“หัวหน้าน้อยฉิน ไม่ใช่ว่าคุณมาที่นี่เพื่อที่จะหาคนรักคนแรกกับลูกของประธานใหญ่ฉินเหรอครับ เจี่ยนอีหลิงนั่นดูยังไงก็ไม่ใช่ลูกของท่านประธานใหญ่ฉินทันทีที่เห็นนะครับ” ผู้ช่วยถามเสียงเบาๆ
ฉินชี่เชวนเป็นคนในตระกูลสาขาของตระกูลฉินในเมืองหลวง และมีความสัมพันธ์ฉันญาติกับผู้นำตระกูลฉินคนปัจจุบัน
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนสายตรงของตระกูลฉิน แต่ตัวตนของเขาก็ไม่ธรรมดาสำหรับคนส่วนใหญ่ในเมืองเหิงเหย่วนแล้ว
ครั้งนี้ฉินชี่เชวนมาที่เมืองเหิงเหย่วน การจัดการเรื่องการแข่งขันนั้นเป็นเรื่องรอง จุดประสงค์หลักก็คือช่วยญาติของเขา ผู้นำตระกูลฉินหาคนรักคนแรกกับลูกนอกสมรสของเขา
เพราะว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่เชิดหน้าชูตา ดังนั้นเรื่องการหาแม่และลูกจึงต้องดำเนินการเป็นความลับและเงียบเชียบโดยตระกูลสาขาของตระกูลฉินของเขา
ฉินชี่เชวนพูดว่า “แต่เจี่ยนอีหลิงนี้เป็นอัจฉริยะหายากจริงๆ ไม่ว่าอย่างไรเราก็ยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับคนในช่วงเวลานี้ เราก็จะต้องอยู่ที่เมืองเหิงเหย่วนนี้ไปอีกสักพักหนึ่ง ช่วงเวลานี้ถ้าเราสามารถหาอัจฉริยะที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรธุรกิจของเรามาเข้าร่วมก็นับว่าเป็นการเก็บเกี่ยวที่ดีเหมือนกัน”
“หัวหน้าน้อยฉินพูดถูก”
“คนที่ส่งไปยังที่อยู่ตามที่หัวหน้าใหญ่ฉินพูดถึงกลับมาหรือยัง”
“เขากลับมาแล้ว แต่โชคร้ายที่นั่นได้เปลี่ยนเป็นคนอื่นอาศัยอยู่แทนนานแล้ว มันนานนับสิบปีจนไม่มีใครที่นั่นสามารถที่จะจดจำผู้หญิงคนนั้นได้ มีเพียงคนแก่คนเดียวที่พูดว่าเธอได้เห็นหญิงคนนั้นที่กำลังท้องโต ดูเหมือนว่าที่เธอท้องน่าจะเป็นเรื่องจริง”
ฉินชี่เชวนพยักหน้า “น่าจะใช่ โอ ฉันได้ยินมาว่านายท่านของตระกูลจ๋ายก็อยู่ในเมืองเหิงเหย่วนตอนนี้เหมือนกันใช่ไหม”
“ครับ เมืองเหิงเหย่วนช่วงนี้ค่อนข้างคึกคัก ทั้งตระกูลฉินกับตระกูลจ๋ายต่างก็พากันอยู่ที่นี่”
“หัวหน้าน้อยฉิน ผู้ใต้บังคับบัญชาของผมได้ยินมาว่าที่นายท่านเชิ่งมาที่เมืองเหิงเหย่วนครั้งนี้ก็เพื่อมองหาอะไรบางอย่าง”
“หาอะไรบางอย่างเหรอ”
“ดูเหมือนว่าจะเป็นของที่เกี่ยวข้องกับการตายของพ่อของเขา”
“ถ้างั้นพวกเราก็อย่าเข้าไปยุ่ง คนภายนอกไม่ควรจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องนั้น”
ฉินชี่เชวน บอกผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ให้เข้าไปแตะต้องในเรื่องนั้น
ทุกคนต่างก็รู้ว่าเหตุการณ์นี้หนักหนาเพียงไหนสำหรับตระกูลจ๋าย
###
เมื่อตอนที่โรงเรียนเลิกยามเย็น เจี่ยนอีหลิงก็ออกมาจากประตูโรงเรียน แต่เธอไม่เห็นรถของเธอหรือว่าย่าเจี่ยนเหมือนดังเช่นปกติ
สิ่งที่เธอเห็นกลับเป็นรถสปอร์ตสีเหลืองสด ที่ดึงดูดความสนใจของนักเรียนมากมายเพราะว่ามันมีสีสันสุดเจ๋งและมีรูปทรงที่น่าสนใจ
แม้กระทั่งอาจารย์ที่ออกมาจากโรงเรียนก็ยังไม่มีข้อยกเว้น
เจี่ยนอีหลิงจดจำคนขับรถได้เพียงแค่แวบมอง
เขาสวมแว่นตากันแดดและนั่งอยู่ในที่นั่งคนขับ
เมื่อเจี่ยนอีหลิงเดินไปยังรถ จ๋ายหวินเชิ่งก็พูดออกมาตรงๆว่า “ขึ้นรถ”
เจี่ยนอีหลิงมองดูเขาด้วยความสงสัยในแววตา
“ย่าของเธออนุญาตแล้ว หยูซีติดหนี้อาหารเย็นมื้อใหญ่เธอ” จ๋ายหวินเชิ่งดูเหมือนจะมองทะลุความสงสัยของเจี่ยนอีหลิง
ไม่ใช่ว่าย่าเจี่ยนไม่ได้มารับตัวเจี่ยนอีหลิงในวันนี้ก็เพราะว่าหยูซีติดหนี้เจี่ยนอีหลิง “งานเลี้ยงหรูหรา” ตอนที่เธอป่วยเป็นลำไส้อักเสบ
ในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านที่ดีที่ใกล้ชิดสนิทสนมและเห็นความสำคัญ หยูซี แน่นอนว่า ต้องรักษาสัญญา
เพราะว่าเจี่ยนอีหลิงยุ่งมาก หยูซีได้ถามเจี่ยนอีหลิงหลายครั้ง แต่ว่าเจี่ยนอีหลิงก็ไม่มีเวลาว่างในวันหยุด
หยูซีจึงต้องจัดงานในตอนค่ำของวันทำงาน
หลังจากที่หยูซีอธิบายเรื่องราวให้กับย่าเจี่ยน ย่าเจี่ยนก็ยอมเห็นด้วย
นี่ย่อมเป็นเพราะว่าหยูซีนั้นมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน้าของย่าเจี่ยน
งานไปรับตัวเจี่ยนอีหลิงนั้นตกเป็นหน้าที่ของจ๋ายหวินเชิ่งด้วยเหตุผลที่ไม่ทราบแน่ชัด
หลังจากที่ทราบเหตุผลแล้ว เจี่ยนอีหลิงก็ขึ้นไปบนรถของจ๋ายหวินเชิ่ง
ทันทีที่เจี่ยนอีหลิงขึ้นไปบนรถแล้ว จ๋ายหวินเชิ่งก็หมุนพวงมาลัยและเหยียบคันเร่ง รถก็สะบัดกลับทิศในทันที
หลังจากที่เสียงเครื่องยนต์คำรามกึกก้อง พวกเขาก็จากไป
สิ่งที่เหลือไว้ให้กับครูและนักเรียนอีกหลายคนที่ยังอยู่ที่ประตูโรงเรียนก็คือความคิดร้อยแปดพันเก้า
ชายคนนี้เป็นใครกัน เขาเป็นพี่ชายของเจี่ยนอีหลิงใช่หรือเปล่า
นี่หล่อเกินไปหรือเปล่า
เด็กสาวทุกคนต่างพากันอิจฉาอยู่ในใจ