นิยาย HOKAGE RYOS PATH
บทที่ 55 วิชาแพทย์
เช่นเดียวกับในค่ายของโคโนฮะมีนินจาทรายโจนินชั้นสูง 7 คน รวมถึงย่าโจ มารวมกันในเต้นท์ของราสะเพื่อพูดคุย เรื่องสงคราม หัวข้อหลักคือนินจาที่ชื่อว่า ยามานากะ เรียว
คาเสะคาเงะรุ่นที่ 3 ได้หายไปจากชายแดนของแคว้นไฟ นินจาทรายมากกว่า 12,000 คนถูกรวบรวมเพื่อทําการ “แก้แค้น” นอกเหนือจากคน 3 คน ที่ใกล้ชิดหรือมีพลังเท่าเทียมกันกับระดับคาเงะ นินจาทรายมีโจนินระดับสูง อีก 8 คน จูนินอีก 1,000 คน ส่วนที่เหลือเป็นเกะนิน
ในบรรดา 12,000 คน คนที่แข็งแกร่งที่สุดคือราสะ ย่าโจ และร่างสถิตย์ 1 หาง บันปคุ
ใบหน้าของราสะดูหนักอึ้งเป็นอย่างมากในการประชุม ในการต่อสู้ครั้งนี้นินจาทรายแพ้ทุกทาง แม้กระทั่งโจนินชั้นสูงของพวกเขาก็ยังแพ้
สิ่งที่ยอมรับไม่ได้มากที่สุดสําหรับราสะ คนที่ฆ่าโจนินจํานวนมากและบังคับให้พวกเขาล่าถอยก็คือเด็กที่อายุเหมือนจะประมาณ 11 ถึง 12 เท่านั้น
“โคโนฮะมีอัจฉริยะมากเกินไปแล้ว! ซาคุม 3 นินจาในตํานาน และยามานากะ เรียว!” ย่าโจถอนหายใจออกมา
“ท่านคาเสะคาเงะ เจ้าหนูนี้มันเป็นคนฆ่าอิจิโระ แถมยังเอาแขนข้างนึงของผมไปอีก!”
“ไหนพูดออกมาสิ ว่ามันใช้ทักษะแบบไหน โฮก!”
เหล่าโจนินอธิบายการต่อสู้ระหว่างพวกเขาและเรียว
“ดูเหมือนเจ้าหนูนี้จะใช้โหมดจักระสายฟ้า มีความเร็วเป็นอย่างมาก และสามารถเคลื่อนย้ายชั่วพริบตาได้” หลังจากที่ราสะฟังความสามารถของเรียวแล้ว เขาก็ประเมินความสามารถ
“นายบอกว่ามันเป็นการเคลื่อนย้ายชั่วพริบตา แน่ใจนะว่าไม่ใช่ความเร็วของโหมดจักระสายฟ้า?” ราสะถามออกมา
“ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมสามารถแยกแยะได้ระหว่างโหมดจักระสายฟ้ากับการเคลื่อนย้ายชั่วพริบตา” โฮกุพูดออกมา
“ราสะ มันอาจจะเป็นวิชาเทพสายฟ้า เห็นของโฮคาเงะรุ่นที่ 2 ก็ได้” ย่าโจได้เห็นพลังของมินาโตะในสงครามครั้งที่แล้ว เธอประทับใจเทคนิคนี้มาก คําอธิบายของเรียวทําให้เธอนึกถึงวิชานั้น
“โฮกุ ยามานากะ เรียวได้ใช้อาวุธพิเศษอะไรไหม?”
“ท่านโฮคาเงะ ตั้งแต่เริ่ม เขาแค่ใช้วิชาใบมีดจักระตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่ได้ใช้อาวุธอื่นเลย”
คาเสะคาเงะรุ่นที่ 4 รู้ความสามารถของวิชาเทพสายฟ้าเหินมาจากย่าโจ และเขาก็ยังรู้ว่าเรียวนั้นไม่ได้ใช้อาวุธอะไร ตอนนี้เขายังคาดเดาว่าวิชาเคลื่อนย้ายชั่วพริบตาของเรียว นั้นไม่ใช่โหมดจักระสายฟ้า แต่เป็นอย่างอื่น
แต่ที่ราสะสนใจมากที่สุดก็คือเทคนิคที่เรียวและจิไรยะใช้ออกมา
ในโหมดนั้น พลังของจิไรยะ ความเร็วในการตอบโต้ พลังป้องกันทุกอย่าง เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด วิชานั้นทําให้จิไรยะกลายเป็นฝ่ายที่บุกเขาแทน
“ย่าโจ คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับเทคนิคนี้ไหม” ราสะถามย่าโจ และเล่าว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเธอรู้เกี่ยวกับเทคนิคนี้ ของจิไรยะไหม
ย่าโจคิดเล็กน้อยก่อนที่จะถอนหายใจ แล้วพูดออกมาว่า
“มันคงจะเป็นโหมดเซียนที่โฮคาเงะรุ่นที่ 1 ใช้ ชั้นแค่ได้ยินความสามารถของมัน ชั้นนึกว่ามันจะเป็นแค่เรื่องเล่าซะ อีก”
“โหมดเซียนนั้นมีจริง ริคุโด เซนนิน เป็นคนใช้เทคนิคนี้ มันจะเพิ่มประสิทธิภาพของวิชานินจา ไท จุตสึ และเพิ่มการรับรู้ นั่นคือสิ่งที่ชูคาคุบอกชั้นมา” พระแก่ที่นั่งอยู่ตรงหัวมุม แล้วเงียบมาตลอดเอ่ยปากขึ้นมา
“ท่านพูดเรื่องอะไรกัน ริคุโด เซนนิน เป็นแค่เรื่องเล่าเท่านั้นละ!” โจนินชั้นสูงคนนึงแย้งออกมา
พระคนนั้นไม่สนใจเขาและไม่พูดอะไรอีก
หลังจากที่ฟังคําพูดของบันปูกุแล้ว ราสะจึงมั่นใจว่าเทคนิคที่จิไรยะใช้นั้นคือ โหมดเซียน มันเพิ่มความสามารถของจิไรยะโดยรวมเป็นอย่างที่บันปูคุกล่า
ในอีกด้านหนึ่งเรียวและจิไรยะกําลังพูดคุยถึงพลังที่นินจาทรายได้แสดงออกมา ตอนนี้โคโนฮะมีความเข้าใจเกี่ยวกับความสามารถของราสะ
แน่นอนว่าเรียวมีความดีความชอบ ในมังงะ ราสะไม่ได้แสดงพลังอะไรมากนัก แต่หลังจากที่เห็นพลังของราสะในสนามรบแล้ว พลังของราสะนั้นน่าประทับใจมาก
ในชีวิตที่ผ่านมา เขาเห็นวิชาทรายทอง เรียวคิดว่ามีแต่คนบ้าเท่านั้นที่จะใช้ทองเป็นอาวุธ นอกจากนี้แล้วผู้ใช้ทักษะนั้น ไม่มีทางที่จะเป็นคนจนแน่นอน!
เรียวอธิบายความสามารถของราสะใน การประชุม
แต่หลังจากที่ได้ทราบว่าวิชาทองของราสะเป็นประเภทไหน ค่ายนินจาโคโนฮะก็อยู่ในสภาวะล่อแหลมอยู่ดี แม้จะเป็นทรายทอง พวกเขายังไม่สามารถหาวิธีที่จะตอบโต้ความสามารถของเขา ตราบเท่าที่เขาต่อสู้ในทะเลทราย
หลังจากที่ประชุมเสร็จแล้ว เรียวก็กลับไปหาทีมของเขา ทีมแพทย์มีบทบาทอย่างมากในการต่อสู้ครั้งนี้ หากไม่เป็นเช่นนั้นพวกเขาจะไม่มีใครรู้ว่านินจาของโคโนฮะจํานวนหนึ่งจะหายไปจากพิษของนินจาทราย
ในช่วงไม่กี่วันต่อมาทั้งสองค่ายต่างก็อยู่ในที่ปลอดภัย นินจาทรายนั้นกลัวโหมดเซียนของจิไรยะ และนินจาของโคโนฮะก็ไม่สามารถที่จะหาทางตอบโต้ทรายทองของราสะได้ ทั้งสองยังคุมเชิงกันอยู่
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเรียวได้คิดเกี่ยวกับวิชานินจาแพทย์ และการแพทย์แผนปัจจุบัน หนึ่งในสิ่งที่เขาต้องการทําอยู่เสมอคือการปรับปรุงระบบการแพทย์ของโลกนารูโตะ
ที่นี้ นินจาแพทย์พึ่งพาจักระส่วนใหญ่ เมื่อนินจาแพทย์จักระหมดร่างกายแล้ว เขาก็ไม่สามารถที่จะใช้วิชานินจาแพทย์ต่อไปได้ และนินจาคนนั้นควรที่จะดูเพื่อนตายไปอย่างช้าๆงั้นเหรอ?
เรียวต้องการส่งต่อความรู้ด้านการแพทย์สมัยใหม่ที่เขาได้เรียนรู้ในชีวิตก่อนหน้านี้ไปยังหน่วยแพทย์ของโรงพยาบาลของโคโนฮะเพื่อให้พวกเขาสามารถช่วยชีวิตผู้คนโดยไม่คํานึงถึงระดับจักระของพวกเขา
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาไม่สามารถอธิบายที่มาของความรู้ดังกล่าวได้ เรียวก็เลิกคิดไป แต่ตอนนี้เขาอยู่ในสนามรบ และมีความต้องการด้านการแพทย์มากขึ้น เรียวจึงตัดสินใจส่งต่อพื้นฐานบางอย่างให้กับทีมของเขา
ในตอนแรกนินจาแพทย์ไม่สนใจความรู้ทางการแพทย์สมัยใหม่ของเรียวมากนัก
ในมุมมองของพวกเขาหากความรู้นี้ไม่สามารถให้พวกเขารักษานินจาที่บาดเจ็บได้อย่างรวดเร็วและฟื้นฟูความสามารถของเขามันก็ไม่มีประโยชน์
แต่เมื่อเรียวเริ่มพูดเจาะลึกลงไป ในหัวข้อที่เขาสอนพวกเขาพวกเขาเริ่มตระหนักว่าสิ่งที่เขาพูดถึงไม่ใช่เรื่องง่าย
ด้วยวิธีนี้ทีมได้เรียนรู้พื้นฐาน เรียวกําลังสอนพวกเขาและเขาสามารถทําขั้นตอนที่ 1 สู่เป้าหมายของเขาในการเผยแพร่ความรู้ทางการแพทย์จากโลกที่ผ่านมาของเขา
หลายวันผ่านไปนินจาทรายก็เริ่มไม่อยู่นิ่ง คอยป้วนเปี้ยนอยู่แถวแค้มป์โคโนฮะ
ซาคุโมะจัดการกับกลอุบายเล็กๆน้อยๆของพวกนินจาทราย เนื่องจากพวกเขามีทีมแทพย์คอยดูแลอยู่
จิไรยะและซาคุโมะได้จับตัวนินจาทรายมาจากการซุ่มโจมตีได้
เหล่านินจาทรายกําลังก่อกวนค่ายเป็นเวลาหลายวันและนี่เป็นครั้งแรกที่พวก เขาถูกจับได้ซาคุโมะรีบแจ้งเรียวในทัน
สําหรับคนของยามานากะเช่นเรียว สมองของพวกเขาน่าจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์!
