“กินก็กินเสร็จแล้ว นี่คืออุปกรณ์ที่ข้าเตรียมเอาไว้ให้เจ้า รีบไสหัวไปได้แล้ว ข้ายังมีเรื่องอื่นที่ต้องจัดการ”
จวินโม่ซีกล่าว “สาวน้อย เจ้าจะไม่เตรียมอาหารให้ข้าติดตัวไปสักหน่อยหรือไง ?”
“อย่าได้คิดเลย ไม่มีหรอก หากเจ้าอยากกินอีก ก็ต้องเอาชีวิตรอดกลับมาที่หอหมอปีศาจให้ได้”
มู่เฉียนซีกล่าวจบก็หันไปกล่าวกับซวนอี้ว่า “ไปกันเถอะ!”
เมื่อก่อนความแข็งแกร่งของจวินโม่ซีเป็นเพียงแค่ขั้นจักรพรรดิแห่งภูตก็สามารถหนีเอาชีวิตรอดได้นานเช่นนั้น บัดนี้พลังของเขาถึงขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตแล้ว การที่คนของหุบเขาหมอเทวดาคิดจะลงมือกับเขานั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย
ครั้นแล้วมู่เฉียนซีก็เดินจากไปเช่นนี้ จวินโม่ซีก็กล่าวด้วยความเสียใจว่า “สาวน้อย เจ้าช่างใจดำยิ่งนัก!”
กล่าวจบร่างของเขาก็อันตรธานหายไปเช่นกัน
ณ ห้องโถงประชุมของสำนักส่วนใน ผู้อาวุโสทั้งหลายกำลังนั่งรออยู่
สำหรับเรื่องที่อาจารย์มีคำสั่งมอบภารกิจให้สองคนนั้นจัดการ พวกเขายังคงรู้สึกกลัดกลุ้มใจอยู่บ้าง อาจารย์ใหญ่รับผิดชอบหน้าที่หน่อยจะได้หรือไม่!
“เชิญนั่ง!” ซวนอี้ผายมือออกเชิญให้มู่เฉียนซีนั่งลง
เดิมทีตำแหน่งที่นั่งตรงนี้เป็นตำแหน่งที่นั่งของอาจารย์ใหญ่ ทุกคนเห็นเช่นนี้ต่างก็นิ่งอึ้งไป
มู่เฉียนซีไม่รู้ ดังนั้นนางจึงนั่งลง
นางมองไปที่เหล่าผู้อาวุโสและอาจารย์ทั้งหลาย “คราก่อนเป็นหุบเขาหมอเทวดาที่มาหาเรื่อง ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุก็เป็นเพราะข้า ข้าทำให้อาจารย์ทุกท่านตกใจแล้ว ข้าขอโทษทุกท่านด้วย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นักเรียนมู่เฉียนซี สำนักศึกษาของพวกเราก็ต้องปกป้องนักเรียนของตัวเองสิ”
“ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะคนของหุบเขาหมอเทวดาเหล่านั้นมีตาแต่หามีแววไม่ ไม่เกี่ยวกับเจ้าหรอก!”
“……”
“ข้าไม่อยากติดหนี้บุญคุณสำนักศึกษาแต่อย่างใด ดังนั้นครั้งนี้ข้าจะคิดหาวิธีอย่างสุดความสามารถเพื่อกำจัดสำนักปีศาจดำออกไปจากเสียโจวให้สิ้นซากให้ได้ สำนักปีศาจดำกล้าฉวยโอกาสยามที่สำนักศึกษาเกิดศึก ดังนั้นจะต้องเตรียมความพร้อมให้พร้อมเพื่อจะทำลายพวกมันให้สิ้นซาก” แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี
“สำนักปีศาจดำจะต้องพินาศไปไม่ช้าก็เร็ว นักเรียนมู่เฉียนซีพูดถูก” พวกเขาต่างพากันเห็นด้วย
“ดี เช่นนั้นก็เอาข้อมูลของสำนักปีศาจดำมาให้ข้า”
“อืม!”
ดูเหมือนว่าสำนักปีศาจดำจะรู้ตัวแล้วว่าสำนักศึกษาซวนเสียต้องการลงมือกับพวกเขา
เจ้าสำนักแห่งสำนักปีศาจดำก็ตกใจกลัวเป็นอย่างยิ่ง การปรากฏตัวของบุรุษที่เหมือนกับเทพมารผู้นั้น ทำให้ยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิของสำนักปีศาจดำหายไปถึงครึ่งสำนัก
“ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะหุบเขาหมอเทวดา พวกมันต้องปกป้องพวกเรา”
ทว่า ทางด้านของหุบเขาหมอเทวดาไม่ได้เห็นสำนักปีศาจดำที่ไม่ได้เป็นสำนักระดับสองอย่างพวกเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
“ท่านเจ้าสำนัก หลังจากที่สำนักศึกษาซวนเสียส่งหัวหน้าหุบเขาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและทารกเหล่านั้นกลับไป หุบเขาหมอเทวดาก็ไม่กล้าเอะอะโวยวายแต่อย่างใดเลย พวกมันคงไม่กล้าล่วงเกินสำนักศึกษาซวนเสียเพื่อพวกเราเป็นแน่ แล้วพวกเราจะทำเช่นไรดีขอรับ ?”
“ทำเช่นไรดีงั้นเหรอ จะทำเช่นไรได้ล่ะ ยุบสำนักปีศาจดำไปชั่วคราวก่อน ข้าจะออกไปจากเสียโจว สักวัน ข้าจะหวนกลับมามีอำนาจอีกครั้ง”
มู่เฉียนซีให้คนปล่อยข่าวออกไป ทำให้สำนักปีศาจดำหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
พวกเขาเสียหายไปหนักมาก อีกทั้งการกลับมาของอาจารย์ใหญ่ พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะดันทุรัง
ทว่า คิดจะออกจากเสียโจว มันง่ายเช่นนั้นเหรอ ค่ายกลส่งตัวที่มีอยู่หนึ่งเดียวตอนนี้ถูกสำนักศึกษาซวนเสียควบคุมเอาไว้แล้ว
การที่เขาคิดหนี มันไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น!
สำนักศึกษาซวนเสียยังไม่ทันได้ลงมือ แต่สำนักปีศาจดำตอนนี้กลับโกลาหลไปเองแล้ว
นี่เป็นเพราะการที่จิ่วเยี่ยกับอาถิงทำให้พวกเขาตกใจกลัวในตอนนั้น สำนักศึกษาซวนเสียไม่ได้ลงมือทำสิ่งใดเลย ก็ทำให้สำนักปีศาจดำยิ่งลุกลี้ลุกลนมากขึ้นแล้ว
“ในที่สุดก็สำเร็จแล้ว!” ประตูห้องหลอมอาวุธถูกเปิดออก อาจารย์ใหญ่ซวนเดินออกมาจากห้องแล้ว
ในมือของเขาถือกระบี่เล่มใหม่เอี่ยมอยู่เล่มหนึ่ง แต่หากมองอย่างละเอียดถี่ถ้วน คมกระบี่นั้นกลับเก่าแก่มากแล้ว แตกต่างไปจากตัวกระบี่อย่างสิ้นเชิง
“สาวน้อย ให้เจ้า!” อาจารย์ใหญ่ซวนยื่นกระบี่มังกรเพลิงให้กับมู่เฉียนซี
“ขอบคุณท่านอาจารย์ใหญ่ซวนมาก!” คุณภาพของกระบี่เล่มนี้ต้องแข็งแกร่งกว่าที่นางหลอมออกมาอย่างแน่นอน
“มันยังไม่สมบูรณ์แบบ ทำให้มันต้องกล้ำกลืนเสียแล้ว” น้ำเสียงของอาจารย์ใหญ่นั้นกล้ำกลืนใจเป็นอย่างมาก ท่าทางกล้ำกลืนใจยิ่งว่าคมกระบี่เสียอีก
“ลองกระบี่ดูสิ ซวนอี้ เจ้าเป็นคู่ลองกระบี่ให้นางสักหน่อยเถอะ!” อาจารย์ใหญ่ซวนชี้ไปที่ซวนอี้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“ขอรับ!”
อาจารย์ใหญ่ปล่อยให้ศิษย์ของตนเองเป็นเป้าเสียแล้ว มู่เฉียนซีกล่าว “ซวนอี้ เจ้าระวังตัวด้วยล่ะ!”
เมื่อกระบี่มังกรเพลิงของมู่เฉียนซีเหวี่ยงออก มังกรเพลิงสีแดงฉานก็พุ่งไปทางซวนอี้อย่างไร้ซึ่งความปรานี
แคร้ง! ซวนอี้ชักกระบี่ยาวออกมาต้านทาน!
ปัง! เขาขวางมันเอาไว้ด้วยความหวาดเสียว แต่เส้นผมของเขาถูกเผาไปเล็กน้อย
ใบหน้าของอาจารย์ใหญ่ซวนเผยรอยยิ้มออกมา เขาไม่ได้ดูผิดไป นี่ต้องเป็นกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณแน่นอน
“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริง ๆ หากพลังของสาวน้อยไม่ถดถอยลงไป ซวนอี้เส้นผมของเจ้าคงไม่โดนเผาแค่เล็กน้อยเช่นนี้แน่ แต่คงจะถูกเผาจนหัวล้านทั้งหัวไปแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” อาจารย์ใหญ่ซวนหัวเราะชอบใจขึ้น
ซวนอี้กลัดกลุ้มใจเป็นอย่างมาก อาจารย์ก็เกินไปจริง ๆ นี่ตกลงเขายังเป็นศิษย์ของอาจารย์อยู่หรือไม่!
เขาคุ้นเคยกับการที่กระบี่ของมู่เฉียนซีนั้นใช้ครั้งเดียวแล้วหักไป แต่ครั้งนี้กระบี่ของนางกลับดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว
ซวนอี้ยิ้มพลางกล่าว “เฉียนซี ยินดีกับเจ้าด้วย ในที่สุดกระบี่ของเจ้าก็ไม่ต้องหักแล้ว”
อาจารย์ใหญ่ซวนกล่าว “ข้าไม่ได้มีความสามารถมากมายเช่นนั้น แต่ทำให้มันใช้ได้สิบกว่าครั้งนั้นไม่มีปัญหาแน่นอน”
“ห๊ะ! แม้แต่ท่านอาจารย์ก็ยังทำให้มันสมบูรณ์ไม่ได้งั้นเหรอ!” ซวนอี้ตกใจขึ้น
“ถึงแม้จะถึงขั้นนักหลอมอาวุธระดับสูง ข้าก็ไม่มีความสามารถนั้น เว้นแต่ว่าสาวน้อยจะหาตัวกระบี่เดิมของมันเจอ” อาจารย์ใหญ่ซวนกล่าวเสียงขรึม
มู่เฉียนซีมองไปที่อาจารย์ใหญ่และกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ใหญ่ ในเมื่อท่านไม่มีภารกิจใดแล้ว เช่นนั้นก็ควรจะลงมือกับสำนักปีศาจดำได้แล้ว ทุกสิ่งที่ควรจัดการก็ได้จัดการไปหมดแล้ว ขาดก็แค่ท่านที่เป็นกำลังหลัก ครั้งนี้ท่านอย่าได้บ่ายเบี่ยงหน้าที่ให้คนอื่นทำแทนอีกล่ะ!”
ครั้งนี้ แม้แต่ศิษย์ของเขาก็ไม่ได้ยืนฝ่ายเดียวกับเขาแล้ว
ซวนอี้ก็กล่าวเสียงขรึมว่า “ท่านอาจารย์ สำนักศึกษาซวนเสียของพวกเราสู้รบกับสำนักปีศาจดำในครั้งนี้ จะขาดผู้นำไม่ได้เด็ดขาด!”
“ได้ ได้ ได้! ข้าจะไป ข้าจะต้องจัดการกับตาเฒ่าประหลาดแห่งสำนักปีศาจดำผู้นั้นให้สิ้นซากให้ได้”
สำนักศึกษาซวนเสียบุกโจมตีสำนักปีศาจดำตลอดแนวเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนี้เครือข่ายข้อมูลของหอหมอปีศาจในเสียโจวนั้นสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก การที่พวกเขาคิดจะหลบหนีนั้นมันไม่ง่ายเลย
เจ้าสำนักแห่งสำนักปีศาจดำกล่าวขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “ไอ้แก่ตายยาก! นี่เจ้าจะไม่ให้พวกข้ามีทางรอดเลยใช่ไหม ?”
อาจารย์ใหญ่ซวนกล่าวอย่างยืนหยัดในเจตจำนงว่า “ในตอนที่พวกเจ้าฉวยโอกาสมาต่อสู้กับสำนักศึกษาซวนเสียของข้า เจ้าก็ไม่ได้คิดจะให้สำนักศึกษาของพวกข้ามีทางรอดเหมือนกันไม่ใช่หรอกเหรอ แล้วตอนนี้มีเหตุผลใดที่ข้าจะปรานีต่อเจ้าด้วย!”
สีหน้าของเจ้าสำนักปีศาจดำพลันเปลี่ยนเป็นหมองคล้ำลงทันที “เจ้าบัดซบ! เป็นเจ้าที่บีบบังคับข้า”
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่าเช่นไรก็ต้องตายอยู่ดี
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจสู้จนสุดชีวิต!
เจ้าสำนักปีศาจดำแผดเผาวิญญาณของตนเอง ทำให้พลังของตนเองเพิ่มขึ้นหนึ่งขั้น และพุ่งไปทางอาจารย์ใหญ่ซวน
อาจารย์ใหญ่ซวนพ่นคำพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าคิดจริง ๆ เหรอว่าเพิ่มพลังถึงขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสี่แล้วจะเอาชนะข้าได้ ฝันไปเถอะ!”
ทว่า ในขณะที่เขากำลังเข้ามาใกล้อาจารย์ใหญ่นั้น จู่ ๆ ก็เปลี่ยนทิศทางไปอีกทาง เป้าหมายคือมู่เฉียนซี
สีหน้าของอาจารย์ใหญ่ซวนพลันเปลี่ยนไปทันที “บัดซบ เป้าหมายมันเป็นสาวน้อย!”
เจ้าสำนักปีศาจดำคิดจะเดิมพัน เดิมพันว่าบุรุษผู้น่าเกรงกลัวกับหมอปีศาจผู้นั้นไม่ได้อยู่ที่นี่!
หากเป็นเช่นนี้ เขาก็สามารถจัดการกับสาวน้อยผู้นี้ได้แล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะต้องตายไปอย่างไร้ซากศพ สำนักศึกษาซวนเสียก็จะถูกกำหนดให้โกรธแค้นไปจนวันตาย ในเมื่อเขาต้องตาย เขาก็จะลากสำนักศึกษาซวนเสียให้ตายไปพร้อมกับเขาด้วย