ผู้แปล ต้องขอโทษเพื่อนนักอ่านทุกท่าน เมื่อหลายตอนก่อนหน้านี้ ผมเข้าใจว่าเจี่ยนอีหลิงเผยแพร่วิดีโอที่บ้านเก่าตระกูลเจี่ยน แต่จริงแล้วเป็นบ้านตระกูลเจี่ยน หรือบ้านหลังที่เจี่ยนหยุ่นน่าวอาศัยอยู่ จึงขอแก้ให้เข้าใจตรงกันใหม่มาในที่นี้
—————————————–
“ต้องการกินเนื้อ” เจี่ยนอีหลิงตอบอย่างจริงจัง
เธอไม่โตขึ้นเลยแม้แต่น้อย และการกินเพียงแค่ข้าวต้มขาวกับผักยิ่งหมดหวังในการโตสูงขึ้นยิ่งกว่าเดิม
เมื่อหยูซีได้ยินเช่นนี้ เขาก็หัวเราะ “เอาสิ เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อปลา ทุกเนื้อ จะจัดให้น้อง พอถึงเวลานั้น พี่จะจัดให้เต็มเลย”
เมื่อหยูซีหันหน้าไปก็พบกับสายตาที่ถลึงมองมาของจ๋ายหวินเชิ่ง
อือ… ลืมไปว่ายังมีอีกคนที่นี่ที่กินเนื้อกินปลาไม่ได้
เจี่ยนอีหลิงก็หันไปหาจ๋ายหวินเชิ่งเช่นเดียวกัน “นายกินเห็ด”
จ๋ายหวินเชิ่งกลับไม่โกรธแม้แต่น้อย “ฉันจะกินที่เธอทำให้”
“ได้ เมื่อฉันหาย ฉันจะทำให้กิน” เจี่ยนอีหลิงพูด
วันนี้สร้างปัญหาให้พวกเขาอีกแล้ว
ขอบคุณพวกเขามาก
“ถ้างั้นรีบหายเร็วๆ” จ๋ายหวินเชิ่งมองไปยังเจี่ยนอีหลิงที่ผอมบาง ช่างไม่เจริญตาเอาเสียเลย
###
ย่าเจี่ยนเตรียมตัวที่จะไปโรงพยาบาลหลังจากได้รับโทรศัพท์จากหยูซี แต่เมื่อเธอกำลังจะออกไป เธอก็ไปเจอเข้ากับครอบครัวเจี่ยนชูฉิงที่มายังบ้านเก่าเพื่อตามหาเจี่ยนอีหลิง
เมื่อเห็นสีหน้าของพวกเขาทั้งสามคน ย่าเจี่ยนก็รู้ได้ในทันทีว่ามีบางอย่างที่หนักหนาสาหัสเกิดขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น”
“แม่ เซี่ยวหลิงกลับมาหรือยัง” เจี่ยนชูฉิงถามย่าเจี่ยนอย่างเร่งรีบ
“พวกเธออยากพบเซียวหลิงเหรอ”
“ใช่ พวกเราคิดว่าเซี่ยวหลิงจะกลับมาที่บ้านเก่า ดังนั้น…”
“ฉันรู้ว่าเซี่ยวหลิงอยู่ไหน เธอสบายดี” ย่าเจี่ยนพูด
“จริงเหรอ ตอนนี้เธออยู่ไหนเหรอ” เจี่ยนชูฉิงถามอย่างรวดเร็ว
“พูดมาก่อนว่ามีเรื่องอะไร”
ย่าเจี่ยนมองออกรู้ชัดว่าวันนี้เกิดเหตุการณ์ผิดปกติ
หลานสาวที่รักของเธอวิ่งออกจากโรงพยาบาล แล้วเจี่ยนชูฉิง กับเจี่ยนหยุ่นเฉิง ลูกชายของเขาที่ควรจะอยู่ที่ทำงาน กลับวิ่งมาที่บ้านเก่าด้วยท่าทางกระวนกระวายและเศร้าสร้อย
“แม่…. เรื่องนี้…. พวกเราเพิ่งรู้… ว่าเซี่ยวหลิงไม่ได้ทำ…”
เจี่ยนชูฉิงพูดด้วยเสียงขื่นขม
“ทำอะไร”
ย่าเจี่ยนไม่เข้าใจ เพราะสิ่งที่พูดออกมานั้นไม่ชัดเจน
บังเอิญว่าปู่เจี่ยนก็ออกมาด้วยเช่นกัน เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าของบรรดาลูกหลาน ชายชราก็ขมวดคิ้ว
“นั่งลงแล้วพูดออกมาให้ชัด”
“พ่อ…” เจี่ยนชูฉิงดูท่าทางขื่นขม
“ให้ผมพูดเถอะ” เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็พูดออกมาค่อนข้างลำบาก
เขาอธิบายว่าได้เกิดอะไรขึ้นบ้างในวันนี้ให้กับปู่เจี่ยนกับย่าเจี่ยนฟังอีกครั้ง
หลังจากที่ฟังคำพูดของเจี่ยนหยุ่นเฉิงแล้ว ย่าเจี่ยนก็ตำหนิพวกเจี่ยนชูฉิงไม่ยอมเลิก
“ฉันเคยพูดมาก่อนแล้วใช่ไหม หลานฉัน เธอไม่ใช่เด็กไม่ดี พวกแกก็ไม่เชื่อฉันตั้งแต่ทีแรก”
“แม่ผมรู้ว่าพวกเราผิดไปแล้ว แต่ว่าในตอนนั้น… เซี่ยวหลิงเอง…”
“เธอพูดว่าเธอผิด เธอไม่ได้พูดว่าเธอผลัก” ย่าเจี่ยนความจำดี
ที่บ้านเก่าในวันนั้น ต่อหน้าปู่เจี่ยนกับย่าเจี่ยน เจี่ยนอีหลิงกล่าวอย่างชัดเจนว่า “เธอผิด”
ใช่แล้ว เจี่ยนอีหลิงพูดอย่างนั้นตอนนั้นจริงๆ แต่เจี่ยนชูฉิงไม่ได้เจาะลึกเข้าไปถึงความหมายของประโยคนั้น
“แม่ ผมรู้ว่าผมผิด ผม…”
ย่าเจี่ยนยังรู้สึกไม่พอใจ เธอจึงบ่นพวกเขาทั้งสามคนต่อไปอีกว่า “ผิด ผิด ผิด ยังไม่จบอีกเหรอกับคำว่าผิด ฉันไม่ต้องการที่จะคิดเลยว่า ความไม่วางใจของพวกแกนั้นสร้างความเจ็บปวดให้กับเด็กมากเท่าไหร่ หัวใจของหลานสาวของฉันจะต้องปวดรวดร้าวเพียงใด คนชราอย่างฉันเข้าใจที่พวกแกดูแลเซี่ยวน่าวที่บาดเจ็บอย่างเต็มที่ สั่งสอนเซี่ยวหลิงให้มีวินัยก็ไม่มีปัญหา แต่ที่พวกแกไม่เชื่อถือลูกสาวของตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากกว่า”
ย่าเจี่ยนไม่สนใจ เธอรักหลานสาวของเธอ