เฉิงอี้ยิ้มและตอบกลับว่า “สวัสดีครับ คุณลุง”
เจี่ยนชูฉิงพูดต่อว่า “อีกสองสามวันลูกชายผมก็จะแอดมิดเข้าไปที่สถาบันวิจัย เจ้าหน้าที่ของคุณคงจะต้องทำงานหนักแล้วในตอนนั้น”
“ลูกของคุณลุงเหรอครับ” นั่นไม่ใช่เป็นพี่ชายหรือไม่ก็น้องชายของน้องสาวอีหลิงหรือยังไง
“ใช่ อยู่ที่ตรงประตู” เจี่ยนชูฉิงตอบ
เฉิงอี้มองไปยังด้านนอกประตู ซึ่งขณะเดียวกันเจี่ยนหยุ่นน่าวที่อยู่ด้านนอกประตูนั้นก็มองกลับเข้ามาที่ด้านนี้ด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวังเช่นเดียวกัน
เฉิงอี้ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง เขาจึงตอบเลี่ยงไปด้วยรอยยิ้มที่สุภาพ
“คุณลุง พี่สาวเอินกับผมไม่ได้มาที่นี่ด้วยเรื่องงานของคุณชายเจี่ยน ซึ่งนั่นจะต้องมีเจ้าหน้าที่คนอื่นในสถาบันวิจัยที่จะรับหน้าที่ติดตามเรื่องนี้ พี่สาวเอินกับผมมาที่นี่เพียงเพื่อจะเยี่ยมเพื่อนเท่านั้น”
เพื่อนของเขาก็คือเจี่ยนอีหลิง
เฉิงอี้กล่าวถึงใจความในการที่พวกเขามาปรากฏตัวที่นี่ในวันนี้อีกครั้ง นั่นก็คือ เจี่ยนอีหลิง
สายตาของทุกคนตกลงไปที่เจี่ยนอีหลิงอีกครั้ง
ไม่มีสีหน้าที่เกินความจำเป็นบนใบหน้าของเจี่ยนอีหลิง ดูเรียบง่ายกว่าคนอื่นๆ
ใบหน้าของเธอขาวนุ่มนวล ดวงตาของเธอกระจ่างใสและอ่อนแอ ปากของเธอนั้นถูกหลัวซิ่วเอินยัดอมยิ้มเข้าไป มันเป็นลูกอมบรรเทาอาการเจ็บคอรสมินต์
“เซี่ยวหลิง ทำไมลูกถึงรู้จัก ด็อกเตอร์หลัว กับด็อกเตอร์เฉิงล่ะ”
เจี่ยนชูฉิงถาม ทั้งสงสัยและตื่นเต้น
“ในเน็ต”
เจี่ยนอีหลิงตอบไปตามความเป็นจริง เสียงของเธอไม่ได้ดังนัก มันค่อนข้างจะยากในการพูด เพราะว่าอาการเจ็บคอยังไม่ได้หายไปจนหมด
เจี่ยนอีหลิงติดต่อกับผู้คนจากสถาบันวิจัยออนไลน์จริงๆ
หลังจากที่ติดต่อกับเฉิงอี้มาเป็นเวลานานพวกเขาจึงค่อยได้พบกันเป็นครั้งแรกออฟไลน์
ออนไลน์อย่างนั้นเหรอ
พวกเขายังสามารถที่จะติดต่อกับนักวิจัยของสถาบันทางออนไลน์ด้วยอย่างนั้นเหรอ
พวกเขาเพียงรู้ว่าสถาบันวิจัยทางการแพทย์ฮุยหลิงนั้นมีเว็บไซต์ที่เป็นทางการ แต่เว็บไซต์นั้นสามารถทำได้เพียงรับการลงทะเบียนเท่านั้น พวกเขาไม่เคยได้ยินว่าจะมีทางอื่นที่จะสามารถติดต่อกับนักวิจัยของทางสถาบันได้โดยตรง
“อา ในกรณีนี้ พวกเราพบกับเซี่ยวหลิงผ่านเกมหนะ”
เฉิงอี้อธิบาย พยายามช่วยเจี่ยนอีหลิงปกปิดตัวตน
เฉิงอี้รู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเจี่ยนอีหลิง และเขาก็รู้เช่นว่าเจี่ยนอีหลิงได้แอบเก็บงำความสัมพันธ์ระหว่างตัวเธอกับสถาบันวิจัยจากครอบครัวของเธอ
คำตอบของเฉิงอี้นั้นเหนือความคาดหมายของทุกคน แต่นั่นก็ฟังดูมีเหตุผล
เป็นเรื่องปกติสำหรับคนหนุ่มสาวที่จะพบกับเพื่อนใหม่จากการเล่นเกม
เพียงแต่ว่าใครจะคาดคิดว่าเจี่ยนอีหลิงจะได้พบกับสองนักวิจัยอัจฉริยะที่คนอื่นไม่สามารถที่จะวิธีติดต่อได้ ด้วยวิธีนี้
นี่เพียงสามารถพูดได้ว่าโชคของเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ช่างดีจริงๆ คนอื่นๆนั้นมักจะวิ่งไปชนเข้ากับพวกคนหลอกลวงกับพวกคนเลวเมื่อตอนคบหาเพื่อนทางออนไลน์
ไม่เพียงแต่เธอไม่พบเข้ากับคนเลวพวกนั้น แต่เธอก็ยังคงพบเข้ากับคนสองคนที่คนอื่นไม่สามารถหาวิธีพบได้แม้จะพยายามคิดจนหัวแตก
คนในตระกูลเจี่ยนต่างพากันรู้สึกพูดไม่ออกอยู่บ้างหลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจี่ยนหยุ่นน่าว
ได้ยินคำตอบนี้ หงไป่จางก็รู้สึกละอายใจอยู่บ้าง เขาต้องพยายามอย่างหนักในการติดต่อกับคนจากสถาบันวิจัย
สุดท้ายเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆกลับทำได้ดีกว่าเขา เพียงแค่เล่นเกมเธอก็ได้พบกับคนถึงสองคน
ดวงตาของเฉิงอี้นั้นมีรอยยิ้ม เขาพูดด้วยเสียงสุภาพ น้ำเสียงของเขานั้นผ่อนคลาย “ว่าไปแล้ว น้องสาวอีหลิงไม่เพียงแต่จะรู้จักพวกเราสองคนเท่านั้น เธอยังรู้จักท่านมหาเทพที่กำลังจะทำการผ่าตัดนายน้อยเจี่ยนด้วยเช่นเดียวกัน”
เมื่อคำพูดของเขาหลุดออกมาจากปาก ทุกคนก็พากันมองไปยังเจี่ยนอีหลิงด้วยสายตาที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
เจี่ยนอีหลิงรู้จักกับท่านมาหาเทพผู้ที่จะทำการผ่าตัดเจี่ยนหยุ่นน่าวจริงๆเหรอ
ในตอนแรกเจี่ยนชูฉิงต้องการให้ปู่เจี่ยนติดต่อให้ยักษ์ใหญ่ในวงการ ไป่เต้าเฉียว จากวงการแพทย์ใช้เส้นสายติดต่อให้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะขอร้องแพทย์ผ่าตัดลึกลับนี้ได้ ไม่คิดว่าเขาจะรู้จักกับเจี่ยนอีหลิง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่ย่อมทำให้เกิดผลกระทบอย่างหนักกับทุกๆคน
———————————————
เฉิงอี้ – ผมจะช่วยปกปิดน้องสาวอีหลิงเอง