สีสัน กลิ่นหอม และรสชาติเมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้วย่อมทำให้ผู้คนอดขยับนิ้วและน้ำลายสอไม่ได้
“ทานช้าๆ” เจี่ยนอีหลิงเตือน
“ได้” มุมปากของจ๋ายหวินเชิ่งนั้นยกขึ้นเล็กน้อย
ฉินชี่เชวนรู้สึกในใจว่าการได้เห็นฉากนี้นั้นเป็นอะไรที่เหนือกว่าความประหลาดใจ
แม้ว่าฉากนี้ดูเหมือนจะธรรมดาเป็นอย่างมาก แต่ถ้าผู้คนในเมืองหลวงเห็นเข้า เขาสามารถประเมินได้ว่าคนเหล่านั้นจะต้องปากอ้าตาค้าง
นายท่านเชิ่งผู้มีชื่อเสียงในเรื่องยากที่จะรับมือนั้นว่าง่ายขนาดนี้เลยเหรอเมื่อตอนเผชิญหน้ากับเด็กหญิงตัวเล็กๆ
ก่อนหน้านี้ ความสนใจที่ฉินชี่เชวนมีต่อเจี่ยนอีหลิงมากที่สุดก็คือความรู้ของเธอ
หลังจากช่วงเวลานี้แล้ว ความสนใจที่มีมากที่สุดพร้อมกับความสงสัยในตัวเธอนั้นกลายเป็นความสัมพันธ์ที่น่าอัศจรรย์ระหว่างเธอกับจ๋ายหวินเชิ่ง
นายท่านเชิ่งผู้ที่มีอารมณ์ร้ายที่สุดและยากที่จะรับมือมากที่สุดในเป่ยจิงกับเด็กหญิงอัจฉริยะจากเมืองเหิงเหย่วน กลายเป็นการผสมผสานที่น่าสนใจยิ่งนัก
เมื่อมองไปยังอาหารตรงหน้าจ๋ายหวินเชิ่ง หยูซีอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
“เทพหลิง ทำอาหารให้พี่ด้วยหรือเปล่า” เขาละโมบ
“กินอาหารโต๊ะจีนของนายไป”
ก่อนที่เจี่ยนอีหลิงจะทันได้พูดอะไร จ๋ายหวินเชิ่งก็ได้พูดขึ้นพร้อมกับทำตาเขียว ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายลงท้องไปด้วยความหวั่นเกรง
“ใช่ ใช่ ใช่ ผมมีโต๊ะจีนอยู่” หยูซีถอนสายตาของเขากลับคืนมาที่โต๊ะที่มีปลาตัวใหญ่และเนื้อที่เชฟของร้านอาหารได้เตรียมไว้ให้
ชีวิตของคนเราถูกลิขิตให้มีและไม่มีในหลายสิ่งหลายอย่าง
เห็ดย่างของเทพหลิง เขาเกรงว่าตัวเขาเองจะไม่มีวาสนาที่จะได้ลิ้มลอง
เจี่ยนอีหลิงก็นั่งลงเช่นเดียวกันและก็ตั้งอกตั้งใจรับประทานเนื้อของเธอ
ฉินชี่เชวนเห็นว่ามันเป็นเรื่องแปลกและน่าขบขัน “นายท่านเชิ่งชอบทานเห็ดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“ไม่นานมานี้” จ๋ายหวินเชิ่งลิ้มชิมรสอาหารในจานอร่อยที่เจี่ยนอีหลิงทำให้นี้อย่างไม่เร่งรีบ
หลังจากที่ฉินชี่เชวนดูด้วยความสนใจอยู่พักหนึ่ง ความสนใจของเขาก็ตกไปอยู่ที่เจี่ยนอีหลิงอีกครั้ง
เขามาพบกับจ๋ายหวินเชิ่งก็เพราะว่าตัวตนของอีกฝ่าย แต่ความสนใจของเขาที่มีต่อเจี่ยนอีหลิงนั้นมาจากใจของเขาอย่างแท้จริง
“นักเรียนเจี่ยนอีหลิง ผมอยากรู้ว่าเธอจะเลือกเมเจอร์อะไรในอนาคต” ฉินชี่เชวนถามอย่างสุภาพ
“ยา”
“เธอไม่คิดเรื่องวิทยาศาสตร์เคมีภัณฑ์บ้างเหรอ”
“ไม่คิด”
ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ไม่มีความลังเลใดๆ
ฉินชี่เชวนถูกปฏิเสธอย่างชัดเจน
“ความจริงแล้ว วิทยาศาสตร์เคมีภัณฑ์ก็มีแนวโน้มที่ดีเหมือนกันนะ” ฉินชี่เชวนต้องการที่จะโน้มน้าวเจี่ยนอีหลิงอีกครั้ง
หยูซีนั่งฟังอยู่ข้างๆเธอ อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
ฉินชี่เชวนคนนี้ดูเหมือนจะหลงไหลในพรสวรรค์ของเทพหลิง
เขาคิดพยายามโน้มน้าวเทพหลิงให้มุ่งเน้นไปทางด้านเคมีภัณฑ์ในอนาคต ดูเหมือนว่าเขาต้องการให้เธอทำงานในสถาบันวิจัยของพวกเขาหลังจากเรียนจบใช่ไหม
สถาบันวิจัยเคมีภัณฑ์เยวลี่นี้ไม่ใช่สถาบันธรรมดา ถ้าฉินชี่เชวนเป็นคนดูแล นั่นต้องไม่ใช่คนที่มีพรสวรรค์โดยทั่วไป
หยูซีพบว่าเทพหลิงดูเหมือนจะมีฝีมือที่ยอดเยี่ยมด้านอื่นอีกนอกเหนือจากการเล่นเกม
“ไม่” เจี่ยนอีหลิงปฏิเสธอีกครั้ง
ก็ยังไม่มีความลังเล
ฉินชี่เชวนไม่คาดคิดว่าตนเองจะถูกปฏิเสธอย่างเด็ดขาดแบบนี้
พูดตามหลักแล้ว อีกฝ่ายจะต้องรู้กาลเทศะบ้างถึงแม้ว่าจะปฏิเสธก็ตาม
ฉินชี่เชวนไม่ได้โกรธ นี่มีความหมายว่าเธอนั้นเป็นคนกล้าคิดกล้าทำ
หลังจากที่พูดกับเจี่ยนอีหลิงเป็นเวลานาน แต่เจี่ยนอีหลิงก็ยังปฏิเสธ ฉินชี่เชวนก็ได้แต่ยอมแพ้เป็นการชั่วคราว
แต่เขาก็ไม่ได้ยอมแพ้จริงๆ เจี่ยนอีหลิงยังคงเรียนอยู่ปีแรกของมัธยมปลาย และยังคงมีเวลาอยู่ก่อนที่เธอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อเลือกเส้นทางชีวิต
จากนั้นฉินชี่เชวนได้เชื้อเชิญจ๋ายหวินเชิ่ง เจี่ยนอีหลิง กับหยูซี ไปยังงานเลี้ยงมื้อเย็นการกุศลคืนวันหยุดสุดสัปดาห์
“หัวหน้าน้อยฉินมาเยือนเมืองเหิงเหย่วนนี้ไม่มีเวลาว่างเลยนะ คุณต้องจัดทั้งการแข่งขันเคมีและงานเลี้ยงอาหารค่ำการกุศลอีก” จ๋ายหวินเชิ่งเย้ยหยัน
—————————————