มู่เฉียนซีเลิกคิ้ว “เจ้ามั่นใจขนาดนั้นเลยรึ ว่ากรงผุ ๆ นี่มันจะสามารถขังข้าเอาไว้ได้”
เปลวเพลิงลุกโชนโหมกระหน่ำมากขึ้น หวงฉีกล่าวอย่างมั่นใจว่า “ข้าบอกว่าสามารถขังเจ้าไว้ได้ก็คือขังเจ้าไว้ได้! แม้ทักษะวิญญาณของเจ้าจะทรงพลัง แต่พลังวิญญาณของเจ้านับว่าอ่อนแอเกินกว่าจะทําลายได้”
“มังกรวารีพิฆาต!”
มังกรวารีสีฟ้าเดินเตร่อยู่บนโซ่เพลิง มันน่าเกรงขามพร้อมข่มขวัญฝ่ายตรงข้าม
— ปัง! —
พลังทั้งสองปะทะกัน แต่โซ่เพลิงกลับไม่ได้ถูกมู่เฉียนซีทําลายไป
หวงฉีกล่าวอย่างมั่นใจ “ศิษย์น้องมู่เฉียนซี เจ้าไม่ต้องดิ้นรนไปให้ไร้ประโยชน์หรอก ส่งลูกซวนจูของเจ้าออกมาแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป และแน่นอนว่าข้าจะไม่ทําร้ายเจ้า แต่ถ้าเจ้ายังต่อต้านไม่เลิก ถูกเผาไปก็คงไม่ดี”
“ทักษะเทียนซวน!”
พลังทําลายล้างของมังกรวารีพิฆาตเป็นเพียงการซ้อมมือเท่านั้น ต่อไปก็ถึงเวลาที่มู่เฉียนซีจะเคลื่อนไหวจริง ๆ แล้ว
เมื่อทักษะเทียนซวนถูกปล่อยออกมา โซ่ก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ กลายเป็นท่อน ๆ และมู่เฉียนซีก็พุ่งออกมาจากกรง
หวงฉียังไม่ทันได้ตั้งตัว เขาก็ต้องกล่าวออกมาด้วยความตกใจ “นั่น! เป็นไปได้ยังไง ?”
อาวุธที่เขาภาคภูมิใจถูกผู้ที่เป็นเพียงจักรพรรดิระดับหนึ่งบดขยี้จนแหลกละเอียด
เขายังไม่ทันได้ตั้งตัว มู่เฉียนซีก็ลงมืออีกครั้ง
“มังกรเพลิงสังหาร!”
ปลายกระบี่ชี้ไปยังหวงฉี มังกรเพลิงสีแดงเข้มตัวหนึ่งพุ่งออกไปกลืนกินหวงฉีในทันที
ไม่น่าเลย! เขามั่นใจในกรงเพลิงของเขาเองมากเกินไปจนพบกับจุดจบอันน่าตะลึงงันเมื่อเห็นมู่เฉียนซีทําลายมันได้ด้วยกระบวนท่านี้ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมังกรเพลิงสังหารของนาง เขาก็ยิ่งไม่มีช่องว่างในการตอบโต้ใด ๆ
— ปัง! —
พื้นถูกเผาไหม้เกรียม ร่างหวงฉีกระเด็นลอยออกไป เสื้อผ้าของเขาถูกเผาจนขาดรุ่งริ่ง จิตใจก็บอบช้ำ เขารู้สึกเหมือนกําลังฝันไปและได้แต่พูดเสียงเศร้า “ข้าแพ้แล้ว…”
ฉูห้าวเองก็รู้สึกเหมือนทุกอย่างตรงหน้าไม่ใช่เรื่องจริง “พี่ใหญ่มู่ เจ้าชนะอีกครั้งแล้ว เจ้านี่สุดยอดมากจริง ๆ!”
“สวรรค์โปรด! แม้แต่หวงฉีก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง การที่พี่ใหญ่มู่จะได้อันดับหนึ่งในการสอบคัดเลือกศิษย์สำนักส่วนในในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติมาก”
“ข้าแพ้แล้ว ลูกซวนจูเป็นของเจ้า เอาไปซะ!” หวงฉีเป็นคนรู้แพ้รู้ชนะ เขาส่งลูกซวนจูไป ยอมมอบให้แต่โดยดี
เขาเป็นศิษย์สิบอันดับแรกของห้องเรียนระดับสูง คะแนนในลูกซวนจูของเขามีไม่น้อยเลย
มู่เฉียนซีบดขยี้มันอย่างไม่รีรอ ทันใดนั้นคะแนนนางเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
“ไปต่อ!” มู่เฉียนซีแค่นเสียงเย็น
ค่ำคืนนี้ นอกจากเจอกับหวงฉีที่ถือได้ว่าแข็งแกร่งแล้ว ผู้อื่นที่เหลือนางรับมือได้ง่ายมาก
ฉูห้าวมองดูคะแนนของเขาที่เพิ่มสูงขึ้น ถ้าหากว่าเขาพึ่งพาตัวเขาเองเพียงคนเดียวคงไม่มีทางที่จะสามารถทำได้ถึงขนาดนี้อย่างแน่นอน แต่ทว่าวันนี้กลับทำมันได้ นี่เป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างมาก
……
วันที่สอง การล่ายังคงดําเนินต่อไป
มู่เฉียนซีและฉูห้าวกลายเป็นคู่หูที่ห้าวหาญและมีชื่อเสียงในเขาจงเสียไปแล้ว สำหรับมู่เฉียนซี นางน่าหวาดกลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ใครก็ไม่กล้าหือกับนางทั้งนั้น! ทว่ามีอยู่คนหนึ่ง…
“บัดซบ! มันจะมากเกินไปแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยให้สาวน้อยผู้นั้นและเจ้าฉูห้าวอวดดีอีกต่อไป”
“หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเราคงหยุดพวกเขาไม่ได้”
“จะต้องทำอะไรสักอย่าง…”
คะแนนของมู่เฉียนซีและฉูห้าวเพิ่มขึ้นอย่างมากและรวดเร็วด้วย เหล่าคนที่เกลียดชังพวกเขามีไม่น้อยเลย ทําให้บัดนี้หลายคนต่างเพ่งเล็งไปที่มู่เฉียนซีและฉูห้าวโดยตรง
“เป็นเช่นนี้เราคงต้องไปหาพี่ใหญ่สิบอันดับแรกก่อน จึงจะสามารถจัดการกับมู่เฉียนซีได้”
“ศิษย์ใหม่นางนั้นเดิมทีผู้คนก็บอกว่านางเป็นสตรีวิปริต แต่ข้าก็ไม่คิดว่านางจะวิปริตถึงขนาดนี้”
“ใช่… นี่มันเรื่องบัดซบอันใดกันแน่ ?”
ในส่วนของมู่เฉียนซี นางเริ่มต้นวันที่สองได้ดี คะแนนของนางสูงเกินหนึ่งพันคะแนนแล้ว!
เมื่อคิดคำนวณตามสัดส่วนของคนที่ยอมแพ้ไปในตอนนี้ การติดหนึ่งในสิบอันดับแรกไม่ใช่ปัญหาเลย แต่พวกเขาเหล่าศิษย์ที่อยู่มาก่อนไม่ต้องการให้ศิษย์ใหม่ผู้หยิ่งยโสเช่นนี้อยู่ลอยหน้าลอยตาให้หมั่นไส้ต่อไป จึงมีบางคนตั้งใจอย่างที่สุดเพื่อโจมตีโค่นล้มมู่เฉียนซีลง
“พวกเจ้าหมายความว่ายังไง ?” ฉูห้าวเอ่ยถามขึ้น
มีผู้คนยี่สิบถึงสามสิบคนมารวมตัวกันตรงหน้า พวกเขาดูดุร้าย เห็นได้ชัดว่ามาไม่ดีแน่
“หมายความว่ายังไงงั้นเรอะ ? ก็หมายความว่าพวกข้ามาจัดการกับพวกเจ้านยังไงล่ะ ? ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ” พวกเขาหัวเราะอย่างเย็นชา
ชายชุดขาวผู้หนึ่งก้าวออกมา เขาเอ่ยเสียงเย็น “หึ ๆ ข้าได้ยินมาว่าศิษย์น้องมู่เฉียนซีและเจ้าลูกกะจ๊อกฉูห้าวมีคะแนนอยู่ไม่น้อย ข้าจึงอยากยืมคะแนนสักหน่อย แต่ก็ไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะเต็มใจหรือเปล่า”
ฉูห้าวพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เต็มใจก็บ้าแล้ว พวกเจ้าทั้งกลุ่มมีคนมากมายแต่จะจัดการพวกข้าที่มีเพียงสองคน ช่างไร้ยางอายเสียจริง!”
“ผู้อาวุโสสํานักส่วนในบอกไปแล้วว่าจะใช้วิธีใดก็ได้ การที่พวกข้าอยากเข้าไปจัดการพวกเจ้าสองคนพร้อมกันแล้วจะทำไม ?”
“ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะไม่ยอมแพ้” สีหน้าของฉูห้าวมืดครึ้ม เขามองมู่เฉียนซีก่อนจะถามว่า “พี่ใหญ่มู่ เราเอาไงดี ?”
“ยังจะทําอะไรได้อีกเล่า ? ลุย!” มู่เฉียนซีตะโกน
“ได้! ลุย!” ผ่านการสู้ด้วยกันมาประมาณหนึ่ง ฉูห้าวเริ่มเชื่อมู่เฉียนซีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเมื่อบอกว่าลุยเขาก็ลุย ร่วมมือกับหญิงฉลาดและเก่งกาจอย่างนางย่อมมีวิธีเอาชนะอย่างแน่นอน
— ปัง! ปัง! ปัง! —
ขวดยานับไม่ถ้วนถูกมู่เฉียนซีโยนขึ้นไปกลางอากาศก่อนที่ขวดพวกนั้นจะแตกปล่อยเอายาหกลงมาราวกับสายฝนโปรย
หากไม่ระวัง สัมผัสถูกยานี้เข้า พวกเขาจะรู้สึกชาไปทั้งตัว
— ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ! —
เข็มยานับไม่ถ้วนพุ่งออกมา
ด้วยการโจมตีอย่างหนักทั้งสองแบบ มู่เฉียนซีโจมตีไปที่พวกเขาอย่างกะทันหัน ทำให้พวกเขานั้นไม่อาจรับมือได้ทันการ
“แย่แล้ว นั่นพิษ!”
“อาวุธลับ!”
“นางใช้วิธีการที่ไม่เป็นที่นิยมและต่ำช้าเช่นนี้นี่เอง ถึงว่าล่ะ นางถึงได้เอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้มากมายเช่นนั้นภายในเวลาไม่นาน”
“น่าแค้นใจจริง! พวกเรา อย่าปล่อยให้นางอวดดีต่อไปได้”
“ลุย! จัดการนาง!” พวกเขาตะโกนและลงมือกับมู่เฉียนซี
ทว่า… การทะเลาะวิวาทกับคนที่ชำนาญในการใช้พิษรุนแรงถือเป็นคนโง่เง่า พวกเขาพลาดแล้ว พลาด พลาด พลาด!
พวกเขาถูกวางยาพิษโดยไม่ทันตั้งตัวจนได้ อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูง
ฉูห้าวเองก็ตกใจจนพูดไม่ออก เขารู้ดีว่าพี่ใหญ่มู่ใช้พิษได้อย่างชำนาญมาก แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่านางจะใช้พิษที่มีพลังทําลายล้างรุนแรงได้มากขนาดนี้
ชายชุดขาวที่นําหน้ากระโดดออกมา เขายิ้มพลางกล่าวว่า “ข้าไป๋ฉาง คงดูเบาศิษย์น้องมู่เฉียนซีเกินไปแล้วจริง ๆ ดูเหมือนว่าข้าจะต้องลงมือจัดการด้วยตัวเอง”
มู่เฉียนซี “เมื่อครู่เจ้าไม่กล้าลงมือใช่ไหม ตอนนี้เจ้าคงรู้ถึงพิษที่ร้ายกาจของข้าแล้ว เจ้าถึงได้กล้าลงมือ”
ไป๋ฉาง “ทําไมศิษย์น้องมู่เฉียนซีถึงคิดแบบนั้นเล่า เมื่อครู่ข้าแค่ใจไม่แข็งพอที่จะทําร้ายเจ้า”
“ช่างเป็นคนหน้าซื่อใจคดซะจริง” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
พลังของไป๋ฉางไม่ได้สูงไปกว่าหวงฉีเลย มู่เฉียนซีจึงไม่ได้กดดันมากนัก
“มังกรวารีพิฆาต!”
“ทักษะตี้ซวน!”
— ปัง! ปัง! ปัง! —
ภายใต้การโจมตีอย่างบ้าคลั่งของมู่เฉียนซี ไป๋ฉางก็พ่ายแพ้และถอยร่นไปอย่างต่อเนื่องจนไม่อาจทนได้อีกต่อไป
“เจ้า…”
“เจ้าเป็นเพียงแค่จักรพรรดิระดับหนึ่งได้ยังไง ? นี่มันเป็นไปไม่ได้เลย”
มู่เฉียนซี “การมาล้อมโจมตีข้า แน่นอนว่ามีราคาที่ต้องจ่าย”
“ทักษะเทียนซวน!”
“พรวด!” ทักษะเทียนซวนฟาดลงมาจากฟากฟ้า ร่างของไป๋ฉางจมลงสู่ก้นบึ้งของพื้นดิน เขากระอักเลือดออกมา
ส่วนคนอื่น ๆ เริ่มแย่ พิษเริ่มลงลึกขึ้นจนไม่มีแม้แต่แรงจะต่อสู้
ดวงตาของฉูห้าวเป็นประกาย พี่ใหญ่มู่ชนะอีกแล้ว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการรุมล้อมของคนจํานวนมากเช่นนี้กลับไม่เป็นอะไรเลย ดูเหมือนว่าอันดับหนึ่งของการทดสอบในครั้งนี้ต้องเป็นของพี่ใหญ่มู่อย่างแน่นอน
ฉูห้าวหัวเราะ “ไม่ต้องพูดมากแล้ว ส่งลูกซวนจูออกมาเถอะ”
หลังจากรับลูกซวนจูของพวกเขา คะแนนของมู่เฉียนซีก็เริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ผู้ที่มีคะแนนสูงสุดกลายเป็นมู่เฉียนซี
อาจารย์ใหญ่พูดอย่างตื่นเต้น “มู่เฉียนซี อันดับหนึ่งเป็นของมู่เฉียนซี! สาวน้อยผู้นี้ช่างขยันทําให้คนประหลาดใจดีจริง ๆ”