“ชืออวิ้น ไม่ต้องกังวล แม่ได้ยืมเงินมาแล้ว” ป้าโม่กล่าวด้วยเสียงตื่นเต้น
“แม่ แม่ได้เงินนี้มาจากไหน” น้ำเสียงของโม่ชืออวิ้นมีทั้งความตื่นเต้นและเป็นกังวล
“ไม่ต้องกังวล นี่ไม่ใช่เงินกู้หน้าเลือด แต่เป็น…เพื่อนของแม่ให้ยืมเงิน”
“จริงเหรอ”
“จริง จริง เรามาเอาเงินนี้ไปหานักกฎหมายให้ดำเนินการกับไอ้ชั่วนั้นก่อน ฟังนะ ถ้าหากว่าเราชนะ เงินนี้ก็จะคืนให้กับเรา ถ้าเป็นอย่างนั้นแม่ก็จะสามารถที่จะเก็บเงินไว้ให้ลูกเมื่อตอนที่ลูกเข้ามหาวิทยาลัยได้ เพื่อที่ลูกจะได้ไม่ต้องทำงานหนัก”
“อื้อ” ความมืดมนบนใบหน้าของโม่ชืออวิ้นถูกปัดเป่าทิ้งไป คิดว่า “ ฉันจะจ่ายเงินคืนแม่เมื่อตอนฉันทำงานในอนาคต”
เมื่อรู้ว่าปัญหาได้ถูกแก้ไขแล้ว โม่ชืออวิ้นก็รีบติดต่อกับชิวหยีเจน
เมื่อมีเงินแล้วทุกอย่างที่เธอต้องการก็คือนักกฎหมายที่พึ่งพาได้ที่จะให้ความมั่นใจว่าการดำเนินการหย่าร้างจะเป็นไปได้อย่างราบรื่น
ความเป็นไปได้ที่พวกเธอจะชนะด้วยความช่วยเหลือของนักกฎหมายนี้ยังถือว่าค่อนข้างสูง ตราบเท่าที่พวกเธอสามารถแสดงหลักฐานว่าเหอเจี่ยนจวินได้แยกทางไปเป็นเวลาหลายปีและไม่เคยประพฤติตัวให้การเอาใจใส่เลี้ยงดูโม่ชืออวิ้น ศาลก็จะตัดสินให้พวกเขาหย่าร้างอย่างราบรื่น
และเหอเจี่ยนจวินก็ไม่ควรจะมีเงินที่จะจ้างนักกฎหมายที่ดีๆได้
หลังจากที่ติดต่อชิวหยีเจนแล้ว โม่ชืออวิ้นก็มองไปยังชื่อของเจี่ยนหยุ่นน่าวในรายชื่อติดต่อของเธออย่างลังเล
สุดท้ายเธอก็ยังคลิกลงไปบนชื่อนั้น ป้อนข้อความแล้วก็ส่งมันออกไป
[ก่อนหน้านี้ผลการแข่งขันเคมีก็ได้ออกมาแล้ว อีหลิงได้อันดับแรก หยุ่นน่าว ฉันรู้สึกว่าบางครั้งการเอาใจมากเกินไปจนถึงขั้นที่ว่าไม่แยกแยะว่าดีหรือชั่วไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีหรอกนะ แน่นอนว่าฉันเป็นคนนอก ดังนั้นฉันจึงพูดมากเกินไปไม่ได้]
ผลการเรียนในวิชาเคมีของเจี่ยนอีหลิงจะเป็นอย่างไรนั้น เจี่ยนหยุ่นน่าวกับโม่ชืออวิ้นรู้กันเป็นอย่างดี
โม่ชืออวิ้นรอเป็นเวลานานแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากเจี่ยนหยุ่นน่าว
แน่นอนว่าเจี่ยนหยุ่นน่าวได้รับข้อความจากโม่ชืออวิ้น
เมื่อดูข้อความนี้แล้ว ถ้าเป็นเขาคนเดิม เขาก็จะต้องเชื่อในทันที
แต่จากบทเรียนครั้งสุดท้ายยังคงแจ่มชัด ทำให้เขาไม่สามารถที่จะเชื่อคำของโม่ชืออวิ้นได้ในทันที
ในตอนนี้ เจี่ยนหยุ่นน่าวอยู่ที่ห้องทำงานของเจี่ยนหยุ่นเฉิง ซึ่งห้องทำงานของเจี่ยนหยุ่นเฉิงนั้นกว้างพอที่จะวางโต๊ะสำหรับคนสองคน
เจี่ยนหยุ่นเฉิงนั้นสวมเสื้อชุดสูทสีดำและกำลังเครียด
เจี่ยนหยุ่นน่าวส่งข้อความต่อไปให้กับเจี่ยนหยุ่นเฉิง ที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับงาน
เจี่ยนหยุ่นเฉิงเหลือบดูข้อความ แสยะยิ้ม แล้วก็ถามเจี่ยนหยุ่นน่าวว่า “นายคิดว่าข้อความที่เธอส่งมามีความหมายว่ายังไง”
ข้อความของโม่ชืออวิ้นที่พูดเอาไว้ว่า “การเอาใจมากเกินไปจนถึงขั้นที่ว่าไม่แยกแยะว่าดีหรือชั่ว” นั้น ค่อนข้างจะคลุมเครืออยู่บ้าง ประโยคนี้มีความหมายซ่อนอยู่มากมาย
เจี่ยนหยุ่นน่าวก้มหน้าลง รับรู้ถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ในนั้น แต่ความจริงที่เขารับรู้ได้นั้นทำให้หัวใจเขาปวดร้าว
หลังจากที่นิ่งเงียบไปเป็นเวลานาน เจี่ยนหยุ่นน่าวก็พูดออกมาตามความเป็นจริง ตามความคิดของเขา “เธอพูดว่าเซี่ยวหลิงไม่มีความสามารถมากพอที่จะได้รับอันดับหนึ่งในการแข่งขันเคมี แต่ว่าเธอก็ได้รับมัน บางทีอาจจะเป็นพี่ใหญ่หรือพ่อแม่ที่ช่วยเซี่ยวหลิงอยู่เบื้องหลัง”
เสียงของเขาค่อนข้างขื่นขม แต่สุดท้ายเขาก็ต้องพูดออกมา
“ถ้างั้นพี่ใหญ่คนนี้จะขอบอกนายให้ชัดเจนว่า พี่ชายคนนี้ไม่เคยได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว พ่อแม่ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว แม้กระทั่งปู่กับย่าก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว กับการแข่งขันเคมีของเซี่ยวหลิง นายจะเชื่อพี่ใหญ่หรือว่าจะเชื่อเธอ”
“ผมเชื่อพี่ใหญ่”
ระหว่างโม่ชืออวิ้นที่เขาสูญเสียความเชื่อใจไปแล้วกับพี่ชายคนโตของเขา เจี่ยนหยุ่นเฉิง ทางเลือกของเขานั้นชัดแจ้ง
แต่ในขณะที่เขากำลังเลือกข้างอยู่นั้น หัวใจของเขาก็ยิ่งปวดร้าว
เพราะว่าทางเลือกนี้หมายความว่าโม่ชืออวิ้น ผู้ที่เคยได้รับความเชื่อใจด้วยภาพลักษณ์อันสมบูรณ์แบบในจินตนาการของเขานั้นได้แตกสลายไปจนสิ้น