“ให้ใครสักคนไปหาพลาสเตอร์กันน้ำมาให้นาย” ของแบบนี้ไม่มีในกล่องปฐมพยาบาลของตระกูลหยู
นับตั้งแต่ต้นจนจบ ท่าทางของเจี่ยนอีหลิงนั้นเยือกเย็นหนักแน่น
สำหรับเธอแล้ว นี่ไม่ได้มีความแตกต่างระหว่างจ๋ายหวินเชิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอกับคนไข้อีกหลายร้อยคนที่เธอเคยรักษามาก่อนหน้านี้
ร่างกายท่อนบนของเขาก็เป็นเพียงแค่ร่างกายธรรมดาทั่วไป
ในทางกลับกัน เป็นจ๋ายหวินเชิ่ง ผู้ชายตัวโตที่หูแดงไปถึงสองครั้ง
เมื่อบอดี้การ์ดของจ๋ายหวินเชิ่งได้ยนิคำพูดของเจี่ยนอีหลิง เขารีบให้คนไปซื้อพลาสเตอร์กันน้ำทันที
เจี่ยนอีหลิงบอกจ๋ายหวินเชิ่งด้วยน้ำเสียงคำแนะนำของหมอ “ครั้งหน้าระวังตัวบ้าง”
“อื้อ” จ๋ายหวินเชิ่งตกลง
“ดูแลอาการบาดเจ็บนี้ให้ดี”
“อื้อ” จ๋ายหวินเชิ่งก็ให้คำสัญญาอย่างดี
เมื่อหยูซีได้ยินอย่างนี้ เขาก็เกือบจะร้องไห้
อมิตพุทธ พระเจ้าอวยพร เขาซาบซึ้งมากที่นายท่านเชิ่งให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
จากนั้นหยูซีก็ถามเจี่ยนอีหลิงด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “เทพหลิง ทำไมน้องไม่กลัวตอนที่น้องเช็ดหลังให้กับนายท่านเชิ่ง”
หยูซีจำได้ว่าเทพหลิงนั้นต่อต้านการเข้ามาสัมผัสใกล้ชิดจากคนอื่น
“คนป่วยไม่เป็นไร”
เจี่ยนอีหลิงนั้นไม่คุ้นเคยที่จะมีความสัมพันธ์ระหว่าง “คน” แต่คุ้นเคยกับความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ป่วย เจี่ยนอีหลิงก็จะรับบทเป็นหมอ สิ่งที่เธอต้องการทำนั้นก็คือการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับผู้ป่วย
ในตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องทำเหมือนกับว่าเขาเป็น “คน” ที่มีความรู้สึกนึกคิด เธอเพียงแค่ต้องการที่จะช่วยอีกฝ่ายตามความรู้ของเธอเอง
ดังนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ไม่ว่าหัวใจจะยังเต้นอยู่หรือไม่ ไม่ว่าจะมีเสื้อผ้าสวมใส่อยู่หรือไม่ เธอก็ไม่กลัวหรือต่อต้าน
เมื่อได้ยินคำตอบจากเจี่ยนอีหลิง หยูซีก็อยากที่จะหัวเราะ เพราะว่านายท่านเชิ่งเป็นผู้ป่วยหรอกเหรอที่ทำให้เธอไม่รู้สึกต่อต้าน
แต่ทันทีที่เขากำลังจะอ้าปากหัวเราะ เขาก็พลันเห็นดวงตาเย็นชาของนายท่านเชิ่ง เสียงที่จะออกมาจากปากจึงหยุดทันที
หยูซีพึมพัมในใจ – เกิดอะไรขึ้นกับนายท่านเชิ่ง หน้าตาดูไม่ได้
###
เมื่อวิดีโอของเจี่ยนอีหลิงกับเจี่ยนหยุ่นน่าวทะเลาะกันนั้นถูกเปิดเผย สถานการณ์ของเจี่ยนอีหลิงที่โรงเรียนนั้นก็เปลี่ยนไปมาก
ในห้องเรียนก่อนหน้านั้น แทบไม่มีคนที่ยินดีจะเริ่มต้นพูดคุยกับเจี่ยนอีหลิงก่อน ยกเว้นหูเจียวเจียว เพื่อนร่วมโต๊ะ หลิวเหวิน กรรมการนักเรียน
ตอนนี้ทุกคนรู้ว่าพวกเขาเข้าใจผิด พวกเขาก็ปฏิบัติกับเจี่ยนอีหลิงอย่างอบอุ่นมากขึ้น อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้หลีกเลี่ยงเธอเหมือนแต่ก่อน
บางคนก็ยังถือโอกาสเริ่มต้นแสดงตัวต่อหน้าเจี่ยนอีหลิง
แต่ความกระตือลือล้นของพวกเขานั้นก็อยู่ได้ไม่นาน ในเมื่อพวกเขานั้นล้วนพ่ายแพ้ให้กับสีหน้าเฉยเมยของเจี่ยนอีหลิง
แต่อย่างน้อยก็ไม่มีใครแอบนินทาลับหลังเจี่ยนอีหลิงว่าเธอเป็นคนใจร้าย
แม้ว่าสำหรับนักเรียนส่วนใหญ่แล้ว เจี่ยนอีหลิงยังคงไม่ง่ายที่จะเข้าหา
เมื่อโม่ชืออวิ้นไปถึงโรงเรียนในวันต่อมา ชูชาก็มาหาเธอแล้วกระซิบกับเธอว่า
“เธอรู้ไหม คนที่ดูแลสถาบันเคมีภัณฑ์เยวลี่ที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งเคมีนั้นเป็นคนในตระกูลดังของเป่ยจิง ฉันก็ได้ยินมาว่าเพราะว่าอำนาจของสถาบันวิจัยเคมีภัณฑ์เยวลี่ การแข่งขันที่พวกเขาจัดนี้ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยหลัก”
ชูชาไม่รู้ว่าไปได้คำร่ำลือพวกนี้มาจากไหน
“เอ้อ” โม่ชืออวิ้นตอบ
เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่รู้สึกแย่แม้แต่น้อยในใจ
ก้าวเดียวเท่านั้นก็จะได้เงิน 30,000 หยวนและได้ติดรายชื่อด้วย
รสชาตินี้ไม่ง่ายนักสำหรับทุกๆคน
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเงิน 30,000 หยวนนั้นมีความหมายพิเศษสำหรับโม่ชืออวิ้น