ในห้องเกิดเสียงดังไปพักหนึ่งก่อนที่จะหยุดยั้งลง และสุดท้ายเจี่ยนหยู่หมินก็ได้ส่งเหล่าน้องชายที่น่ารำคาญทั้งสามคนนี้กลับไป
เจี่ยนหยู่หมินแอบดีใจ รู้สึกโชคดีที่ตนเองไม่ได้บอกที่อยู่ให้กับพวกเขา
เจี่ยนอีหลิงมองดูจ๋ายหวินเชิ่งนอนหลับอยู่บนโซฟา
ความยาวของโซฟายาวไม่พอที่จุร่างของเขาไว้ ขาของเขาห้อยออกมาด้านนอก แล้วใช้เสื้อคลุมหัวไว้เพื่อปิดแสง
ท่านอนของเขานั้นปล่อยไปตามสบาย แต่ก็สามารถพูดได้ว่าเพราะว่าเขานั้นดูดี ดังนั้นไม่ว่าเขาจะหลับท่าไหน เขาก็ดูวาบหวามมีเสน่ห์น่าดึงดูดใจ
ก็เหมือนกับตอนที่เจี่ยนอีหลิงมองเห็นเขาครั้งแรก เขาก็นอนตามสบายอยู่ที่ระเบียงโถงทางเดินของโรงพยาบาล
ที่น่าประหลาดใจก็คือเขาสามารถหลับลงได้จริงๆ ภายใต้สภาพเสียงดังแบบนั้น…
เมื่อเห็นความสงสัยในดวงตาของเจี่ยนอีหลิง หยูซีก็อธิบายให้เจี่ยนอีหลิงฟังด้วยเสียงเบาๆว่า
“นายท่านเชิ่งหลับไม่ลงถ้าบริเวณนั้นเงียบเกินไป”
จ๋ายหวินเชิ่งจะนอนไม่หลับในสภาพแวดล้อมที่เงียบเกินไป ความเงียบจะทำให้เขานึกถึงตอนที่พ่อของเขาตาย
ในตอนนั้นรอบกายของเขามีแต่ความเงียบ พ่อของเขานอนสิ้นใจร่างกายเย็นชืดอยู่ตรงหน้าเขา พร้อมกับเลือดที่นองเจิ่งพื้น
เพราะว่าเขาอายุได้เพียงเจ็ดขวบปี เขาจึงได้แต่มองดูพ่อของเขาเปลี่ยนเป็นศพแข็งทื่อ
สภาพแวดล้อมเงียบมากเสียจนกระทั่งเขารู้สึกเหมือนกับว่าจะสามารถได้ยินเสียงเลือดไหลนอง
ตระกูลจ๋ายยังหาเขาไม่พบจนกระทั่งเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงให้หลัง
ช่วงเวลานั้นกลายเป็นเงามืดในใจของจ๋ายหวินเชิ่ง จนทำให้เขากลายเป็นไม่ชอบบรรยากาศที่เงียบสงัดไปด้วย จะต้องมีเพลงอยู่ในห้องด้วยตอนที่เขาหลับ
ทันทีที่หยูซีพูดจบ จ๋ายหวินเชิ่งก็ลืมตาขึ้น
เขาแค่หลับไม่ได้ตายสักหน่อย ทำไมเขาจึงจะไม่ได้ยินสิ่งที่หยูซีพูดอะไรทำนองนั้น
อย่าว่าแต่เขาไม่ได้หลับลึกเท่าไหร่นักเมื่อกี้นี้
หยูซีทำให้อีหลิงกลัว
ไม่ต้องแกล้งทำตัวเหมือนกับว่าไม่รู้เรื่องราวอะไรทั้งสิ้น
ในตอนนี้ ปู่เจี่ยนกับย่าเจี่ยนก็มาถึงหอผู้ป่วยพอดี
เมื่อเห็นเจี่ยนอีหลิงอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล ย่าเจี่ยนก็เริ่มอบรมสั่งสอนอีกครั้ง
เจี่ยนอีหลิงได้แต่ฟังคำสอนอย่างว่าง่าย
ย่าเจี่ยนมองเห็นสภาพหลานสาวแสนรักของเธอแล้วก็พูดอะไรต่อไปไม่ออก
ยิ่งพูดมากก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกทุกข์ใจยิ่งขึ้น
ในช่วงเวลานี้ปู่เจี่ยนก็ขอบคุณหยูซี และเมื่อเห็นจ๋ายหวินเชิ่ง เขาก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณจ๋ายหวินเชิ่งด้วย
จ๋ายหวินเชิ่งค่อนข้างที่จะสุภาพกับปู่เจี่ยน หลังจากที่พูดคุยกันสองสามคำ จ๋ายหวินเชิ่งกับหยูซีก็ขอตัวกลับ
เจี่ยนหยู่หมินก็ถูกย่าเจี่ยนหว่านล้อมให้จากไปเช่นเดียวกัน
เขามีแผนที่จะจัดคอนเสิร์ทที่เมืองเหิงเหย่วนในช่วงนี้ และมีกำหนดการฝึกซ้อมรวมไปถึงกิจกรรมต่างๆอีกมากมาย
หลังจากที่ทุกคนจากไปแล้า ย่าเจี่ยนก็โอบเจี่ยนอีหลิงไว้ในอ้อมแขนแล้วลูบหลังเธอเบาๆ
ย่าเจี่ยนไม่ได้พูดอะไร แต่เจี่ยนอีหลิงเหมือนจะเข้าใจความหมายของเธอ
บางสิ่งไม่จำเป็นต้องอธิบายออกมาเป็นคำพูด
ถูกหญิงชรากอดไว้ ร่างกายของเจี่ยนอีหลิงไม่ได้เกิดความรู้สึกต่อต้านมากมายนัก แต่กลับรู้สึกว่าอ้อมกอดนี้ช่างอบอุ่น อีกทั้งยังมีความรู้สึกสุขสบายและผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างแปลกสำหรับเจี่ยนอีหลิง
แต่เธอรู้สึกเหมือนว่า… ไม่น่ารำคาญเลย
ย่าเจี่ยนนั้นเจ็บปวดใจ แม้ว่าวิดีโอจะถูกมอบให้กับตระกูลเจี่ยนแล้ว แต่เจี่ยนอีหลิงก็ทำตัวเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เธอไม่แม้กระทั่งจะถือโอกาสเริ่มพูดถึงเรื่องนี้กับหญิงชราเสียด้วยซ้ำ…
เพราะว่านี่เป็นครั้งที่สองที่เธอต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพราะลำไส้อักเสบ หญิงชราจึงบังคับให้เจี่ยนอีหลิงอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลาสามวันก่อนที่จะยอมปล่อยเธอออกมา
โชคดีที่ย่าเจี่ยนไม่ได้บังคับให้เจี่ยนอีหลิงหยุดการใช้โทรศัพท์มือถือกับคอมพิวเตอร์ เจี่ยนอีหลิงจึงสามารถที่จะทำงานในโรงพยาบาลได้
ย่าเจี่ยนขอให้เจี่ยนอีหลิงดูดราม่ากับเล่นเกมบนเตียง แต่เจี่ยนอีหลิงกลับทำงาน
ถ้าย่าเจี่ยนรู้ว่าเจี่ยนอีหลิงทำงานเข้าจริงๆ เธอก็คงจะโกรธมาก