“ก้น” เจี่ยนอีหลิงพูด
ก้นเป็นส่วนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตี ส่วนนี้มีเนื้อเยอะ ไม่มีอวัยวะภายใน และไม่มีจุดอันตราย ในสถานการณ์ปกติ การตีจุดนี้นั้นไม่ทำให้เกิดอันตรายอะไร
แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับจากจุดนี้นั้นก็เหมือนกับส่วนอื่นๆ
ดังนั้นการตีจุดนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
จี้หมิงถึงกับตาเบิกกว้างด้วยเขาไม่อยากจะเชื่อว่า คนที่มีอายุถึง 17 ปีอย่างเขาจะถูกสั่งให้โดนตีก้น
คนที่สั่งตีก้นเขาถือไม้แบตมินตันของเขาในท่าตีด้วยฝ่ามือ ให้คำสั่งเขาด้วยสีหน้าจริงจัง
จี้หมิงปฏิเสธ ทั้งกายและใจ
เธอฆ่าเขาได้แต่อย่าเหยียดหยาม
อย่ารังแกกันถึงขนาดนั้น
“เจี่ยนอีหลิง อย่าทำให้เกินไปนัก ฉันเป็นผู้ชายนะ”
จี้หมิงกัดฟัน ทั้งโกรธทั้งกระวนกระวาย
จ๋ายหวินเชิ่งชำเลืองไปทางบอดี้การ์ด
จากนั้นบอดี้การ์ดก็ก้าวออกมาข้างหน้าช่วยเหลือจี้หมิงให้อยู่ใน “ท่าทาง” ที่ถูกต้องที่เจี่ยนอีหลิงอธิบายให้ฟังโดยไม่พูดอะไรทั้งสิ้น
นอนคว่ำลง
จี้หมิงถูกบอดี้การ์ดร่างกำยำสองคนกดไว้ ไม่สามารถที่จะขัดขืนได้
เขาหันหน้าไปมองดูไม้แบตมินตันในมือเจี่ยนอีหลิง รู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมาในทันที
“แค่ตีทีเดียว” เจี่ยนอีหลิงพูด
ฟังเสียงนี้เหมือนกับเป็นข่าวดี
เจี่ยนอีหลิงสะบัดไม้แบตมินตัน ทำท่าเหมือนกับฟาดคน
ทุกครั้งที่เจี่ยนอีหลิงสะบัด หัวใจของจี้้หมิงเต้นเร็วขึ้น
พระเจ้า เจี่ยนอีหลิงปล่อยให้เขาอยู่ดีๆไม่ได้หรือยังไงกัน จี้หมิงหวังว่าเจี่ยนอีหลิงควรจะตัดสินใจได้แล้วในตอนนี้
หลังจากที่หวดลมไปสองสามครั้ง เจี่ยนอีหลิงก็เปลี่ยนวิธีการถือไม้แบตมินตัน
เธอจับด้านปลายที่ขึงตาข่ายไว้ และชี้ส่วนที่เป็นด้ามจับไปยังจี้หมิง
เจี่ยนอีหลิงพลันนึกขึ้นได้ว่าจี้หมิงนั้นสร้างปัญหาให้กับเธอสองครั้ง ดังนั้นการหวดเขาด้วยด้านที่เป็นตาข่ายนั้นไม่เพียงพอ
เมื่อเห็นฉากนี้ หยูซีก็อ้าปากหวอ รู้สึกเกิดความสงสัยในชีวิต
เด็กหญิงเจี่ยนอีหลิงหน้าตาทั้งอ่อนหวานและน่ารัก แต่สิ่งที่เธอทำนั้น… อืมมมมม.. ดูเหมือนจะค่อนข้างจะโหดไปอยู่บ้าง
จี้หมิงสับสนถึงที่สุด และอดที่จะอ้อนวอนเจี่ยนอีหลิงให้ปรานีไม่ได้ “เจี่ยนอีหลิง อย่าทำแบบนี้ ผมผิด ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้วจริง….”
คำพูดสุดท้ายเขาไม่มีเวลาที่จะพูดมันออกมา
เจี่ยนอีหลิงหวดเขาเข้าไปที่ก้น
จี้หมิงเจ็บปวดจนถึงกระทั่งเขาร้องไม่ออก
ก้น นี่ก้นเขา…
จี้หมิงไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงอะไรในเมื่อก้นของเขาใหญ่มาก แต่เขาไม่สามารถลุกขึ้นจากท่านอนคว่ำนี้ได้
ตอนนี้ไม่จำเป็นที่บอดี้การ์ดจะต้องกดเขาไว้อีกต่อไป ในเมื่อเขาไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
จากเพียงแค่ดู หยูซีก็สามารถรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากหน้าตาที่มีท่าทางบิดเบี้ยวของจี้หมิง
ความเจ็บปวดประเภทที่ไม่สามารถพูดออกมาได้
ครั้งนี้นับว่าสุดยอด เพราะว่าอาการบาดเจ็บจากการกระโดดเชือกห้าพันครั้งยังคงอยู่ และตอนนี้เขาได้รับอาการบาดเจ็บใหม่เข้าไปเสริม
เจี่ยนอีหลิงเดินกลับไปที่โซฟาและนั่งบนโซฟาข้างจ๋ายหวินเชิ่ง
จ๋ายหวินเชิ่งถามเจี่ยนอีหลิงพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “มือแดงไหม”
เจี่ยนอีหลิงแบมือเล็กๆของเธอออกและจ้องมองดู มันแดงขึ้นมาเล็กน้อยเพราะว่ากำไม้แบตมินตันไว้แน่นเกินไป
หยูซีลูบจมูก นายท่านเชิ่ง ท่านเป็นกังวลผิดที่ผิดทางไปหรือเปล่า
คนที่อยู่ตรงนั้นถึงกับลุกขึ้นจากพื้นไม่ได้เลย แต่นายท่านกลับไปถามว่ามือน้อยๆของน้องสาวอีหลิงแดงหรือเปล่า…
จี้หมิงต้องใช้เวลานานกว่าความเจ็บปวดจะบรรเทาลง
แต่เขายังไม่ลุกขึ้นจากพื้น เพราะว่าเขารู้สึกว่าเพียงขยับตัวเล็กน้อย ความเจ็บปวดก็จะกลับมา
ดังนั้นเขาจึงได้แต่ปล่อยมือจากหม้อแตก* และนอนคุยกับจ๋ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิงอยู่บนพื้น
“นายท่านเชิ่ง ผมรู้ว่าผมผิดไปแล้วจริงๆ ผมสาบานว่าผมไม่กล้าอีกแล้ว ยกโทษให้ผมเถอะ”
จี้หมิงกลัวจริงๆว่าเจี่ยนอีหลิงจะทำแบบนี้กับเขาอีกครั้ง
——————————————————
ผู้แปล * 破罐子破摔 ปล่อยมือจากหม้อแตก ทำอะไรไม่ได้แล้ว ปล่อยให้มันเป็นไป ยอมรับชะตากรรม