เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 131

 

สิ่งที่จ๋ายหวินเชิ่งแสดงให้เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็คือโพสต์จำนวนมากมายที่โจมตีเจี่ยนอีหลิงบนฟอรัมของโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัวในรูปแบบที่เป็นกระดาษ

 

ต้นฉบับของโพสต์เกือบทั้งหมดถูกลบไปแล้ว แต่ก่อนที่จะถูกลบไปนั้น จ๋ายหวินเชิ่งได้ขอให้หยูซีพิมพ์ออกมาเป็นกระดาษ

 

และกระดาษเหล่านั้นตอนนี้ได้มาอยู่ตรงหน้าของเจี่ยนหยุ่นเฉิงแล้ว

 

คำตอบที่ทุกคนพิมพ์ลงไปบนโพสต์นั้นก็เหมือนกับมีดคมกริบ เพียงพอที่จะทำให้จิตใจของเด็กสาววัยรุ่นทะลุเป็นโพรงหลายโพรง

 

หลังจากที่เจี่ยนหยุ่นเฉิงอ่านเนื้อหาในถุงใส่กระดาษ เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาในทันที

 

“ไม่ต้องไปอ่านหรอก โพสต์พวกนั้นถูกลบไปแปดร้อยปีแล้ว”

 

จ๋ายหวินเชิ่งยิ้มเย้ย เขารู้ว่าจ๋ายหวินเชิ่งจะทำอะไรทันทีที่อีกฝ่ายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้ว

 

หากว่าต้องการที่จะตรวจสอบโพสต์พวกนั้นบนฟอรัมในตอนนี้ อาหารก็เย็นชืดไปหมดแล้ว*

 

จ๋ายหวินเชิ่งเย้ยหยันเจี่ยนหยุ่นเฉิง “เรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านตระกูลเจี่ยน คุณไม่เพียงแค่ปล่อยให้คนภายนอกรู้ แต่ยังถึงกับได้รับความนิยมโด่งดังในฟอรัมของโรงเรียนอีกด้วย ความสามารถแบบนี้ ผม จ๋ายหวินเชิ่ง ต้องยอมรับนับถือแล้ว”

 

“ตระกูลเจี่ยนได้ปิดข่าวนี้ไปแล้ว” เจี่ยนหยุ่นเฉิงถึงกับมีใบหน้าบิดเบี้ยวจนดูไม่ได้

 

ตระกูลเจี่ยนได้ปิดกั้นข่าวนี้ตั้งแต่แรก พวกเขาบอกโรงเรียนเพียงแค่ว่าเจี่ยนหยุ่นน่าวนั้นป่วย และปิดปากเงียบไม่ได้บอกกระทั่งบ้านพี่บ้านน้องด้วยซ้ำ

 

“คณไม่ยอมให้คนปล่อยข่าวออกไป แต่ก็ยังมีคนข้างในปล่อยข่าวออกไปจนได้ คุณเจี่ยน คุณกำลังแสดงให้ผมเห็นถึงความไร้ความสามารถของคุณอยู่รึไง คุณไม่สามารถแม้กระทั่งที่จะปิดปากให้สนิทได้ เป็นถึงตระกูลใหญ่แต่ช่างไร้ความสามารถอะไรแบบนี้ เด็กหญิงอายุเพียงสิบห้าปีในตระกูลคุณต้องได้รับทุกข์จากความรุนแรงทางอินเตอร์เน็ตจากทั้งโรงเรียน แล้วคุณก็ยังไม่รู้มาจนถึงป่านนี้ คุณมีอะไรดีบ้างหรือเปล่านี่”

 

เมื่อเผชิญกับการถากถางจากจ๋ายหวินเชิ่ง เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ไม่มีช่องทางที่จะปฏิเสธได้เลยแม้แต่น้อย

 

และในวันนี้ก็นับเป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่า เจี่ยนอีหลิงต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีจากคนทั้งโรงเรียนมาก่อนหน้านี้

 

เจี่ยนหยุ่นเฉิงมีหน้าตามืดหม่น และดวงตาของเขาก็เย็นชาจนถึงจุดเยือกแข็ง

 

เขาไม่สามารถที่จะจินตนาการได้ว่าเจี่ยนอีหลิงต้องเผชิญกับความกดดันแบบไหนกันแน่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาก่อนหน้านี้

 

เจี่ยนหยุ่นเฉิงยอมรับว่านี่เป็นความประมาทของตระกูลเจี่ยนต่อเรื่องนี้ แต่ตระกูลเจี่ยนก็ไม่ได้คาดคิดจริงๆเลยว่าภายใต้จมูกของพวกเขานั้นจะมีคนกล้ากระจายข่าวออกไปจนถึงกับต้องให้คนภายนอกมาบอก

 

จ๋ายหวินเชิ่งนั้นดูเหมือนไม่ได้สนใจอะไรมาก เขาเอาแต่เคาะนิ้วบนโต๊ะเล่นๆ

 

“คุณชายเจี่ยน ไม่จำเป็นต้องหาข้ออ้างว่าคุณนั้นงานยุ่ง มันเป็นความจริงที่ว่าคุณนั้นจัดการกับคนที่อยู่ในมือได้ไม่ดี ถ้าคุณจัดการได้แย่อย่างนั้นเดี๋ยวผมจะช่วยคุณเอง ผมจะช่วยแนะนำคุณว่าควรทำอย่างไร แต่คนระดับผมจะไม่เข้าไปยุ่งด้วย”

 

ดูเหมือนว่าจ๋ายหวินเชิ่งนั้นได้รู้ว่าเจี่ยนหยุ่นเฉิงนั้นกำลังมองหาหยูซีในเรื่องอะไร

 

ในเรื่องนี้ เจี่ยนหยุ่นเฉิงไม่ได้ถอยหนี “คุณจ๋าย น้องสาวผมยังเด็ก หากว่าคุณต้องการเพื่อนเล่นหรืออะไรก็ตามแต่ เธอไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสม”

 

ไม่ว่าจ๋ายหวินเชิ่งนั้นจะมีจิตเจตนาเป็นอย่างไร คนแบบนั้นไม่เหมาะที่จะใกล้ชิดกับน้องสาวของเขามากเกินไป

 

เดิมทีนั้น เจี่ยนหยุ่นเฉิงได้ขอให้หยูซีมาเพื่อที่จะพูดในเรื่องนี้ และหวังว่าหยูซีจะสามารถทำการประเมินและให้ความสนใจเป็นพิเศษรักษาระยะห่างระหว่างจ๋ายหวินเชิ่งกับเจี่ยนอีหลิง

 

แต่ตอนนี้เมื่อจ๋ายหวินเชิ่งนั้นพูดออกมาเอง เจี่ยนหยุ่นเฉิงจึงไม่จำเป็นที่จะต้องปกปิดความคิดของตนเองอีกต่อไป

 

“คุณชายเจี่ยน ตอนนี้คุณไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมาพูดแบบนี้กับนายท่านคนนี้ กลับไปคิดทบทวนและทำสิ่งที่คุณต้องทำให้ดีให้ได้ก่อน จากนั้นจึงค่อยมากังวลเรื่องอื่น ไม่ต้องมาพูดว่านายท่านคนนี้วางแผนทำอะไรกับน้องสาวของคุณ ในตอนนี้ไม่ว่าคุณจะต้องการอะไร ในกรณีของคุณ คุณก็ได้แต่เพียงมองดูอยู่ด้านข้าง เข้าใจใช่ไหม”

 

จ๋ายหวินเชิ่งใช้ถ้อยคำโจมตีเจี่ยนหยุ่นเฉิงอย่างไร้ความปรานี

 

จ๋ายหวินเชิ่งไม่เคยสุภาพกับใครมานับตั้งแต่เกิด และเจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ไม่ถือว่าเป็นข้อยกเว้น

 

หลังจากที่จ๋ายหวินเชิ่งพูดจบ เขาก็เลิกสนใจเจี่ยนหยุ่นเฉิงอีกต่อไป เขาลุกขึ้นแล้วจากไป

 

ถึงแม้ว่าเจี่ยนหยุ่นเฉิงจะหน้าดำคร่ำเครียดเพียงใด นั่นก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา

 

———————————————————

 

ผู้แปล * 黄花菜都凉了 (Huánghuā cài dōu liángle) แปลว่า อาหารเย็นชืดหมดแล้ว มีความหมายว่า สายเกินไป (จากดิกชันนารี)

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset