กลิ่นอายอันเยือกเย็นนี้ ทำให้คนเหล่านั้นตกใจกลัว องค์รัชทายาทเซี่ยที่เอาแต่เสเพลทำเรื่องไร้สาระไปวัน ๆ ก็มีเวลาที่น่ากลัวเช่นนี้เหมือนกัน
เขาจะต้องไปหามู่เฉียนซี!
เสด็จพ่อป่วยหนักกะทันหันอย่างไร้สาเหตุเช่นนี้ หมอในวังหลวงล้วนแต่ไม่มีวิธีรักษา ผู้เดียวที่เขาสามารถนึกออกก็คือมู่เฉียนซี และเขาเองก็มีความมั่นในตัวนางมาก
“พี่ใหญ่ องค์รัชทายาทเซี่ยมาอีกแล้ว!” มู่หรงรุ่ยรายงาน
มู่เฉียนซีตะลึงงัน “ไล่เขาออกไป อย่าให้เขามารบกวนข้า”
“แต่องค์รัชทายาทเซี่ยบอกว่า ถ้าหากไม่ยอมไปพบเขา เขาจะฆ่าตัวตาย พี่ใหญ่ ผู้ที่งดงามเช่นนั้น ตายไปน่าเสียดายนะ” มู่หรงรุ่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วครุ่นคิด
“เล่นอะไรที่ไร้ความสามารถอีกแล้ว” มู่เฉียนซีกลอกลูกตามองขึ้นด้านบนอย่างจนปัญญา “แย่แล้ว ครั้งนี้องค์รัชทายาทเซี่ยเอาจริง!”
“จริงรึ ?!”
สุดท้ายแล้วมู่เฉียนซีจำต้องออกไปดู นางมาถึงประตูหอหมอปีศาจ ก็เห็นเชียนอ้าวเซี่ยนั้นยืนหนาวเหน็บไปทั้งร่าง เขาเงยหน้าขึ้นมองมู่เฉียนซีแล้วร้องตะโกนขึ้น “ซีซีน้อย!”
เสียงนั้นไม่มีเสน่ห์และไม่อ่อนโยนอีกต่อไป หากแต่เป็นเสียงที่แหบแห้ง เต็มไปด้วยความร้อนใจ มู่เฉียนซีรู้สึกคุ้นเคยกับผู้ที่อยู่ตรงหน้านี้ขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด นางรู้โดยสัญชาตญาณว่าที่เขามาในครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อทำเรื่องไร้สาระเช่นเก่า นางถามขึ้น “เจ้าเป็นอะไรไปรึ ?”
“เสด็จพ่อของข้าทรงพระประชวร”
“ค่าออกเดินทางรักษาของหมอปีศาจนั้นสูงมาก” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วขณะกล่าว
“ข้าเอาตัวข้าขายให้เจ้าไปเลยเป็นเช่นไร ?” “ก็ไม่เท่าไร”
เชียนอ้าวเซี่ยก้มหน้า เขากำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่มีค่า
แต่ทว่ามู่เฉียนซีเพียงหยอกเขาเล่น ๆ การที่นางจะออกไปรักษานอกสถานที่ ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรมากมายเช่นนั้น หากเป็นมิตรสหายกัน แน่นอนว่านางต้องช่วยอย่างแน่นอน
“พาข้าไป” นางกล่าวขึ้นมา
เชียนอ้าวเซี่ยดีใจจนกระโดดตัวลอยและเกือบจะกอดมู่เฉียนซีเอาไว้ แต่ปรากฏว่ามู่เฉียนซีนั้นหลบได้ทัน
“เจ้าอย่าได้ขยับตัวทำอะไรมั่วซั่ว!” มู่เฉียนซีขู่ ทั้งยังตีสีหน้าเหี้ยมโหด เชียนอ้าวเซี่ยจึงยิ้มเจื่อน ๆ เขายืนอยู่ด้านข้างอย่างมีมารยาทพร้อมกล่าวขึ้น “เชิญตามข้ามาเถิด…”
เชียนอ้าวเซี่ยนั้นรีบพามู่เฉียนซีเข้าวังไปอย่างร้อนรน แต่ปรากฏว่าที่ประตูวังบรรทมของฮ่องเต้เหวินเต๋อมีคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่
เมื่อเห็นสาวน้อยชุดสีม่วงเดินมา ใบหน้าของพวกเขาฉายแววผิดหวังออกมา จากนั้นพวกเขาก็กล่าวประชดประชัน “องค์รัชทายาท… วัน ๆ เอาแต่ไปที่หอหมอปีศาจ เดิมทีคิดว่าจะสามารถเชิญหมอปีศาจมาได้ นึกไม่ถึงเลยว่ากลับเชิญมาได้เพียงสาวน้อยผู้หนึ่งเท่านั้น”
“ใช่แล้ว! คิดว่าตนเองนั้นได้อันดับหนึ่งในงานประลองปรุงยาร้อยปีแล้วจะเก่งกาจจริงหรือ นั่นมันก็แค่เล่นกันเท่านั้น ความสามารถทางการแพทย์ของสาวน้อยผู้นี้เกรงว่าจะเทียบไม่ได้แม้หนึ่งในสิบส่วนของหมอปีศาจเสียด้วยซ้ำ ไปเชิญนางมามีประโยชน์อันใดกัน ?” “องค์รัชทายาทมีเพียงความสามารถในการเกี้ยวสตรีเท่านั้น ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ แม้แต่หมอปีศาจยังเชิญมาไม่ได้ ช่างไร้ประโยชน์เหลือเกิน”
ในตอนนี้เอง เสียงที่เย็นชาและแจ่มใสเสียงหนึ่งดังลอยมา
“สวะเซี่ย เหมือนว่าสุนัขในบ้านเจ้าล้วนจะไม่ได้รับการสั่งสอนให้ดี เป็นเช่นนี้ลากออกไปตุ๋นเนื้อให้สุนัขกินให้หมดเสียดีกว่า”
เชียนอ้าวเซี่ยเบิกตาขึ้น รอยยิ้มยินดีปรากฏบนใบหน้า “อ๊า! ความคิดของซีซีน้อยนี่ดียิ่งนัก”
ในเวลานี้เอง สีหน้าของเหล่าพระชายาขององค์ชายทั้งหลายล้วนเปลี่ยนเป็นสีเขียว พวกเขามองไปที่มู่เฉียนซีด้วยดวงตากรุ่นโกรธราวกับพ่นไฟออกมาได้ก็มิปาน เป็นเด็กสาวที่อวดดีนัก! ถือว่าตนเองได้วิชาการแพทย์ จึงกล้าดูหมิ่นเชื้อพระวงศ์ บอกว่าพวกนั้นเป็นสุนัข!
“บังอาจ ในราชวังไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะหยิ่งยโสได้!”
“ทหาร! เอาตัวเด็กสาวผู้นี้ไปขัง!”
ซีเอ๋อร์น้อยของเขา มีหรือเขาจะปล่อยให้คนเหล่านี้มารังแกนาง
เชียนอ้าวเซี่ยขมวดคิ้ว “หนวกหู! ทหาร ! จับพวกนั้นโยนออกไปให้หมด”
.