大姐大 บทที่ 377 ช่วยให้เจี่ยนหยู่หมินชนะ 3
ขณะที่เจี่ยนอีหลิงอธิบายเหตุผล เจี่ยนหยู่หมินก็ยังคงตะลึงงัน
อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าการให้เหตุผลของน้องสาวนั้นถูกต้อง ทันใดนั้น หีบสมบัติก็เปิดออก
ครั้งนี้ นอกจากการ์ดคำใบ้แล้ว ยังมีเต็นท์อยู่ในหีบด้วย
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เจี่ยนหยู่หมินก็ดีใจ เขากังวลมากว่าน้องสาวจะหนาวในตอนกลางคืน
และตอนนี้เขามีเต็นท์แล้ว ไม่ใช่เต็นท์ที่เขาต้องทำด้วยมืออีกด้วย มันน่าเชื่อถืออย่างแน่นอน
ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ดต่างพากันสแปม [666]
[น้องสาวของหมินหยู่ IQ ดีกว่าเขามาก ฮ่าๆๆๆ]
[ตอนแรกฉันคิดว่าหมินหยู่จะเป็นคนนำน้องสาวเขา แต่ดูเหมือนว่า สิ่งที่ตรงกันข้ามกำลังเกิดขึ้น เธอเป็นคนนำหมินหยู่แทน หมินหยู่นำยากหรือเปล่า]
[จากนี้ไป ฉันจะเป็นแฟนความฉลาดของน้องสาวของหมินหยู่แทนที่จะเป็นหน้าตาของเธอ]
[ฉันมองตาเธอแล้ว ยืนยันว่าเป็นระดับไอคิวที่ฉันไม่มีวันไปได้ถึง]
[ฮ่าๆ นั่นเป็นระดับไอคิวที่หมินหยู่เข้าถึงไม่ได้เหมือนกัน]
เจี่ยนอีหลิงยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เธอยังคงค้นหาหีบสมบัติพร้อมกับเจี่ยนหยู่หมิน
เจี่ยนอีหลิงรู้ว่าเจี่ยนหยู่หมินต้องการชนะเหลือเกิน ดังนั้น เธอจึงต้องเปิดกล่องให้เพียงพอล่วงหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะชนะ
หลังจากศึกษาภาคก่อนหน้านี้แล้ว เจี่ยนอีหลิงรู้ว่าคำถามส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเรื่องของนักสืบ คณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ และประวัติศาสตร์
คำถามเหล่านี้ไม่ยากสำหรับเธอที่จะแก้
และด้วยเหตุนี้ สิ่งเดียวที่สามารถป้องกันพวกเธอไม่ให้ชนะก็คือถ้ามีคนอื่นได้แก้ไขปัญหาของหีบก่อนที่พวกเธอจะได้ทำ
เพื่อป้องกันสิ่งนี้ เจี่ยนอีหลิงตัดสินใจค้นหาหีบสมบัติในวันแรก
หลังจากนั้นอีกสิบห้านาที เจี่ยนอีหลิงและเจี่ยนหยู่หมินก็พบหีบสมบัติใบที่สามของพวกเขา
คราวนี้พวกเขาค่อนข้างโชคดี เป็นหีบสมบัติที่กำหนดให้ผู้เข้าร่วมรายการต้องทำอะไรบางอย่าง
คำอธิบายงาน [ร้องเพลง ‘ที่ราบสูงชิงไห่ – ทิเบต’ ลงในไมโครโฟน ผ่านที่ 90 คะแนน
งานนี้ต้องการให้คนสองคนร้องเพลงด้วยกัน
ซึ่งหมายความว่าเจี่ยนหยู่หมินต้องร้องเพลงคู่กับเจี่ยนอีหลิง
ผู้ชมตั้งหน้าตั้งตารอฟังการแสดงของพวกเขา
[ว้าว ฉันจะฟังเสียงโซปราโนของหมินหยู่ ฉันตั้งตารอคอยสิ่งนี้]
[เสียงโซปราโนของเขายอดเยี่ยมมาก{หัวใจแห่งรัก}]
[ฉันตั้งตารอคอยการร้องเพลงประสานเสียงของพี่น้องคู่นี้ สุดยอดไปเลย]
เจี่ยนหยู่หมินเหลือบมองเจี่ยนอีหลิง จากนั้นเขาก็เริ่มร้องเพลงอย่างมั่นใจ
เจี่ยนอีหลิงเปิดปาก เธอพยายามร้องตามเขาอย่างยากลำบาก
จากนั้น… บรรยากาศก็หยุดค้าง
เสียงร้องของเจี่ยนอีหลิง… น่าประหลาดใจ… อธิบายด้วยคำไม่กี่คำได้ยากมาก…
เธอไม่มีท่วงทำนองเลยแม้แต่น้อย
เจี่ยนหยู่หมินพยายามหลายครั้งเพื่อพาเจี่ยนอีหลิงให้เข้ากับท่วงทำนอง อย่างไรก็ตาม เขาล้มเหลวในการทำเช่นนั้น อันที่จริงเขาถึงเผลอหลุดท่วงทำนองออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำไป
ทันใดนั้น ภาพทั้งหมดก็เปลี่ยนไป
ความคิดเห็น [ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า] โผล่ขึ้นมาเต็มจอ
แม้ว่าพี่น้องสองคนจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ภาพก็น่ารักอย่างคาดไม่ถึง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเจี่ยนอีหลิงร้องเพลงได้ไม่ดี เธอจึงไม่สามารถได้ถึง 90
และด้วยเหตุนี้ในท้ายที่สุด ทั้งสองจึงทำได้เพียงสละหีบสมบัตินั้น เจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิงที่เปิดหีบสมบัติยากๆสองกล่องติดกัน ตอนนี้ต้องยอมแพ้กับหีบที่เปิดได้จากการเพียงแค่ร้องเพลง
[ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า] ความคิดเห็นพุ่งทะลุหน้าจอ
[โอ้ พระเจ้า หมินหยู่ล้มเหลวในการร้องเพลง นี่อาจจะเป็นอะไรที่เขาไม่เคยจินตนาการมาก่อน]
[เขามีพรสวรรค์ด้านดนตรีทั้งหมด กลับกันน้องสาวเขามีไอคิว]
[ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าช่างน่ารักเวลาเธอร้องเพลงผิดคีย์]
อ่านตอนล่าสุดที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com
ขณะที่เจี่ยนหยู่หมินปลอบโยนเจี่ยนอีหลิง พวกเขาก็ออกค้นหาหีบสมบัติที่เหลืออยู่ต่อไป
ในตอนเย็น พี่น้องสองคนสามารถไขหีบสมบัติได้ห้ากล่อง จากหีบเหล่านั้น พวกเขาได้รับเสบียงมากมาย
จากนั้นพี่น้องทั้งสองก็กลับมาที่ชายหาด และเริ่มตั้งเต็นท์สำเร็จรูปขั้นสูง
แขกรับเชิญคนอื่นๆตะลึงเมื่อเห็นว่าเจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิงประสบความสำเร็จ
ทำไมพวกเขาได้รับเสบียงมากมาย หรือว่าพวกเขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงหรืออะไรทำนองนั้น
บทที่ 378 เมื่อเผชิญกับไอคิวสูง ความกระตือรือล้นก็ไร้ค่า
“เดี๋ยวก่อน ตอนนี้ไม่ต้องมีรหัสผ่านสำหรับหีบสมบัติแล้วใช่ไหม”
ผู้ร่วมรายการคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะถามคำถามนี้
หากมีรหัสผ่าน จากความยากในการเปิดหีบในภาคที่ผ่านมา จะไม่เป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดหีบจำนวนมากได้เร็วขนาดนี้
“ไม่ ฉันเพิ่งเห็นหีบสมบัติเมื่อฉันออกไปเดินเล่นบนชายหาด คำถามบนหีบทำให้ฉันสงสัยถึงความเป็นไปของชีวิต ฉันได้แต่ยอมแพ้แล้วกลับมา”
ผู้เข้าร่วมรายการอีกคนตอบคำถามของคนอื่น
คำถามยังคงยากเหมือนเดิม กล่าวอีกนัยหนึ่งว่ายากอย่างบ้าคลั่ง
อย่างไรก็ตาม เจี่ยนหยู่หมินไม่ใช่เจี่ยนหยู่หมินคนเดิมอีกต่อไปจากตอนก่อนหน้านี้แล้ว
ราวกับว่าเจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิงกลายเป็นเจ้าของเกาะ
พวกเขามีเต็นท์ อาหาร และทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ
สิ่งเดียวที่ดาราคนอื่นๆทำได้ก็คือมองดูพวกเขาด้วยความอิจฉา ปากของพวกเขาถึงอยากจะน้ำลายหก
หลายคนได้กินแต่บิสกิตและขนมปังธรรมดาเป็นอาหารกลางวัน เมื่อพวกเขาเห็นอาหารที่ปรุงสุกอร่อยอยู่ในมือของเจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิง พวกเขาอดไม่ได้ที่จะน้ำลายไหล
โม่ชืออวิ้นและโม่ฮุ่ยฉิงก็เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มของเจี่ยนอีหลิง
พี่น้องคู่นี้สามารถได้รับเสบียงอย่างมากมาย นี่หมายความว่าพวกเขาได้เปิดหีบสมบัติจำนวนมาก และได้รับบัตรคำใบ้จากภายในหีบสมบัติเหล่านั้น
นี่ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับโม่ชืออวิ้น โม่ชืออวิ้นก็อยากจะชนะในครั้งนี้เช่นกัน
[คนที่บอกว่าเต็นท์ของโม่ชืออวิ้นแข็งแกร่งไปไหน ดูเต็นท์ของหมินหยู่สิ]
[เมื่อเผชิญกับไอคิวสูง ความกระตือรือล้นก็ไร้ค่า]
[ใช่ คนที่บอกว่าน้องสาวของพี่หมินหยู่เป็นภาระอยู่ตรงไหน ออกมาขอโทษเธอซะ หมินหยู่ไม่ได้เป็นคนพาน้องไป เขากำลังถูกน้องสาวพาไปต่างหาก พูดให้ถูกต้อง นอกจากร้องเพลงแล้ว เธอเก่งทุกอย่าง]
[บางคนต้องทำงานหนักเพื่อสร้างเต็นท์ แต่สุดท้ายก็ไม่เก่งเท่าคู่พี่น้องนี้ กลุ่มเหล่านั้นไม่สามารถตอบคำถามได้ในเวลาไม่กี่นาที]
แฟนๆของโม่ชืออวิ้นที่เคยเยาะเย้ยเจี่ยนหยู่หมินก่อนหน้านี้ ถูกเยาะเย้ยกลับ
อย่างไรก็ตาม แฟนๆของโม่ชืออวิ้นปฏิเสธที่จะยอมรับความคิดเห็นเหล่านี้
[เธอมีไอคิวสูงแล้วจะทำไม โม่ชืออวิ้นทำงานอย่างหนักด้วยตัวเองเพื่อที่จะเป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แม้ว่าเราจะไม่สามารถเอาชนะเธอได้ด้านไอคิว เราก็สามารถเอาชนะเธอได้ด้วยความพยายามที่เราทุ่มเทลงไป พวกนายรู้ไหมว่าเธอทำงานหนักแค่ไหน ถ้านายไม่รู้จักเธอ นายไม่มีสิทธิ์ตัดสินเธอ]
[ใช่ ฉันเห็นด้วย มันเป็นเพียงคำตอบที่ถูกไม่กี่ข้อ ไม่ใช่เหรอ โม่ชืออวิ้นก็สามารถไขคำถามเหล่านั้นได้เหมือนกัน เธอไม่จำเป็นต้องตอบคำถามผิดเสมอไป จะได้เห็นกันตอนที่ซืออวิ้นเริ่มเปิดหีบ]
[แน่นอนที่สุด ภาคก่อนหน้านี้ ซืออวิ้นได้เปิดหีบหลายหีบ หยุดทำตัวเหมือนหมินหยู่ดีที่สุดอะไรทำนองนั้นได้แล้ว พวกนายทำเหมือนว่าน้องสาวของหมินหยู่เป็นคนเดียวที่เปิดหีบสมบัติได้]
เจี่ยนหยุ่นน่าวได้ดูสตรีมสดด้วยในขณะนี้
เขารู้สึกโกรธเมื่อเห็นความคิดเห็นที่พูดไม่ดีเกี่ยวกับเจี่ยนอีหลิง
อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้สึกอิจฉาเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอีหลิงกำลังเปิดหีบอยู่กับเจี่ยนหยู่หมิน
ในที่สุด เขาก็รู้สึกเสียใจที่เห็นว่าเจี่ยนอีหลิงฉลาดและน่ารักเพียงใด
ไม่ว่าจะอย่างไร ใจเขาก็อยู่ไม่เป็นสุข
การดูสตรีมสดนั้นเหมือนกับการทำร้ายตัวเอง แต่เขาก็ยังถือโน๊ตบุคไว้ เขาไม่ยอมที่จะวางโน๊ตบุคลง
ชีวิตดำเนินต่อไป และการทำร้ายตนเองก็ยังคงดำเนินต่อไป
เมื่อเขาเห็นสงครามระหว่างแฟนๆ เจี่ยนหยุ่นน่าวตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะเข้าร่วม เขาเริ่มพิมพ์สิ่งต่างๆเพื่อสนับสนุนเจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิง
เมื่อคนอื่นสาปแช่งทั้งสองคน เขาก็โต้กลับความคิดเห็นของคนเหล่านั้นอย่างแข็งขัน
อันที่จริง มันทำให้ดูเหมือนว่าเขาเป็นแฟนตัวยงของเจี่ยนหยู่หมิน
ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนนี้ เขาสามารถใช้มือได้เพียงข้างเดียวในการพิมพ์ มืออีกข้างเขายังอยู่ในระหว่างการรักษาอยู่ แต่ทว่าเขาก็ยังพิมพ์ต่อไป
ขณะที่เจี่ยนหยุ่นเฉิงทำงาน เขาจะเหลือบมองที่หน้าจอของเจี่ยนหยุ่นน่าวเป็นระยะ ดูไปสังพักก็กลับไปทำงานของตัวเอง
เวินน่วนก็เฝ้าดูลูกสาวเธออยู่ในห้องถัดไปเช่นกัน เธอรู้สึกโล่งใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน
ขณะที่เจี่ยนชูฉิงดูสตรีมสด หัวใจเขาก็รู้สึกเปรี้ยวราวกับน้ำมะนาว ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างลูกสาวและหลานชายของเขาตอนนี้ดีกว่าพวกเขา