ที่ลานจอดรถใต้ดิน หยูซีกำลังรออยู่อย่างใจจดจ่อ
ในใจเขานั้นเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย
เพราะว่านี่เป็นจ๋ายหวินเชิ่งอยู่ด้านหนึ่งและมีเจี่ยนหยุ่นเฉิงอยู่อีกด้านหนึ่ง หยูซีนั้นไม่ต้องการที่จะล่วงเกินทั้งสองฝ่าย
ทันทีที่นายท่านเชิ่งรู้ความจริงที่ว่าเจี่ยนหยุ่นเฉิงกำลังตามหาตัวหยูซีอยู่นั้น นายท่านเซิ่งก็พูดว่าต้องการที่จะพบกับเจี่ยนหยุ่นเฉิงทันที
หยูซีจะมีทางเลือกเหรอ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะรออยู่อย่างเชื่อฟังอยู่ที่ลานจอดรถ
หยูซีไม่สามารถที่จะนั่งนิ่งๆอยู่ในรถได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปเดินมาในที่จอดรถ นับก้าวพันก้าวบน WeChat
สุดท้ายเมื่อจ๋ายหวินเชิ่งกลับมา หยูซีก็รีบตรงเข้าไปทักทายเขาในทันที
“นายท่านเชิ่ง ท่านเป็นอย่างไรบ้าง”
“ไม่มีอะไร”
จ๋ายหวินเชิ่งกล่าวว่า “ไม่มีอะไร” แต่หยูซีไม่อยากเชื่ออย่างนั้น คำว่า “ไม่มีอะไร” นั้นหมายความว่าอะไร
“นายท่านเชิ่ง ท่านคงไม่ได้พูดจาว่าร้ายนายน้อยเฉิงใช่ไหม” หยูซียังคงกังวลอยู่บ้าง
แน่นอนว่าเจี่ยนหยุ่นเฉิงนั้นย่อมไม่สามารถทำอะไรจ๋ายหวินเชิ่งได้อยู่แล้ว
แต่หยูซีก็ยังคงหวาดกลัว
“เขาทำอะไรไปบ้าง”
หยูซีคิดอยู่ในใจ เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องทำอะไรต่อไป เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าทำไมนายท่านเชิ่งจึงไปพบกับเจี่ยนหยุ่นเฉิงในวันนี้
หลังจากชะงักไปชั่วขณะ หยูซีก็ถามอีกครั้งว่า “ถ้าอย่างนั้นนายน้อยเฉิงตามหาผมทำไมกัน”
“ไม่รู้สิ เขาอาจจะบ้าอะไรสักอย่างก็เป็นไปได้”
บ้า…บ้าอย่างงั้นเหรอ….
หยูซีทำปากเบี้ยวไปสองสามครั้ง
“ว่าแต่นายท่านเชิ่ง ผมเพิ่งเห็นเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนว่านายน้อยเฉิงได้ส่งคนไปโพสต์ที่ฟอรัมของโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัวเพื่อทำลายชื่อเสียงของลูกสาวคนรับใช้”
หยูซีถอนหายใจที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ อีกฝ่ายยังคงทำสิ่งต่างๆเหมือนเดิม ไม่เคยอ่อนข้อให้แม้จะเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก
เด็กหญิงที่พาคนเลวที่ทั้งกินทั้งดื่มทั้งเล่นการพนันมาที่โรงเรียน เด็กหญิงคนนั้นคงเสียหน้าจนไม่เหลืออะไรอีก
เขาไม่รู้ว่าเด็กหญิงคนนั้นไปทำอะไรให้นายน้อยเฉิงโกรธ
“ทำไมนายจึงรู้ว่าเขาเป็นคนที่ทำโพสต์นั้นขึ้นมา”
“ผมรู้ชื่อบัญชีของคนที่เขียนโพสต์ เขาเป็นอดีตเพื่อนร่วมห้องของนายน้อยเฉิง เฮ่ายู่ อัจฉริยะทางด้านคอมพิวเตอร์ และเขาก็มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในตอนนั้น เฮ่ายู่ได้ติดตามนายน้อยเฉิงหลังจากเรียนจบแล้ว ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องยากที่จะรู้จักใครสักคนที่ทำธุรกิจต่างประเทศใช้บัญชีของตนเองโพสต์อย่างโจ่งแจ้งแบบนั้น”
การทำอะไรแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบัญชีอะไรเป็นพิเศษ
“เห ดูเหมือนว่านายท่านคนนี้จะให้ของแก่เขาช้าเกินไปอยู่บ้าง”
ก่อนที่เขาจะทันได้ส่งของในมือออกไปให้ เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ได้โจมตีอย่างไร้ความปรานีไปเรียบร้อยแล้ว
###
ย่าเจี่ยนมารับเจี่ยนอีหลิงที่โรงเรียนตามปกติ
ทันทีที่เจี่ยนอีหลิงขึ้นไปบนรถ ย่าเจี่ยนก็พูดถึง “ข่าวดี” ให้กับเจี่ยนอีหลิงด้วยรอยยิ้ม
“หลานรัก พี่ชายใหญ่บ้านรองจะมาพักที่บ้านเก่าสักสองสามวัน ตอนนี้บ้านเก่าจะยิ่งครึกครื้นยิ่งขึ้น”
ดูเหมือนว่าย่าเจี่ยนจะมีอารมณ์ดี
ถึงแม้ว่าย่าเจี่ยนจะมีลูกและหลานหลายคน แต่เธอก็เห็นเพียงไม่กี่คนในวันปกติ เป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะต้องดีใจที่มีลูกหลานมาพักอาศัยที่บ้านหลังเก่า
ย่าเจี่ยนพูดกับเจี่ยนอีหลิงต่ออีกว่า “พี่ชายใหญ่บ้านรองบางทีอาจจะรำคาญอาหญิงของหลาน ดังนั้นเขาจึงมาซ่อนตัวที่นี่ อาหญิงของหลานดื้อมาก พยายามแต่จะให้พวกเด็กๆสืบทอดบริษัท หยู่หมิงโกรธกับเธอและไปอยู่ในวงการบันเทิงมาเป็นเวลาหลายปี และจนป่านนี้แม่และลูกก็ยังไม่ยอมคืนดีกัน”
“อื้อ”
เจี่ยนอีหลิงรู้เรื่องนี้
สิ่งที่เจี่ยนอีหลิงไม่รู้ก็คือในช่วงเวลานี้ เจี่ยนหยู่หมิงจะกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านเก่าและได้พบกับเธอ
หลังจากกลับบ้าน เจี่ยนอีหลิงก็ขึ้นไปยังชั้นบน และห้องเจี่ยนหยู่หมิงก็อยู่ติดกับห้องของเธอ
เมื่อผ่านหน้าห้องเจี่ยนหยู่หมิง เจี่ยนอีหลิงก็ได้ยินเสียงกีตาร์ดังออกมา เป็นไปได้ว่าเขากำลังฝึกดนตรีหรือไม่ก็แต่งเพลง
ท่วงทำนองนั้นดีมาก จนเจี่ยนอีหลิงหยุดฟังอยู่พักหนึ่ง
แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานนัก เสียงดนตรีในห้องนั้นก็หยุดยั้งลง และประตูก็เปิดออก….
——————————————
เจี่ยนหยู่เจี๋ย – ฉันก็ต้องการที่จะกลับมายังบ้านเก่าเหมือนกัน