ในวันถัดไปเมื่อคาบที่สองเสร็จแล้ว อาคารเรียนก็เปลี่ยนเป็นมีชีวิตชีวา และนักเรียนหลายคนก็มุ่งไปที่ระเบียงทางเดินของโรงเรียนเพื่อดูอะไรบางอย่าง
หูเจียวเจียวที่อยากรู้อยากเห็นตามเขาไปที่ระเบียงทางเดินแล้วก็มองดูอยู่พักหนึ่ง
จากนั้นเธอก็กลับมาบอกเจี่ยนอีหลิงว่า “อีหลิง มีหนุ่มหล่อในโรงเรียนด้วยล่ะ หล่อจนเลือดกำเดาไหลเลยล่ะ”
“อือ”
เจี่ยนอีหลิงไม่สนใจหนุ่มหล่อ
“ไม่ อีหลิง ไม่เพียงแต่เขาจะหล่อแค่นั้นนะ แต่เขาก็ยังถูกพูดถึงว่าเป็นนักศึกษาระดับท๊อปของมหาวิทยาลัยเหิงหย่วนด้วยนะ ในเวลาเดียวกันแม้ว่าเขาจะยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เขาก็ยังเริ่มเปิดบริษัทอินเตอร์เน็ตกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนด้วยนะ”
“อื้อ”
ยังไม่สนใจ
“เขาชื่อว่า…ฉินชวน ฉันได้ยินว่าเขานั้นเก่งรอบตัวเลยทีเดียว”
เจี่ยนอีหลิงเงยหน้าขึ้น
เมื่อมาคิดดูอีกที บริษัทของฉินชวนก็พัฒนาอย่างอย่างรวดเร็วในช่วงไม่นานมานี้
ในทำนองเดียวกัน ชื่อของฉินชวนก็เริ่มเป็นที่รู้จักกันในหมู่ผู้คนในเมืองเหิงเหย่วน
ตามความเป็นจริงเจี่ยนอีหลิงรู้มากกว่าคนอื่นอยู่บ้างเพราะว่าเธอเห็นงบการเงินของบริษัทฉินชวน
หูเจียวเจียวพูดกับเจี่ยนอีหลิงต่อว่า “ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นคนที่ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งของเมืองเหิงเหย่วนในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เขาสามารถไปเรียนที่มหาวิทยาลัยระดับต้นของประเทศที่เป่ยจิงได้เลยนะ แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงเลือกมหาวิทยาลัยเหิงเหย่วน แน่นอนว่ามหาวิทยาลัยเหิงเหย่วน แน่นอนมหาวิทยาลัยเหิงเหย่วนก็ยอดเยี่ยมเหมือนกัน ไม่ว่ายังไงนี่ก็เป็นเพียงความไฝ่ฝันที่ฉันไม่มีวันได้ไปถึงในชีวิตนี้”
“เขามาที่นี่ทำอะไร” เจี่ยนอีหลิงถาม
ฉินชวนไม่ได้จบจากโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัว เขาจบจากมัธยมศึกษาตอนปลายด้วยทุนการศึกษาเต็มจำนวนจากโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งเหิงเหย่วน พร้อมกับเงื่อนไขพิเศษยกเว้นค่าเล่าเรียน
ถ้าเขาต้องการที่จะกลับไปที่โรงเรียนเก่าของตัวเอง เขาควรเลือกกลับไปที่โรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งเหิงเหย่วน ไม่ใช่เชิ่งหัว
“พูดกันว่าผู้อำนวยการโรงเรียนเชิญเขามาให้คำบรรยายกับนักเรียนรุ่นพี่ปีสามที่โรงเรียน บางทีก็คงจะคล้ายกับแผนการประกอบอาชีพในอนาคตว่าจะเป็นยังไงกันดี”
เชิ่งหัวหวังว่านักเรียนที่จบจากที่นี่จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมีชื่อเสียง
ดังนั้นจึงมีการบรรยายพิเศษสำหรับนักเรียนรุ่นพี่ปีสาม บางครั้งก็จะเป็นเรื่องของแผนการประกอบอาชีพ บางครั้งก็จะเป็นการรับสมัครงาน และบางครั้งก็จะเป็นการติวข้อสอบ
ครั้งนี้พวกเขาเชิญฉินชวนซึ่งอยู่ในมหาวิทยาลัยแต่ประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นธุรกิจของตนเองมาเป็นตัวอย่างให้กับนักเรียน
ให้เขาพูดในเรื่องประสบการณ์ของการเรียน การสอบเข้ามหาวิทยาลัย การประกอบธุรกิจ และประสบการณ์อื่นๆ ของตัวเขาเอง
เดิมทีแล้วนี่น่าจะเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่เพราะว่าฉินชวนนั้นมีหน้าตาโดดเด่นมากจนเกิดความปั่นป่วนขึ้นในโรงเรียน
หูเจียวเจียวดวงตาเป็นประกายเหมือนดวงดาว “เขาดูหล่อมาก เรียนเก่ง เปิดบริษัทตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งยังเป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตที่ต้องใช้พลังสมองจำนวนมากอีกด้วย อา เขาเป็นคนในอุดมคติของโลกนี้ ทำไมมนุษย์เราถึงแตกต่างกันมากขนาดนี้ เขาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ในขณะที่ฉันต้องกังวลอยู่ทุกวันว่าฉันจะผ่านการสอบหรือเปล่า”
เมื่อถึงตอนนี้ เด็กชายก็เดินออกมาและพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า
“นั่นไม่ใช่ความจริง คุณฉินชวนเขาอายุน้อยแต่ก็มีความพยายามที่จะพึ่งพาอาศัยความพยายามของตัวเองเริ่มต้นจากการที่ไม่มีอะไรเลย ทั้งที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแต่เขาก็เริ่มต้นเปิดบริษัทอินเตอร์เน็ต ไม่เหมือนใครบางคนที่อาศัยว่าพ่อแม่มีเงิน มีเสื้อผ้าอาหาร กินอยู่ โดยไม่ประสบกับอุปสรรคใดๆ”
เด็กชายมีหน้าตาธรรมดา สวมแว่นตาเลนส์หนาเตอะ
เด็กชายมีชื่อว่าหวังเซี่ยงจ้งและเขาเองก็เป็นเด็กที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในห้องแปด
หวังเซี่ยงจ้งมักจะดูถูกเด็กนักเรียนที่เรียนไม่เก่งอย่างเช่นเจี่ยนอีหลิงกับหูเจียวเจียวที่มีสภาพครอบครัวที่ดีแต่ไม่ใส่ใจในการเรียน
“หวังเซี่ยงจ้ง ฉันเรียนไม่เก่งก็ไม่เกี่ยวข้องกับนาย ไม่ใช่เหรอ” หูเจียวเจียวตอบโต้พร้อมกับทำหน้าบึ้ง
แม้ว่าหูเจียวเจียวนั้นจะอาจหาญ แต่เสียงของเธอนั้นเบาขาดพลัง