เย่เชียนขมวดคิ้วเล็กน้อยไปกับความรู้สึกที่คลุมเครือที่เกิดขึ้นในใจของเขา เขาคิดว่าป่านนี้หลินโรโร่วก็น่าจะเดินทางไปถึงแอฟริกาใต้แล้ว ถ้าอย่างนั้นคนที่ชายปริศนาพูดถึงนั่นคือใครกันล่ะ ? หรือชายปริศนาคนนี้อาจจะหมายถึงฉินหยู ? หรือว่าเขาจะพูดถึงจ้าวหยากันแน่ ?
“ฮันเตอร์ฟอลคอนจอห์นใช่มั้ย ?” เย่เชียนถามด้วยความไม่แน่ใจ แต่ทว่านอกเหนือจากฟอลคอนจอห์นแล้วเย่เชียนก็ไม่สามารถนึกถึงใครได้อีกในตอนนี้
“หึ ๆ ๆ ฉลาดไม่เบาเลยนี่ที่รู้ว่าฉันคือใคร ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าราชาหมาป่าเย่เชียนผู้ยิ่งใหญ่จะโรแมนติกได้ขนาดนี้! ชายผู้เป็นตำนานมีสาว ๆ ควงทั้งซ้ายขวา แถมทุกคนยังสวยระดับนางงามอีก! ตอนนี้นายไม่ต้องห่วงหรอก เพราะพวกเธอก็แค่กำลังมีความสุขกันอยู่ในสปา แต่ฉันไม่รู้หรอกนะว่าถ้าฉันเหนี่ยวไกไปแล้วผลมันจะเป็นยังไง” ฟอลคอนจอห์นพูดอย่างเยือกเย็น
เย่เชียนถึงกับผงะไปชั่วขณะและคิดกับตัวเองว่าผู้หญิงงี่เง่าสองคนนั้นจะไปทำบ้าอะไรกันที่สปาตั้งแต่เช้า มันคือเรื่องจริงหรือที่ผู้หญิงสองคนนี้จะไปที่นั่นอย่างที่ฟอลคอนจอห์นพูด ? พวกเธอคิดอะไรกันอยู่ ? ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมามัวสนใจเรื่องนั้น เย่เชียนหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามทำให้อารมณ์ของเขาคงที่ จากนั้นก็พูดว่า “คุณรู้เบอร์โทรศัพท์ของผมได้ยังไง ?”
“เหนือมังกรยังมีเทพมังกร… มันไม่ยากเลยที่จะหาเบอร์ใครสักคนนึงน่ะ ใช่มั้ยล่ะราชาหมาป่าเย่เชียน!” ฟอลคอนจอห์นพูด
“คุณรู้มั้ยว่าคุณน่ะโชคดีมากขนาดไหนที่ไม่ได้กลายเป็นศพไปเมื่อคืนนี้ ถ้าผมเป็นคุณนะ ผมจะรีบออกจากเซี่ยงไฮ้อย่างไวเลย” เย่เชียนพูด
“แกฆ่าน้อง ๆ ของฉันไปมากขนาดนั้น แล้วแกคิดว่าฉันจะปล่อยแกไปง่าย ๆ งั้นเหรอวะ ? แกคิดว่าฉันเป็นคนงี่เง่าหรือยังไง ต่อให้ฉันต้องหนี ฉันก็หนีไปได้อย่างสบาย ๆ อยู่แล้ว!” ฟอลคอนจอห์นพูด
“ถ้าคุณอยากจะล้างแค้นคืนกับผม คุณก็ไม่จำเป็นต้องไปทำร้ายผู้บริสุทธิ์หรอก นี่มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเราในฐานะทหารควรทำ เรามาตกลงกันแบบแมน ๆ ไปเลยดีกว่าว่าคุณต้องการอะไร ?” เย่เชียนพูด
“แกอย่ามาทำเป็นพูดดีไปหน่อยเลย ฉันเกรงว่าฉันอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้จนมือไม้สั่นไปเหนี่ยวไกปืนแล้วทำให้พวกเธอต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าสมเพชเพราะคนอย่างแก!” ฟอลคอนจอห์นพูดต่อ “ถ้าแกไม่อยากให้พวกเธอตาย แกก็ต้องยอมทำตามที่ฉันบอก แกไปที่ศูนย์การประชุมลานนิทรรศการตอนนี้เลย แต่แกต้องไปคนเดียว ห้ามบอกคนของแกเด็ดขาด เพราะถ้าฉันเห็นคนอื่น ๆ นอกจากแกล่ะก็… ผู้หญิงพวกนี้ตาย!”
เย่เชียนหัวเราะเย้ยหยันและพูดว่า “อย่างคุณไม่ต้องใช้คนมากขนาดนั้นหรอก… แค่ผมคนเดียวก็เหลือแล้ว”
“เดี๋ยวก็รู้” ฟอลคอนจอห์นพูด
เย่เชียนวางสายโทรศัพท์และรีบขับรถตรงไปที่ศูนย์การประชุมลานนิทรรศการด้วยความกระวนกระวาย ระหว่างทางเย่เชียนต้องการที่จะโทรหาฉินหยู แต่หลังจากที่หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและตระหนักถึงเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจยังไม่โทรตอนนี้ เพราะเย่เชียนยังไม่แน่ใจว่าฉินหยูและจ้าวหยาถูกฟอลคอนจอห์นลักพาตัวไปแล้วหรือไม่ จากที่คุยโทรศัพท์ด้วยกันเมื่อครู่นี้ เย่เชียนคิดว่าฟอลคอนจอห์นยังไม่ได้ลักพาตัวพวกเธอไป แต่เย่เชียนมั่นใจว่าชีวิตของพวกเธอในตอนนี้นั้นจะต้องถูกคุกคามอยู่อย่างแน่นอน บางทีฟอลคอนจอห์นอาจจะกำลังใช้ปืนสไนเปอร์ไรเฟิลเล็งไปที่พวกเธออยู่ในความมืดที่ไหนสักแห่งเป็นแน่
อย่างไรก็ตามเย่เชียนยังไม่แน่ใจว่าความจริงมันคือแบบไหนกันแน่ แต่ถ้าเป็นอย่างหลัง หากเขาโทรหาฉินหยูเพื่อถามถึงตำแหน่งที่อยู่ของพวกเธอ เขาก็จะสามารถพบตัวฟอลคอนจอห์นได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่หากมันไม่เป็นเช่นนั้นล่ะก็ เขาจะกลายเป็นคนที่นำอันตรายมาสู่พวกเธอ หลังจากคิดไตร่ตรองเรื่องนี้เป็นเวลานาน เย่เชียนจึงตัดสินใจไม่โทรออก
เมื่อมาถึงที่ประตูของศูนย์การประชุมลานนิทรรศการ เย่เชียนก็หยุดรถและลดเบาะให้ราบแล้วนอนลง เพราะเย่เชียนไม่รู้ว่าฟอลคอนจอห์นนั้นอยู่ที่ไหน เขาอาจจะกำลังซ่อนตัวอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งใกล้ ๆ นี้ก็ได้ หากเขาเดินออกไปอย่างบุ่มบ่าม มันอาจจะทำให้เขาถูกยิงตายได้ในทันที
เย่เชียนหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาแล้วโทรไปที่สายล่าสุดและพูดว่า “ผมมาถึงแล้ว… คุณไม่ได้กลัวที่จะออกมาใช่มั้ย ?”
ฟอลคอนจอห์นหัวเราะเยาะและพูดว่า “เหอะ ๆ ๆ อย่าเพิ่งร้อนรนไป… แกรีบลงจากรถเดี๋ยวนี้แล้วเดินไปที่ถนนถัดไปซะ”
เย่เชียนตกตะลึงไปชั่วขณะ ตอนนี้เขามั่นใจได้ 100% แล้วว่าฟอลคอนจอห์นนั้นอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้แน่ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังสามารถมองเห็นที่นี่และถนนข้าง ๆ ได้ทั้งหมดอีกด้วย หลังจากวางสายแล้วเย่เชียนก็ค่อย ๆ ชะโงกไปที่หน้าต่างรถโดยไม่ได้ยื่นหัวออกมาและกวาดสายตามองไปรอบ ๆ อยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของฟอลคอนจอห์นเลย ซึ่งนั่นหมายความว่าฟอลคอนจอห์นนั้นหลบอยู่ตามตึกสูงโดยรอบนั่นเอง
ทว่าเย่เชียนก็ยังไม่สามารถรู้ได้อยู่ดีว่าฉินหยูและจ้าวหยานั้นตกอยู่ในเงื้อมมือของฟอลคอนจอห์นแล้วหรือไม่!
หลังจากที่ลงจากรถแล้วเย่เชียนก็มองหาถนนเส้นนั้น ไม่นานเขาก็มาถึงถนนที่ฟอลคอนจอห์นพูดถึง แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ทันทีที่เย่เชียนรับสายเสียงของฟอลคอนจอห์นก็ดังขึ้น
“ฉันอยู่ที่ชั้นบนสุดของตึกตรงหน้าแก!”
หลังจากพูดจบฟอลคอนจอห์นก็ตัดสายไปโดยไม่เปิดโอกาสให้เย่เชียนได้พูดอะไรต่อ เย่เชียนก็ยิ่งแน่ใจขึ้นว่าเขาเข้าไปใกล้กับฟอลคอนจอห์นขึ้นทุกที ๆ เย่เชียนเหลือบมองไปที่ดาดฟ้าของอาคารตรงหน้าเขา แต่ทว่าเขาก็ไม่พบร่างของฟอลคอนจอห์นอยู่ที่นั่น เขาจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและคิดว่าชายคนนี้ซ่อนตัวได้ไม่เลวเลย
เมื่อเดินเข้ามาในอาคารแล้วเย่เชียนก็ขึ้นลิฟต์และเดินไปที่ดาดฟ้าของอาคาร…
ทันทีที่เขามาถึงชั้นดาดฟ้า เย่เชียนก็ซ่อนตัวอยู่หลังโครงเหล็ก ขณะที่เขากำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป ฟอลคอนจอห์นก็โทรเข้ามาอีกครั้ง
“แกเห็นกระเป๋าเดินทางข้าง ๆ มั้ย ? มันมีสิ่งที่แกต้องการอยู่ในนั้น” ฟอลคอนจอห์นพูด
เย่เชียนมองไปรอบ ๆ อย่างสงสัยและก็เห็นว่ามีกระเป๋าเดินทางวางอยู่ใบหนึ่ง เขาจึงเดินเข้าไปเปิดมันและพบว่ามันคือปืนสไนเปอร์ไรเฟิลที่ยังไม่ได้ประกอบ
“คุณหมายความว่าไง ?” เย่เชียนถามด้วยความสับสน
“ฉันมีเวลาให้แกสิบนาที… ถ้าแกฆ่าฉันไม่ได้ภายในเวลาที่กำหนด พวกผู้หญิงของแกก็จะต้องตาย! และแกก็จะไม่ใช่ราชาหมาป่าเย่เชียนผู้มากฝีมือดั่งที่เขาร่ำลือกัน ฉันล่ะอยากจะเห็นจริง ๆ ว่าแกจะช่วยผู้หญิงของแกยังไง!” ฟอลคอนจอห์นพูดอย่างเกรี้ยวกราด
“คุณอยากที่จะดวลตัวต่อตัวกับผมอย่างนั้นสิ ?” เย่เชียนพูดและฉีกยิ้มเล็กน้อย
“ใช่แล้ว! ฉันต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนบนโลกเห็นว่าราชาหมาป่าเย่เชียนมันก็เป็นแค่เพียงแค่ชื่อที่เหลวไหลและไร้ประโยชน์เท่านั้นล่ะวะ เอาล่ะ… ฉันจะยิงแกเมื่อไหร่ก็ได้นับจากนี้ไป ขอให้แกโชคดี!” เมื่อฟอลคอนจอห์นพูดจบเขาก็วางสายไป
ปัง!
เสียงกระสุนเจาะทะลุกำแพงข้าง ๆ เขาดังขึ้นทันทีที่ฟอลคอนจอห์นวางสาย
เย่เชียนขมวดคิ้วและหยิบกระเป๋าเดินทางขึ้นมาจากพื้นแล้วรีบไปซ่อนตัวอยู่หลังโครงเหล็กหนา เขาหยิบชิ้นส่วนทั้งหมดในกระเป๋าเดินทางออกมาและประกอบมันเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ปืนสไนเปอร์ไรเฟิลเอดับเบิ้ลยูพี แอลหนึ่งหนึ่งห้าเอสามก็มาอยู่ในมือของเย่เชียน เมื่อเขากวาดสายตามองไปยังตำแหน่งที่วิถีของกระสุนพุ่งมาเมื่อครู่นี้แล้ว เย่เชียนก็มองไปยังอาคารฝั่งตรงข้ามและเห็นร่างคนคนหนึ่งอยู่ไกล ๆ ซึ่งคนคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกเสียจาก ฟอลคอนจอห์น!
ทว่าตอนนี้เย่เชียนยังไม่รีบยิง เพราะฟอลคอนจอห์นนั้นซ่อนตัวอยู่ในตำแหน่งที่ดีและไกลมาก ซึ่งมันทำให้เย่เชียนไม่สามารถมั่นใจได้อย่างเต็มร้อยว่าเขาจะยิงโดนได้หรือไม่ เพราะเขาต้องรับรู้แรงลมและความชื้นของสภาพอากาศด้วย เขาจึงถอดเสื้อของเขาออกโดยจงใจที่จะให้ฟอลคอนจอห์นยิงมาทางนี้อีกครั้ง
ปัง!
เสื้อของเขาถูกกระสุนผ่านทะลุไปตามคาด
เย่เชียนยิ้มอย่างเยือกเย็น เขารีบยกปืนขึ้นเล็งและยิงออกไปนัดหนึ่ง แต่ทว่าเป็นเพราะเขารีบเกินไป เขาจึงยิงไม่โดนฟอลคอนจอห์น แต่ไปโดนกำแพงข้าง ๆ แทน