“แล้วเจ้าอยากรู้อะไรล่ะ ?” เป็นเพราะว่ามู่เฉียนซีนั้นน่าสนใจมาก กลไกวิญญาณจึงเปิดทางให้นางสักหน่อย!
“ในหอฉงโหลวบนเมฆา มีตาเฒ่าที่พาเด็กมาคนหนึ่ง เด็กคนนั้นอยู่ที่ไหน ?”
กลไกวิญญาณยิ้มพลางกล่าว “ข้าบอกได้แค่ว่า พวกเขายังอยู่ที่ชั้นกลาง! แต่จะอยู่ตรงไหนนั้น เจ้าต้องหาเอง!”
มู่เฉียนซีไม่อยากเสียเวลาพูดจาไร้สาระกับกลไกวิญญาณมากนัก ร่างของนางเคลื่อนไปในป่าแห่งนี้อย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า พลังจิตแผ่ซ่านออกไปเพื่อที่จะตามหาตาเฒ่าบ้าผู้นั้นและหลินเอ๋อร์
กลไกวิญญาณหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก “เจ้า เจ้าช่างเยือกเย็นไร้หัวใจยิ่งนัก ใช้ประโยชน์จากข้าเสร็จก็ถีบไสไล่ส่ง ข้าเกลียดเจ้า!” ถึงแม้จะโกรธเคือง ทว่า กลไกวิญญาณก็ยังคงตามติดมู่เฉียนซีต่อ
พลังจิตอันแข็งแกร่งที่ได้ฝึกฝนมาจากมิติแห่งวิญญาณสัตว์ ตอนนี้ได้ใช้ประโยชน์แล้ว และขีดจำกัดในการรับรู้ของนางนั้นขายกว้างมากขึ้น แต่ป่าดงพงไพรในชั้นกลางนี้ กว้างใหญ่ไพศาลอย่างไร้ที่สิ้นสุด
“ระวังตัวด้วยล่ะ! ต่อไปจะเข้าเขตอันตรายแล้ว”
เมื่อเห็นว่ามู่เฉียนซีไม่สนใจมัน กลไกวิญญาณก็กล่าวเตือนนาง!
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย “เจ้าก็เชื่อฟังดีเหมือนกันหนิ่!”
“เสี่ยวหง อู๋ตี้ หน้าที่จัดการกับสิ่งที่ขวางทาง มอบให้เป็นหน้าที่พวกเจ้าแล้ว”
อู๋ตี้กับเสี่ยวหงกล่าว “นายท่านวางใจได้! หากใครกล้ามาขวางทางนายท่าน พวกข้าจะจัดการพวกมันให้สิ้น!”
ตูม ตูม ตูม!
และพวกมันก็ทำเช่นนั้นจริง ๆ ตลอดทางมู่เฉียนซีผ่านไปได้อย่างราบรื่น และไม่ได้โชคร้ายเจอกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ระดับห้าแต่อย่างใด!
จากนั้น มู่เฉียนซีก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคยจริง ๆ!
“ทางนี้!”
มู่เฉียนซีพรวดไปอย่างรวดเร็ว และได้เห็นกับร่างคนชุดขาวสองคนกับหญิงชุดเขียวคนหนึ่งกำลังพัวพันกันอยู่ และหญิงผู้นี้ก็คือชิวหลิงที่เข้ามาช่วยชีวิตบุตรชายในหอฉงโหลว ส่วนคนที่ลงมือจะต่อสู้กับนางนั้นก็คือยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิแห่งหุบเขาหมอเทวดา!
“แม่หญิง เจ้าอย่าทำตัวเป็นคนชอบไม้แข็งไปหน่อยเลย อย่าบีบบังคับให้ข้าต้องฆ่าเจ้า”
ชิวหลิงกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ข้าเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนึง ไม่รู้ว่าข้ามีความสำคัญอะไรฝ่ายสู้รบแห่งหุบเขาเทวดาอย่างพวกท่านถึงได้สนใจในตัวข้าเช่นนี้ หากพวกท่านทั้งสองคิดจะขัดขวางไม่ให้ข้าไปช่วยหลินเอ๋อร์แล้วล่ะก็ ฆ่าข้าเสียเถอะ”
“ต่อให้เจ้าอยากตาย พวกข้าก็ยังไม่ให้เจ้าตาย” พวกเขากล่าวอย่างโหดเหี้ยม หญิงผู้นี้ดูเหมือนว่าจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับมู่เฉียนซี ในเมื่อจัดการกับคนผู้นั้นไม่ได้ พวกเขาจึงมาจับจุดอ่อนของนางแทน เมื่อถึงตอนนั้น ต่อให้ชายดั่งภูตมารผู้นั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็คงต้องไตร่ตรองตัวประกันที่อยู่ในมือพวกเขาบ้างหล่ะ
หญิงผู้นี้ไม่ใช่ตัวประกันที่ดีอะไร แต่ในเมื่อเจอตัวแล้วก็ต้องจับเอาไว้!
มู่เฉียนซีที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดได้ยินคำพูดของพวกเขาทั้งหมด อุบายของพวกหุบเขาหมอเทวดา นับวันยิ่งเลวทรามต่ำช้ามากยิ่งขึ้น สู้ไม่ได้ แล้วยังคิดจะใช้อุบายนี้มาข่มขู่นางอีก
ฝันไปเถอะ!
“แต่นายท่าน ดูเหมือนว่าพวกข้าทั้งสองไม่อาจจัดการกับสองเฒ่านั้นได้!”
“ตาเฒ่านั่นอีกคนก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับสอง รับมือยากยิ่งนัก!”
มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มขึ้น และหันไปคุยกับกลไกวิญญาณ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เจ้านี่ร้ายจริง ๆ ข้าชอบ!” นิสัยของกลไกวิญญาณนั้นก็ชอบก่อเรื่องวุ่นวายเช่นกัน ครั้นแล้วมันก็ร่วมมือกับมู่เฉียนซีอย่างไม่รีรอ!
มู่เฉียนซีลงมือ ยาพิษในมือถูกนางโยนออกไป และเข็มพิษนับไม่ถ้วนพุ่งไปที่พวกเขาราวกับสายฝนก็มิปาน
ตูม ตูม ตูม!
ชั่วครู่หนึ่ง ควันพิษก็ปะทุออกมาและได้ล้อมรอบพวกเขาเอาไว้ เสี่ยวหงพรวดออกไปในทันที “เพลิงเผาสวรรค์!”
“โอ๊ย ร้อนจะตายอยู่แล้ว!”
ภายใต้กำบังของเปลวไฟนั้นทำให้เสี่ยวหงช่วยชิวหลิงออกมาได้สำเร็จ
ตาเฒ่าทั้งสองเอาร่างฝ่าออกมาจากควันพิษนั้นด้วยความยากลำบาก จากนั้นก็ได้เห็นกับเงาร่างที่ทำให้รู้สึกขนพองสยองเกล้าร่างหนึ่ง
“มู่เฉียนซี เป็นมู่เฉียนซีที่ช่วยนางไป!”
“นึกไม่ถึงว่านางจะลงมือช่วยหญิงผู้นั้นด้วยตัวเอง ดูท่าหญิงผู้นั้นคงจะมีความสำคัญกับนางมาก!”
“ตามไป! หอฉงโหลวบนเมฆาทำให้พวกเราในกลุ่มแยกกัน ข้าไม่เชื่อเด็ดขาดว่านางจะไม่แยกกับชายผู้นั้น หากสองคนนั่นไม่ได้แยกจากกันแล้วล่ะก็ นางไม่มีทางใช้อุบายเช่นนี้ช่วยหญิงผู้นั้นไปแน่”
“พี่ใหญ่พูดถูก ตามไปเถอะ!”
ทางด้านของชิวหลิงเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่ามู่เฉียนซีจะปรากฏตัวออกมาในสถานการณ์เช่นนั้น นางกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ผู้นำตระกูลมู่ ขอบใจเจ้ามาก!”
“ฮูหยินชิว ที่พวกมันจับตัวฮูหยินก็เป็นเพราะข้า ในเมื่อข้ามาเจอเข้าแล้ว จะไม่ช่วยไม่ได้!”
“แต่ว่าพวกมันล้วนแต่เป็นมหาจักรพรรดิทั้งสอง!” ส่วนพลังวิญญาณของมู่เฉียนซีตอนนี้ลดลงเป็นเพียงแค่ราชาแห่งภูตระดับเจ็ด!
“ข้าจะขวางพวกมันไว้ เจ้าให้สัตว์พันธสัญญาของเจ้าปกป้องเจ้าแล้วรีบพาเจ้าหนีออกไปเถอะ”
มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ต้องหรอก ในเมื่อข้ากล้าช่วย ข้าก็ต้องมีทางรับมือกับพวกมันแน่นอน รอดูเองเถอะ!”
คนข้างหลังไล่ตามใกล้มาแล้ว มู่เฉียนซีวิ่งหนีและพลังวิญญาณในร่างกายไหลเวียนอย่างบ้าคลั่ง ในขณะเดียวกันนั้นกลไกวิญญาณก็ชี้ทางให้มู่เฉียนซี
“ทางนี้!”
“ไปทางขวา!”
“ทางนี้!”
“ใกล้ถึงแล้ว! เจ้าอดทนเอาไว้อย่าให้พวกนั้นตามมาทัน! ถึงแม้ว่าข้าจะคุ้นเคยกับมิติแห่งนี้ แต่ข้าก็ช่วยคนไม่ได้นะ”
“วางใจเถอะ! ผู้นำตระกูลมู่อย่างข้าไม่ตายง่าย ๆ หรอก”
ถึงแล้ว! มู่เฉียนซีรับรู้ได้ นางหยุดก้าวเท้าลงและมองไปที่ผู้แข็งแกร่งขั้นมหาจักรพรรดิสองคนนั้นที่กำลังใกล้เข้ามา
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าไล่ตามข้ามาอย่างเอาเป็นเอาตาย อยากตายนักรึไง ?”
“สาวน้อย เจ้าอย่ามาเขียนเสือให้วัวกลัวเลย เท่าที่ข้าดูแล้ว ชายผู้นั้นไม่ได้อยู่ที่นี่แน่นอน เจ้ากับสัตว์พันธสัญญาอีกสองตัวของเจ้า ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกข้าเลย เจ้าไม่รอดแล้วหล่ะ!”
ขอเพียงแค่จับตัวสาวน้อยผู้นี้ได้ หอฉงโหลวบนเมฆานี้พวกเขาก็จะหยุดค้นหาทันที ถึงอย่างไรเสียทั้งหอฉงโหลวนี้ก็ไม่อาจเทียบกับหม้อเทพนิรันดร์ได้
รีบออกไปและนำตัวสาวน้อยผู้นี้กลับไปยังหุบเขาหมอเทวดา ต่อให้ชายผู้นั้นจะน่ากลัวเพียงใดก็ไม่อาจยั่วยุหุบเขาหมอเทวดาได้
มู่เฉียนซีสั่งขึ้นว่า “เสี่ยวหง อู๋ตี้ จัดการพวกมัน!”
“ขอรับนายท่าน!”
ตูม ตูม ตูม!
เสี่ยวหงกับอู๋ตี้กำลังจะโจมตี แต่มหาจักรพรรดิทั้งสองกลับลงมือโจมตีพวกมันอย่างบ้าคลั่ง!
ปัง ปัง ปัง!
ร่างของเสี่ยวหงกับอู๋ตี้กระเด็นลอยออกไป จากนั้นพวกเขาก็จะพรวดเข้าไปจับตัวมู่เฉียนซี
ทว่า ทันใดนั้นเอง มีเงาดำขนาดใหญ่เงาหนึ่งปกคลุมลงมา พวกเขาเห็นท่าไม่ดีจึงรีบหลบหลีก!
มู่เฉียนซีคว้าชิวหลิงกลิ้งไปกับพื้นเพื่อหลบหลีก นางหันไปมองเสี่ยวหงกับอู๋ตี้ที่ได้รับบาดเจ็บและกล่าวว่า “สองเฒ่านั่นทำให้พวกเจ้าทั้งสองเจ็บตัว จะต้องเอาคืนพวกมันให้สาสม!”
สิ่งที่ใหญ่มหึมาที่ปรากฏขึ้นนั้น เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ หมีคลั่งสวรรค์
ได้ยินมาว่าหมีคลั่งสวรรค์ตัวนี้ขี้เกียจมาก มันไม่ชอบให้ใครมารบกวนเวลามันนอนเป็นที่สุด แต่ตาเฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาสองคนนี้กลับลงมือส่งเสียงดังอย่างบ้าคลั่งในขณะที่มันนอนหลับอยู่ หากหมีคลั่งสวรรค์ปล่อยพวกเขาไปก็แปลกแล้ว!
“พระเจ้าช่วย! สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ รีบหนีเร็วเข้า!”
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่เทียบได้กับความแข็งแกร่งของมหาจักรพรรดิแห่งภูตกับมหาจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับสาม ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่พวกเขาจะต่อกรได้แน่นอน!
“ทำให้ข้าตื่นแล้วคิดจะหนีงั้นรึ ใต้หล้านี้เหตุใดถึงได้เอาเปรียบกันเช่นนี้ พวกเจ้าทั้งหมดจงตายซะ!” หมีคลั่งสวรรค์คำรามอย่างเกรี้ยวกราด
พรวด! พรวด!
เสียงคำรามนั้นทำให้พวกเขากระอักเลือดคำโตออกมา
“บัดซบ! โดนเจ้าเด็กนั่นลวงหลอกเอาเสียแล้ว!”
“อ๊า! นางต้องจงใจแน่ ๆ จงใจหลอกล่อให้พวกเรามาที่นี่!”
“ท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ได้โปรดฟังคำชี้แจงของข้าก่อน! พวกข้าก็เป็นเหยื่อเช่นกัน”