หลังจากที่ฟังคำพูดของฮั่วอวี้ เจี่ยนอีหลิงตัดสินใจวางสายโทรศัพท์
ไม่นานนักโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้งด้วยหมายเลขเดิม
เจี่ยนอีหลิงรับสายอีกครั้ง
“เซี่ยวหลิงหลิง ทำไมน้องถึงใจร้ายกว่าพี่ชายของเธออีก ที่ต้องการก็แค่ให้เธอเรียกพี่ว่าพี่ชาย ทำไมมันยากมากนักหรือไง”
ฮั่วอวี้อดไม่ได้
พี่ชายเหี้ยมน้องสาวโหดพอกัน
เขาเป็นหนี้พี่ชายน้องสาวคู่นี้ในชาติก่อนมากเท่าไหร่กัน
ฮั่วอวี้ได้แต่สารภาพจุดประสงค์ที่เขาโทรมาหาด้วยตัวเองหลังจากที่ถูกเจี่ยนอีหลิงผู้โหดเหี้ยมวางสายโทรศัพท์อีกครั้ง
“เซี่ยวหลิงหลิง พี่ชายอวี้ไม่ได้โทรมาล้อเธอเล่น นี่เป็นธุระ พี่เพิ่งเห็นเน็ตมืดให้รางวัลเรื่องน้อง มีคนยอมจ่ายหมื่นหยวนจริงๆเพื่อเป็นรางวัลให้แกล้งเพื่อนร่วมโต๊ะของน้อง สั่งสอนเพื่อนร่วมโต๊ะของน้องสักบทเรียนหนึ่ง และต่อไปจะได้อยู่ห่างจากน้อง นั่นไม่ใช่พี่พูดนะ นั่นเป็นรางวัลของเว็บมืด”
“แน่นอน พี่ได้ช่วยเธอหาที่อยู่ของคนที่ให้รางวัล และส่งข้อมูลไปยังโทรศัพท์ของน้องแล้ว พี่ได้ยกเลิกรางวัลนั้นให้เธอด้วยเหมือนกัน”
ฮั่วอวี้นั้นเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ และสามารถจัดการได้อย่างหมดจดภายในไม่กี่นาที
พฤติกรรมของฮั่วอวี้สร้างความประหลาดใจให้กับเจี่ยนอีหลิง
เธอรู้ว่าฮั่วอวี้นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ แต่ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะชักจูงเขาเข้ามา
หลังจากที่เจี่ยนอีหลิงเงียบไปชั่วขณะ เธอก็ขอบคุณเขา “ขอบคุณ”
ขณะที่เจี่ยนอีหลิงกับหลัวซิ่วเอินกำลังคิดว่าจะหาตัวคนให้รางวัลอย่างไร ฮั่วอวี้ก็ส่งข้อมูลที่เขาพบมาให้พวกเธอ
“ด้วยความยินดี เธอไม่เป็นไรใช่ไหมตอนนี้”
“ไม่เป็นไร”
“คงไม่ดีถ้าน้องเกิดปัญหา พี่ชายเธอคงต้องฆ่าพี่แน่ เพื่อชีวิตของพี่ โปรดรักษาตัวให้ดี”
หากว่าเห็นสิ่งแบบนี้ในเน็ตแล้วไม่กำจัดทิ้งให้ทันเวลา เจี่ยนอีหลิงจะต้องตกอยู่ในอันตราย และฮั่วอวี้ก็รู้สึกว่าความตายของตัวเองก็คงจะอยู่ไม่ไกล
“อื้อ”
เจี่ยนอีหลิงยอมรับ จากนั้นเธอก็วางสายโทรศัพท์
แน่นอน ฮั่วอวี้ได้ส่งข้อความไปให้เจี่ยนอีหลิง
ข้อความนั้นมีที่อยู่ และข้อมูลของที่อยู่นั้น
หลัวซิ่วเอินโน้มตัวเข้ามาดู
“เจ้าของบ้าน ชิวลี่เย่า ใครกัน”
“ประธานโรงเรียนเชิ่งหัว”
ถ้าหมายเลขที่อยู่เป็นบ้านของชิวลี่เย่า ดังนั้นคนที่ทำเรื่องนี้จะเป็นใครนั้นย่อมเห็นได้อย่างชัดเจน
“อะไรนะ ประธานโรงเรียนของเธอนะเหรอ” ลั่วซิ่วเอินลุกเป็นไฟ “ไปกับพี่ ไปแพ่นกบาลเจ้าเลวนั่นกัน”
หลัวซิ่วเอินนั้นใจร้อน ถ้าเจอเรื่องไม่สบอารมณ์เป็นต้องต่อยตี
ถึงแม้ว่าเธอไม่สามารถตีอีกฝ่ายให้ตายได้ แต่เธอก็จะไม่ยั้ง
เจี่ยนอีหลิงดึงหลัวซิ่วเอินไว้ “ฉันจัดการเอง”
น้ำเสียงเจี่ยนอีหลิงนั้นมั่นคง สีหน้าของเธอก็ดูจริงจังเป็นพิเศษ
เรื่องของหูเจียวเจียวนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก แม้ว่ามันยังไม่ได้นำใปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงมากนัก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเรื่องนี้สามารถปล่อยผ่านไปได้ง่ายๆ
หลัวซิ่วเอินจ้องมองไปยังเจี่ยนอีหลิงชั่วขณะก่อนจะพูดว่า “ฉันรู้แล้ว”
แม้ว่าเธอจะเป็นห่วงเรื่องนี้ แต่เธอก็ยังเชื่อมั่นว่าเจี่ยนอีหลิงมีความสามารถในการจัดการเรื่องราวต่างๆของตัวเอง
พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงานในสถาบันวิจัย เชื่อมั่นในความสามารถของเพื่อนร่วมงานนั้นเป็นหลักการพื้นฐาน หากไม่สามารถเชื่อใจในความสามารถของเพื่อนร่วมงานแล้ว เช่นนั้นการร่วมมือก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้
“แต่อีหลิง เธอจะต้องมีการผ่าตัดในวันพรุ่งนี้ตอนบ่าย”
ถ้าเจี่ยนอีหลิงต้องการที่จะจัดการกับเรื่องนี้ตอนนี้ เธอก็อาจจะทำให้การผ่าตัดในวันพรุ่งนี้ล่าช้าออกไป
“อื้อ” เจี่ยนอีหลิงรู้แล้ว
แต่เธอยังต้องจัดการกับเรื่องนี้ก่อน
“เอ้อ เธอจัดการเรื่องเวลาด้วยตัวเองก็แล้วกัน”
หลัวซิ่วเอินเคารพทางเลือกของเจี่ยนอีหลิง
หลัวซิ่วเอินกลับไปแล้ว
ก่อนที่เธอจากไป เธอก็ได้ย้ำแล้วย้ำอีกว่าถ้ามีอะไรต้องการใช้เธอ ให้โทรศัพท์หาเธอ
อันดับแรกเจี่ยนอีหลิงกลับไปที่รถของบ้านและขอให้คนขับรถส่งเธอกลับไปที่บ้านก่อน
ระหว่างทางกลับบ้าน เจี่ยนอีหลิงเริ่มร่างข้อความ