ทว่า เขาไม่อาจขู่ขวัญให้มู่เฉียนซีกลัวได้ มู่เฉียนซีกล่าว “วางใจเถอะ ยังไงเจ้าก็เป็นถึงนายน้อยของสำนักนิกายระดับหนึ่ง ข้าไม่วางยาพิษให้เจ้าตายจนกลายเป็นศัตรูคู่แค้นกับสำนักกระบี่ยักษ์หรอก”
“กินซะ!”
เมื่อพวกเขากินเม็ดยานั้นไป ทั่วทั้งร่างกายก็เร่าร้อนขึ้น ไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย ชั่วครู่หนึ่งเกือบจะเป็นลมหมดสติไป
เขาโกรธเกรี้ยวจนตัวสั่น “เจ้า นี่เจ้าให้ยาเช่นนี้แก่ข้า เจ้า……”
มู่เฉียนซี “ใครใช้ให้เจ้ารนหาที่ตายกันล่ะ ?”
พวกเขาโกรธจนกระอักเลือด โดนวางยาเช่นนี้เขาไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้และเอาคะแนนสูงกว่านี้ได้แล้ว อีกทั้งยังรู้สึกอับอายขายหน้าคนอื่นอีกด้วย
หลังจากที่มู่เฉียนซีกับฉินปาพักผ่อนเสร็จก็เตรียมตัวที่จะจากไป นายน้อยหวังกล่าวขึ้นว่า “แก้พิษ! ยาแก้พิษ! ข้าต้องการยาแก้พิษ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าใช้ยานี่บ่อยไม่ใช่เหรอ เจ้าก็น่าจะรู้ดีนะว่ายาแก้พิษคือสิ่งใด!”
“นี่เจ้า……”
นายน้อยหวังถูกมู่เฉียนซีเผยความลับเช่นนี้ ใบหน้าเขาก็ยิ่งแดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ
มู่เฉียนซีไม่อยากเสียเวลากับเขามากนัก เวลาทุกนาทีตอนนี้มีค่ามาก
“ชั้นที่หก!”
มู่เฉียนซีขึ้นไปถึงชั้นที่หกแล้ว ในขณะเดียวกันนั้นก็ได้เผชิญหน้ากับมนุษย์โลหะเจ็ดสิบคนที่มีกำลังการต่อสู้ที่โหดเหี้ยม และมู่เฉียนซีก็เริ่มการสังหารขึ้นอีกครั้ง
การต่อสู้ที่แข็งแกร่งและดุเดือดเช่นนี้ มู่เฉียนซีก็พบว่าพลังของตนเองนั้นฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็ว และหลังจากที่ได้ฆ่าคู่ต่อสู้มาเป็นจำนวนมาก ในที่สุดพลังของมู่เฉียนซีก็อยู่ในระดับที่สมดุลมากในขั้นราชาแห่งภูตระดับสูงสุด
พลังความแข็งแกร่งและความสมดุลที่ถดถอยไปในครั้งสงครามสำนักอวิ๋นเยียนครานั้น ตอนนี้นับว่าฟื้นฟูกลับมาได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
หากไม่หมดหนทางจริง ๆ อย่าได้กินเป็นอันขาด
พรวด!
“กะ เก้า เก้าสิบหลอมแล้ว!”
“พระเจ้า!”
“นี่มันมีสิ่งใดผิดพลาดไปหรือไม่! ต้องมีสิ่งใดผิดพลาดไปแน่ ๆ!”
ในขณะที่มู่เฉียนซีสำเร็จไปเก้าสิบหลอม อาจารย์ที่คุมสอบอยู่ด้านนอกต่างก็ตกตะลึงไม่น้อย
“พระเจ้า! ชั้นที่เจ็ด มีคนขึ้นไปถึงชั้นเจ็ดแล้ว!”
“ต้องรายงานผู้อาวุโสสูงสุด เรื่องนี้ต้องรายงานผู้อาวุโสสูงสุด!”
“ปีศาจชัด ๆ! ชั้นเจ็ดเลยนะ ตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกสามชั่วยามกว่าที่เวลาการทดสอบจะจบลง นึกไม่ถึงว่านางจะขึ้นไปถึงชั้นเจ็ดแล้ว!”
“เจ้าคิดว่า นางมีความสามารถที่จะทำสำเร็จในร้อยหลอมหรือไม่!”
“ร้อยหลอม คาดว่าจะยาก! ข้าว่ามากสุดได้แค่เก้าสิบสองหรือเก้าสิบสามหลอม! เจ้าก็ใช่ว่าจะไม่รู้นะว่าชั้นเจ็ดนั้นมันแตกต่างกัน ความแข็งแกร่งของมนุษย์โลหะนั้นสูงกว่าพลังของนักเรียนผู้สอบหนึ่งระดับ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!”
“แต่ถึงยังไง นางก็เป็นอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ในรอบพันปีของสำนักศึกษาเรา เรื่องนี้ต้องรายงานท่านผู้อาวุโสสูงสุดรู้!”
มู่เฉียนซีต่อสู้มาถึงชั้นที่เจ็ด และได้พบว่าคู่ต่อสู้ของนางในชั้นนี้นั้นกลายเป็นขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งแล้ว
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ดูเหมือนว่าอาจารย์ใหญ่คนเก่าช่างปราดเปรื่องยิ่งนัก รู้ว่าผู้ที่มาถึงชั้นเจ็ดได้นั้น เป็นยอดฝีมือที่สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้ ก็เลยยกระดับคู่ต่อสู้มาหนึ่งระดับ แต่ว่า……”
“ประเมินค่าของข้าต่ำไปแล้วหล่ะ!”
ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะมีความมั่นใจในตัวเองมาก แต่การที่เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้จำนวนเก้าสิบคนนี้นับว่าไม่ง่ายเลย
“ทักษะเทียนซวน!”
“มังกรวารีพิฆาต!”
ตูม ตูม ตูม!
การต่อสู้ที่ดุเดือดได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ยาวิญญาณกินได้โดยไม่ต้องคำนึงต่อสิ่งใด ทว่า เก้าสิบคนนี้มู่เฉียนซีกลับรับมือได้ยากมาก
“พลังความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ มันช่างแตกต่างกันมากนัก!”
เสียพลังมาก และยากที่จะรับมือได้ แต่นางมาถึงชั้นเจ็ดแล้ว จะพ่ายแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!
ปัง ปัง ปัง!
มู่เฉียนซีได้ใช้พลังปราณไปทั้งหมดและทำสำเร็จไปเก้าสิบหลอม จากนั้นก็กลับไปยังห้องพัก นายน้อยหวังและพวกตอนนี้ยังคงอดทนอยู่กับความขมขื่น และคนจำนวนไม่น้อยตอนนี้กำลังรอชมของดีอยู่
“นายน้อยหวัง นางมาแล้วแล้ว นาง……”
มู่เฉียนซีเหลือบมองเขาอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “เงียบ ๆ หน่อย หากมาวุ่นวายกับข้า ข้าจะเพิ่มยาให้เจ้าอย่างไม่เกรงใจเลยคอยดู จะทำให้พวกเจ้าซวยไปทั้งชาติ!”
คำเตือนของมู่เฉียนซีทำให้พวกเขากลัวจนตัวสั่น จนกระทั่งไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองนาง
มู่เฉียนซีให้เวลาตัวเองพักผ่อนสั้นมาก เหลือเวลาไม่ถึงสามชั่วยามแล้ว ต่อไปยังมีอีกเก้าหลอมที่จะต้องจัดการ
พลังวิญญาณได้ฟื้นฟูกลับมามากแล้ว มู่เฉียนซีพรวดออกไปต่อสู้อีกครั้ง!
อาจารย์ผู้คุมสอบที่อยู่ด้านนอกดูไปจนรู้สึกชาแล้ว พวกเขาต่างก็นับอย่างตื่นเต้น……
“เก้าสิบเอ็ดหลอม เก้าสิบสองหลอม เก้าสิบสามหลอม……”
“เก้าสิบเก้าหลอม!”
“เก้าสิบเก้าหลอมแล้ว!”
อาจารย์ผู้ชราเหล่านั้นตื่นเต้นจนแทบจะเป็นความดันอยู่แล้ว
“นี่……หอร้อยหลอมของอาจารย์ใหญ่คนเก่ามีปัญหาหรือไม่ เหตุใดถึงต่อสู้มาถึงร้อยหลอมง่ายดายเช่นนี้!”
“นักเรียนใหม่ผู้นี้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!”
“แต่ก็ได้แค่เก้าสิบเก้าหลอม เวลาใกล้จะหมดแล้ว เหลือเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ปีศาจผู้นี้ไม่สามารถทำได้ถึงร้อยหลอมเป็นแน่”
มู่เฉียนซีก็รู้ว่าไม่มีเวลาแล้ว ดังนั้นหลังจากที่ทำสำเร็จไปเก้าสิบเก้าหลอม นางก็เริ่มท้าทายการฝึกทั่วไป
คู่ต่อสู้ร้อยคน คู่ต่อสู้ขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งหนึ่งร้อยคน ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะสามารถต่อสู้ข้ามระดับได้ สามารถต่อสู้กับศัตรูจำนวนมากกว่าหนึ่งคนขึ้นไปได้
ทว่า เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้จำนวนร้อยคนเช่นนี้แล้ว กลับไม่ได้ง่ายดายเลย อีกทั้งความเร็วในการป้องกันของมนุษย์โลหะเหล่านี้ ไม่อาจเทียบกับคนธรรมดาทั่วไปได้ นั่นหมายความว่ายิ่งรับมือได้ยากมาก!
มาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่ายังไงก็มิอาจยอมแพ้ได้ การทดสอบร้อยหลอมนี้ ต้องทำให้สำเร็จให้จงได้!
อาจารย์ผู้คุมสอบที่นับเวลาอยู่ด้านนอกนั้นก็ร้อนรนใจแทนมู่เฉียนซีเช่นกัน “เหลือเวลาเพียงแค่หนึ่งก้านธูปเท่านั้น ไม่รู้ว่าปีศาจผู้นั้นสังหารไปเท่าไหร่ และสำเร็จไปเท่าไหร่แล้ว!”
“เฮ้อ! ไม่ทันแล้ว ข้าก็อยากจะเห็นปาฏิหาริย์ของหอร้อยหลอมเช่นกัน!”
“ทำได้ถึงเก้าสิบเก้าหลอม ก็นับว่าเพียงพอมากแล้วหล่ะ!”
ตอนนี้มู่เฉียนซีก็เหงื่อไหลพรากแล้ว เส้นผมดำขลับนั้นก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ!
“ทักษะเทียนซวน!”
ตูม ตูม ตูม! ร่างมนุษย์โลหะกลุ่มนั้นถูกกระบวนท่าทักษะเทียนซวนโจมตีจนกระเด็นลอยออกไป
จากนั้นอีกกลุ่มหนึ่งก็พรวดเข้ามาอีก มู่เฉียนซีรีบหลบอย่างรวดเร็ว หลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ได้รับบาดเจ็บจากพวกเขา แต่กลับถูกพวกเขาห้อมล้อมไว้ทั้งแปดทิศ!
ตูม!
หมัดหนึ่งกระแทกเข้ามา ร่างของมู่เฉียนซีกระเด็นลอยออกไป!
พรวด!
มู่เฉียนซีกระอักเลือดคำโตออกมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่างกายอ่อนแรง และสูญเสียพลังวิญญาณไปมาก
มู่เฉียนซีลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก อดทนกับความเจ็บปวดทั่วทั้งร่างกายและกัดฟันต่อสู้ต่อไป!
ปัง ปัง ปัง!
คู่ต่อสู้แต่ละคนถูกมู่เฉียนซีโจมตีจนพ่ายแพ้ไป ตอนนี้เวลาก็เหลือไม่มากแล้ว!
“เหลือเวลาเพียงแค่ครึ่งก้านธูปแล้ว!”
“ยังมีเวลาสิบลมหายใจสุดท้าย!”
อาจารย์คุมสอบที่อยู่ด้านนอกกล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “เฮ้อ! ร้อยหลอม ไม่อาจสำเร็จได้แล้วหล่ะ ยังเหลืออีกสิบคน อีกสิบคนเชียวนะ!”
ใช่ ตอนนี้คู่ต่อสู้ตรงหน้ามู่เฉียนซียังเหลืออยู่อีกสิบคน เวลาสิบลมหายใจสุดท้ายไม่เพียงพอแน่นอน
มู่เฉียนซีสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทำได้แค่สู้สุดใจเท่านั้นแล้ว นางชักกระบี่มังกรเพลิงออกมา กล่าวเสียงขรึมว่า “กระบี่มังกรเพลิง เรามาสู้ด้วยกันเถอะ ร้อยหลอมนี้จะสำเร็จได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพลังของเจ้าแล้วหล่ะ”
กระบี่มังกรเพลิงสั่นเล็กน้อยเพื่อตอบสนองมู่เฉียนซี ราวกับมันกำลังบอกว่า “นายท่าน มอบให้เป็นหน้าที่ข้าจัดการเถอะ!”
มู่เฉียนซีกำกระบี่มังกรเพลิงไว้แน่น ปลายกระบี่ชี้ไปที่มนุษย์โลหะเหล่านั้น และตะโกนอย่างเย็นชาว่า “มังกรเพลิง พิฆาต!”
มังกรเพลิงสีแดงฉานพุ่งเข้าหาพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง และได้ห้อมล้อมมนุษย์โลหะเหล่านี้ไว้ และตอนนี้ทางด้านนอกนั้น อาจารย์ผู้คุมสอบกล่าวขึ้นว่า “ลมหายใจเดียว เพียงแค่ลมหายใจเดียวเท่านั้น หากมนุษย์โลหะเหล่านั้นยังไม่ถูกทำลายลง ร้อยหลอมก็ไม่อาจสำเร็จได้แล้ว”