เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 249-250

การทะเลาะกันระหว่างเจี่ยนอีหลิงและเจี่ยนหยุ่นน่าวเลวร้ายลง

“นายเป็นพี่ชายของฉัน แน่นอนว่านายจำเป็นต้องฟังฉัน ตอนนี้เธอหรือฉันสำคัญกว่ากัน”

“จะเทียบกันได้ยังไง เธอเป็นน้องสาวฉัน และซืออวิ้นก็เป็นเพื่อนฉัน เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ฉันจะอยู่ไม่ได้หากไม่ผูกมิตรกับเพศตรงข้ามบ้าง เธอทำตัวไม่มีเหตุผลอย่างนั้นไม่ได้”

“ยังไงก็ตาม ฉันไม่อนุญาต นายกำลังฆ่าฉันเพื่อเธออยู่ในตอนนี้ เธอมันนังแม่มด นังแม่มดที่คบหากับผู้ชายหลายคน ฉันไม่อยากให้เธออยู่บ้านฉัน ฉันจะไปบอกย่า ให้ส่งพวกหล่อนไป”

“เจี่ยนอีหลิงอย่ายุ่ง” เจี่ยนหยุ่นน่าวจับเจี่ยนอีหลิงไว้ “งานนี้สำคัญมากสำหรับชืออวิ้นและครอบครัวเธอ อย่าทำแบบนั้นเพราะความไม่พอใจ เพราะนั่นจะเป็นหายนะทำลายบ้านของพวกเขา”

“ฉันทำให้หายนะแล้วจะเป็นไง ฉันเป็นหญิงของตระกูลเจี่ยน ฉันไม่เข้าใจคนรับใช้แล้วทำไมฉันถึงไล่เธอออกไม่ได้ ฉันไม่จำเป็นต้องเห็นอกเห็นใจเธอ ฉันก็แค่เห็นว่าเธอขัดตา เจี่ยนหยุ่นน่าว ถ้านายยังจำน้องสาวของตัวเองได้ ก็ให้ตัดการติดต่อกับคนรับใช้ทันที มิฉะนั้นก็ไม่ต้องมานับฉันเป็นน้อง นายก็จะสามารถอยู่กับคนรับใช้คนนั้นไปได้ตลอดชีวิต”

ในคราวนี้เจี่ยนอีหลิงเกิดความรู้สึกกระวนกระวายอย่างมาก การทะเลาะกันนั้นทำให้หน้าตาของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ

เนื้อหาวิดีโอเล่นผ่านแต่ละฉาก

ความทรงจำก็ผ่านเข้ามาในใจ

เขาจำเนื้อหาของการทะเลาะกันได้ แต่ในตอนนั้นเขากระวนกระวายเกินกว่าจะจำรายละเอียดอื่นๆได้

ในที่สุดภาพก็มาถึงช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด

เขาเหยียบไปบนอากาศและกลิ้งลงบันได

“บูม—–“

ไม่มีเสียงในวิดีโอ แต่มีเสียงดังก้องอยู่ในใจของเจี่ยนหยุ่นน่าว

มีเสียงกระแทกดังขึ้นพร้อมกับเสียงกระจกแตก

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงตามมาที่มือของเขา…

“อา-อา-“

นั่นเป็นเสียงกรีดร้องของเจี่ยนอีหลิงที่รุนแรงและน่ากลัว

เธอกลัวจนทำอะไรไม่ถูก

เธอยืนนิ่งขึงอยู่ตรงนั้นไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร

วิดีโอทั้งหมดจบลงแล้ว

หัวใจของเจี่ยนหยุ่นน่าวเหมือนถูกยกขึ้นสูงจากนั้นก็ทิ้งลงอย่างรุนแรง

ความตกใจอย่างมากทำให้สมองของเจี่ยนหยุ่นน่าวไม่สามารถตอบสนองได้ชั่วขณะ

เขาตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง จ้องมองที่หน้าจออย่างว่างเปล่าราวกับว่าเขาถูกแช่แข็ง

ไม่มีใครอยู่ในห้องมีเพียงตัวเขาอยู่ตามลำพัง

เขาตกอยู่ในสภาพนี้อย่างเงียบๆเป็นเวลานาน

ใช้เวลาอีกนานในการเล่นวิดีโอซ้ำอีกสองครั้ง ก่อนที่เขาจะมีปฏิกิริยาและการกระทำใดๆ

โดยไม่รู้ตัว มีรอยน้ำตาเกิดขึ้นที่แก้มเขา

น้องสาวเขาไม่ได้ผลักเขาเลย ไม่เลย

เขาเป็นคนที่เหยียบไปบนอากาศด้วยตัวเอง และเขาก็ตกลงมาด้วยตัวเขาเอง

พวกเขามีข้อพิพาท มีการดึง และมีการสัมผัสทางกาย

แต่ในช่วงสุดท้าย เขาล้มลงอย่างนั้นก็เพราะเขากระวนกระวายจนเกินไปจนไม่ใส่ใจกับสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านหลังเขา

จากนั้น … ก่อนที่เขาจะ …

เมื่อนึกถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และนึกไปถึงฉากที่เจี่ยนอีหลิงถูกเขาทำร้ายอย่างผิดๆ ทั้งยังถูกเขาใช้กล่องอาหารกลางวันฟาดหน้าเธอด้วย

เจี่ยนหยุ่นน่าวรู้สึกเหมือนมีคนมาบีบคอของตัวเอง

รู้สึกหายใจไม่ออก รู้สึกว่าอากาศในปอดถูกระบายออกไปจนหมดแล้ว

เซี่ยวหลิง น้องสาว เขาทำอะไรลงไป

เขาทำอะไรกับน้องสาวของตัวเอง

###

เจี่ยนหยุ่นน่าวต้องการจะเห็นเจี่ยนอีหลิง

ความคิดนี้แข็งแกร่งมาก

แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่รู้ว่า…

เขาจะทำอะไรต่อไปหลังจากได้พบเจี่ยนอีหลิง แต่เขาก็รู้ว่าเขาต้องพบเธอให้ได้

เจี่ยนหยุ่นน่าวเรียกเจี่ยนหยุ่นเฉิงก่อนเป็นอันดับแรก

หลังจากเชื่อมต่อสาย เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ได้ยินเสียงสั่นเครือของเจี่ยนหยุ่นน่าว

“พี่ชาย ผม ผมอยากเห็นน้องสาว …”

เมื่อได้ยินเสียงสั่นเครือของเจี่ยนหยุ่นน่าว เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็รู้ว่าเขาได้เห็นวิดีโอแล้ว และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“นายพร้อมแล้วเหรอ”

ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้จะทำให้เจี่ยนหยุ่นน่าวได้รับผลกระทบอย่างหนัก

เขาต้องเตรียมพร้อม ไม่เพียงแต่อารมณ์ของตัวเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสถานการณ์ต่างๆที่เขาต้องเผชิญ เมื่อเขาไปพบกับเจี่ยนอีหลิง

“ผมพร้อมแล้ว”

“จะพานายไปที่บ้านเก่าคืนนี้”

การออกไปข้างนอกของเจี่ยนหยุ่นน่าวจะไม่ส่งผลต่อการพักฟื้นในภายหลัง

หากเขาต้องการออกไป เขาสามารถออกไปข้างนอกได้ทุกเมื่อ

ในคืนนั้นเจี่ยนชูฉิง เวินน่วน และเจี่ยนหยุ่นเฉิง ไปรับตัวเจี่ยนหยุ่นน่าว และทั้งสี่คนก็ไปรวมตัวกันที่บ้านหลังเก่าตระกูลเจี่ยน

จากนั้น พวกเขาก็ได้รู้จากสองผู้เฒ่าว่า เจี่ยนอีหลิงออกไปข้างนอกกับเจี่ยนหยู่เจี๋ยและหยูซีในวันนี้

เมื่อถามอย่างระมัดระวัง พวกเขาก็ตระหนักว่า วันนี้เป็นวันที่มีคอนเสิร์ตของวงจูปิเตอร์ในเมืองเหิงเหย่วน และเจี่ยนอีหลิงพร้อมกับคนอื่นๆก็พากันไปดูคอนเสิร์ตของจูปิเตอร์

หญิงชรายังบอกด้วยว่าเจี่ยนอีหลิงจะไม่กลับมาจนกว่าจะถึงเที่ยงคืนของคืนนี้

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สมาชิกทั้งสี่ในครอบครัวก็พากันผิดหวังเป็นอันมาก

โดยเฉพาะเจี่ยนหยุ่นน่าว ตั้งแต่ตอนที่เขาเข้ามาในประตู ศีรษะของเขาก็ตกห้อยลงครึ่งหนึ่ง และเขาก็ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมองย่าเจี่ยน

เจี่ยนชูฉิงขมวดคิ้วคิดสงสัยว่า ทำไมลูกสาวของเขาจึงไปอยู่ข้างนอกจนดึกดื่นขนาดนี้ แล้วจะกลับมาได้อย่างไร

แต่เมื่อคำพูดนี้มาถึงริมฝีปาก เขาก็ต้องกลืนมันกลับไปอีกครั้ง

เพราะเขาจะต้องถูกหญิงชราดุอย่างแน่นอนหากว่าเขาพูดเช่นนี้ และจะไม่มีทางที่เขาจะโต้แย้งได้

ตอนนี้พวกเขาไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของลูกสาว

ถ้าหญิงชราพยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาก็ไม่สามารถจะพูดอะไรได้

เจี่ยนหยุ่นเฉิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วโทรหาคนให้ซื้อตั๋วของจูปิเตอร์ให้เขา

จากนั้นหญิงชราก็ได้พูดอย่างสบายๆข้างๆเขา “อย่าคิดหวังเลย หลานรักกับคนอื่นๆได้ตั๋วของบรรดาญาติและเพื่อนที่หยู่หมินมอบให้ ถ้าเธอซื้อตั๋วเธอก็จะไม่เจอกับพวกเขาอยู่ดี เธอไม่เห็นพวกเขาหรอก”

หญิงชราไม่เห็นด้วยกับหลานชาย พวกเขาทำไปก็ไร้ประโยชน์

แต่เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ยังให้คนซื้อตั๋วสำหรับตัวเอง

และคำตอบที่เขามีต่อหญิงชราก็คือ “ผมก็อยากดูการแสดงของหยู่หมินเหมือนกัน”

หญิงชราหัวเราะอยู่ในหัวใจ คนโกหก เขาจะต้องการจะเห็นการแสดงคอนเสิร์ตของหยู่หมินเหรอ เขาไม่รู้จักดนตรีด้วยซ้ำ ไม่เคยฟังเพลงป๊อปตั้งแต่เด็ก ไม่ได้ดีเท่าหญิงชราในแง่นี้อีกต่างหาก แล้วต้องการไปฟังคอนเสิร์ตด้วยอย่างงั้นเหรอ

แต่หญิงชราก็ยังคงช่วยรักษาหน้าของเจี่ยนหยุ่นเฉิงไว้เล็กน้อย ไม่เปิดเผยเขาโดยตรง

เจี่ยนหยุ่นเฉิงซื้อตั๋วแล้ว

เจี่ยนหยุ่นน่าวต้องการไปกับเขา

เจี่ยนหยุ่นเฉิงไม่เห็นด้วย “มีคนมาดูคอนเสิร์ตหลายคนมาก สภาพมือของนายยังไม่เหมาะที่จะให้นายทำแบบนี้”

มือเขาได้รับการรักษาหลังจากความพยายามอย่างหนัก หากมือได้รับบาดเจ็บซ้ำจากการเบียดกันมากเกินไป นั่นก็จะยิ่งทำให้เสียใจมากยิ่งกว่านี้

เจี่ยนหยุ่นน่าวลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ยังยืนยันที่จะไป “ถ้าอย่างนั้นผมจะไปกับพี่และผมจะรอพี่ที่รถ”

เขาไม่เข้าไปข้างใน เขาเพียงแค่รอให้เสร็จ

ความดื้อรั้นของเจี่ยนหยุ่นน่าวเกิดจากความเสียใจ และความรู้สึกผิดที่เขารู้สึกท่วมท้นอยู่ในขณะนี้

เขาคงจะตายตาไม่หลับ หากไม่ทำอะไรเลย

“อย่างงั้นก็ได้” เจี่ยนหยุ่นเฉิงตกลงยอมให้เจี่ยนหยุ่นน่าวรอพวกเขาอยู่ในรถ

ดังนั้นพ่อแม่เจี่ยนจึงอยู่ที่บ้านเก่าพูดคุยกับย่าเจี่ยน ขณะที่เจี่ยนหยุ่นเฉิงพาเจี่ยนหยุ่นน่าวไปงานคอนเสิร์ตของจูปิเตอร์

ทั้งปู่เจี่ยนและย่าเจี่ยนสามารถเห็นได้ว่าลูกชายและลูกสะใภ้คนโตของพวกเขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะสนทนากับผู้เฒ่าทั้งสองเลย ดังนั้นพวกเขาจึงไล่พวกเขาให้กลับไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

หลังจากที่ทุกคนจากไปแล้วย่าเจี่ยนก็ถามปู่เจี่ยน

“ตาเฒ่า ว่ายังไง เซี่ยวน่าวจะขอโทษหลานรักได้ยังไง”

ย่าเจี่ยนยังคงกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก

“เธอถามฉันแล้วฉันจะไปถามใคร” ปู่เจี่ยนทำให้ย่าเจี่ยนโกรธ

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset