ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 492 ฝีมืออ่อนหัด

“ตาเฒ่า พวกเจ้าจะลองดูก็ได้นะ” กระบี่วิญญาณน้ำแข็งถูกเชียนอ้าวเซี่ยชักออกจากฝัก

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวเสียงแหลม “กระบี่วิญญาณน้ำแข็ง แม้แต่กระบี่วิญญาณน้ำแข็งเจ้าก็รับสืบทอดมาแล้วรึ ดูท่าแล้วราชวงศ์แคว้นเฉียนเซี่ย มีความทะเยอทะยานอันแรงกล้าจริง ๆ!”

ตูม!

เชียนอ้าวเซี่ยไม่อยากเสียเวลาพูดจาไร้สาระกับตาเฒ่าที่มีความคิดต่ำทรามเหล่านี้ ครั้นแล้วเขาจึงลงมือทันที

อีกทางด้านหนึ่ง มู่อวู่ซวงก็ลงมือแล้วเช่นกัน

ปัง!

เชียนอ้าวเซี่ยตะโกนกล่าวอย่างกลัดกลุ้มใจ “ข้าบอกให้ท่านพาเสี่ยวซีเอ๋อร์หนีไปก่อนไม่ใช่เหรอ ?”

มู่อวู่ซวงกล่าว “หลานสาวของข้า ข้ามู่อวู่ซวงจะปกป้องด้วยตัวข้าเอง อย่างไรเสียคนเหล่านี้เพิ่งจะทะลวงพลังวิญญาณได้เพียงไม่กี่ปี ยังไม่ความก้าวหน้าอะไรมากนัก ก็แค่ไอ้แก่หนังเหนียวก็เท่านั้น”

มู่อวู่ซวงยังคงเป็นจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูงสุด ทว่า พลังของของเขานั้นคุกคามได้อย่างน่ากลัวนัก

เห็นได้ชัดว่าสองขาของเขานั้นพิการไม่สามารถขยับขับเคลื่อนได้ นั่งอยู่บนรถเข็น แต่กลับดูเหมือนว่าเขายืนอยู่ที่สูงสุด มองพวกเขาเหล่านี้ราวกับเป็นเพียงแค่มดตัวเล็ก ๆ ก็มิปาน

ผู้อาวุโสเหล่านั้นของสำนักอวิ๋นเยียน โดนคนหนุ่มสองคนอายุไม่ถึงสามสิบปียั่วยุเช่นนี้ก็โกรธเกรี้ยวจนถึงขีดสุด!

“พวกเจ้ารนหาที่ตาย!”

ตูม!

สามรุมหนึ่ง อีกทั้งยังต้องต่อสู้ข้ามระดับอีก นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

มู่เฉียนซีหยิบเอาของดีออกมา ถึงแม้ว่ายาเพิ่มพลังวิญญาณที่ไร้ผลข้างเคียงจะใช้ไปหมดแล้ว แต่นางก็ยังมียาฟ้าดินซวนหวงอยู่ ทว่ายาเม็ดนี้มันมีผลข้างเคียง

ตอนนี้พลังวิญญาณของนางถึงขั้นราชาแห่งภูตระดับเก้าแล้ว ยาฟ้าดินซวนหวงนี้สามารถทำให้พลังวิญญาณของนางเพิ่มขึ้นหนึ่งขั้น นั่นก็คือจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้านั่นเอง

ทว่า มันไม่เหมือนกับเม็ดยาที่นางได้กินก่อนหน้านี้ เพราะผลกระทบของยาฟ้าดินซวนหวงนั่นก็คือจะทำให้พลังวิญญาณของนางลดลงหนึ่งระดับ!

ในสถานการณ์เช่นนี้ นางยอมให้พลังของนางลดลงหนึ่งระดับ แต่ไม่ยอมทิ้งเจ้าสวะเซี่ยและพวกเขาไปอย่างแน่นอน

ก็แค่ระดับเดียวเท่านั้น นางสามารถฝึกฝนใหม่ให้กลับมาได้อย่างแน่นอน

ตูม!

พลังวิญญาณเพิ่งจะกลับมาขั้นเดิม แต่ตอนนี้กลับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

“ผู้นำตระกูลมู่ประหลาดเกินไปแล้ว! ยาเพิ่มพลังวิญญาณเช่นนี้กินไปถึงสองครั้งเลยงั้นรึ ?”

“ใช้สองครั้งติดกันเช่นนี้จะไม่เป็นอะไรไปเหรอ! หากมีผลกระทบต่อความสามารถของนาง ความสามารถที่ฝึกฝนมาคงจะสูญเปล่าอย่างน่าเสียดาย”

“มังกรเพลิงพิฆาต!” มู่เฉียนซีลงมือกับผู้อาวุโสสามผู้ที่อ่อนแอที่สุดของสำนักอวิ๋นเยียนอย่างไร้ความปรานี!

อู๋ตี้กับเสี่ยวหงฉวยโอกาสนี้รุมโจมตี คิดว่าเป็นยอดฝีมือมหาจักรพรรดิแล้วจะเจ๋งนักรึไง! กล้าทำร้ายนายท่านของพวกมัน ต้องตายสถานเดียว!

“เสี่ยวซีเอ๋อร์!” พลังของมู่เฉียนซีเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งเช่นนี้ ทำให้เชียนอ้าวเซี่ยกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก

“เจ้าไม่เชื่อข้า! ไม่เชื่อว่าข้าจะจัดการกับพวกมันได้” ภายในวันเดียวเพิ่มพลังวิญญาณถึงสองครั้ง หากผลกระทบมันไปทำร้ายรากฐานพลังนางจะทำเช่นไร ?

มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าลืมไปแล้วเหรอว่าข้าเป็นนักปรุงยา! เพราะฉะนั้นข้ารู้ขีดจำกัดของตัวเองดี”

ไม่ส่งผลกระทบถึงรากฐานของพลัง เพียงแต่ทำให้พลังลดลงมาหนึ่งระดับก็เท่านั้น การต่อสู้ในวันนี้จะต้องได้รับชัยชนะมาได้อย่างสมบูรณ์ ไม่อาจปล่อยให้สำนักอวิ๋นเยียนมีชีวิตรอดไปได้

ตูม!

พลังของมู่เฉียนซีตอนนี้เป็นจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูงสุด อีกทั้งยังมีอู๋ตี้กับเสี่ยวหงคอยคุ้มกันอยู่ การจัดการกับมหาจักรพรรดิแห่งภูตนั้นไม่ใช่เรื่องยาก

ทางด้านเชียนอ้าวเซี่ยเองก็มีพลังวิญญาณถึงขั้นมหาจักรพรรดิแล้ว อีกทั้งยังมีกระบี่วิญญาณน้ำแข็งอยู่ในมือ การรับมือกับมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสองนั้นไม่ใช่ปัญหา

ส่วนมู่อวู่ซวง ถึงแม้ว่าจะเคลื่อนไหวไม่สะดวก แต่เขามีพลังอันแข็งแกร่งและว่องไว อีกทั้งยังมีประสบการณ์มากกว่าผู้อาวุโสรองมากมายไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ชั่วครู่หนึ่งฝีมือทั้งของสองก็อยู่ในระดับเดียวกัน

เดิมทีทุกคนคิดว่าเมื่อผู้อาวุโสขั้นมหาจักรพรรดิทั้งสามของสำนักอวิ๋นเยียนปรากฏตัวขึ้น กองกำลังของตระกูลมู่ต้องวอดวายไปทั้งกองทัพแน่นอน ทว่าสถานการณ์ตอนนี้กลับพลิกผัน ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ

กองกำลังของผู้มีอำนาจทั่วทั้งเซี่ยโจวถูกสำนักอวิ๋นเยียนกดขี่ข่มเหงมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามสำนักอวิ๋นเยียนนั้นได้กระทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าเอาไว้มากมาย ถึงแม้ว่าจะทำให้พวกเขาโกรธแค้นและไม่อาจปริปากพูดอะไรได้ แต่ในก้นบึ้งหัวใจพวกเขานั้นก็ยังหวังให้สักวันมีคนเอาชนะสำนักอวิ๋นเยียนได้

เผชิญหน้ากับมหาจักรพรรดิแน่นอนว่าไม่ได้ง่ายเหมือนขั้นจักรพรรดิ ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างสูสี และทำลายพื้นที่ของสำนักอวิ๋นเยียนพังไปครึ่งสำนัก

พลังวิญญาณของมหาจักรพรรดินั้นใช่ว่าจะใช้ไม่หมด ทว่า ตามหลักเหตุผลแล้วพลังขั้นจักรพรรดินั้นจะสูญเสียพลังไปเร็วกว่า แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป!

“ท่านอา เจ้าสวะเซี่ย รับ!”

 ยาฟื้นฟูพลังวิญญาณที่มู่เฉียนซีนำติดตัวมานั้นราวกับว่าไม่เสียสักสตางค์แดงเดียวส่งไปให้กับมู่อวู่ซวงและเชียนอ้าวเซี่ย

ยาวิญญาณนั้นเป็นยาวิญญาณระดับสูงและมีคุณภาพดีมาก ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสทั้งสามจะเป็นผู้อาวุโสของสำนักอวิ๋นเยียน แต่พวกเขาก็ไม่เคยมีมัน อีกอย่างพวกเขาก็เก็บตัวไม่ออกมาเป็นเวลาสิบปีแล้ว ต่อให้มียาฟื้นฟูพลังวิญญาณติดตัวมา แต่ก็ไม่ได้มากมายเช่นนั้น!

สู้ด้วยยาวิญญาณ สู้ด้วยพลัง ผู้อาวุโสทั้งสามของสำนักอวิ๋นเยียนพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง!

พวกเขาทั้งสามมีสัญญาลับที่เป็นที่รู้กัน นั่นก็คือความสิ้นเปลืองของพลัง ผู้แข็งแกร่งขั้นมหาจักรพรรดิยากที่จะต่อกรมากเท่าไหร่ แต่ถ้าหากผู้แข็งแกร่งขั้นมหาจักรพรรดินั้นสูญเสียพลังจนไม่มีพลังวิญญาณที่จะใช้ต่อสู้ ก็เป็นเพียงแค่เสือที่ไร้เขี้ยวเท่านั้น

ผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักอวิ๋นเยียนกินยาวิญญาณทีละเม็ด ๆ อย่างประหยัด แต่ทางด้านมู่เฉียนซีและพวกกินครั้งละขวด!

ทุกคนมุมปากกระตุกขึ้น นั่นมัน……เหมือนยาระดับเจ็ดกับยาระดับแปด! กินมากมายเช่นนั้นสิ้นเปลืองเกินไปแล้ว!

“ความสัมพันธ์ของผู้นำตระกูลมู่กับหมอปีศาจนั้นไม่ธรรมดาจริง ๆ คนที่กล้ากินยาวิญญาณสิ้นเปลืองได้เช่นนี้คงจะมีแค่ผู้นำตระกูลมู่คนเดียวกระมัง ?”

“ช่วยไม่ได้ หอหมอปีศาจเป็นของหมอปีศาจ ผู้นำตระกูลมู่กับเขาก็มีความสัมพันธ์กัน นางอยากจะกินเข้าไปมากแค่ไหนก็ย่อมได้!”

“กินเข้าไปเช่นนี้ทำให้คนอิจฉาจนแทบอยากจะวิ่งไปกอดขาขอร้องหมอปีศาจแล้ว!”

“คนอย่างหมอปีศาจคิดว่าอยากจะเจอก็ได้เจองั้นรึ เกรงว่ายังไม่ทันได้เจอก็โดนยาพิษซะก่อนนะสิ”

ถึงแม้ว่ายาวิญญาณเหล่านี้จะเพียงพอที่จะเสริมแรงให้พวกเขาได้คร่าชีวิตของเหล่าผู้อาวุโสได้ ทว่า มู่เฉียนซีก็ไม่กล้าที่จะชะล่าใจไป!

“ทักษะเทียนซวน!”

“มังกรวารีพิฆาต!”

“มังกรเพลิงสังหาร!”

อู๋ตี้พรวดเข้าไปพร้อมคำรามดังก้องว่า “ไปตายซะ!” อุ้งเท้าอันแหลมคมนั้นกระแทกได้อย่างสะท้านฟ้าสะเทือนดิน!

เสี่ยวหงกล่าว “เจ้าแมวโง่ พลังของเจ้ายังอ่อนไปหน่อยนะ!”

“เพลิงเผาสวรรค์!”

“เจ้าหมูบ้า เจ้าคิดว่าเจ้าเก่งกาจนักรึไง! รอให้ข้าได้กินอิ่มหนำสำราญก่อนเถอะ ข้าแข็งแกร่งกว่าเจ้าแน่นอน!”

“เจ้าล้มเลิกความคิดนี้สักทีเถอะ! ต่อให้ข้าเอาแต่นอนขี้เซาอยู่ตลอดเวลา ข้าก็ไม่มีทางแพ้ให้แมวโง่เง่าอย่างเจ้าหรอก”

ผู้อาวุโสสามตอนนี้แทบจะสติแตกแล้ว เจ้าสัตว์สองตัวนี้ช่างกล้าดียิ่งนัก ไม่เห็นเขาในสายตาเลย นี่พวกเขากำลังต่อสู้กันอยู่นะ! แต่พวกมันมาทะเลาะกันหน้าตาเฉยเช่นนี้

เงาร่างสีม่วงเคลื่อนไปอยู่ทางด้านหลังของผู้อาวุโสสามอย่างรวดเร็ว

ฟึ่บ!

เข็มยาเข็มหนึ่งพุ่งเข้าใกล้ร่างของผู้อาวุโสสามอย่างไร้สุ้มเสียง

“ฝีมืออ่อนหัดยิ่งนัก!”

เขาช้าเกินไป แน่นอนว่าเขาไม่เห็นถึงความน่ากลัวของเข็มยานี้ของมู่เฉียนซี คนที่อยู่ด้านข้างเห็นมู่เฉียนซีลงมือด้วยเข็มยานี้แล้วก็อดที่จะหวาดกลัวจนสั่นสะท้านไม่ได้

ไม่รู้ว่าในเข็มยานั่นจะมีพิษอะไรอยู่?

ตูม!

กำแพงพลังวิญญาณขวางกั้นเข็มยาของมู่เฉียนซีเอาไว้! ทว่า เข็มยานั้นถูกขัดขวางอยู่เพียงครู่หนึ่ง ก็มีเข็มยาที่เล็กกว่าพุ่งออกไปจากตรงกลางและด้านข้าง!

ตูม!

ในตอนนี้อู๋ตี้กับเสี่ยวหงโจมตีเพื่อดึงดูดความสนใจจากเขา!

พรวด!

ผู้อาวุโสสามไม่ทันระวัง เข็มยาเข็มเล็กนั้นพุ่งเข้าไปแทงทะลุผิวหนังของเขาในทันที! ผู้อาวุโสสามไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย ทว่า ตอนนี้มุมปากของมู่เฉียนซียกขึ้นยิ้มอย่างสวยงาม ปลาเฒ่าตัวนี้ติดแหหนีไม่รอดแล้ว!

.