สิ่งที่เขาได้คาดเดามานั้นถุกต้องแล้วใช่ไหม
เป็นจริงใช่ไหมที่คนจากสถาบันวิจัยเคมีภัณฑ์เยวลี่มาที่นี่ในวันนี้เกิดจากการที่เจี่ยนอีหลิงโกง
หัวหน้าฝ่ายวิชาการก็พลันรู้สึกโกรธ เขาต้องกัดฟันกับการกระทำของเจี่ยนอีหลิง
ในขณะเดียวกันหัวหน้าฝ่ายวิชาการก็ยังคงรักษาใบหน้ายิ้มแย้มให้กับคนจากสถาบันวิจัยเคมีภัณฑ์เยวลี่
“ผมรู้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นความผิดของโรงเรียน ผมต้องขอแสดงความขอโทษอย่างจริงใจในนามของนักเรียนคนนี้ และผมหวังว่าคุณจะมองข้ามเรื่องราวที่เกิดขื้นในครั้งนี้ ในเมื่อเธอยังเป็นเด็กเล็ก ผมก็อยากจะขอให้เปลี่ยนเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็ก”
ผู้รับผิดชอบฉินชี่ชวนรู้สึกสับสนกับสิ่งที่หัวหน้าฝ่ายพูด เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
“หัวหน้าฝ่าย คุณหมายความว่ายังไง พวกเรามาที่นี่เพื่อพบกับนักเรียนเจี่ยนอีหลิง คุณเข้าใจผิดอะไรไปรึเปล่า”
“ไม่ใช่ว่าเจี่ยนอีหลิงนั่น… โกงเหรอ พวกคุณไม่ได้มาเพื่อ….”
หัวหน้าฝ่ายวิชาการมีสีหน้างงงัน
คราวนี้ฉินชี่ชวนหัวเราะ “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเจอสถานการณ์แบบนี้ คนในโรงเรียนของตัวเองประสบความสำเร๊จที่ดีเยี่ยม แต่ผู้นำของโรงเรียนกลับไม่ยินดี แต่กลับคาดคิดว่านักเรียนของตัวเองนั้นโกง”
หัวหน้าฝ่ายพยายามปลอบใจตัวเอง “ถ้าเช่นนั้นคุณฉินมาหาเจี่ยนอีหลิงในคราวนี้ มีอะไรเหรอ”
ฉินชี่ชวนกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “แน่นอนว่าเป็นเพราะผลการสอบของเจี่ยนอีหลิงในรอบนี้นั้นดีมาก เพราะว่าผมชื่นชอบและกระตือรีอล้นอยากจะพบตัวเธอล่วงหน้า หวังว่าจะไม่ทำให้เธอนั้นเสียเวลาเกินไป”
หัวหน้าฝ่ายวิชาการตกตะลึงด้วยความประหลาดใจ “ถ้าอย่างนั้นผมจะไปเรียกตัวเธอมาที่นี่”
ฉินชี่ชวนยิ้มและกล่าวว่า “หัวหน้าฝ่ายควรจะถามความสมัครใจของเธอก่อน ถ้านักเรียนยังไม่พร้อม พวกเราก็จะไม่รบกวน”
สถาบันวิจัยเคมีภัณฑ์เยาลี่ของพวกเขาไม่ได้เป็นสถาบันที่เป็นเจ้าของโรงเรียนและทางทฤษฎีแล้วไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพบกับนักเรียนได้โดยตรงที่โรงเรียน
เจี่ยนอีหลิงอยู่ในห้อง ถ้าเธอไม่ต้องการพบกับพวกเขา เธอก็สามารถที่จะปฏิเสธพวกเขาได้
แต่แนวความคิดดังกล่าวนั้นไม่ได้อยู่ในหัวของหัวหน้าฝ่ายวิชาการเลย “ไม่มีปัญหา เธอว่างแน่นอน”
ถ้าหากว่าหัวหน้าฝ่ายวิชาการอย่างเขาต้องการพบนักเรียน เขาต้องสนใจด้วยเหรอว่าเธอกำลังเรียนอยู่หรือไม่
ห้านาทีให้หลัง เจี่ยนอีหลิงก็ถูกเรียกตัวไปพบที่สำนักงานของหัวหน้าฝ่ายวิชาการ
สุดท้ายฉินชี่ชวนก็ได้พบกับนักเรียนที่ทำให้เขาต้องการที่จะพบตัวเธอมาตลอดทั้งคืน
เพราะว่าเขาได้เห็นเจี่ยนอีหลิงจากกล้องวงจรปิดในห้องสอบมาก่อน เขาจึงไม่ได้ประหลาดใจมากนักเมื่อตอนที่พบตัวเธอ
แต่ถึงกระนั้นเมื่อตอนที่เขาเห็นตัวเธอครั้งแรก เขาก็อดที่จะรู้สึกไม่ได้ว่าเด็กหญิงคนนี้ดูค่อนข้างจะ “ตัวเล็ก” ไปอยู่บ้าง
เจี่ยนอีหลิงมองไปยังชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อผ้าอย่างเหมาะสมและท่าทางใจดีที่อยู่ตรงหน้า เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใครและต้องการอะไรจากเธอ
เมื่อหัวหน้าฝ่ายวิชาการไปเรียกตัวเธอมานั้น เขาก็ไม่ได้อธิบายอะไร เพียงแต่บอกว่าให้เธอสุภาพให้มากไว้
“นักเรียนเจี่ยนอีหลิง คำตอบของเธอในการแข่งขันเคมีนั้นดีมากๆ เธอพอจะบอกฉันได้ไหมว่าเธอเรียนความรู้พวกนี้มาจากไหน”
เสียงของฉินชี่ชวนนั้นอ่อนโยน มีแต่ความอยากรู้อยากเห็น โดยไม่มีการเสแสร้งใดๆ
“หนังสือ บทความ วิดีโอ การทดลอง”
โดยพื้นฐานแล้วเจี่ยนอีหลิงย่อมพูดถึงช่องทางที่สามารถเรียนรู้ค้นคว้าหาข้อมูลได้ด้วยตัวเองอย่างอิสระ
“คำตอบของเธอนั้นเป็นไปได้จริงๆ” ฉินชี่ชวนยิ้มและแสดงความคิดเห็น
หัวหน้าฝ่ายวิชาการรับฟังแล้วก็ขมวดคิ้วแนบแน่น แล้วก็ขัดการสนทนาระหว่างเจี่ยนอีหลิงกับฉินชี่ชวนออกมาดังๆ “เจี่ยนอีหลิง เธอควรจะซื่อสัตย์ในเรื่องที่เธอทำ ไม่ต้องรอให้มีการสอบสวนขึ้นมา มันจะสายเกินไป”
หัวหน้าฝ่ายวิชาการกลัวว่ากรณีของเจี่ยนอีหลิงจะเปิดเผยขึ้นมาหลังจากนั้น ซึ่งจะทำให้เกิดสถานการณ์ที่น่าอึดอัดกับทุกๆคน
แทนที่จะรอให้เกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตและถูกคันพบในภายหลัง จะเป็นดีกว่าที่จะถือโอกาสสารภาพไว้เสียแต่เนิ่นๆ จะได้ระงับเรื่องราวเหล่านี้ไว้ล่วงหน้าเป็นการรักษาชื่อเสียงของโรงเรียน