Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1573 หนึ่งนิ้วกำราบศัตรู

เสียงเดียวทำเอาฟ้าดินต่างตะลึง

แม้หลินสวินจะเผชิญหน้ากับศัตรูทั้งหมดเพียงลำพัง แต่ท่าทีแข็งกร้าวเย่อหยิ่งนั่นกลับทำให้เกิดความฮือฮาในที่นั้น

“หึ! อะไรคือหมายปองวาสนาของดินแดนรกร้างโบราณ คุยโวจริงๆ”

เสียงหัวเราะเยาะหนึ่งดังขึ้น สือพั่วไห่รู้สึกประหลาดใจมาก เวลาใดแล้ว หลินสวินยังกล้าบ้าคลั่งเช่นนี้อีกหรือ

“เจ้าเป็นใคร ถึงกล้ามาเห่ามั่วซั่วตรงหน้าข้า”

หลินสวินหรี่ตาเล็กน้อย

ทุกคนในที่นั้นอึ้งงัน บุคคลชั้นหนึ่งของคนรุ่นเยาว์ดินแดนโบราณอสูรดาว หนึ่งในแปดยอดนภาคราม สือพั่วไห่ที่ครอบครองรัศมีแสงสะดุดตาอย่างที่สุดกลับถูกด่าว่า ‘เห่ามั่วซั่ว’ หรือ

นี่เป็นการก่นด่าว่าเป็นสุนัขโดยตรง!

ทันใดนั้นมกุฎอริยะที่มาจากดินแดนโบราณอสูรดาวต่างสีหน้ามืดทะมึนลง

ส่วนสือพั่วไห่ยิ่งโกรธจัดจนหัวเราะออกมา ยื่นมือชี้หลินสวินที่อยู่ห่างไปพร้อมพูดเสียงเข้ม “วันนี้หากเจ้ายอมให้จับ คุกเข่าสำนึกผิด ข้าจะให้วิธีตายที่รวดเร็วกับเจ้า ไม่เช่นนั้นข้ารับรองว่าจะทำให้เจ้าตายทั้งเป็น!”

“พวกเจ้าก็ตั้งใจเช่นนี้หรือ”

สายตาของหลินสวินกวาดมองรอบๆ

“หรือเจ้าคิดว่าวันนี้จะหนีรอด”

สีหน้าของเซวี่ยชิงอีเย็นชา ในดวงตาแดงก่ำมีประกายศักดิ์สิทธิ์โลดแล่น “หลินสวิน เจ้ามาเพื่อแดนลับสนามแม่เหล็ก ส่วนพวกข้ามาเพื่อสังหารเจ้า แน่นอนว่าไม่ตายไม่หยุด”

ไม่ตายไม่หยุดสี่คำนี้ ถูกเขาพูดออกมาทีละคำ ไอสังหารพลุ่งพล่านไปทั่ว

ดวงตาของเหล่ามกุฎอริยะและอริยะแท้จากแปดดินแดนล้วนฉายไอสังหาร มองหลินสวินเป็นปลาบนเขียงตั้งแต่ชั่วขณะที่เขามาถึงแล้ว

ด้วยท่าทีเด็ดขาดที่เซวี่ยชิงอีเผยออกมา ทำให้พวกเขาล้วนอยากลองอยู่บ้าง ในข่าวลือเจ้าหมอนี่พลังต่อสู้แข็งแกร่ง ฝีมือร้ายกาจ แต่วันนี้เขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

“พูดจบแล้ว?”

จู่ๆ หลินสวินก็ยิ้มออกมา สายตาเย็นชา “เช่นนั้นข้าก็พูดประโยคหนึ่งแล้วกัน วันนี้คนของแปดดินแดนของพวกเจ้า หากมีใครสามารถเข้าสู่แดนลับสนามแม่เหล็กได้ ก็นับว่าข้าแพ้!”

พอคำพูดนี้ออกมา ทั้งที่นั้นต่างเงียบกริบ

ทุกคนต่างมองไปอย่างเหลือเชื่อ ราวกับมองคนบ้า

เผชิญหน้ากับมกุฎอริยะมากกว่าร้อย บุคคลระดับอริยะแท้แปดร้อยกว่าคน เขาหลินสวินกลับยังกล้าหยิ่งผยองเช่นนี้ ไม่ใช่โง่แล้วอะไร

แม้แต่เหล่าผู้แข็งแกร่งแปดดินแดนที่หลบอยู่ในกระบวนค่ายกลใหญ่ยังพูดไม่ออก

“ฮ่าๆๆ น่าสนใจ ดินแดนรกร้างโบราณถึงกับมีคนคลั่งที่ไม่เกรงกลัวเยี่ยงเจ้า ไม่รู้ว่าคำว่าตายเขียนอย่างไรหรือ”

สือพั่วไห่หัวเราะเสียงดัง

รอบตัวเขาประกายเทพอสูรดาวสีเงินเป็นสายอบอวล ควบคุมขับเคลื่อน ราวกับนายเหนือหัวแห่งธารดาราผู้หนึ่ง

“คนคลั่งเช่นนี้ ฟันทิ้งก็สิ้นเรื่อง!”

ฮว่าหงเซียวที่สีหน้าเย็นชาและเงียบมาโดยตลอดราวกับทนดูไม่ไหวแล้ว เอ่ยเสียงเย็นเยียบออกมา เสียงนั่นเยียบเย็นราวกับคมดาบ เผยไอสังหารน่ากลัว

ทันใดนั้นทั้งที่นั้นต่างหัวเราะเยาะขึ้นมา

นี่ดูเหลวไหลมากจริงๆ น่าขันมาก คนหนุ่มมกุฎอริยะแห่งดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่ง บางทีพลังต่อสู้อาจไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเทียบได้

แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ พูดจาเช่นนี้ก็ยังคงดูตลกเกินไป

อีกไม่ถึงหนึ่งก้านธูปแดนลับสนามแม่เหล็กที่อยู่ห่างไปนั่นก็จะปรากฏสมบูรณ์ หรือเขาคิดว่าในเวลาหนึ่งก้านธูปจะสามารถพลิกฟ้าเย้ยจักรวาลได้

ช่างบ้าคลั่งจนถึงขั้นเสียสติไปแล้ว!

ในใจจ้าวจิ่งเซวียนถอนหายใจเบาๆ คราหนึ่ง นึกถึงแต่ละเรื่องในอดีต เหมือนว่าทุกครั้งล้วนมีคนคิดว่าหลินสวินทำไม่ได้ มองว่าเขาบ้า

แต่สุดท้ายก็ล้วนถูกตบหน้าอย่างไม่มีข้อยกเว้น

ครั้งนี้จะมีเรื่องไม่คาดฝันหรือไม่

จ้าวจิ่งเซวียนเงยหน้าขึ้นมองเงาร่างที่ยืนอยู่กลางอากาศของหลินสวิน ในใจกลับไม่ได้กังวลมากนัก ความจริงนี่ก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนอย่างหนึ่งแล้ว!

แม้พันทัพหมื่นม้าอยู่ตรงหน้าแล้วอย่างไร

ประกายเฉียบคมที่มาเยือน หาใช่ทุกคนจะสามารถต้านทานได้

ชิ้ง!

และตอนนี้เอง พร้อมกับเสียงครวญใสฮึกเหิมสายหนึ่ง กระบี่ยอดสังหารที่แดงก่ำราวกับภายในมีแม่น้ำนรกพลุ่งพล่านพวยพุ่งออกมา สีเลือดหนาแน่น ย้อมท้องฟ้าเป็นสีแดงยาว

“ใครกันที่ไม่รู้ความ แล้วใครที่บ้าคลั่ง สู้สักตาก็รู้”

เสื้อผ้าของหลินสวินโบกสะบัด ผมยาวพลิ้วไหว ในดวงตาทั้งคู่เย็นชา เสียงกึกก้องสะท้านฟ้า ลมเมฆสั่นไหว

“ข้าขอลองความสามารถของเจ้าบ้านี่สักหน่อย!”

ทันใดนั้นมกุฎอริยะคนหนึ่งหมดความอดทน พุ่งพรวดออกมา

คนผู้นี้รูปร่างสูงใหญ่ เผ้าผมหนวดเคราขาวขุ่น ดวงตาราวกับกระดิ่งสำริด ในมือถือทวนศึกสีดำพุ่งสังหารมา

ตูม!

เห็นเพียงว่าเขากวาดทวนออกมา สายฟ้าสีดำนับไม่ถ้วนปรากฏ กลิ่นอายกฎเกณฑ์อริยมรรคที่น่ากลัวถาโถมอยู่ภายในราวกับเปลวเพลิง

ทันทีที่ลงมือ ห้วงอากาศเต็มไปด้วยพายุสายฟ้า อานุภาพเสียงน่าสะพรึง

หลายคนต่างอุทานด้วยความตกใจ จำมกุฎอริยะอาวุโสคนนี้ได้ ฉายา ‘ชางหรัน’ มีชื่อเสียงมานานหลายพันปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรากฐานพลังหรือฝีมือการต่อสู้ล้วนลึกล้ำเชี่ยวชาญอย่างที่สุด

เหมือนกับการโจมตีนี้ มีอานุภาพดั่งทำลายล้างสรรพสิ่งอย่างง่ายดาย มาพร้อมกับพลังมหามรรค เพิ่งจะลงมือก็เข้ามาอยู่ตรงหน้าหลินสวินแล้ว เผยความองอาจของมกุฎอริยะอาวุโสคนหนึ่งออกมาอย่างหมดจด

ในขณะที่เห็นว่าทวนกำลังจะแทงทะลุร่างหลินสวิน จะได้ยกร่างของเขาขึ้นกลางอากาศ ในใจอดเกิดความเย่อหยิ่งไม่ได้

การโจมตีนี้เป็นท่าไม้ตายที่เขามั่นใจที่สุดในชีวิต ใช้พลังแทบจะเต็มกำลังแล้ว หากหลินสวินคิดว่านี่เป็นการการโจมตีที่ดูถูกและเลินเล่อ ก็ผิดมหันต์แล้ว!

ครู่ต่อมาใบหน้าของเขาก็เผยรอยยิ้ม

ก็เห็นว่าหลินสวินถึงกับไม่หลบหลีก เพียงแค่ยกมือขึ้น นิ้วหนึ่งชี้ออกไปเบาๆ ปลายนิ้วที่เต็มไปด้วยประกายศักดิ์สิทธิ์และปลายทวนสีดำสนิทปะทะกัน

“ฮ่าๆ เด็กเมื่อวานซืน เจ้าบ้าระห่ำเกินไปแล้ว การโจมตีนี้มีหรือจะรับง่ายขนาดนี้”

ชางหรันหัวเราะเสียงดัง ภายในทวนศึกสีดำนี้ของเขาประทับเพลิงสวรรค์ดำที่แข็งกร้าวเผด็จการ ต่อให้เป็นมกุฎอริยะหลอมกายยังไม่กล้าแตะต้องประกายคมนี้ ไม่เช่นนั้นจะถูกแผดเผาจนไม่เหลือซาก

ตูม โครม โครม!

ตามคาด พร้อมกับเสียงฟ้าร้องสะเทือนหู สายฟ้าที่บาดตาแทรกสอดด้วยเพลิงสวรรค์ดำแผ่ลามจากปลายนิ้วหลินสวินขึ้นไปตามแขน

แต่พร้อมกับประกายทองที่ไหลเวียนรอบตัวหลินสวิน พลังมหามรรคซึ่งอบอวลด้วยกลิ่นอายดับสลายนั่นพลันทำลายล้างทุกสิ่งอย่างง่ายดาย สายฟ้าและเพลิงสวรรค์ล้วนถูกกลืนกินจนสิ้นซาก

รอยยิ้มของชางหรันชะงักไป นี่…

ตูม!

ในเวลาเดียวกัน ปลายนิ้วของหลินสวินที่แนบอยู่บนทวนศึกสีดำพลันเปล่งแสงโชติช่วง ชั่วพริบตาชางหรันก็ราวกับถูกภูเขาเทพชนร่าง

ทวนศึกสีดำที่อยู่ในฝ่ามือจู่ๆ ก็บิดงอ ทั้งยังมีเสียงระเบิดดังขึ้นกลางอากาศ ระเบิดแตกกระจัดกระจาย

นิ้วเดียว ทำลายล้างสมบัติอริยะชิ้นหนึ่ง!

อีกทั้งนิ้วนี้ยังถือโอกาสกดลงตรงหน้าอกชางหรัน พลังคุ้มครองรอบตัวอีกฝ่าย รวมถึงสมบัติป้องกันที่ปกคลุมอยู่บนร่างล้วนระเบิดเป็นเสี่ยงๆ โดยพร้อมเพรียงในชั่วขณะนี้ ราวกับเป็นสิ่งของเปราะบางอย่างไรอย่างนั้น

ตูม!

ครู่ต่อมาก็เห็นร่างของชางหรันสะเทือนถอยออกไปหลายร้อยจั้ง แม้แต่อากาศยังถูกกระแทกยุบทลาย สุดท้ายตอนที่ล้มลงพื้น จมูกปากของเขาหลั่งเลือด ตรงหน้าอกยุบลง เผยหลุมที่นองเลือด

“เจ้า…” ชางหรันสีหน้าหวาดกลัว อ้าปากหมายจะพูด แต่เพราะความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้ร่างกระตุกขึ้นกะทันหัน

อะไรกัน

ทุกคนในที่นั้นนัยน์ตาหดรัด

การประมือครั้งนี้จบลงในชั่วพริบตา ทีแรกหลายคนยังกำลังอุทานด้วยความตกใจกับความเชี่ยวชาญและเก่งกาจของชางหรันอยู่เลย ไม่คิดว่าชั่วพริบตาชางหรันก็แพ้แล้ว

นอกจากนี้ยังบาดเจ็บสาหัส!

ชั่วขณะเดียวทั้งที่นั้นเงียบกริบแปลกประหลาด ถูกภาพนี้สะท้านขวัญ คิดจนหัวแตกก็คิดไม่ออกว่าหลินสวินทำได้อย่างไร

แม้แต่เซวี่ยชิงอี ฮว่าหงเซียว สือพั่วไห่ยังขมวดคิ้ว หรี่ตาลงเล็กน้อย

ตามคาด เจ้าหมอนี่แม้จะบ้าระห่ำ แต่ก็นับว่ามีต้นทุนให้ทำเช่นนี้ แม้แต่มกุฎอริยะอาวุโสระดับชางหรันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

“ความสามารถเพียงเท่านี้ ยังกล้าบอกว่าข้าบ้าระห่ำ ไม่รู้สึกตลกหรือ”

ริมฝีปากของหลินสวินเผยยิ้มเยาะ

ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่ได้ขยับเลยแม้แต่ก้าวเดียว

“พวกเจ้าเข้าไปพร้อมกัน!”

เซวี่ยชิงอีออกคำสั่งด้วยสีหน้าเย็นชา

ไม่ว่าจะเป็นเขา หรือสือพั่วไห่ ฮว่าหงเซียวล้วนเจอหลินสวินเป็นครั้งแรก ในอดีตเพียงแค่รู้ผลงานการต่อสู้ของหลินสวินจากข่าวต่าง แต่แท้จริงแล้วพลังต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งแค่ไหน ใครก็ไม่อาจรู้ชัด

ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้ออกโจมตีเต็มกำลังในทันที หมายจะทดสอบความสามารถของหลินสวินทีละก้าว

ทันใดนั้นมีมกุฎอริยะสิบคนเดินออกมา มีทั้งชายทั้งหญิง ทั้งหนุ่มทั้งแก่ แต่ละคนกลิ่นอายทะลวงฟ้า อานุภาพยิ่งใหญ่

แต่ในใจเซวี่ยชิงอีกลับกระตุกวูบ นึกถึงเรื่องหนึ่ง เมื่อครั้งที่อยู่หน้าเมืองอารักษ์มรรคโลกมารโลหิต หลินสวินเผชิญการล้อมโจมตีของมกุฎอริยะสิบกว่าคนยังสามารถสังหารทั่วทิศ ตอนนี้แม้เคลื่อนกำลังสิบคนออกมาก็คงไม่พอ

“ไปอีกสิบคน ไม่ ยี่สิบคน!”

เซวี่ยชิงอีสูดหายใจลึกออกคำสั่ง

นี่ทำให้อริยะแปดดินแดนมากมายผิดคาด นี่หมายความว่าอย่างไร หรือเซวี่ยชิงอีคิดว่าเล่นงานหลินสวินคนเดียว ต้องเคลื่อนกำลังมกุฎอริยะสามสิบคนเชียวหรือ

“พี่เซวี่ย เจ้าประเมินเจ้าหมอนี่สูงเกินไปแล้ว”

แม้แต่สือพั่วไห่ยังอดขมวดคิ้วไม่ได้ คิดว่าการกระทำนี้ของเซวี่ยชิงอีเป็นการลดตัวไม่น้อย หากแพร่ออกไปจะต้องกลายเป็นเรื่องตลกแน่

“เชื่อข้า หากอยากบีบขีดจำกัดของพลังเจ้าหมอนี่ออกมา ก็ต้องทำเช่นนี้”

เซวี่ยชิงอีสูดหายใจลึก ในสายตาประกายศักดิ์สิทธิ์ไหลเวียน “อย่าลืมว่าตอนนั้นเขาสำแดงอานุภาพในโลกมารโลหิตของข้าอย่างไร”

ประโยคเดียวทำเอาสายตาของทุกคนต่างวูบไหว

หลินสวินมองเซวี่ยชิงอีที่อยู่ห่างไปอย่างคาดไม่ถึงแวบหนึ่ง ตอนที่ทัพพันธมิตรเจ็ดดินแดนจู่โจมโลกรกร้างโบราณ มีเพียงดินแดนโบราณมารโลหิตที่ไม่ได้เข้าร่วม

ตอนนั้นหลินสวินก็รู้สึกแล้วว่าเซวี่ยชิงอีเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง

ตอนนี้ดูแล้ว อีกฝ่ายไม่ใช่บุคคลที่คนทั่วไปจะเทียบได้จริงๆ อย่างน้อยในสถานการณ์ที่ได้เปรียบด้านจำนวนคนนี้ ยังสามารถรักษาจิตใจที่ระมัดระวังเช่นนี้ไว้ได้ ถือว่ายากมากจริงๆ

ควรรู้ว่ายิ่งเป็นบุคคลพลิกฟ้าก็ยิ่งเย่อหยิ่งและเชื่อมั่น บางทีอาจไม่ได้ขาดสติปัญญา เพียงแต่สิ่งที่พวกเขาเชื่อมาแต่ไหนแต่ไรก็คือพลัง

โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์ได้เปรียบอย่างสิ้นเชิง น้อยมากที่จะมีคนระมัดระวังเหมือนเซวี่ยชิงอี

ฟ้าดินกดดัน มกุฎอริยะสามสิบคนเคลื่อนพลเป็นแนวยาว ราวกับพัดที่ถูกคลี่ออก โอบล้อมจากไกลๆ

ทุกคนล้วนกลิ่นอายทะลวงฟ้า พลังขับเคลื่อนรอบตัวโคจรถึงขีดสุด ในฐานะมกุฎอริยะที่ผ่านการต่อสู้มานับร้อย พวกเขาย่อมเข้าใจหลักการที่ว่า ‘กับเรื่องเล็กก็ทุ่มเต็มกำลัง’

ชั่วขณะเดียวกลางฟ้าดินประกายเทพเจิดจ้าปกคลุมไปทั่ว มกุฎอริยะเหล่านี้แต่ละคนอบอวลด้วยประกายศักดิ์สิทธิ์ ถือกุมสมบัติอริยะหลากชนิด ประหนึ่งเทพไท้กลุ่มหนึ่งมาเยือน ทำเอาภูผาธาราพันลี้ละแวกนี้ต่างหม่นแสง

เห็นเช่นนี้จ้าวจิ่งเซวียนกำมือหยกแน่นเงียบๆ สีหน้ากลับไร้คลื่นลม

หากแม้แต่การต่อสู้ครั้งนี้หลินสวินยังรับมือไม่ไหว เช่นนั้นศึกนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินต่อไปแล้ว

ห่างออกไปพวกเซวี่ยชิงอีเองก็จับจ้องอย่างจดจ่อ

การต่อสู้นี้สามารถสัมผัสถึงรากฐานพลังของหลินสวินได้ ขอแค่หลินสวินเผยสัญญาณว่าต้านไม่ไหว เช่นนั้นสิ่งที่รอเขาอยู่ก็ถูกกำหนดให้เป็นการโจมตีทำลายล้างปานปกฟ้าคลุมดิน!

บรรยากาศกดดันถึงขีดสุดในชั่วขณะนี้

ไอเข่นฆ่าอัดแน่นเต็มฟ้าดิน!

——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset