Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1714 สถานการณ์สุ่มเสี่ยง

เพียงชั่วพริบตา กระแสปราณกระบี่ที่ประหนึ่งมหาสมุทรก็ท่วมเงาร่างของลู่อ๋างจมมิด

พรวดๆๆ!

เลือดเนื้อทั่วร่างเขาประหนึ่งพบเจอกับการแล่เนื้อเถือหนัง ถูกปราณกระบี่แน่นขนัดตัดเฉือน แม้แต่พลังจิตยังไม่อาจหลบหนี ถูกปราณกระบี่พร่างพราวดับสังหาร

และพร้อมกับปราณกระบี่เดือดพล่านแผ่กว้าง ผู้แข็งแกร่งจำนวนหนึ่งละแวกใกล้เคียงต่างหน้าเปลี่ยนสี ใช้วิชาทั้งหมดต้านทานเบี่ยงหลบถึงไม่โดนลูกหลง

ตูมโครม!

ห้วงอากาศแถบนี้ล้วนปรากฏภาพทำลายล้างครั้งใหญ่

นี่ก็คือกระบี่สามสิบสามชั้น!

หลังผ่านการเสริมทัพของขวดมหามรรคไร้ขอบเขต อานุภาพของมันเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่า ความน่าสะพรึงของพลังโจมตีระดับนั้น อย่าว่าแต่ลู่อ๋าง เปลี่ยนเป็นมกุฎมหาอริยะคนใดก็ตามในที่นี้ ก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเช่นเดียวกัน

ในที่นั้นเงียบกริบ

ขณะนี้ผู้แข็งแกร่งที่ปิดล้อมโจมตีหลินสวินเหล่านั้นต่างถูกทำให้ตกใจ สภาวะจิตสะท้านสะเทือน

ลู่อ๋าง ทายาทเลือดบริสุทธิ์ของเผ่านักรบกิเลนโลหิตคนหนึ่ง ถูกสังหารในชั่วอึดใจ ภาพเหตุการณ์นองเลือดระดับนั้นใครบ้างจะไม่ตกใจ

ผู้ชมการต่อสู้ที่อยู่ไกลๆ ต่างก็สูดหายใจหนาวเยือก กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

น่ากลัวเกินไปแล้ว!

เดิมพวกเขาคิดว่าหลินสวินแพ้แน่แล้ว สถานการณ์เลวร้าย แต่พริบตาเดียวหลินสวินก็พลิกฟ้าด้วยมือเดียว เปลี่ยนสถานการณ์สังหารศัตรู!

อาหูถอนหายใจโล่งอกในใจ ลอบกล่าวว่า “ข้าลืมไปเสียได้ ในมือเจ้าหมอนี่มีไพ่ตายไม่น้อยเลย…”

พอลู่อ๋างตาย สถานการณ์ที่เดิมทีล้อมปิดเอาไว้พลันเปิดออกเป็นทางสายหนึ่ง หลินสวินคว้าโอกาสนี้เคลื่อนย้ายตัว หมายจะหนีออกจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่

ฟุ่บ!

แต่กลับมีปราณกระบี่สายหนึ่งโผล่ขึ้นมาปุบปับ ขวางเส้นทางเบื้องหน้าหลินสวิน ปราณกระบี่พาดขวางดุจรุ้งเทพกลางเวิ้งฟ้า งดงามราวภาพลวงตา

ยังคงเป็นเหวินฉิงเสวี่ย

ผู้หญิงที่งามพิสุทธิ์ดุจเทพธิดาคนนี้มีลางสังหรณ์น่ากลัวและสภาพจิตใจที่เยือกเย็นดุจหิมะถึงที่สุด ปฏิกิริยาตอบสนองก็ว่องไวเหนือคนทั่วไปหลายโข

เสียงปึงดังคราหนึ่ง หลินสวินปะทะกับมันอย่างจัง ทุบทำลายปราณกระบี่สายนี้ให้แตกออก

แต่ถูกขัดขวางครั้งนี้ทำให้เขาพลาดโอกาสหนีออกจากวงล้อม และถูกคนอื่นๆ ปิดล้อมโจมตีอีกครั้ง

แววตาหลินสวินยิ่งเยียบเย็นขึ้นเรื่อยๆ

ครั้งก่อนตอนสู้กับเว่ยจื่อหยาและคุนจิ่วหลิน ก็เป็นผู้หญิงคนนี้ยื่นมือเข้าแทรก ทำให้คุนจิ่วหลินเก็บชีวิตน้อยๆ รอดกลับไปได้

ครั้งนี้นางก็ขัดขวางตนไม่เลิก นี่ทำให้ในใจหลินสวินมีไอสังหารเข้มข้นพวยพุ่งขึ้นมา

บางทีในสายตาคนอื่น ผู้หญิงคนนี้อาจเป็นเทพธิดาที่ดุจดั่งจันทร์สว่างบนฟากฟ้า งามตระการบนทางเดินโบราณฟ้าดารา ถูกผู้กล้าโดดเด่นมากมายแย่งกันพะเน้าพะนอเหมือนฝูงเป็ด

แต่สำหรับหลินสวินแล้ว ผู้หญิงคนนี้คือศัตรู

ในเมื่อเป็นศัตรูก็ไม่แบ่งชายหญิงแล้ว แบ่งแค่เป็นหรือตาย!

ตูมโครม…

ในช่วงเวลาถัดมาการต่อสู้เริ่มดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ คนอื่นๆ ในที่นี้ที่ได้เห็นการตายของลู่อ๋างต่างไม่กล้าประมาทอีกแม้แต่น้อย แต่ละคนสีหน้าเคร่งขรึม มองว่าหลินสวินเป็นศัตรูตัวฉกาจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องแพ้ชนะ แค่อานุภาพที่หลินสวินสำแดงออกมาในการต่อสู้ครั้งนี้ หากแพร่กลับไปยังทางเดินโบราณฟ้าดารา จะต้องชักนำให้คลื่นลมใหญ่โหมกระหน่ำ สะเทือนทั่วสี่ทิศอย่างแน่นอน!

ถึงอย่างไรภายใต้สถานการณ์ที่ถูกปิดล้อม กลับยังสามารถต่อสู้กับบุคคลชั้นเลิศที่ติดอันดับบนกระดานมหาอริยะฟ้าดาราคนแล้วคนเล่าจนถึงตอนนี้ได้ ก็เรียกได้ว่าสะเทือนอดีตสะท้านปัจจุบัน หาตัวจับยากถึงที่สุดแล้ว

‘ถึงแม้คัมภีร์มหากลืนกินไร้สิ้นสุดนี่จะแข็งแกร่ง แต่ท้ายที่สุดความเข้าใจที่มีก็ยังตื้นเขิน ไม่สามารถผสานเข้ากับมรรควิถีของข้าอย่างสมบูรณ์…’

ในใจหลินสวินตระหนักได้

ต่อสู้มาจนถึงตอนนี้ ภายใต้สถานการณ์ที่ปลดปล่อยพลังแห่งตนเต็มจำกัด ทำให้เขารับรู้ได้ว่า วิชาของผู้อื่นสุดท้ายก็เป็นวิชาของผู้อื่น ต่อให้เหมาะกับตนมากเพียงใด แต่สุดท้ายก็เทียบวิชาที่ตนรังสรรค์ขึ้นมาเอง ซึ่งสามารถสำแดงศักยภาพแฝงทั้งหมดของตนออกมาได้อย่างหมดจดไม่ได้

ตูม!

คิดถึงตรงนี้อานุภาพรอบกายหลินสวินพลันเปลี่ยนไปทันที

หากบอกว่าเขาก่อนหน้านี้เหมือนเหวใหญ่เคลื่อนขวางกลางฟ้าดิน กลืนกินทุกอย่าง เผด็จการไร้สิ้นสุด

เช่นนั้นเขาในตอนนี้ก็เสมือนกลายเป็นเตาหลอมหนึ่งเดียวกลางฟ้าดิน มีท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์ตราบนิรันดร์ไม่เสื่อมสูญ มีอานุภาพที่บรรจุหมื่นกาล สำแดงวิชาในโลกหล้า

นี่ก็คือคัมภีร์เตาหลอมมหามรรค!

เป็นวิชาแห่งตนที่หลินสวินรังสรรค์ขึ้น บรรจุมรรควิถีและวิชามรรคทั้งหมดของหลินสวิน!

“เขาเปลี่ยนไปแล้ว!”

พวกเถาเจี้ยนสิง เหวินฉิงเสวี่ยต่างยากจะเชื่ออยู่บ้าง

หรือว่านี่ต่างหากที่เป็นรากฐานพลังแท้จริงของเจ้าหมอนี่

นี่ออกจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

และขณะนี้สภาวะจิตหลินสวินผ่องแผ้ว ในที่สุดเขาก็รับรู้ถึงนัยอัศจรรย์เร้นลับของการหลอมปราณ หลอมกาย หลอมจิต ไตรมรรครวมเป็นหนึ่ง ก่อเกิดหนึ่งเดียวอันสัมบูรณ์

แม้แต่หุบเหวกลืนกิน พลังพรสวรรค์ของตนก็ยังหลอมรวมเข้ากับวิชาแห่งตนอย่างคุ้นเคย ทำให้พลังต่อสู้ของเขาได้รับการปลดปล่อยอย่างแท้จริง

ตูม!

ตอนที่เขาลงมือดุจดั่งเซียนร่ายยุทธ์ ดรรชนีมหาอุดมสลายมายา หนึ่งกระบวนวัฏจักรฟ้า หนึ่งหมัดสะเทือนสวรรค์ คัมภีร์กระบี่ไท่เสวียน มังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร…

นัยเร้นลับนานัปการ ไม่มีวิชาใดไม่ถูกเขาใช้จนคล่องมือ ได้รับการปลดปล่อยในคัมภีร์เตาหลอมมหามรรคอย่างไม่เป็นเคยมาก่อน

พรวด!

ไม่ทันไรมีคนรับไม่ไหว ถูกหนึ่งดรรชนีของหลินสวินซัดใส่ร่าง เกราะที่ปิดครอบร่างกายแตกพังเป็นรู ซัดสะเทือนจนคนผู้นั้นปากจมูกกระอักเลือด ส่งเสียงร้องอู้อี้ออกมา

นี่ทำให้คนมากมายใจสะท้าน

ใครจะกล้าเชื่อ หลินสวินที่อยู่ภายใต้วงล้อม ไม่เพียงไม่ถูกกดข่ม ตรงข้ามกลับเริ่มเป็นผ่ายพลิกสถานการณ์

ทุกคนที่ชมการต่อสู้อยู่ไกลๆ ต่างมีสีหน้าตกตะลึงราวเห็นทวยเทพ

บางทีอาจเป็นเพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินชื่อของหลินสวินมาก่อน ถึงได้ทำให้เวลานี้พวกเขารู้สึกสะท้านสะเทือนเป็นพิเศษ

เนตรงามของอาหูวาววาบ ในที่สุดนางก็กล้าฟันธง พลังต่อสู้ที่หลินสวินสำแดงออกมาในตอนนี้ต่างหากที่เป็นรากฐานพลังแท้จริงของเขา!

ปึง!

ไม่ทันไรดาบหักม้วนตลบ ฟันทวนศึกเล่มหนึ่งแตกพัง

คนที่ถือทวนอยู่เป็นชายชุดคลุมทองรูปร่างสูงใหญ่กำยำยิ่งคนหนึ่ง เจอการโจมตีระดับนี้เข้าไป ข้อมือเขาล้วนถูกซัดขาดสะบั้น ส่งเสียงร้องอนาถออกมา

หากไม่ใช่เพราะเขาหลบได้ทันเวลา การโจมตีนี้ล้วนสามารถเอาชีวิตเขาได้!

“หากทุกท่านยังไม่งัดไพ่ตายออกมาใช้อีก เจ้านี่ก็จะพลิกสถานการณ์ได้แล้ว!”

เถาเจี้ยนสิงตะโกนลั่นด้วยสีหน้าคล้ำเขียว

น้ำเสียงยังไม่ทันสิ้นสุด เขาก็ชิงเรียกระฆังทองแดงสีเขียวใบหนึ่งออกมาก่อน กวัดแกว่งเบาๆ อยู่กลางห้วงอากาศ

กึง!

เสียงระฆังกึกก้องกัมปนาทสายหนึ่งดังขึ้น กลายเป็นคลื่นเสียงสีเขียวที่ราวกับสัมผัสได้พุ่งเข้าใส่หลินสวิน

ที่น่าอัศจรรย์ที่สุดคือ ในคลื่นเสียงสีเขียวนั่นถึงกับปรากฏอักษรมรรคโบราณราวไส้เดือนเป็นแถวๆ ส่องแสงเรืองรอง กลิ่นอายน่าพรั่นพรึงจนทำให้ผู้คนใจสะท้าน

ระฆังเทพนักรบหยกเขียว!

สมบัติเก่าแก่ชิ้นหนึ่งของเผ่านักรบเถาอู้ เคยมีบุคคลระดับจักรพรรดิใช้สมบัติชิ้นนี้ สั่นเบาๆ คราหนึ่ง บริเวณที่เสียงระฆังแผ่ไป ภูผาธาราหมื่นชีวิต สิ่งมีชีวิตทั่วฟ้าดินล้วนดับสลายเป็นหมอกควัน

ครู่เดียวจิตวิญญาณของหลินสวินก็ถูกจู่โจม เบื้องหน้าปรากฏดาวสีทอง เขาอดเผยสีหน้าเคร่งขรึมออกมาไม่ได้ เรียกเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดออกมาโดยไม่ลังเล

วู้ม…

ตัวเจดีย์ที่ดุจดั่งหล่อขึ้นจากกระจกแก้วทองเทพ สาดพรมแสงมรรคทองนิลกาฬสายแล้วสายเล่าออกมา ปะทะเข้ากับคลื่นเสียงสีเขียว

ท่ามกลางเสียงก้องกระหึ่มประหนึ่งสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ระฆังเทพนักรบหยกเขียวสั่นไหวรุนแรง ส่งเสียงร้องครวญ

ส่วนเถาเจี้ยนสิงก็ถูกสะท้อนกลับ กระอักเลือดออกมาหนึ่งคำหนักๆ สีหน้าซีดขาวเต็มไปด้วยแววไม่อยากเชื่อ

อานุภาพของระฆังเทพนักรบหยกเขียวน่าสะพรึงปานใด แต่กลับถูกกดข่มอย่างสิ้นเชิงแล้ว!

คนอื่นๆ ในที่นี้ต่างก็หน้าเปลี่ยนสี

“เป็นเจดีย์องค์นั้น!”

ไกลออกไปจีเฉียนและเจียงเหิงที่เพิ่งมาถึงเมื่อครู่จำเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดในมือของหลินสวินได้ทันที

“เป็นเจดีย์องค์นั้นจริงๆ หรือ”

ข้างกายทั้งสองคน แววตาของเมิ่งอี้ทายาทเผ่านักรบฉงฉีที่ดูสุภาพหล่อเหลาฉายแววแปลกไป ก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ในสนามรบหลินสวินโจมตีคล่องมือ เดิมตั้งท่าจะไล่โจมตีและสังหารเถาเจี้ยนสิงในคราวเดียว แต่ยามนี้เองจู่ๆ ในหัวใจเขาก็ผุดไอเย็นวาบขึ้นมาวูบหนึ่ง

สวบ!

เงาร่างของเขาเคลื่อนย้ายถอยกรูดอย่างแทบจะเป็นไปตามสัญชาตญาณ

ขณะเดียวกันห้วงอากาศตรงที่เขาเคยยืนอยู่ เงาร่างผอมแห้งที่ถูกพยับหมอกสีเทาปิดครอบสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้น กำดาบเงินที่ทอประกายแปลกพิสดารเล่มหนึ่ง

ซาหลิวชิง!

พริบตาเดียวหลินสวินก็จำชายหนุ่มผอมแห้งคนนี้ได้

“เจ้าทำให้ข้ารู้สึกเหนือคาดอีกครั้งแล้ว”

เสียงซาหลิวชิงเจือแววแปลกใจ

กลิ่นอายของเขาคลุมเครือพิศวง ปรากฏตัวในที่นั้นอย่างไร้สุ้มเสียง ทำเอาหัวใจของพวกเถาเจี้ยนสิงกระตุกรุนแรง รับรู้ถึงอันตรายยิ่งยวดอย่างหนึ่ง

“ความต่ำช้าของเจ้าก็ทำให้ข้าเหนือคาดเช่นเดียวกัน”

หลินสวินแค่นเสียงเย็น

“งั้นรึ น่าเสียดายครั้งนี้เจ้าหนีไม่รอดแล้ว”

ซาหลิวชิงเลียริมฝีปาก รอยยิ้มเย็นเยียบ

ขณะสนทนาเงาร่างเขาพลันหายไป ครู่เดียวก็มาปรากฏอยู่ข้างหน้าหลินสวิน ดาบเงินในมือแทงไปทางลำคอของหลินสวิน ความเร็วว่องไว การเคลื่อนไหวชวนพิศวง เหนือความคาดหมายของทุกคน

หลินสวินใช้กระบี่อเวจีในมือต้านไว้ แต่ที่น่าแปลกคือเงาร่างซาหลิวชิงขยับไหวหายวับไปอีกครั้ง ไม่สามารถจับกลิ่นอายของเขาได้สักนิด

หลินสวินเบี่ยงตัวทันควัน

ฟุ่บ!

แสงเงินสายหนึ่งปรากฏวาบ กรีดกระชากห้วงอากาศบริเวณที่หลินสวินยืนอยู่

หรือกล่าวได้ว่าเมื่อครู่หากไม่ใช่เพราะหลินสวินหลบทัน การโจมตีครั้งนี้สามารถฟันผ่าเขาให้ขาดเป็นสองท่อนได้!

ส่วนเงาร่างของซาหลิวชิงก็อันตรธานหายไปอีกครั้ง

วิชาลับการต่อสู้ที่มาไร้เงาไปไร้ร่องรอยระดับนี้ ทำเอาคนอื่นๆ ในที่นี้ต่างสูดหายใจหนาวเยือก

ตูม โครม!

หลินสวินโคจรพลังทั้งหมด ร่างแปลงเป็นเตาหลอมมหามรรค อานุภาพแผ่กว้างสิบทิศ

“ฮ่าๆ ต้านไม่อยู่หรอก”

เสียงเย็นยะเยือกของซาหลิวชิงดังก้องขึ้น รางเลือนไม่นิ่ง

ส่วนเงาร่างของเขาก็ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังหลินสวินอย่างไร้สุ้มเสียงอีกครั้ง ดาบเงินในมือแทงสังหารออกไป

นี่เห็นได้ชัดว่าพิศวงอย่างยิ่ง!

ควรรู้ว่าอานุภาพของหลินสวินแผ่กว้าง รอบกายล้วนเต็มไปด้วยพลังของเขา แต่ซาหลิวชิงกลับไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย

ไม่ว่าใครพบกับคู่ต่อสู้เช่นนี้ เกรงว่าในใจล้วนเกิดความสะพรึงกลัว ไม่อาจต้านทานได้อย่างสิ้นเชิง

สวบ!

ด้วยประสบการณ์และสัญชาตญาณที่กรำศึกมานานปี เงาร่างหลินสวินเบี่ยงหลบอีกครั้ง หลบการโจมตีนี้ได้อย่างหวุดหวิด เพียงแต่สีหน้าเปลี่ยนเป็นมืดทะมึนลงไม่น้อย

วิชาต่อสู้ที่น่าพิศวงระดับนี้ เขาก็เพิ่งเคยพบเห็นเป็นครั้งแรกเช่นกัน

“ทุกท่านยังไม่ลงมืออีกหรือ”

เสียงของซาหลิวชิงดังก้องขึ้นในที่นั้น

“ฆ่า!”

แววตาของพวกเถาเจี้ยนสิงลุกโชน ลงมือโดยไม่ลังเล ไม่ว่าซาหลิวชิงเป็นใคร แต่อย่างน้อยก็เหมือนกับพวกเขา มีเป้าหมายคือการฆ่าหลินสวิน

“คนผู้นี้อยู่ในอันตรายแล้ว”

ไกลออกไปเมิ่งอี้ที่เงาร่างสุภาพเอ่ยปาก

“พวกเราก็ควรลงมือแล้วใช่หรือไม่”

จีเฉียนชักจะกลั้นไม่อยู่ เขาไม่อาจปล่อยให้สมบัติในตัวหลินสวินถูกคนอื่นเอาไปได้เด็ดขาด

เมิ่งอี้เพิ่งตั้งท่าจะพูดอะไร จู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้นมองขวับ

สวบ!

ก็เห็นรุ้งวิเศษสายหนึ่งพลันเหินทะยานกลางฟ้า พุ่งเข้ากลางวงต่อสู้ และกลายเป็นหญิงสาวกระโปรงเหลืองคนหนึ่ง

เป็นอาหูนั่นเอง!

นางมาถึงข้างกายหลินสวินก็สื่อจิตกล่าว ‘ไป!’

ตูม!

เกือบจะในเวลาเดียวกัน มือเรียวของนางโบกสะบัด ยันต์สีดำแผ่นหนึ่งระเบิดกลางอากาศ หมอกสีดำพุ่งออกมาเต็มฟ้า กลบฟ้าดินแถบนั้นจนมิด

อย่าว่าแต่สายตา แม้แต่จิตรับรู้ก็ยังถูกขัดขวาง มองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น

พวกเหวินฉิงเสวี่ย เถาเจี้ยนสิงที่อยู่กลางพยับหมอกสีดำเหมือนตกสู่ความมืดมิด ดุจดั่งถูกตัดขาดจากโลก สูญเสียจิตรับรู้และประสาทสัมผัสทั้งหมดโดยสิ้นเชิง

นี่ทำให้พวกเขาหน้าเปลี่ยนสี ระวังตัวสุดฤทธิ์ เริ่มเตรียมป้องกันขึ้นมา

และตอนที่พยับหมอกสีดำเต็มฟ้านั่นสลายตัว ในที่นั้นก็ไม่มีเงาร่างของหลินสวินและอาหูแล้ว แม้แต่ร่องรอยสักเสี้ยวก็ไม่มีเหลือ ดุจดั่งระเหยไปกับอากาศอย่างไรอย่างนั้น

ชั่วขณะเดียวในที่นั้นเงียบงันไร้สรรพเสียง ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมา สีหน้ามืดทะมึนหาใดเปรียบ…

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset