เหตุการณ์นี้สร้างความเจ็บปวดให้กับเจี่ยนหยู่เจี๋ย แต่จะเป็นอย่างนั้นกับเจี่ยนหยู่หมินหรือเปล่า
แม้ว่าจะมีบุคลิกที่แตกต่างกันเป็นอันมาก แต่เหอเยี่ยนก็ยังเป็นแม่ของเจี่ยนหยู่หมินเช่นเดียวกัน
ดังนั้นเจี่ยนหยู่เจี๋ยจึงไม่มีแผนที่จะบอกพี่ชายของเขาตั้งแต่แรก เขาคิดที่จะแบกเรื่องราวทั้งหมดนี้ไว้ด้วยตัวของเขาเอง
“เธอทำอะไรผิดไปเหรอ พี่คิดว่าเธอก็ดีอยู่นะ ยกเว้นแต่ว่าขี้แยอยู่บ้าง นอกนั้นก็ดีหมด”
การร้องไห้ของเจี่ยนอีหลิงนั้นเป็นเงาฝังอยู่ในใจของเจี่ยนหยู่หมิน
เจี่ยนหยู่หมินพูดอีกครั้ง “เธอไม่จำเป็นต้องปกป้องเจ้านั่น ถ้าเจ้านั่นมาในคราวหน้า พี่ชายคนนี้จะช่วยเธอเตะก้นให้จนกว่าเจ้านั่นจะก้นบาน”
หลังจากที่พูดกับเจี่ยนอีหลิงด้วยรอยยิ้มแล้ว เจี่ยนหยู่หมินก็หันหน้าที่ดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรสักเท่าไหร่นักไปดูจ๋ายหวินเชิ่ง แล้วกล่าวด้วยเสียงที่ค่อนข้างสุภาพว่า
“ขอบคุณนะคุณจ๋ายที่มาเยี่ยมน้องสาวผม นายทำงานมาหนักแล้ว ดังนั้นได้โปรดกลับไปกันก่อน ที่เหลือผมจะดูแลน้องสาวผมเอง”
แต่จ๋ายหวินเชิ่งไม่ได้มีแผนที่จะไป เขาสอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีร่องรอยของความอับอายที่ถูกขับไล่
เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของจ๋ายหวินเชิ่ง เจี่ยนหยู่หมินยิ่งเกิดความรู้สึกอันตรายมากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆในใจของเขา
เมื่อเห็นรังสีที่แผ่ออกมาระหว่างเจี่ยนหยู่หมินกับจ๋ายหวินเชิ่งนั้นผิดไปจากปกติ หยูซีรีบเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย “พี่ชายหยู่หมิน หมอจะเข้ามาตรวจน้องสาวอีหลิงเร็วๆนี้ คงจะดีถ้ามีคนเพิ่มอีกสักคน พอย่าเจี่ยนมาพวกเราก็จะไปกัน”
“ก็ได้ แต่ว่าพวกเธอทั้งสองคนไม่ทำอะไรอย่างอื่นกันหรือไง”
แม้ว่าเจี่ยนหยู่หมินจะไม่พอใจ แต่จ๋ายหวินเชิ่งก็ยังไม่ได้ทำอะไรผิด ดังนั้นเขาจึงทำอะไรอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้ มันจะชัดเจนเกินไป
“ไม่มีปัญหา พวกเราค่อนข้างว่างกันตอนนี้” หยูซีลูบจมูกของตนเอง พวกเขาควรจะเรียนอยู่ที่วิทยาลัย แต่กลับพากันเที่ยวเล่น
ถ้าจะบอกว่าเที่ยวเล่น ก็คงไม่ถูกไปเสียทั้งหมด เพราะนายท่านเชิ่งมีเรื่องหนักหนาที่จะต้องทำเมื่อเขามาที่เมืองเหิงเหย่วนนี้
เพียงแต่ว่าเรื่องหนักหนานี้นายท่านเชิ่งได้ระงับไว้ก่อนชั่วคราว
ทันใดนั้นเจี่ยนหยู่หมินก็ได้รับโทรศัพท์จากพวกพ้องของเขา
“พี่หยู่ ห้องพักน้องสาวอยู่ห้องไหน พวกเราอยู่ที่ประตูทางเข้าของโรงพยาบาล”
“พวกนายมาทำอะไรกัน” ปฏิกิริยาแรกของเจี่ยนหยู่หมินก็คือหาเหตุผลไล่พวกเขาไป
“น้องสาวพี่ป่วย แน่นอนว่าพวกเรา น้องชายที่ดี ก็ต้องมาเยี่ยม”
“พวกนาย…” เจี่ยนหยู่หมินไม่สามารถที่จะหาเหตุผลมาปฏิเสธพวกพ้องได้
ครั้งสูดท้ายเขายังพอจะบอกว่าบ้านเขาไม่ใหญ่มากพอได้ แต่ตอนนี้เขาคงไม่สามารถที่จะบอกว่าโรงพยาบาลไม่ใหญ่มากพอได้ ใช่ไหม
เจี่ยนหยู่หมินก็ได้แต่บอกหมายเลขห้อง
ห้านาทีให้หลัง สมาชิกอีกสามคนของจูปีเตอร์ก็ปรากฏตัวในหอผู้ป่วยของเจี่ยนอีหลิง
หนุ่มหล่อดาราไอดอลยอดนิยมสามคนก็สวมหน้ากากและหมวกแก๊ปเข้ามาในหอผู้ป่วยเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจดจำ
หลังจากที่เข้ามาในหอผู้ป่วยและได้เห็นเจี่ยนหยู่หมินแล้ว พวกเขาทั้งสามคนก็เผยรอยยิ้มสดใส
สมาชิกจูปีเตอร์ที่เหลืออีกสามคนก็คือ ลั่วซวิน ชี่ไป่หยาง กับ เล่อเหยา
ทั้งสามคนมีบุคลิกลักษณะหน้าตาเป็นของตัวเอง แต่ทั้งหมดล้วนเฟิร์สคลาส
เจี่ยนหยู่หมินแนะนำน้องชายแสนดีสามคนให้กับเจี่ยนอีหลิงอย่างไม่ใส่ใจว่า “เซี่ยวหลิง สามคนนี้เป็นเพื่อนของพี่ ลั่วซวิน ชี่ไป่หยาง กับ เล่อเหยา เธอไม่จำเป็นต้องจำชื่อหรือหน้าตาของพวกเขา”
ลั่วซวิน ที่มีบุคลิกมีชีวิตชีวามากที่สุดในบรรดาสามคนนั้น พลันเดินไปข้างหน้าพร้อมรอยยิ้มแล้วแนะนำตัวเองกับเจี่ยนอีหลิงที่อยู่บนเตียงพยาบาลว่า “เธอเป็นน้องสาวของพี่หยู่เหรอ เธอน่ารักมากเลยนะ เธอสนใจจะมาเป็นนักแสดงนำหญิงในเพลงใหม่ของพวกเราตอนที่เพลงจะทำการถ่ายทำ MV ไหม”
เด็กหญิงที่อยู่บนเตียงแน่นอนว่าไม่สามารถเป็นแฟนสาวของพี่หยู่ได้ ถ้าเป็นแฟนสาวของพี่หยู่ พวกเขาจะช่วยกันแยกเธอกับพี่หยู่แน่นอน เพราะนั่นเป็นเรื่องที่น่าอายเกินไป