เวินน่วนกระวนกระวาย เธอรีบโทรศัพท์หาสามีของตนเองในทันที
“ชูฉิง เซี่ยวหลิง เซี่ยวหลิงอยู่ดีๆก็วิ่งออกไปจากโรงพยาบาล จากนั้นก็เข้าไปในรถของพวกผู้ชายวัยกลางคนที่บอกว่าเป็นเพื่อนเธอ….”
“อะไรนะ” เจี่ยนชูฉิงที่อยู่อีกปลายสายของโทรศัพท์ในห้องประชุมของบริษัท เมื่อได้ยินข่าวก็ตกใจเป็นอันมาก “เธอใจเย็นๆก่อนนะ เธออยู่ที่ประตูโรงพยาบาลใช่ไหม”
“ใช่”
“เซี่ยวหลิงขึ้นไปบนรถเองเหรอ”
“ใช่ เซี่ยวหลิงพูดว่าคนพวกนั้นเป็นเพื่อนเธอ ฉันก็ไม่รู้ว่าเซี่ยวหลิงพบคนพวกนั้นได้ยังไง ชูฉิง ฉันต้องทำยังไงต่อไป เซี่ยวหลิงจะเป็นอันตรายไหม” เวินน่วนกระวนกระวาย เสียงของเธอนั้นสั่นสะท้าน
“ไม่ต้องกังวล ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
เจี่ยนชูฉิงกล่าววาจาสองสามคำกับเลขานุการที่อยู่ข้างตัว จากนั้นก็ออกจากบริษัทอย่างเร่งรีบ
ระหว่างทาง เขาก็ยังได้ส่งข่าวไปให้เจี่ยนหยุ่นเฉิงที่ทำงานห่างบ้าน
ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ได้ติดต่อรปภ.ของตระกูลเจี่ยน
หลังจากเวินน่วนวางสายโทรศัพท์จากเจี่ยนชูฉินแล้ว เธอก็เริ่มโทรไปหาเจี่ยนอีหลิง
แต่เจี่ยนอีหลิงก็กำลังวุ่นวายอยู่ทางนั้นเหมือนกัน เธอจึงไม่ได้รับโทรศัพท์
เวินน่วนกระวนกระวายจนมือไม้อ่อนไปหมด
###
หลังจากเจี่ยนอีหลิงเข้าไปในรถแล้ว คนในรถก็ถามเธออย่างสุภาพและนอบน้อมว่า
“คุณหนูเจี่ยนต้องการจะไปไหนเหรอครับ”
“โรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งเหิงเหย่วน”
เธอกำลังจะไปที่โรงเรียนที่เจี่ยนหยู่เจี๋ยอยู่
“ได้ครับ”
“แล้วก็คนที่ฉันต้องการก่อนหน้านั้น พาไปที่บ้านตระกูลเจี่ยน”
เขาคือผู้ดูแลวิดีโอกล้องวงจรปิดของโรงแรมรีสอร์ทเฮ่อหยุนซานผู้ที่หลบหนีไปก่อนหน้านั้น
“ได้ครับ ผมจะจัดการให้ในทันที”
จากคำร้องขอของเจี่ยนอีหลิง ชายคนนั้นตกลงเชื่อฟังทำตามทุกอย่าง
โรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งเหิงเหย่วน
วันนี้เจี่ยนหยู่เจี๋ยแตกต่างจากปกติเป็นอย่างมาก
เขาไม่รับฟังคำพูดของใครเลยนับตั้งแต่ที่เขามาถึงที่โรงเรียน หน้าตาของเขาขาดความมีชีวิตชีวาของแต่ก่อน
รู้สึกได้เลยว่ามีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับเขา
เพื่อนสนิทสองสามคนตรงเข้ามาถาม แต่เขาเพียงพูดว่าเขานั้นไม่เป็นไร
เขาพูดด้วยเสียงต่ำที่ฟังดูแล้วไม่รู้สึกว่าเขานั้นไม่เป็นไร
เขากำลังอยู่ในคาบเรียนวิชาเลขคณิตเมื่อตอนที่มีเด็กหญิงปรากฏตัวขึ้นที่ห้องเรียนอย่างกระทันหัน
รูปร่างหน้าตาของเด็กหญิงนั้นแบบบางเป็นอย่างมาก เหมือนกับตัวละครจากอนิเมะ
ร่างผอมบางนั้นถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อคลุมขนนุ่มสีขาว
คนหลายคนในห้องเรียนสังเกตเห็นเด็กหญิงยืนอยู่ที่ประตูของห้องเรียน แต่เจี่ยนหยู่เจี๋ยที่กำลังเหม่อลอยไม่ได้พบเห็น เขายังคงก้มหน้าก้มตามองไปที่หนังสือเรียนของเขา
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว บรรดาเพื่อนนักเรียนต่างก็พากันมาที่ประตูและเหล่านักเรียนหญิงก็ตรงเข้าไปถาม
“หาเจี่ยนหยู่เจี๋ย”
เมื่อได้ยินว่าเป็นเจี่ยนหยู่เจี๋ย บรรดาเพื่อนนักเรียนก็รีบตะโกนใส่เจี่ยนหยู่เจี๋ยทันที
“นี่ฉันเอง หยู่เจี๋ย เด็กสาวน่ารักคนนั้นเป็นใครกัน”
เจี่ยนหยู่เจี๋ยเงยหน้าขึ้นมาเมื่อเขาได้ยินเสียงของเพื่อนนักเรียน
เจี่ยนหยู่เจี๋ยตกตะลึงเมื่อเขาเห็นเจี่ยนอีหลิงยืนอยู่ที่ประตูห้องเรียน
ไม่ใช่ว่าเธอยังอยู่ที่โรงพยาบาลเหรอ
เธอมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร
เมื่อคิดว่าเจี่ยนอีหลิงวิ่งออกจากโรงพยาบาลแล้วเจี่ยนหยู่เจี๋ยก็รีบผุดลุกขึ้นในทันใด
แต่ทันทีที่เขาก้าวออกไปได้เพียงสองสามก้าว เขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จากนั้นเท้าของเขาก็หยุดชะงัก
เขาไร้ค่า เขานั้นไม่มีค่าที่จะเป็นพี่ชายของเธออีกต่อไปแล้ว
“เจี่ยนหยู่เจี๋ย นายกำลังทำอะไร อย่าปล่อยให้เด็กผู้หญิงรอนานเกินไปสิ”
พวกเด็กชายต่างพากันคำรามใส่ และเสียงของพวกเขานั้นก็รบกวนความคิดของเจี่ยนหยู่เจี๋ย
เจี่ยนหยู่เจี๋ยมองไปที่เจี่ยนอีหลิงอีกครั้งและเดินไปหาเธอโดยไม่อาจควบคุมไว้ได้อีกต่อไป
ทันทีที่เจี่ยนหยู่เจี๋ยเดินไปถึงประตู เจี่ยนอีหลิงก็ยื่นมือของเธอออกจับเสื้อของเขาแล้วพาเขาวิ่งออกไปในทันที
“อีหลิง”
“เจี่ยนหยู่เจี๋ยถูกเจี่ยนอีหลิงลากให้วิ่งตาม เขาไม่กล้าที่จะยุดฉุดเธอให้หยุด ดังนั้นเขาได้แต่วิ่งตามเธอไป
เขากลัวว่าถ้าเขายื้อเธอไว้ เธอจะหกล้ม
เจี่ยนอีหลิงดึงเจี่ยนหยู่เจี๋ยไปยังสถานที่ซึ่งไม่มีใครอยู่นอกอาคารเรียน