HOKAGE RYOS PATH บทที่ 45 โอโรจิมารถสนใจในความเป็นอมตะ
บทที่ 45 โอโรจิมารถสนใจในความเป็นอมตะ
“เรียวคุง เธอจะไปไหนงั้นเหรอ ไม่ใช่อาจารย์ซารุโทบิบอก ให้เธอทําหินฟื้นฟูไม่ใช่หรอ?”
“3 เดือนมานี้ผมทํามาตลอด ทางหมู่บ้านคงได้รับมันแล้วครับ” เรียวตอบ
“ไม่ก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้นนี้น่า เรียวคุงยังไม่ตอบชั้นเลยว่าเธอจะไปไหน”
“คุณโอโรจิมารุครับ ผมกําลังจะไปที่ห้องสมุดหาความรู้เกี่ยวกับคาถาลม” เรียวตอบ
“คาถาน” โอโรจิมารุดูสงสัย
“ใช่แล้วครับ สงครามกําลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ผมเตรียมตัวได้เร็วขนาดไหนก็ยิ่งดี”
“แล้วห้องสมุดมันจะมีคาถาลมให้เธอเรียนงั้นเหรอ” โอโรจิมารุถามอีกครั้ง
“พี่มินาโตะ มีทีมเกะนินที่ต้องดูแล คุณจิไรยะก็ไปทําภารกิจ ผมเลยต้องไปที่ห้องสมุดครับ” เรียวอธิบาย
“ชั้นเชี่ยวชาญคาถาลมนะ ให้ชั้นแสดงให้เธอดูหรือปล่าว?” โอโรจิมารุที่มีความสนใจในตัวเรียวคิดว่านี้เป็นโอกาศของเขาแล้ว!
“ขอโทษที่รบกวนนะครับ” เรียวคิดสักพักก่อนที่จะตอบ
ในหมู่สามนินจาในตํานาน พลังของโอโรจิมารุนั้นน่าซึ่งเป็นอย่างมาก ตอนนี้โอโรจิมารุยังไม่ได้เรียนวิชา [สัมภเวสีคืนชีพ]
ในสนามฝึกที่ 3 โอโรจิมารุแสดงคาถาลมให้เรียวเห็นตั้งแต่คาถาระดับ C ถึงคาถาระดับ A
สิ่งที่พิเศษไม่ใช่แค่การสาธิตอย่างไร้ที่ติ แต่ยังรวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าเขาอธิบายลักษณะและข้อเสียของการปล่อยลมอย่างละเอียด เรียวต้องยอมรับว่าเมื่อพูดถึงความรู้เกี่ยวกับวิชานินจาแล้วเขามียิ่งกว่า จิไรยะด้วยซ้ํา
หลังจากที่แสดงให้เรียวเห็นเสร็จ โอโรจิมารุก็ตัดสินใจที่จะนั่งคุยกับเรียว
“เรียวคุง เธอเองก็เป็นนินจาแพทย์เหมือนกัน สําหรับเธอ ชีวิตคืออะไรงั้นเหรอ?” โอโรจิมารุถาม
คําถามนี้ทําให้เรียวนึกถึงในมังงะ หลังจากที่พ่อแม่ของโอโรจิมารุตาย โอโรจิมารุก็พยายามหาความหมายของการมีชีวิต และเขาก็รู้ว่าชีวิตนั้นเปราะบางขนาดไหน
เขาเป็นอัจฉริยะนินจา เขาเห็นว่าชีวิตนั้นเปราะบางขนาดไหน ดังนั้นเขาจึงต้องหาความเป็นอมตะ
ตลอดระยะเวลาการวิจัยเขาเริ่มรู้สึกไม่สนใจชีวิตและความตายของผู้อื่นมากขึ้นเรื่อยๆ และหันไปใช้วิธีการที่ไร้จริยธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ เขาลงเอยด้วยการใช้นินจาหรือแม้แต่เด็กๆ จากหมู่บ้านโคโนฮะเพื่อนํามาทดลอง
ครั้งแรกที่เรียวเห็นเขาในอนิเมะเขารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ชั่วร้ายที่สุด เหตุผลนั้นง่ายมาก: ไม่มีคนดีที่ไหนจะฆ่าอาจารย์ที่รักของตัวเอง
อย่างไรก็ตามภาพลักษณ์ของโอโรจิมารุเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย วิธีที่เขารอดชีวิตมาได้และใช้ชีวิตเช่นเดียวกับงู พร้อมกับการพัฒนาตัวเองตลอดของเรื่องราวที่เกิดขึ้นทําให้รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ
เขาได้ช่วยสึนาเดะภายในสงคราม ซึ่งนั่นมันเจ๋งเหี้ยๆ
ในโลกที่ผ่านมาของเขาเรียวได้รับการเลี้ยงดูภายใต้ธงแดงของลัทธิทุนนิยม ยอมรับความเป็นรูปธรรมระหว่างที่เขาศึกษาจนเขากลายมาเป็นแพทย์ ทั้งหมดนี้ทําให้เขาทิ้งในตัวโอโรจิมารุมาก ที่มีที่ยึดเหนี่ยวเป็นวิทยาศาสตร์
ทุกครั้งที่เขาพยายามประเมินตัวละครของเรื่องมันก็เป็นแบบนี้ บางคนเชื่อในความมุ่งมั่น คนอื่นเชื่อในสายเลือด คนอื่นเชื่อในพลังเนตร และคนอื่นๆเชื่อในไทจุตสึหลายคนเชื่อในความพยายาม แต่โอโนจิมารุ และมีเพียงโอโรจิมารุเท่านั้นที่เชื่อในวิทยาศาส
“คุณโอโรจิมารุ ผมคิดว่าชีวิตของคนเรานั้นอ่อนแอเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างนินจา นินจาพิษสามารถฆ่านินจาอีกคนได้ และนินจาอีกคนก็สามารถฆ่านินจาพิษได้ แม้กระทั่งกระดาษแผ่นนึงอย่างนัยต์ระเบิดก็สามารถฆ่าคนได้” เรียวพูดอย่างช้าๆ
เมื่อโอโรจิมารุได้ยินคําพูดของเรียวแววตาของเขาก็เป็นประกายนี้ถือเป็นเด็กคนแรกที่มีความคิดใกล้เคียงกับเขาเป็นอย่างมาก
“แม้ว่าชีวิตจะสั้นและเปราะบาง แต่สิ่งที่นํามานั้นมีค่าและไม่สิ้นสุด วิชานินจาได้รับการสืบทอดขีดจํากัดทางสายเลือด ความรักที่พ่อแม่มีให้กับลูก”
คําพูดของเรียวทําให้โอโรจิมารุเงียบลงชั่วขณะ ประโยคเหล่านี้ ไม่ได้เปลี่ยนความเชื่อของเขา แต่คําพูดของเรียวทําให้เขานึกถึงพ่อแม่ของเขา
“เรียวคุง คิดว่าคนเราจะสามารถหาความเป็นอมตะได้ไหม?” แน่นอนว่าคําตอบของเรียวทําให้โอโรจิมารถามคําถามแบบนี้ออกมา
ในชีวิตที่ผ่านมาของเรียว เขาได้ยินแฟนๆนารูโตะพูดเอาไว้ว่า หากมีคนโชคดีพอที่จะอยู่ในโคโนฮะ เขาควรไปและเรียนรู้ความลับของโอโรจิมารุ ตอนนี้ความฝันของพวกเขาอยู่ใกล้เรียวมากๆ
ในโลกนี้มีคนที่สามารถกลายเป็นอมตะได้นั้นคือคางุยะที่กินผลจักระจากต้นพระเจ้าเข้าไป
ชีวิตนิรันดร์ของเธออยู่ไม่ไกลจากความมหัศจรรย์ แต่โอโรจิมารุนั้นต้องเสียสละอีกชีวิตเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่ออีกไม่กี่ปี
ก่อนหน้านี้เรียวมีความสนใจในชีวิตนิรันดร์เล็กน้อย เขาอย่างมีชีวิตสักสองสามทศวรรษ
แต่ตอนนี้เขาได้ตกหลุมรักลงไปแล้ว และมุมมองของเขาก็เปลี่ยนไป มันจะยอดเยี่ยมมากที่จะได้อยู่กับคนรักตลอดไป
“คุณโอโรจิมารุ ผมคิดว่ามันพอเป็นไปได้” หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบเรียวก็ตอบออกมา
เหตุผลที่คนเราแก่ตายเป็นเพราะว่าการแบ่งเซลล์ของพวกเขาทํางานล้มเหลว เซลล์ของพวกเขาไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาสะสมในร่างกายของเขาสร้างข้อผิดพลาดที่เกิดปัญหาทั้งระบบของเขา ร่างกายของพวกเขาไม่สามารถทํางานได้ ตามที่ควรและตายไปในที่สุด
หากใครนํายืนของมนุษย์ไปสู่จุดสูงสุดของชีวิตของเขาและจากนั้นก็สร้างร่างกายมนุษย์ขึ้นมาใหม่ และถ้าหากมีการโอนจิตสํานึกของมนุษย์แล้วชีวิตใหม่ก็จะเริ่มต้นขึ้น
ในชีวิตที่ผ่านมาของเขาสิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครรู้วิธีถ่ายโอนวิญญาณ แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นในโลกของนารูโตะนั้นเป็นไปได้
[คาถาสะกดปิดผนึกซากอสุร] [คาถาคืนชีพ] และ [คาถาสัมภเวสีคืนชีพ] เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการจัดการวิญญาณในโลกนี้
วิธีที่เรียวคิดนั้นใกล้เคียงกับวิชา [คาถาสัมภเวสีคืนชีพ] ของโอโรจิมารุ แต่มันจําทําให้วิญญาณของผู้ใช้เกิดความเสียหาย
เรียวไม่มีแผนที่จะบอกเรื่องนี้กับโอโรจิมารุ และแน่นอนว่าเขาจะไม่ใช้มัน! อีกอย่าง เทคโนโลยีปัจจุบันในโลกนี้ไม่เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของเขา และอีกอย่างโลกนี้มีพลังที่เรียกว่าจักระ!
การใช้ความรู้ที่เขามีจากโลกในอดีตของเขาเพื่อให้ได้ชีวิตนิรันดร์ ไม่เหมาะกับภาพลักษณ์ที่เรียวต้องการ ถึงแม้ว่าเขาจะอยากมีชีวิตนิรันดร์ แต่เขาจะทําในแบบที่คางุยะทํา!
ถึงแม้ว่าเขาจะสนใจในความเป็นอมตะ แต่เป้าหมายหลักในการกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกยังคงอยู่ในใจเขา
โอโรจิมารุนั้นพอใจกับคําตอบของเรียวมาก เขาได้คุยกับเรียวอีกหลายประโยคทําให้เขาได้พบเพื่อนตัวน้อย
ในขณะที่พวกเขากําลังจะสนทนาในเชิงลึกนั้นก็มีหน่วยลับเข้ามาที่สนามฝึกที่ 3 บอกว่ารุ่นที่สามนั้นต้องการพบโอโรจิมารุ
“เรียวคุง ชั้นหวังว่าชั้นจะได้คุยกับเธออีกนะ!” หลังจากที่เขาลาแล้วเขาก็ออกจากสถานที่นี้ในทันที