มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen)
ตอนที่ 50 : มาถึงที่หมาย
เวลา 19.23 นาฬิกา – ห้างสรรพสินค้าบาควร์, ทางเดินพนักงานฝั่งตะวันตก, ชั้นหนึ่ง
มาร์คเคาะประตูอย่างระมัดระวัง เขาเคาะเพียงแค่ครั้งเดียว และไม่เคาะให้เสียงดังจนดึงดูดพวกซอมบี้เข้ามา เสียงเคาะดังพอที่คนข้างในนั้นจะได้ยินและสะดุ้ง
หลังจากที่เขาเคาะประตู เขาก็ได้ยินเสียงเดินลากเท้าไปไปมา และเสียงกรีดร้องอู้อี้ เขาประเมินความแปรปรวนของอารมณ์คนที่อยู่ข้างในสองคนนั้น หนึ่งในนั้นก็ได้หดตัวอยู่ด้วยความหวาดกลัว ในขณะที่อีกคนหนึ่งก็กลัวเช่นกันแต่สามารถควบคุมอารมณ์ได้และพร้อมที่จะต่อสู้กับภัยอันตราย
เมื่อมาร์คประเมินอารมณ์ของพวกเขาทั้งสองคนเรียบร้อย มาร์คจึงได้พยักหน้าให้พอลลานั้นเรียกพวกเขา
“มีใครอยู่ในนั้นมั้ยคะ?”
พอลลาเรียกพวกเขาออกมาด้วยเสียงที่ดังขึ้นทีละนิด และเคาะไปที่ประตูสองครั้ง
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของพอลลา มาร์ครู้สึกสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงจากอีกด้านหนึ่งของประตู ทั้งสองคนนั้นรู้สึกดีใจ และตื่นเต้นเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงมนุษย์ด้วยกันซึ่งแตกต่างไปจากสิ่งที่พวกเขาคาดคิดไว้
ทั้งสองที่อยู่ด้านในนั้นก็ได้เข้ามาหาที่ประตูอย่างเร่งรีบและเปิดมันด้วยความเร็ว และพวกเขาทั้งสองนั้นต่างก็ตกใจที่เห็นมาร์ค และพอลลาถืออาวุธและสวมใส่ชุดเกราะพร้อมกับหมวกป้องกันที่มีสีเข้ากันกับชุดเกราะ
พอลลาดึงมาร์คและถลาถอยไปหลายก้าวออกจากประตู มาร์คนั้นรู้สึกว่าไม่เห็นจําเป็นต้องทําแบบนี้แต่เขาก็ยังปล่อยให้พอลลาทําต่อไป เมื่อประตูเปิดออกมา พอลลาและมาร์คก็เห็นว่าพวกเขาทั้งสองนั้นแอบซ่อนอยู่ข้างๆประตู ทั้งสองคนนั้นอยู่ด้วยกันเป็นคู่ นักเรียนวิทยาลัยชายและหญิงซึ่งทั้งคู่นั้นสวมชุดยูนิฟอร์มสีขาว ชุดยูนิฟอร์มที่ควรจะขาวสะอาดนั้นกลับเปอะเปื้อนสกปรกเต็มไปด้วยเลือด
นักเรียนชายได้ถือขวานยาวประมาณหนึ่งฟุตซึ่งเปื้อนเลือดอยู่ในมือ พร้อมกับจ้องมองไปที่มาร์คและพอลลาอย่างไม่ไว้ใจ นักเรียนหญิงนั้นกลับดูตื่นเต้นอย่างมาก แต่นักเรียนชายนั้นไม่ยอมปล่อย ให้นักเรียนหญิงออกมาจากประตู
“ทั้งสองคนเป็นใครกัน?”
นักเรียนชายถามออกมาโดยใช้น้ําเสียงโทนต่ํา
มาร์คไม่ได้พูดอะไรออกไป และมองไปที่พอลลาเพื่อให้เธอเป็นคนแนะนํา
“ พวกเราคือผู้รอดชีวิตที่ลงมาที่นี่เพื่อหายา เรารู้สึกได้ว่ามีคนอยู่ข้างในก็เลยลองตรวจสอบดูอีกทีน่ะ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่พอลลาพูด ความไม่ไว้ใจของนักเรียนชายนั้นก็ได้ลดลงไปบ้าง ในใจของเขานั้นก็มีแต่เสียงในหัวว่าลงมาที่นี่” และ “ยา” จากนั้นเขาจึงได้ถามออกไป
“คุณทั้งสองคนมาตรวจเช็คพวกเราเพื่อจะช่วยงั้นหรอ?”
“นั่นก็แล้วแต่ ถ้านายอยากให้ช่วยนะ พวกเราก็จะช่วยแต่ถ้าไม่ต้องการพวกเราก็จะไป”
เป็นมาร์คที่ตอบคําถามของนักเรียนนั้นด้วยท่าทีที่เฉยเมย เมื่อเห็นว่าพอลลาจ้องเขม็งไปที่เขา มาร์คก็ยักไหลใส่บ่งบอกว่าไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่
นักเรียนทั้งสองที่ยืนอยู่ที่ประตูก็ดูเหมือนไม่ได้ติดใจกับท่าที่ของมาร์คและพยักหน้า พวกเขาเดินออกมาจากประตู ความไม่ไว้วางใจของนักเรียนหญิงนั้นก็หมดไปแล้ว แต่นักเรียนชายยังคงรักษาความระมัดระวังของเขาเอาไว้
นักเรียนชายมองไปที่พอลลาและถามออกมา
“เกี่ยวกับสิ่งที่คุณพูดนะ พวกคุณสองคนมาจากชั้นบนใช่มั้ย? มีคนอื่นอยู่ด้วยหรอ?”
พอลลามองไปที่มาร์คก่อนจะตอบออกไป
“เขากวาดล้างพวกซอมบี้ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของชั้นสาม พวกเราก็เลยตั้งสถานที่หลบภัยที่นั่นพร้อมกับคนอื่นๆ”
พอลลานั้นไม่ใช่คนที่จะขโมยผลงานคนอื่น เธอจังพูดความจริงออกมาเพื่ออธิบายถึงความสามารถของมาร์ค มาร์ครู้สึกว่านั่นมันไม่จําเป็นและเขาก็ได้ถอนหายใจออกมา
นักเรียนทั้งสองคนนั้นมองไปที่มาร์คผู้ซึ่งสวมใส่เสื้อเกราะสีดํา และหมวกป้องกันและอุปกรณ์อาวุธอีกหลายอย่างบนตัวเขา ประกอบกับสิ่งที่ผู้หญิงอีกคนที่ใส่เสื้อเกราะนั้นพูดออกมา ดูเหมือนว่าเขานั้นจะเป็นคนที่แข็งแรงมาก จากนั้นพอลลาก็ได้พูดต่อ
“พวกคุณทั้งสองคนจะเอายังไง? พวกเรายังต้องหาต่อไป คุณมากับพวกเราก็ได้นะ หรือว่าพวกคุณสองคนนั้นจะไปที่หลบภัยของ พวกเราก่อนก็ได้”
“หรือไม่พวกคุณก็ซ่อนอยู่ข้างในนั้นอีกครั้งและรอจนกว่าพวกเราจะกลับ”
มาร์คพูดเสริม
“นายพาพวกเราไปที่หลบภัยก่อนไม่ได้หรอ?”
นักเรียนหญิงถามออกมาด้วยความกระสับกระส่าย มาร์คและพอลลาซึ่งเป็นคนที่พบพวกเขานั้นเห็นได้ชัดว่าพร้อมและสามารถที่จะต่อสู้กับพวกฝูงซอมบี้ และเด็กนักเรียนหญิงนั้นก็ไม่อยากที่จะแยกจากพวกเขาไปในสถานที่ที่ซึ่งยังไม่ปลอดภัยแบบนี้ เด็กนักเรียนชายซึ่งเข้าใจในสิ่งที่เด็กนักเรียนหญิงนั้นรู้สึกไม่ดีอยู่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปและรอแค่คําตอบของมาร์คและเหมย
“พวกเราไม่สามารถทําให้ได้หรอก สิ่งที่พวกเราต้องทํานั้นมันเร่งด่วนมาก พวกเราเสียเวลาอยู่ที่นี่เพื่อคุยกับพวกคุณเยอะมากแล้ว
มาร์คตอบกลับไปพร้อมกับยิงลูกศรไปยังซอมบี้นักกระหายที่กําลังเดินโซซัดโซเซเข้ามาทางพวกเขา เด็กนักเรียนทั้งสองคนนั้น เห็นถึงจุดจบของซอมบี้ตัวนั้น จากนั้นเองนักเรียนชายก็ได้จับขวานอย่างแนบแน่นพร้อมกับพูดออกมา
“ก็ดี ฉันจะตามพวกคุณไปด้วย ฉันรู้ว่าฉันคงช่วยอะไรได้ไม่มาก แต่ฉันก็สามารถปกป้องตัวเองและเพื่อนของฉันได้”
มาร์คมองไปที่พอลลาและพยักหน้าก่อนที่จะหันไปยังจุดมุ่งหมายของพวกเขาและเดินต่อไป
“ตามพวกเรามา อย่าให้หลุดออกไปล่ะ”
พอลลาบอกนักเรียนทั้งสองคนก่อนที่จะได้ตามมาร์คไป
“พวกเขาโอเคมั้ย?”
พอลลากระซิบไปที่มาร์ค
“ก็น่าจะโอเคนะ อย่างไรก็ตามเธอติดหนี้ฉันนะ”
พอลลาก็ได้แต่กังวลว่าเขาต้องการความช่วยเหลือแบบไหน แต่ก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้
เมื่อพวกเขาผ่านเข้าไปยังทางเดิน นักเรียนทั้งสองนั้นก็ได้เดินตามหลังมาร์คและพอลลาไป นักเรียนทั้งสองนั้นต่างก็รู้สึกที่งกับการต่อสู้ของมาร์คและพอลลา ไม่มีซอมบี้ตัวไหนเลยที่สามารถเข้ามาโจมตีมาร์คและพอลลาใกล้ๆได้ ในขณะที่พวกเขาทั้งสองคนนั้นเกือบจะล้มกับพื้นไปหลายหน ในขณะที่มาร์คและแองเจนั้นจัดการปราบพวกซอมบี้ได้หมด โดยคนที่นําทัพนั้นคือชายที่ใส่เสื้อเกราะสีดํา
“พวกคุณสองคนชื่ออะไรกัน?”
“ส่วนฉันชื่อแบรนดอน และเธอชื่อจูลี่”
“ฉันพอลลา และชายที่ไม่ชอบสุงสิ่งนั่นคือมาร์ค”
มาร์คผู้ซึ่งได้ดึงลูกศรออกจากหัวซอมบี้นักกระหายที่ตายไปแล้ว และหันไปหาพอลลา เขาไม่ได้พูดอะไรและหันหน้าไปมองคนที่อยู่ตรงกันข้าม เขาเดินไปข้างหน้าและหักขาของซอมบี้นักกระหายเพศหญิงอีกคนทําให้มันล้มลงกองไปกับพื้นและหักคอมันไปอีกหลายครั้ง มาร์คก็ไม่ได้ใช้ความสามารถสุดพลังในตอนนี้ ดังนั้นพลังในการต่อสู้ของเขาในตอนนี้ก็ไม่ได้ดูแข็งแรงอะไรมากนั้น
ในขณะเดียวกันนั่นมันก็ปกติสําหรับเขา การต่อสู้ของเขานั้นทําให้คนอื่นรู้ไม่ค่อยปลื้มใจเท่าไหร่
ในที่สุด หลังจากการต่อสู้เสร็จสิ้น กลุ่มพวกเขาก็มาถึงยังประตูสองบานที่เชื่อมกับห้องเก็บของของร้านขายสินค้าที่ใช้ไว้ขายยา พวกเขาแน่ใจว่านี่คือร้านขายยาแน่ๆเนื่องจากโลโก้ของร้านที่ได้โชว์
มาร์คพยายามบิดลูกประตูและเปิดมันเข้าไปแต่ประตูนั้นถูกล็อค พอลลาก็ได้แต่ขมวดเมื่อพวกเขานั้นไม่สามารถเข้าถึงร้านค้าอื่นๆได้ นอกจากประตูนี้ เว้นแต่ว่าพวกเขาต้องแงะประตูไปทางด้านหน้าของร้าน ซึ่งต้องพวกฝูงซอมบี้โจมตีอย่างแน่นอน เนื่องจากหน้าร้านนั้นเป็นที่เปิดกว้าง
ภายใต้สายตาของทั้งสามคน มาร์คจึงปลดล็อคกระเป๋าคาดเอวของเขาออกและหยิบเครื่องมือรูปร่างแปลกๆซึ่งทําด้วยเหล็กออกมาแห่งหนึ่ง เป็นแท่งโลหะแบนตรงปลายหยัก ส่วนอีกแห่งเป็นเครื่องมือรูปตัว “”
พอลลาก็ได้ประหลาดใจเมื่อเธอเห็นเครื่องมือเหล่านั้น เธอไม่ได้คาดคิดเอาไว้เลยว่ามาร์คนั้นจะรู้จักและพกเครื่องมือเหล่านี้มาด้วย เมื่อเขาได้เปิดประตูในโรงหนังที่ได้ถูกล็อคเอาไว้ เขาแงะประตูที่ล็อคนั้นไว้ด้วยมีด แต่ประตูนี้นั้นมีลูกกุญแจที่ไม่เหมือนกับประตูอื่นๆ เขาจึงไม่สามารถใช้วิธีเดิมที่จะเปิดมันได้
“นายรู้วิธีแงะประตูด้วยหรอ?”
พอลลาถามมาร์คด้วยความอยากรู้
“ฉันดีใจนะที่เธอมีความสนใจในเรื่องนี้ด้วย แต่เธอไม่คิดมั่งหรอว่าเธอถามฉันมากไปนะ?”
เมื่อได้ยินมาร์คตอบมาแบบนั้น พอลลาก็ไม่ถามเรื่องใดๆต่อไปอีก เธอทําได้แค่แสดงสีหน้าไม่พอใจซ่อนอยู่ภายใต้หมวกป้องกันของเธอ ถ้าใครก็ตามได้เห็นสีหน้าของเธอตอนนี้ก็คงคิดว่าเธอนั้นเหมือนกับเด็กที่ไม่พอใจเวลาแม่ของเธอไม่ยอมซื้อตุ๊กตาให้
จริงๆแล้วเหตุผลเดียวที่มาร์คไม่อยากจะบอกเธอ เพราะว่ามาร์คเรียนรู้การแงะประตูด้วยเหตุผลที่น่าอับอาย เนื่องจากตอนที่มาร์คทําลูกบิดประตูของที่บ้านพังเขาจึงต้องหาวิถีทางที่จะเปิดมันให้ได้ ในเมื่อตอนนั้นเขาไม่มีเงินมากพอที่จะซ่อมลูกบิดประตูแทนอันเก่าได้ เขาจึงจําเป็นต้องทําทุกทางเพื่อให้เขาเข้าบ้านให้ได้
แกรัก!
เสียงนั่นก็ได้ดังออกมาและมาร์คก็ค่อยๆผลักประตูไปอย่างเงียบๆ เมื่อตรวจสอบแล้วว่าไม่มีใครอยู่ด้านใน จากนั้นเขาก็ได้ส่งสัญญานให้กลุ่มของเขาเข้าไปข้างใน