เจี่ยนอีหลิงมองดูสองคนนั้นด้วยความสงสัย
“เจี่ยนอีหลิง อย่าพูดอ้อมค้อมบอกพวกเรามาตรงๆ” หลิวเหวิน “บีบ” เจี่ยนอีหลิง “คะแนนเธอดีขึ้นมาอย่างกระทันหัน เธอใช้ความลับเฉพาะตัวอะไรเหรอ”
“ใช่ บอกพวกเรามาตามตรง” หูเจียวเจียวเออออตามไปด้วย
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้สอบสวนที่ “ก้าวร้าว” สองคนนี้ เจี่ยนอีหลิงก็คิดอยู่สองวินาที
“ไม่ ฉันจำได้และเข้าใจ”
เจี่ยนอีหลิงพูดตามความจริง
คำตอบนี้ทำให้หูเจียวเจียวนั้นรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ทำไมเธอเองถึงจำไม่ได้ในเนื้อเรื่องที่เธออ่าน แล้วเธอก็ไม่เข้าใจเนื้อเรื่องนั้นด้วย
“แล้วเรื่องครูสอนพิเศษที่เธอจ้างไว้ก่อนหน้านั้นล่ะ เก่งไหม สอนเธอเยอะมากไหม” หลิวเหวินถามเธออีกครั้ง
“เยี่ยม”
เจี่ยนอีหลิงรู้ถึงความสามารถของฉินชวน
แม้ว่าเธอจะไม่ได้ฟังการสอนของเขาอย่างตั้งใจนัก เธอก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธถึงระดับความสามารถของเขาได้
“นั่นต้องยกเครดิตให้กับครูสอนพิเศษจริงๆ” หูเจียวเจียวได้แต่คิดอย่างนั้น
หลิวเหวินรีบถามเจี่ยนอีหลิงถึงข้อมูลของครูสอนพิเศษ “เจี่ยนอีหลิง ครูสอนพิเศษของเธอชื่ออะไร เขาทำงานอะไร จะหาตัวเขาได้ที่ไหน”
เจี่ยนอีหลิงบอกหลิวเหวินในเรื่องข้อมูลของฉินชวนตามความเป็นจริง “ฉินชวน นักศึกษา มหาวิทยาลัยเหิงเหย่วน”
หลังจากที่เจี่ยนอีหลิงพูดจบ หลิวเหวินกับหูเจียวเจียวก็มองดูเธอด้วยความประหลาดใจในทันที
นั่นไม่ใช่หนุ่มรูปหล่อที่เพิ่งมาที่โรงเรียนของพวกเธอเพื่อให้คำบรรยายหรือยังไง
“มิน่า เธอถึงพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว เป็นเพราะว่าครูสอนพิเศษของเธอเจ๋งนี่เอง” หลิวเหวินถอนหายใจ
หูเจียวเจียวตาเป็นประกาย “อีหลิง ครูสอนพิเศษของเธอเป็นหนุ่มหล่อฉินชวนคนนั้นจริงๆ อา ฉันละอิจฉาจริงๆ มิน่าล่ะเธอถึงไม่สนใจเขาแม้แต่น้องเมื่อตอนที่เขามาที่โรงเรียนวันนั้น นั่นเป็นเพราะว่าเธอเห็นมามากพอแล้วนี่เอง”
หูเจียวเจียวกับหลิวเหวินต่างพากันอิจฉากับครูสอนพิเศษของเจี่ยนอีหลิง
หวังเซี่ยงจ้งเดินเข้ามาหา “พวกเธอคิดเหรอว่าเธอจะเก่งขึ้นหลังจากที่ได้เรียนพิเศษ มีคนเพิ่งคัดค้านองค์กรขอให้ตรวจสอบผลลัพธ์ของเจี่ยนอีหลิงอีกครั้ง”
แม้ว่าหวังเซี่ยงจ้งจะไม่ได้เข้าร่วมในการแข่งขันเคมีนี้ เขาก็ได้ยินถึงความยากเกินระดับของการแข่งขันเคมีนี้
แม้กระทั่งจอมเผด็จการสุดยอดของชั้นมัธยมปลายปีหนึ่งระดับเดียวกับพวกเขายังได้แค่อันดับสิบ แล้วเจี่ยนอีหลิงจะได้อันดับแรกไปได้ยังไง
“หวังเซี่ยงจ้ง เธอพูดแบบนี้ไม่ดีนะ เจี่ยนอีหลิงเป็นเพื่อนร่วมห้องของพวกเรา รางวัลที่เธอได้รับก็ถือเป็นเกียรติยศของห้องของพวกเราด้วย” หลิวเหวินอธิบายให้หวังซื่อจ้งอย่างจริงจัง
“เกียรติยศที่ได้มาจากการความผิดพลาดหรือได้มาอย่างไม่เหมาะสม ไม่ใช่เกียรติแต่เป็นความอัปยศ”
หวังซื่อจ้งกล่าวเสียงดังและมั่นใจ
“หวังซื่อจ้ง นายไม่มีข้อพิสูจน์ อย่าพูดมั่วซั่ว…” หูเจียวเจียวโกรธขึ้นหน้ามาอีกครั้งกับหวังซื่อจ้ง
“ไม่มีข้อมูลรองรับแล้วผลการสอบสวนก็ยังไม่ทราบแน่ชัดไม่ใช่ปัญหา แต่คนเราต้องรู้ชัดเจนดีแก่ใจของตัวเอง โอ พอฉันพูดแบบนี้ก็มีคนนั่งไม่ติดแล้ว”
หวังเซี่ยวจ้งพูดเสร็จแล้วก็จากไป
เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ หูเจียวเจียวก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ เธอพึมพัมว่า “ทำไมต้องดูหมิ่นเหยียดหยามคนอื่นว่ากันเลวร้ายถึงขนาดนี้ คิดว่าคนเราจะไม่พัฒนาขึ้นเลยหรือยังไงถ้าได้คะแนนไม่ดี… เขาเรียกกันว่าสะสมศักยภาพเว้ย”
###
ที่มหาวิทยาลัยเหิงเหย่วน สำนักงานกลุ่มวิชาเคมี
หัวหน้าองค์กรจัดการแข่งขันเคมีนี้กำลังอยู่ในสำนักงานที่พวกเขาได้เช่าเอาไว้
คนที่รับผิดชอบเป็นชายวัยกลางคนวัยสี่สิบต้นๆ สวมชุดสูทที่ดูแล้วให้ความรู้สึกดี
ตรงหน้าของชายวัยกลางคนนั้นเป็นกระดาษข้อสอบของการแข่งขันเคมีและชื่อบนกระดาษข้อสอบนั้นอ่านได้ว่า เจี่ยนอีหลิง
ในครั้งนี้การแข่งขันเคมีที่องค์กรของพวกเขาจัดขึ้นในระดับสุดยอด และเป็นเรื่องยากมากสำหรับนักเรียนมัธยมทั่วไปที่จะได้คะแนนสูงๆ