มู่เฉียนซีกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ข้าจะให้โม่จิ่นหาสิ่งใดนั้น มันเกี่ยวอะไรกับเจ้า ?”
เซียวอู่กัดฟันกรอดและกล่าวว่า “ก็แค่หน้าตาดีเท่านั้น เป็นแค่เด็กสาวบ้านนอก พี่จิ่นก็แค่สนใจเจ้าเพียงชั่วครู่ชั่วคราว เจ้าอย่าได้ลำพองใจไป”
นางแสดงท่าทางลำพองใจงั้นรึ ? มู่เฉียนซีเหลือบมองสตรีผู้อยู่เบื้องหน้านี้ นี่จินตนาการมากเกินไปแล้วกระมัง!
ทันใดนั้นเองก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาและกล่าวว่า “คุณหนูมู่ สมุนไพรชุดใหม่ได้ถูกนำมาส่งแล้ว เชิญคุณหนูมู่ไปดูสักหน่อย!”
มู่เฉียนซีได้เมินเฉยใส่เซียวอู่ที่กำลังจะตะโกนร้องเอะอะโวยวาย และนางไปสนใจเครื่องปรุงยานั้นแทน ไม่เพียงแต่เป็นสมุนไพรธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ยังมีสมุนไพรวิญญาณอีกด้วย เพียงแต่ผู้คนที่กักขังตัวอยู่ในเกาะวิญญาณมรณะแห่งนี้ล้วนแต่ไม่รู้จักมันก็เท่านั้นเอง
เกาะวิญญาณมรณะแห่งนี้ช่างเป็นสถานที่ล้ำค่าจริงแท้
เมื่อเซียวอู่เห็นมู่เฉียนซีละสายตาจากนางแล้วไปสนใจต้นหญ้าเหล่านั้น นางก็โกรธเกรี้ยวขึ้น นางกล่าวว่า “เด็กสาวบ้านนอกยังไงก็เป็นเด็กสาวบ้านนอกอยู่วันยังค่ำ แค่ต้นหญ้ากองนึงจะไปหายากอะไรกัน หากเจ้าได้เห็นยาวิญญาณระดับสูง เจ้าจะไม่ตื่นเต้นจนเป็นลมเป็นแล้งไปหรอกหรือ”
เซียวอู่กล่าวอย่างเย้ยหยันว่า “เจ้าอย่าทำเป็นไม่สะทกสะท้านนักเลย เจ้าเห็นต้นหญ้าเหล่านี้เป็นของล้ำค่านักมิใช่รึ ? วันนี้ข้าจะทำลายต้นหญ้าเหล่านี้ให้พังไปต่อหน้าต่อตาเจ้า!”
ในขณะที่เซียวอู่เตรียมตัวจะลงมือ สีหน้าของลูกน้องโม่จิ่นก็พลันเปลี่ยนไปด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด และรีบตะโกนขึ้นว่า “คุณหนูเซียว ไม่ได้นะขอรับ!”
“โล่วิญญาณวารี!” ในขณะที่เซียวอู่กำลังลงมือนั้น โล่วิญญาณวารีของมู่เฉียนซีก็ได้ขวางการโจมตีของนางไว้
ตูม!
เซียวอู่ร่นตัวถอยหลังไปหลายก้าว เบิกตากว้างจนดวงตาแทบจะถลนออกมาจ้องมองมู่เฉียนซี “ราชาแห่งภูตระดับเจ็ด เจ้า!”
สาวน้อยผู้นี้อย่างน้อย ๆ ก็อ่อนกว่านางเป็นสิบปี ตัวนางเองเพิ่งจะเป็นราชาแห่งภูตระดับเก้าเท่านั้น นึกไม่ถึงเลยว่าเด็กผู้นี้จะเป็นราชาแห่งภูตระดับเจ็ดแล้ว ไม่จริง!
“ดูนางไว้ให้ดี! อย่าให้มาก่อเรื่องได้!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
ในขณะที่พวกเขายังไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ มู่เฉียนซีก็ได้เข้าไปกองสมุนไพรและได้เลือกสมุนไพรออกมาหลายชนิด พลังธาตุวารีได้ห่อหุ้มพวกเขาเอาไว้ มู่เฉียนซีก็รีบปรุงยาง่าย ๆ ออกมาชนิดหนึ่ง
มู่เฉียนซีก้าวเท้าเดินไปตรงหน้าเซียวอู่และกล่าวว่า “คุณหนูเซียวใช่ไหม ?”
เซียวอู่จ้องมองดวงตาสีดำขลับคู่นั้นของมู่เฉียนซี และนางเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอย่างแปลกประหลาดขึ้น นางกล่าวว่า “นี่เจ้าคิดจะทำอะไร ? เจ้าอย่าคิดว่าพี่จิ่นจะชื่นชอบเจ้า แล้วเจ้าจะให้ลูกน้องของพี่จิ่นมาทำร้ายข้าได้นะ ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ไว้ ว่าไม่มีทาง”
มู่เฉียนซีกล่าว “จัดการกับเจ้า ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาลงมือ ข้าลงมือเองก็เพียงพอแล้ว!”
“มังกรวารีพิฆาต!”
มังกรวารีลำตัวยาวสีฟ้าตัวหนึ่งทะยานขึ้นและได้พ่นยาที่มู่เฉียนซีปรุงเสร็จลงบนร่างของเซียวอู่
มู่เฉียนซีลงมือได้อย่างรวดเร็ว เซียวอู่ผู้ที่พลังวิญญาณยังไม่ถึงขั้นจักรพรรดิแน่นอนว่ามิอาจหลบหลีกการโจมตีนี้ได้
ตูม!
ชั่วครู่หนึ่งเซียวอู่ก็เหมือนกับไก่ที่ตกลงไปอยู่ในซุปก็มิปาน ยิ่งแปลกประหลาดไปกว่านั้นก็คือ เส้นผมของนางได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวขจี!
มู่เฉียนซีกล่าว “ในเมื่อเจ้าคิดว่าข้าเป็นเด็กสาวบ้านนอกที่ชื่นชอบสมุนไพร ข้าก็จะทำให้เจ้าได้รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนบ้านนอก”
เซียวอู่โกรธเกรี้ยวขึ้น “ถึงยังไงก็ไม่ใช่ข้าอยู่ดี ข้ามาจากตระกูลสูงศักดิ์ มิใช่คนที่เป็นเด็กเช่นเจ้าจะมาเทียบเทียมได้”
“คุณหนูเซียว ผมของคุณหนู เอ่อ……” ในตอนนี้เองก็มีคนปริปากกล่าวขึ้น
“อ๊าย!” เซียวอู่จับเส้นผมของตัวเองมาดู ก็ได้เห็นกับสิ่งที่เป็นสีเขียวขจีติดเส้นผมนางเต็มไปหมด นี่ผมของนาง!
“ผมของข้า ทำไมผมของข้าถึงได้กลายเป็นเช่นนี้” นางกรีดร้องโวยวายขึ้น
“คุณหนูเซียว หน้าของคุณหนู หน้า……”
เซียวอู่รีบเอากระจกออกมาจากแหวนมิติ เมื่อเห็นใบหน้าที่เขียวขจีราวกับสัตว์ประหลาดนั้นเข้า นางก็ตกใจจนแทบจะเป็นลมไป
“เจ้า……นี่เจ้าทำอะไรกับข้า ?” ดวงตาของเซียวอู่แดงก่ำจ้องมองมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีเหลือบมองสมุนไพรกองนั้นและกล่าวว่า “ในบรรดาสมุนไพรนั้นมีหญ้าหลู่หนิงกับหญ้าฮวนหมิง
“พวกมันสามารถนำมาทำเป็นยาพิษได้ แต่มันก็ไม่ได้มีพิษร้ายแรงหรอกนะ ก็แค่หากสิ่งมีชีวิตใดโดนมันเข้าละก็จะต้องกลายเป็นสีเขียวก็เท่านั้นเอง”
มู่เฉียนกล่าวเย้ยหยันว่า “คุณหนูเซียว ผลลัพธ์นี้ไม่เลวเลยใช่หรือไม่!”
เซียวอู่แทบจะร้องไห้ “รีบเอายาแก้พิษมาให้ข้าเดี๋ยวนี้นะ เอายาแก้พิษมา!” สภาพนี้ นางจะมีหน้าที่ไหนไปเจอผู้คนล่ะ!
“ข้าทำได้แค่พิษนี้ ข้าทำยาแก้พิษไม่เป็นหรอกนะ คุณหนูเซียวไปหาคนอื่นเถอะ!” มู่เฉียนซีไม่สนใจนาง และได้ไปปลูกสมุนไพรของนาง
ผู้คนต่างมองดูมู่เฉียนซีด้วยความชื่นชม ที่แท้คุณหนูมู่เห็นว่าหญ้าเหล่านี้หายากเพราะว่าเห็นคุณค่าของมันนี่เอง นางมิใช่เด็กสาวบ้านนอกอะไรนั่นสักหน่อย
เดิมทีเซียวอู่ที่หน้าโดนพิษไปจนหน้าเขียวขจี ตอนนี้กลับยิ่งเขียนมากขึ้นกว่าเดิมอีก บัดซบ! บัดซบที่สุด
เงาร่างในชุดเขียวใกล้เข้ามา เมื่อเขาได้เห็นกับสิ่งสีเขียวกลม ๆ มัน ๆ นั้นเขาคิดว่าในจวนเขาปลูกต้นไม้อะไรเพิ่ม และพบว่าต้นไม้ต้นนั้นกำลังเคลื่อนไหว!
นี่มันอะไรกันเนี่ย!
เซียวอู่เห็นบุรุษรูปงามผู้นั้นนัยน์ตาก็เปล่งประกายขึ้นด้วยความดีใจ นางกล่าวด้วยความกล้ำกลืนว่า “พี่จิ่น ฮือ ฮือ ฮือ! พี่จิ่น!”
นางจะพรวดเข้าหาโม่จิ่น แต่โม่จิ่นกลับหลบหลีก โม่จิ่นรู้สึกรู้ขนลุกซู่ไปทั่วร่าง “ผีตัวนี้เป็นใครกัน ? ยังไม่รีบเอาตัวออกไปให้พ้นข้าอีก!”
เซียวอู่ร้องห่มร้องไห้เสียงดังลั่น “ฮือ ฮือ ฮือ! พี่จิ่น ข้าอู่เอ๋อร์ไง! ฮือ ฮือ ฮือ!”
“เซียวอู่!” โม่จิ่นมองตัวประหลาดที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสงสัย ถึงแม้ว่าหน้าตาของเซียวอู่จะธรรมดา ทว่า นางก็ไม่ได้อัปลักษณ์ถึงเพียงนี้
“นี่ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น ?”
ลูกน้องของโม่จิ่นเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับเขาฟัง โม่จิ่นกล่าวว่า “เซียวอู่ เจ้าน่าสังเวชเกินไปแล้ว”
“ฮือ ฮือ ฮือ! พี่จิ่น พี่จิ่นต้องจัดการนังเด็กสาวผู้นั้นเพื่อเป็นการแก้แค้นให้ข้านะ!”
“แก้แค้น เจ้าอัปลักษณ์เกินไปแล้วจะเอาจิตใจที่ไหนไปแก้แค้นให้เจ้าล่ะ เจ้ากลับไปหาชู้ของเจ้าเถอะ ไปถามเขาดูว่าเขาจะแก้แค้นให้เจ้าได้หรือเปล่า!” โม่จิ่นกล่าวพลางส่ายหน้าหนี
ใบหน้าของเซียวอู่แทบจะแตกในตอนนี้!
โม่จิ่นกล่าวต่อว่า “เด็ก ๆ มานี่สิ! พาผู้หญิงคนนี้ไปส่งให้กู่จั๋วเร็วเข้า!”
“ช่างอัปลักษณ์ยิ่งนัก ดูแล้วปวดตาจริงเชียว!”
“นี่เจ้า……” เซียวอู่มองโม่จิ่นด้วยความโกรธเกรี้ยวขั้นขีดสุด
ตุบ! เสียงตุบดังขึ้น และร่างก็ได้เป็นลมหมดสติไป นางเป็นถึงสตรีผู้งดงามอันดับหนึ่งแห่งเกาะวิญญาณมรณะ คำพูดนี้ของโม่จิ่นใครได้ยินก็เป็นต้องโกรธ
โม่จิ่นมาเดินมาข้าง ๆ มู่เฉียนซีและกล่าวถามว่า “แม่นางมู่ เจ้ายังเป็นนักปรุงยาด้วยรึ!”
ปรุงยาพิษประหลาดออกมาทำให้เซียวอู่ทรมานถึงเพียงนี้ได้ ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!
มู่เฉียนซีกล่าว “จะใช่หรือไม่นั้นมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการร่วมมือของเรา! เจ้าจะถามมากไปทำไม ?”
โม่จิ่นกล่าว “ข้าคิดว่าเราต้องมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน มันถึงจะทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น!”
มู่เฉียนซีกล่าว “อีกไม่นานข้าก็จะต้องเดินทางออกจากเกาะวิญญาณมรณะนี่ และเจ้าก็ยังคงต้องถูกกักขังอยู่ในเกาะวิญญาณมรณะตลอดไป ข้ารู้สึกว่าเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรู้จักกันมากนัก”
โม่จิ่นกล่าว “แม่นางมู่ เจ้านี่โหดร้ายเกินไปแล้ว นี่เจ้ากำลังพูดแทงใจดำข้าอยู่นะ! ข้ายังหนุ่มยังแน่นเช่นนี้ แต่ต้องถูกกักขังอยู่ในเกาะวิญญาณมรณะแห่งนี้ไปตลอดชีวิต ช่างน่าสงสารเกินไปแล้ว”
“แม่นางมู่จะเป็นสตรีช่วยบุรุษสักครั้งได้หรือไม่เล่า ช่วยพาข้าออกไปจากเกาะแห่งฝันร้ายนี้หน่อยได้หรือไม่ ?”