เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 353-354

大姐大 บทที่ 353 โม่ชืออวิ้นติดต่อเหอเยี่ยน

โม่ชืออวิ้นขาดเรียนไปสองสามวัน นอกจากต้องการหลีกหนีการนินทาที่โรงเรียนแล้วเธอก็ยังมีอย่างอื่นที่ต้องทำ

โม่ชืออวิ้นถือโอกาสนี้ไปพบเหอเจี่ยนจวิน เธอบอกเขาว่าเขาจะได้รับเงินเพียงเล็กน้อยจากการตามหลอกหลอนพวกเธอในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม เธอสามารถหาเงินได้มากขึ้นในอนาคต เมื่อเธอได้รับเงินนั้น เขาก็จะสามารถรับเงินจากพวกเธอได้มากขึ้น

โม่ชืออวิ้นรู้ว่าเหอเจี่ยนจวินไม่ต้องการอยู่กับพวกเธออย่างจริงใจ ถ้าเขาอยากอยู่กับพวกเธอจริงๆ เขาคงไม่หนีไปกับหญิงของเขาเมื่อหลายปีก่อน ย้อนกลับไปในตอนนั้น เขาได้ทิ้งพวกเธอปล่อยให้พวกเธอต้องดิ้นรนด้วยตนเอง

และด้วยเหตุนี้ เหตุผลที่ใหญ่ที่สุดประการหนึ่งที่ทำให้เขาต้องวุ่นวายก็คือเงินเท่านั้น

เหอเจี่ยนจวินมองดูลูกสาวที่ยืนอยู่ต่อหน้า เขาค่อนข้างประทับใจกับคำพูดของเธอ

เงินที่เจี่ยนหยุ่นเฉิงมอบให้เขานั้นมีจำนวนจำกัด แต่ทว่า หากลูกสาวเขาประสบความสำเร็จในอนาคต เขาก็จะมีเงินเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ตอนนี้เขาแก่แล้วหญิงของเขาก็ไม่ได้ให้กำเนิดบุตร

เขามีลูกสาวเพียงคนเดียว เขาสามารถพึ่งพาเธอได้เท่านั้นในอนาคต ถ้าเขาตาย โม่ชืออวิ้นจะเป็นคนเดียวที่ไปส่งเขา

ในที่สุดเหอเจี่ยนจวินก็เห็นด้วยกับโม่ชืออวิ้น เป้าหมายของเขาไม่ใช่การรบกวนภรรยาและลูกสาว เป้าหมายของเขาคือเงิน เขาเห็นด้วยกับเธอเพราะเห็นแก่เงิน ในอนาคต ย่อมมีเงินพอที่จะหล่อเลี้ยงเขา

แน่นอน โม่ชืออวิ้นไม่เคยวางแผนที่จะเป็น ATM สำหรับเหอเจี่ยนจวิน เธอเพียงต้องการควบคุมเหอเจี่ยนจวินในตอนนี้เท่านั้น

สำหรับในตอนนี้ เธอไม่สามารถปล่อยให้เหอเจี่ยนจวินสร้างปัญหาต่อไปได้

จากนั้นโม่ชืออวิ้นก็ติดต่อเหอเยี่ยน เธอบอกเหอเยี่ยนว่าตระกูลเจี่ยนรู้แล้วว่าเธอทำอะไรกับพวกเขา

โม่ชืออวิ้นรู้ดีว่าตอนนี้เธอมีอิทธิพลน้อยมาก และด้วยเหตุนี้ เธอจึงรู้ว่าเธอต้องทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของตนเอง

หลังจากได้ยินคำพูดของโม่ชืออวิ้นแล้ว เหอเยี่ยนก็รู้ได้ในทันทีว่า เหตุใดเวินน่วนจึงจ้องจับผิดเธอ

กลับเป็นว่า เวินน่วนรู้สถานการณ์ทั้งหมดแล้ว

เหอเยี่ยนโกรธมากเมื่อรู้เรื่องนี้

โม่ชืออวิ้นยังบอกเหอเยี่ยนว่าเธอได้ช่วยอีกฝ่ายยับยั้งเหอเจี่ยนจวินไว้ ยิ่งไปกว่านั้น ในอนาคตอันใกล้ เหอเจี่ยนจวินจะไม่ตามรังควานอีกฝ่าย

สิ่งนี้ทำให้เหอเยี่ยนทำการประเมินโม่ชืออวิ้นใหม่อีกครั้ง

โม่ฮุ่ยฉิงเป็นคนโง่ อย่างไรก็ตามลูกสาวเธอ ฉลาดกว่าอย่างเห็นได้ชัด

จากนั้นโม่ชืออวิ้นก็พูดกับเหอเยี่ยนว่า “ฉันต้องการให้คุณช่วย”

“ช่วยเธอเหรอ” เหอเยี่ยนถาม “เธอต้องการให้ฉันช่วยเหลือเธอยังไง

“อันดับแรก ให้เส้นสายกับเงินทุนในวงการบันเทิงแก่ฉัน คุณเคยอยู่ในวงการบันเทิง ฉันรู้ว่าคุณมีช่องทางติดต่อ คนรู้จัก และเงินทุนเพียงพอ”

“ไม่ใช่ว่าเธอได้รับความช่วยเหลือจากคุณนายเฉียนแล้วเหรอ” เหอเยี่ยนถาม เธอรู้เรื่องของโม่ชืออวิ้นค่อนข้างดี

“ไม่มีใครถือหากจะมีเงินทองมากไปกว่าที่มีอยู่ในตอนนี้” โม่ชืออวิ้นอธิบาย

นี่เป็นเพียงหนึ่งในเหตุผล อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ โม่ชืออวิ้นไม่สามารถเชื่อถือคุณนายเฉียนได้อีกต่อไป

“อืม ยุติธรรมดี เธอช่างคิดนะ” เหอเยี่ยนกล่าว เธอเข้าใจมุมมองของโม่ชืออวิ้น แล้ว “เอาล่ะ ฉันจะให้ช่องทางติดต่อกับทุนทั้งหมดแก่เธอ เพื่อช่วยในความก้าวหน้าของเธอในวงการบันเทิง ฉันหวังว่าเธอจะไม่ขาดความฝัน”

เหอเยี่ยนไม่ถือหากต้องช่วยโม่ชืออวิ้น ถ้าโม่ชืออวิ้นประสบความสำเร็จในวงการบันเทิง เธอย่อมช่วยเหอเยี่ยนได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต

โม่ชืออวิ้นพูดต่อ “ประการที่สอง ฉันต้องการให้คุณเตรียมการบางอย่างให้ฉันด้วย…”

โม่ชืออวิ้น บอกเหอเยี่ยนว่าเธอต้องการให้ช่วยทำอะไร

หลังจากโม่ชืออวิ้นพูดจบ เหอเยี่ยนก็หัวเราะ “เธอฉลาดกว่าแม่มาก”

เหอเยี่ยน ไม่คิดว่าเด็กที่เกิดจากคนงี่เง่าสองคน เหอเจี่ยนจวินและโม่ฮุ่ยฉิง จะฉลาดมาก

บทที่ 354 บอส มีคนบอกว่าบอสขโมยความคิดของ Dr.FS

“บอส บอสมีปัญหาแล้ว มีคนบนอินเทอร์เน็ตบอกว่าบอสลอกเลียนแบบศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียงมาก”

อันหยางโทรไปหาเจี่ยนอีหลิง เพื่อบอกเธอเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ต

ก่อนหน้านี้ อันหยางอารมณ์ไม่ดี อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังนับเจี่ยนอีหลิงเป็นบอส ดังนั้นเมื่อเขาเห็นบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเจี่ยนอีหลิง เขาก็ย่อมติดต่อเธอในทันที

“ขโมยความคิดใครเหรอ” เจี่ยนอีหลิงถาม

บทความทั้งหมด ถูกตีพิมพ์ด้วยตัวเธอเอง เธอไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร

“บอสลอกเลียนคนที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ให้ฉันดูมันแปบ” อันหยางกล่าว ภาษาอังกฤษของอันหยางแย่มาก โดยพื้นฐานแล้วเขาจำได้แค่ตัวอักษร 26 ตัวเท่านั้น “D, R, F, S สี่ตัวอักษร”

เจี่ยนอีหลิง “ …”

แล้วเจี่ยนอีหลิงก็ได้ยินเสียงพูดของลูกน้องของอันหยางพูดกับเขา จากอีกปลายสายโทรศัพท์ “พี่หยาง Dr. เป็นคำย่อของหมอ”

“ช่างมันสิวะ ยังไงฉันก็ไม่สนหรอก ไม่ว่ายังไงมันก็เป็ีคนนั้นอยู่ดี น่าจะเป็นหมอต่างชาติ”

อย่างไรก็ตามอันหยาง ไม่สนใจจะออกเสียงพยัญชนะสี่ตัวนี้ด้วยกัน

อันหยางพูดกับเจี่ยนอีหลิงต่อ “เออ เธอรู้จักคนนี้ไหม เธอลอกเลียนเขาจริงๆหรือเปล่า”

“ไม่ ฉันไม่ได้ทำ ไม่มีปัญหา” เจี่ยนอีหลิงตอบกลับอันหยาง

ในขั้นต้น ครั้งแรกที่เธอได้ยินอันหยางบอกว่าเธอลอกเลียนแบบ เธอคิดว่าเธอถูกกล่าวหาว่าลอกเลียนบทความวิชาการของคนอื่น ในชื่อ Dr.FS

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเป็นเธอเองลอกเลียนแบบ Dr.FS

“มันไม่เป็นปัญหาจริงเหรอ” อันหยางสงสัยในเรื่องราวนี้ ไม่รู้ว่า “ไม่เป็นไร” ของอีหลิงนั้นหมายความว่าเธอสบายดีจริงหรือเปล่า สาวๆมักจะพูดในสิ่งที่ตรงกันข้ามจากสิ่งที่พวกเธอรู้สึก

“ไม่เป็นไร” เจี่ยนอีหลิงย้ำ เธอไม่ได้ถือเรื่องนี้จริงจังนัก จากนั้นเธอก็วางสายและไปทำธุระอื่่น

ก่อนหน้านี้เธอยุ่งอยู่กับสองเรื่อง หนึ่งก็คือการติดตามการรักษาแม่ฉินชวน และอีกเรื่องก็คือสิ่งที่เธอสัญญากับอาจารย์เหลียง

แม้ว่าเจี่ยนอีหลิงจะไม่ได้ให้ความสนใจข่าวอย่างจริงจัง แต่ข่าวลือก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วฟอรั่มของโรงเรียนและอินเทอร์เน็ต

เนื่องจากมีหลักฐานมากมาย ผู้คนจำนวนมากจึงเริ่มวิพากษ์วิจารณ์เจี่ยนอีหลิง

เมื่อถึงเวลาที่เจี่ยนอีหลิงมาถึงโรงเรียนในวันจันทร์ ข่าวก็แพร่ออกไปแล้ว

อันหยางกำลังรอเธออยู่หน้าห้องเรียนในตอนเช้า

เมื่อเจี่ยนอีหลิงเห็นเขา เธอก็มองเขาด้วยสายตางุนงง

“มองอะไร ฉันถือว่าเธอเป็นบอส ฉันไม่สามารถเพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในขณะนี้ได้”

แม้ว่าน้ำเสียงของอันหยางจะไม่ค่อยอดทน แต่เขาก็ยังไม่ยอมจากไป

อ่านตอนล่าสุดที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com

เขาไม่ได้แค่เรียกเธอว่าบอส เขายินดีที่จะแสดงออกมาด้วยการกระทำ

ถ้าบอสมีปัญหา เขาก็ไม่สามารถเพียงแค่ซ่อนมันไว้ ถ้าเขาทำอย่างนั้น เขาจะกลายเป็นตัวตลก

“อือ”

“ทำไมเธอถึงพูดว่า อือ รีบพูดอะไรสักอย่าง อย่าเพียงแค่ไม่ทำอะไรอีก ทุกคนต่างก็พูดว่าเธอลอกเลียนแบบ”

อันหยางเป็นคนที่ตรงไปตรงมามาก เขาพูดสิ่งที่อยู่ในใจ เขาไม่ชอบวกวนอ้อมเป็นวงกลม

สุดท้ายเจี่ยนอีหลิงก็เปิดโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับเธอ และเธอก็เห็นเนื้อหาในโพสต์

เนื่องจากเจี่ยนอีหลิงต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยล่วงหน้า ก่อนหน้านี้เธอก็เริ่มส่งเอกสารโดยใช้ชื่อจริงของเธอ

เธอมีความมั่นใจว่าผลงานของเธอจะดูไม่เป็นมืออาชีพเกินไป อย่างไรก็ตาม เธอยังคงต้องทำให้แน่ใจว่าการส่งผลงานนั้นต้องอยู่ในระดับที่เกินอายุเธอ

ด้วยวิธีนี้ เจี่ยนอีหลิงต้องการผ่านเกณฑ์การรับเข้าเรียนก่อนอายุของมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในเอกสารของเธอก็ถูกแทนที่

มันถูกแทนที่ด้วยบทความที่เธอเคยตีพิมพ์ในชื่อ Dr.FS