บทที่ 57 หลอกล่อ
ในช่วงสองสัปดาห์หลังจากการจับกุม ชานยู นินจาทรายก็ไม่มีความเคลื่อนไหวเลย
แม้ว่าโคโนฮะจะไม่ได้แสดงความ ตื่นตัวใดๆ แต่นินจาฮิวงะกับนินจาอาบุราเมะก็คอยสอดส่องความเป็นไปอยู่ตลอด เวลา
ในช่วงเวลานี้เรียวสอนวิชา การแพทย์ สมัยใหม่ให้กับทีมของเขาในขณะที่เขาเรียนรู้คาถาลมจากจิไรยะ
เหมือนที่จิไรยะพูดว่าเรียวนั้นมีความ เป็นอัจฉริยะ ในเวลาเพียงครึ่งเดือนเขาเชี่ยวชาญคาถานินจาระดับ C4 อย่าง ระดับ B 3 อย่างและระดับ A หนึ่งอย่าง
เหตุผลที่เรียวฝึกคาถาลมก็เพราะเขา อยากสามารถใช้ [คาถาลม ดาวกระจายวงจักร] วิชานี้เป็นวิชาที่มินาโตะกับเขา พัฒนาร่วมกันจึงมีสิทธิ์ที่จะใช้มัน
ทุกครั้งที่เรียวนึกถึงตอนที่มินาโตะท ดลองวิชานั้นที่ป่าแห่งความตายเขาก็นึกเสียวสันหลังขึ้นมา
ในอดีตเขาใช้เวลาส่วนใหญ่พยายาม ที่จะแก้ปัญหาการใช้วิชาน้ําแข็งแล้วกินจักระมากเกินไปหลังจากที่เขาเชี่ยวชาญคาถานและวิชาน้ําแข็งของเขาก็คือไพ่ลับที่จะทําให้เขามีชีวิตรอดในโลกใบนี้ ก่อนที่จะเชี่ยวชาญทักษะนั้นเขาไม่มีเวลาที่จะมุ่งเน้นไปที่[ดาวกระ จายวงจักร] ไม่ว่ามันจะทรงพลังแค่ไหนก็ตาม
แต่ตอนนี้เขาได้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับวิ ชาน้ําแข็งได้แล้ว และตอนนี้หมู่บ้านทรายก็ไม่เคลื่อนไหวใดๆ เรียวไม่ต้องการ ที่จะเสียเวลาเพิ่ม
ท้ายที่สุด เหตุการณ์การต่อสู้บนสะพานคานนาบิใกล้เข้ามาแล้ว เรียวต้องการที่จะช่วยโอบิโตะและนั่นทําให้เขาเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากับมาดาระ
และจากนั้นก็มีการโจมตีของเก้าหางถ้าเขาช่วยโอบิโตะได้ เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นจะไม่เกิดขึ้นแต่ในกรณีที่โอบโตะยังสับสนกับแผนการของมาดาระเช่นนั้นในคืนนั้นเขาควรเข้มแข็งพอที่จะ ช่วยมินาโตะและคุชินะได้
ดังนั้นเรียวควรใช้ทุกวินาทีที่เขามีและฝึกฝนอย่างหนักหน่วง
“คุณจิไรยะ คุณเรียว คุณซาคุโมะกําลังเรียกหาพวกคุณอยู่” ในขณะที่เรียวกําลังฝึกเงียบๆ เขาก็ถูกเรียกตัวไปพร้อมกับจิไรยะ
หลังจากที่มีการต่อสู้ครั้งล่าสุดนินจาโคโนฮะเริ่มเรียกเขาว่า“คุณเรียว”ในโลกนี้คนอ่อนแอย่อมยกย่องคนที่แข็งแกร่งด้วยความสามารถอันยอดเยี่ยมที่เรียวแสดงไปในครั้งล่าสุดทุกคนย่อมให้ความเคารพเขาอย่างเป็นธรรมชาติ
ครั้งแรกเรียวรู้สึกแปลกๆแต่หลังจากที่ทุกคนเรียกเขาแบบนั้น เขาก็ไม่สนใจแล้ว
เมื่อเรียวกับจิไรยะมาถึงเต้นท์ของซากุโมะโจนินหกคนแล้วตัวแทนจากตระกูลต่างๆก็อยู่ที่นั้น
ทั้งสองมีที่นั่งรอไว้อยู่ เมื่อพวกเขานั่งลงเขาก็ให้สัญญาณให้หัวหน้าตระกูลฮิวงะเริ่มพูด
“ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่านตอนนี้ตระกูลของพวกเราได้รู้มาพวกพวกนินจาทรายเริ่มเคลื่อนไหวพวกมันคงต้องการทําอะไรบางอย่างแน่”
“คุณซาคุโมะ พวกมันต้องวางแผนใหญ่แน่ๆ” ตัวแทนตระกูลอุจิวะ ได้กล่าวออกมาจริงๆแล้วพวกคนจากตระกูลอุจิวะไม่ได้พูดกระตุ้นตระกูลฮิวงะพวกเขาแค่พูดความเป็นไปได้
“ชิบ เล่าให้พวกเขาฟังหน่อย”ซาคุโมะบอก
“แมลงของชั้นได้บอกชั้นว่ามีกับดัก อีกมาก ยันต์ระเบิดอีกตรึม อยู่ด้านหน้าค่ายของพวกเราจนไปถึงสนามรบ”คําพูดของคนตระกูลอาบุราเมะทําให้ทุกคนรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ง่ายนัก ดูเหมือนว่านินจาทรายพร้อมที่จะทําการบุกครั้งที่ 2 แล้ว
“พวกกองทัพทรายกําลังเริ่มงานของพวกมันและเราควรเตรียมพร้อมคุณมีความรับผิดชอบในฐานะตัวแทนตระกูลของคุณที่จะบอกนินจาของคุณและเตรียมพร้อมกับพวกเขาสําหรับการต่อสู้ครั้ง ต่อไป”ซาคุโมะพูดออกมา
“ครับ คุณซาคุโมะ!”
ค่ายของโคโนฮะเข้าสู่ช่วงเตรียมการ สงครามอย่างรวดเร็วและในไม่ช้าพวกเขาก็ได้รับข่าวว่านินจาทรายมาถึงหน้า ค่ายของโคโนฮะแล้ว
“คุณจิไรยะ ระวังตัวด้วยราสะรู้ถึงฝีมือของคุณแล้วพวกมันน่าจะพบวิธีที่จะจัดการกับคุณแน่”ซาคุโมะพูดออกมาทําให้จิไรยะพยักหน้ารับ
เรียวเองก็เตรียมพร้อมสําหรับการโจมดีเช่นกันวิก
“เรียว ครั้งนี้นายมาอยู่แถวหน้ากับพวกชั้นส่วนทีมแพทย์ของนายก็ให้อยู่แนวหลังเหมือนเดิม”
“ได้ครับ คุณซาคุโมะ”
ในการต่อสู้ครั้งก่อนเรียวมีบทบาทสําคัญที่ทําให้โคโนฮะได้รับชัยชนะหากไม่มีเขาแม้ว่าจิไรยะจะสามารถเอาชนะราสะได้หรือแม้ว่าซาคุโมะจะเอาชนะย่าโจได้แต่พวกเขาคงหลีกเลี่ยงการสูญเสียในสภาพแวดล้อมแบบนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน
ต้องขอบคุณเรียวที่เขาใช้โหมดเซียนและอัญเชิญกามะฮิโระไม่งั้นความสูญเสียคงมากเป็นวงกว้างแน่
ดังนั้นหลังจากการต่อสู้ ซาคุโมะได้ชื่นชมเรียวเป็นอย่างมากเรียวเป็นมากกว่าแพทย์ที่ช่วยชีวิตผู้คนดังนั้นในการโจมตีครั้งที่สองของนินจาทรายเขาจึงเลือกให้เรียวอยู่แนวหน้าคอยสู้กับพวก
เขา
“คุณซาคุโมะ พวกเราพร้อมแล้ว!”
“เอาละ เดินทัพได้!” ซาคุโมะออกคําสั่งนินจา 7,000 คนเข้าสู่ในสนามรบในทันที
ชิบ คนของตระกูลอาบุราเมะเป็นคนชีตําแหน่งของกับดัก ส่วนคนของตระกูลฮิวงะเป็นคนปลดกับดัก
“โอ้ ออกมาแบบนั้นเลยเหรอ?”ราสะมองไปทางค่ายของนินจาโคโนฮะเมื่อเขาเห็นนินจาโคโนฮะปลดกับดักเขาก็ยิ้มแปลกๆออกมา
“ฝั่งคุณเจอปัญหาอะไรไหม” ราสะถามย่าโจออกมา
เธอไม่ได้พูด แต่พยักหน้าอย่าง เคร่งขรึม
“เอาละ มาเริ่มกันเลย นินจาทรายบุก!!” คาเสะคาเงะรุ่นที่ 4 ได้กล่าวออกมาและสงครามครั้งที่สองระหว่างทั้งสองค่ายก็ได้เริ่มขึ้น!
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่จิไรยะได้เผชิญหน้ากับราสะครั้งนี้เขาจะไม่ออมมือจิไรยะได้เปิดโหมดเซียนพร้อมกับลงสนามรบทันที
ซาคุโมะและย่าโจได้เผชิญหน้ากันหลายครั้ง ซาคุโมะก็มีวิธีพิเศษที่จะจัดการเธอแต่ว่ามันเป็นเรื่องของว่าเวลา
สําหรับเรียวทุกอย่างดูคุ้นเคยเกินไปมันแปลกเกินไปราสะเองก็รู้ว่าถ้าเป็นแบบนี้เขาจะไม่ชนะแล้วเขาจะทําแบบนั้นไปทําไม?
แม้ว่าเขาจะมีข้อสงสัยเขารู้ว่าสถานการณ์ไม่อนุญาตให้เขาคิดมาก เขาอัญเชิญกามะฮิโระและเดินเข้าสู่สนามรบ
“ไอ้เด็กสารเลว คู่ต่อสู้ของแกคือพวกเรา!” โฮกุและสหายของเขากําลังรอการปรากฏตัวของเรียวจากนั้นราสะได้ฉีกม วนกระดาษและประสานอิน
รอยต่อสีขาวปรากฏขึ้นและล้อมรอบทั้งสี่จากโลกภายนอกคนที่ถูกขังอยู่ในกรงคือจิไรยะซาคุโมะย่าโจและราสะ
“จิไรยะนี้มัน…” ฟุคาซากจ้องที่การอัญเชิญครั้งนี้ซึ่งมาจากไหน มันลวกๆเกินไปหากพวกเขาโจมตีสถานที่นี้สัก 2 นาที่มันควรจะล่มสลายปัญหาคือราสะไม่อนุญาตให้พวกเขาทําเช่นนั้น
“ราสะ เป้าหมายของแกคือเรียวงั้นเหรอ?” ซาคุโมะมองไปยังทั้งสองด้วยสีหน้าอันหนักอึ้ง
“ชั้นไม่กลัวแก เพียงเพราะว่าแกสามารถจับตัวชานยูได้หรอกนะ ชั้นมีวิธีแกปัญหากับโหมดเซียนของแกชั้นแค่ต้องสู้กับแกไปเรื่อยๆ”
“เพียงแค่แกต้องการจํากําจัดเรียวแกต้องการที่จะเสียสละโจนินชั้นสูงไปจํานวนนึงเลยหรอ?” จิไรยะแทบไม่อยากจะเชื่อ
“ถ้าชั้นฆ่าเจ้าหนูสารเลวนั้นได้ มันก็ถือว่าคุ้มเจ้าเด็กนั้นเป็นอัจฉริยะไม่ใช่หรอ?ทีนี้มาดูกันว่าเขาฉลาดพอที่จะเอาชีวิตรอดจากความโกรธของชูคาคุได้ไหม?ย่าโจยิ้มเยาะออกมา
“ชูคาคุ!” เมื่อพวกเขาได้ยินย่าโจใบหน้าของจิไรก็กลายเป็นน่าเกลียดในทันทีเขาใช้วิชา[กระสุนวงจักระยักษ์]ก่อนที่จะทําลายสถานที่แห่งนี้แต่มันก็ไม่เป็นอะไร
“จิไรยะจัง ทําแบบนั้นก็ไร้ประโยชน์เราควรโจมตีหนึ่งจุดบนกําแพงนั้นพร้อมกันเป็นเวลาอย่างน้อยสองนาทีเพื่อลดขอบเขตนั้นตอนนี้เราทําได้แค่พยายามจัดการกับคาเสคาเงะรุ่นที่ 4 และหวังว่า เรียวจังจะไม่เป็นอะไร”
เมื่อจิไรยะได้ยินคําพูดของฟุคาซาคุเขาจึงตัดสินที่จะที่จะเอาชนะราสะให้เร็วมากที่สุด