เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 226

 

“อืมมม … “หลัวซิ่วเอินแตะคางของตัวเอง “วิธีที่นายพูดมานี้เป็นไปได้ งั้นเรามาทำตามนี้กันเถอะ”

 

“เฮ้อ” เฉิงอี้ถอนหายใจโล่งอกเฮือกใหญ่

 

เมื่อเจี่ยนอีหลิงนอนอยู่บนเตียง เธออดคิดไม่ได้ว่า ‘การผ่าตัดเสร็จสมบูรณ์และผลลัพธ์ก็ราบรื่น สิ่งเดิมๆจะเกิดขึ้นอยู่หรือเปล่า’

 

เจี่ยนอีหลิงไม่รู้ว่าเธอจะสามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตของเธอเช่นนี้ได้หรือไม่

 

แต่อย่างน้อย เจี่ยนหยุ่นน่าวก็จะไม่มีอารมณ์มืดมนและแปรปรวนตามที่เกิดขึ้นในหนังสือต้นฉบับ

 

ในเวลาเดียวกันเจี่ยนหยู่เจี๋ยก็ยังคงมองโลกในแง่ดีและเป็นบวกมาจนถึงตอนนี้

 

เธอก็ควรจะเปลี่ยนไปใช่มั้ย

 

เจี่ยนอีหลิงหลับไปอย่างงุนงงเพราะความเหนื่อยล้า

 

ในยามหลับ เจี่ยนอีหลิงได้ฝันถึงหอผู้ป่วยที่คุ้นเคย ซึ่งเป็นหอผู้ป่วยที่เจี่ยนอีหลิงเสียชีวิตตามหนังสือต้นฉบับ

 

แพทย์และพยาบาลเข้ามาดูเธอด้วยความเห็นใจในดวงตาของพวกเขา

 

เธอไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ประตูของหอผู้ป่วยก็เปิดออกและมีชายคนหนึ่งเข้ามา

 

เจี่ยนอีหลิงเห็นหน้าตาของชายคนนั้นอย่างชัดเจน ด้วยท่าทางยะโสและไม่มีวินัย

 

เขาก็คือจ๋ายหวินเชิ่ง

 

จ๋ายหวินเชิ่งยืนอยู่ข้างเตียงมองไปที่เจี่ยนอีหลิง

 

“ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นคนที่หมกมุ่นอยู่แต่ฉินชวน และในที่สุดก็ถูกตระกูลเจี่ยนขับออกจากบ้านภายใต้แรงกดดันของฉินชวน”

 

ทุกคนในเมืองหลวงรู้ดีว่าฉินชวน ทายาทคนปัจจุบันของตระกูลฉินโกรธมากกับเมืองเหิงเหย่วน

 

เพื่อปกป้องผู้หญิงอันเป็นที่รัก เขาจึงได้ยื่นคำขาดกับตระกูลเจี่ยน โดยขอให้พวกเขาตัดความสัมพันธ์กับเจี่ยนอีหลิง ผู้ที่พยายามทำร้ายโม่ชืออวิ้นคู่หมั้นของเขา ไม่เช่นนั้นเขาจะทำลายตระกูลเจี่ยนทั้งหมด

 

“นายเป็นใคร”

 

ด้วยเสียงที่อ่อนแออยู่แล้ว และไม่ได้ห่างไกลจากความตายมากนัก

 

“จ๋ายหวินเชิ่ง ฉันมีเรื่องราวที่จะต้องจัดการกับฉินชวนคนที่เธอรักและเกลียดมากที่สุดอยู่หลายเรื่อง วันนี้ฉันมาที่โรงพยาบาลจัดการธุระบางอย่าง และได้ยินมาว่าหอผู้ป่วยที่นี่มีผู้หญิงที่หมกมุ่นอยู่กับฉินชวนอาศัยอยู่ และก็ได้ยินว่าเธอนั้นใกล้ตายจากฉินชวนแล้ว จึงแวะมาดู”

 

“เป็นนายนี่เอง ฉันเคยได้ยินชื่อของนาย” ไม่มีอารมณ์เปลี่ยนแปลงใดๆบนใบหน้าซีดเผือดนั้น

 

ความตายอยู่ต่อหน้าเธอแล้วและไม่มีอะไรที่จะทำให้เธอเสียใจหรือมีความสุขได้

 

“ดูเหมือนว่าเธอคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เธอเสียใจที่มาถึงจุดนี้ไหม”

 

จ๋ายหวินเชิ่งถามหมอก่อนเข้ามา เจี่ยนอีหลิงเป็นมะเร็งในระยะสุดท้าย ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือได้

 

เจี่ยนอีหลิงมองไปที่จ๋ายหวินเชิ่งและค่อยๆพูดหลังจากนั้นไม่นานนัก “สิ่งที่ผิดทั้งหมดที่ฉันได้ทำในชีวิตนี้มีความเกี่ยวข้องกับความรัก ฉันผิดเอง ถ้าหากได้เริ่มชีวิตอีกครั้ง ฉันอยากเป็นใครสักคนที่ไม่เข้าใจความรักและครอบครัว ไม่รักใคร ไม่สนใจใคร”

 

 

“อีหลิง”

 

ความฝันของเจี่ยนอีหลิงเพียงดำเนินไปแค่ครึ่ง และก็ถูกปลุกด้วยเสียงของเฉิงอี้และดึงกลับสู่ความเป็นจริงในทันใด

 

“อีหลิงเป็นอะไรรึเปล่า มีเหงื่อออกที่หน้าผากเยอะเลย”

 

เฉิงอี้ปลุกเจี่ยนอีหลิง เมื่อเห็นเหงื่อเย็นที่หน้าผากของเธอ

 

เจี่ยนอีหลิงยกมือขึ้นแตะหน้าผากของเธอ เหงื่อเย็นเยียบจริงด้วย

 

“ไม่เป็นไร” เจี่ยนอีหลิงไม่ต้องการให้เฉิงอี้กังวลเกี่ยวกับตัวเอง และเธอก็สบายดีแล้วจริงๆ

 

เธอแค่ฝันแปลกๆ

 

###

 

ขณะที่เจี่ยนอีหลิงกำลังพักฟื้นอยู่ในสถาบันวิจัย เจี่ยนหยุ่นน่าวก็ตื่นขึ้นมาในหอผู้ป่วยของเขา

 

ประโยคแรกหลังตื่นนอนคือถามถึงสภาพมือของเขา

 

“การผ่าตัดเป็นไปด้วยดีไหม” เจี่ยนหยุ่นน่าวไม่สามารถซ่อนความกังวลใจของเขาไว้ได้

 

เจี่ยนชูฉิงรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้บอกกับลูกชายว่า “ประสบความสำเร็จ ราบรื่นมาก หมอบอกว่าการซ่อมแซมมือของลูกประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี หลังจากลูกฟื้นตัวจากการผ่าตัด ลูกก็ต้องทำการฝึกฟื้นฟูอีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง”

 

เมื่อได้ยินอย่างนี้ ดวงตาของเจี่ยนหยุ่นน่าวก็เต็มไปด้วยน้ำตา

 

เท่านี้เขาก็มีความสุขแล้ว

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset