ตอนที่87 เวลาใกล้เข้ามา
เช้าของวันที่ 21 เดือน 2 ปีดาราที่ 997 สามวันก่อนออกเดินทางทําภารกิจ เลื่อนชั้นปี 2 กายหมกตัวอยู่ในโรงตีเหล็กทั้งวันคอยสอนนาธานและมิล่าใน ทักษะช่างโลหะฝึกหัด ด้วยความสามารถของทั้งสองนั้นพัฒนาขึ้นมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา
กายคิดว่าหลังจากเขากลับมาถ้าพวก เขายังพัฒนาไปแบบนี้เรื่อย ๆ จะต้องมีความสามารถในระดับช่างโลหะฝึกหัดได้ไม่ยาก
หลังจากใช้เวลาช่วงเช้ในโรงตีเหล็ก เขาก็แวะไปหาช่างไม้กลในช่วงบ่าย มอบเงินล่วงหน้าค่าด้ามจับและส่วนประกอบอื่น ๆ ให้กับช่างไม้กิลจํานวน หนึ่ง
หลังจากที่ได้เงินมาเพิ่มอีก 33,000 เหรียญทองจากการขายของในร้านใน ช่วง 9 วันในโลกราชันที่ผ่านมา พอหักค่าต้นทุนวัตถุดิบกายจึงได้กําไรราว ๆ 25,000 เหรียญทอง รวมกับเงินส่วนอื่น ๆ อีก 2500 เหรียญทองที่ได้มาจากกาย ขายหินลูกบาศก์ให้กับผู้ประมูลหมายเลข 69 ทําให้กายมีเงินใช้ได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการเงินของร้านอยู่ราว ๆ 27,500 กว่าเหรียญทอง
ซึ่งนับว่าเป็นจํานวนเงินมหาศาลมาก สําหรับผู้เล่นเดี่ยวคนหนึ่ง
กายขึ้นรถม้าออกจากถนน บท ซอยที่ ร้านไร้ขอบเขตตั้งอยู่ เขากําลังตรงไปยัง คอกม้าเฟรเดริกเพื่อหาซื้อมาใช้ในการเดินทางทําภารกิจระยะยาวครั้งนี้ และด้วยระยะเวลาที่กายออกไปทําภารกิจ ทําให้การซื้อมานั้นถือว่าคุ้มกว่าเช่าม้า แบบปกติมากนัก
กายมีม้าที่คิดว่าจะซื้อไว้อยู่แล้วนั้นก็ คือม้าที่ชื่อ 16 จากคอกม้าเฟรเดริกที่เขามักเช่ามาฝึกขอยู่บ่อยครั้ง
แม้ม้าที่ชื่อ 16 จะเป็นเพียงระดับต่ําแค่ขั้น 2 เท่านั้น แต่ในความจริงมันยังสา มารถพัฒนาความแข็งแกร่งได้อีกมาก และที่สําคัญมันคือม้าสายพันธุ์มัสแตง แห่งทุ่งหน้ากิรา ซึ่งเหมาะมาก ในภารกิจครั้งนี้ของเขาในการออกล่าค่าหัวที่ทุ่งหน้ากิรา
ส่วนม้าอีกตัว กายเลือกซื้อมาสายพัน ธุ์คลายเดสเดล ม้าร่างหนา มีกล้ามเนื้อ ที่ทรงพลัง มันเป็นม้าที่มีถิ่นกําเนิดจากเทือกเขาก่อกําเนิด ในช่วงสงครามกับนครพยัคฆาเมื่อนานมาแล้ว พวกมันถูกไล่ต้อนมาใช้แรงงานในการลากรถม้าลาก เพราะความอึดและกําลังในการบรรทุกของที่สูง
รถม้าลากที่ขนาดใหญ่ที่สุดนั้นคือ ร ถม้าลาก 6 ล้อ บรรทุกคนได้ครึ่งร้อย ถ้า ใช้ม้าปกติต้องใช้ม้าถึง 6 ตัว แต่ถ้าใช้ม้าสายพันธุ์คลายเดสเดล มันใช้เพียง 3 ตัวเท่านั้นก็ลากรถม้าลาก 6 ล้อได้อย่างไม่มีปัญหา
ต่อมาสายพันธุ์คลายเดสเดลพวกมัน ถูกนําเข้ามาที่นครดาราฟ้า และเพราะพันธุ์ซื้อขายในนครดาราฟ้า เพื่อทําหน้าที่บรรทุกสินค้าและการขนส่งต่าง ๆ
กายไปถึงคอกม้าเฟรเดริกและจ่ายเงิน ซื้อม้ามาได้อย่างไม่ยากนักเมื่อใช้สถานะของนักเรียนของสถาบันศาสตร์ นักรบบวกกับเหรียญทองมากขึ้นเล็กน้อย
ในนครดาราฟ้าไม่มีใครไม่ชอบเหรียญทอง
ระหว่างนั้นเขาเจอกับผู้เล่นหลายคนที่ทํางานอยู่ในคอกม้าเฟรเดริกด้วย ซึ่งทําเอาเขาแปลกใจไปพอสมควร แต่พอไตร่ตรองดูกายก็ต้องยอมรับว่าผู้เล่นพวกนี้ฉลาดมาก นั้นเพราะการทํางาน ที่นี่จะทําให้พวกเขาสามารถเรียนรู้ความสามารถในการขี่ม้าเบื้องต้นได้โดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่เหรียญทองแดงเดียว
แถมพวกเขายังได้เงินและหลบซ่อน จากพวกที่ตามล่าผู้เล่นด้วย
ทําไมเราถึงคิดไม่ออก ถ้ามาทํางานที่ นี่ก็จะไม่ต้องเสียเงินเช่าม้า..
กายยิ้มพลางส่ายหัว ถ้าเขามาทํางาน ที่นี่คงเสียเวลาน่าดู กายสามารถเอาเวลาในการทํางานที่คอกม้าไปสร้างอาวุธ และขายมันได้เหรียญทองมากมาย จนไม่ต้องสนใจราคาที่จ่ายค่าเช่าบ้าได้อย่างสบาย
พอคิดถึงเรื่องเงินที่เขาหาได้ กายก็ต้องถอนหายใจ เพราะเขาต้องจ่ายค่า ม้าทั้งสองตัวถึง 1,800 ทอง ยังดีที่ราคานี้รวมถึงพวกอุปกรณ์ต่าง ๆ และอาหารม้าสํารองในระหว่างการเดินทางด้วยแล้
แค่ม้าระดับสองยังราคานับพัน ถ้าม้าศึกคงแพงเทียบเท่าอาวุธระดับ 4 ได้อย่างสบาย…
กายกลับมาที่สถาบันศาสตร์นักรบ แต่เขาไม่ได้นําม้ามาด้วย เขาฝากไว้ที่คอกมาก่อน ส่วนเหตุผลที่กายกลับมานั้นก็เพราะว่า เขายังต้องมาเก็บข้าวของในห้องพักที่สถาบันศาสตร์นักรบ และอีกเหตุผลนั้นก็คือ วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่กายจะต้องมาฟังการสอน ศิลปะการต่อสู้ เจาะทะลวง ระดับ 2 ที่ได้ลงทะเบียน 94
ด้านหลังของกายยังแบกธนูโลหะระดับ 4 มาด้วย
หลังจากใช้เวลาอีก 3 ชั่วโมงฟังการสอนของอาจารย์เฟราผู้ที่สอนในเรื่องของการยิงธนูประจําอยู่แล้วจบลง เสียงของระบบก็ดังขึ้น
“ฟังการสอนครบกําหนด เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ เจาะทะลวง 0/2 (25%) สําเร็จ”
กายยิ้มออกมาด้วยความยินดี แม้จะยังไม่สามารถใช้เจาะทะลวงขึ้นที่ 1 ได้ในตอนนี้ แต่กายก็คิดว่าเขายังมีเวลาให้ฝึกฝนที่ทุ่งหน้ากิราอีกมาก
ส่วน 25 เปอร์เซ็นต์ที่เห็นอยู่นี้ คือทั้งหมดที่กายฝึกฝนในช่วงหลังเลิกเรียน เพราะเขาไม่ต้องเร่งรีบฝึกขี่ม้าอีก กายยังมีเวลามากขึ้น
ขณะที่กายกําลังเดินออกจากห้อง ในตอนนั้นเองอาจารย์เฟราก็เดินเข้ามาทักทายเขา
“เจ้าคือเดวินผู้ที่ได้อันดับสามในการ ทดสอบของชั้นปี 1 ใช่หรือไม่”
“สวัสดีครับ อาจารย์เฟรา ข้าคือเดวินคนนั้น” กายตอบไปด้วยความนอบน้อม แม้ดูอาจารย์เฟราจะยังดูอายุไม่มาก แต่ความสามารถของเธอนั้นเป็นถึงนักรบ แท้จริงขั้น 2 อย่างแท้จริง ความแข็งแกร่งของเธอมากพอจะจัดการกายได้ด้วยมือข้างเดียว
เฟรายิ้มออกมาอย่างไม่ถือตัวและกล่าวแนะนํา “สมัยที่ข้าเป็นนักเรียนของส ถาบันศาสตร์นักรบ ข้าก็ต้องออกไปทําภารกิจเลื่อนขั้นที่ทุ่งหญ้ากิราเช่นกัน ดังนั้นเห็นแก่ที่เข้าสนใจเรียนวิชายิงธนูและศิลปะการต่อสู้ เจาะทะลวง ข้าจะแนะนําอะไรเล็กน้อย เจ้าสนใจหรือไม่”
“ขออาจารย์เฟราชี้แนะด้วย” กายไม่รอช้ารีบตอบรับ
“เจ้าต้องจํากฎสามข้อห้ามไว้”
“กฎสามข้อห้าม?” กายทวนคําพูดอย่างงงงวย
“ใช่ กฎสามข้อห้าม หนึ่งคือ ห้ามไว้ใจชาวบ้านที่ทุ่งหญ้านั้นเด็ดขาด สองคือ ห้ามกินของที่ใครไม่รู้ปรุง และสุดท้ายคือ ห้ามใจอ่อน” อาจารย์เฟราพูดอย่างจริงจัง
“ข้าจะจําเอาไว้” กายขอบคุณอาจารย์เฟราอย่างจริงใจสําหรับคําเตือนที่บอกต่อเขา
“เจ้าไปเถอะ ช่วงนี้สถานการณ์ในนครดาราฟ้าไม่ปกติมากนัก ฝากเตือนเพื่อน ของเจ้าที่ไปทําภารกิจเลื่อนขั้นคนอื่น ๆ ด้วย”
“ขอรับ ท่านอาจารย์เฟรา”
อาจารย์เฟราเดินจากไปพร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ กายสงสัยกับท่าทีนี้พอสม ควร
หรือว่าเธอจะเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ป่าเคนารีส จึงมาเตือนเราเพื่อไม่ให้เกิน เหตุการณ์ตายหมู่ของนักเรียนขึ้นอีก…
หลังจากที่ออกจากเกมในวันที่ 23 เดือน 2 ปีดาราที่ 997 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่ทําภารกิจเลื่อนระดับกายก็ลุกขึ้นจากแคปซูลเกม บิดตัวไปมาสองสามทีก่อนจะยกมือขึ้นมาห่าวด้วยความง่วงนอน
เมื่อกายหันไปมองด้านข้างตอนนี้เจ้ซาเรียกําลังนั่งอยู่ที่หน้าจอข้าง ๆ แคบซูลเกม
“เจ๊ซาเรียมีข่าวอะไรเกี่ยวกับพวกกะโหลกแดงที่ทุ่งหญ้ากราบ้างหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรมาก นอกจากพวกกิลด์กะโหลกแดงล้มตายกันเป็นว่าเล่นแต่ก็มี ทหารของนครดาราฟ้าโดนฆ่าตายจํานวนมาก ถ้านายไปที่ทุ่งหญ้ากราคงต้องปะทะกับพวกนั้นอย่างแน่นอน”
“ถ้าแบบนั้นก็คงจะดี ผมจะได้จบภารกิจได้อย่างรวดเร็ว”
“ที่ทุ่งหญ้านั้นมีเมืองขนาดเล็กอยู่ด้วย และกลุ่มผู้เล่นที่ทําการรวบรวมข่าวสารต่าง ๆ ในทุ่งหญ้าไว้อยู่ ถ้าพรุ่งนี้นายเข้าไปในเกม ตอนเดินทางไปที่ทุ่งหญ้า กิราลองไปหาพวกผู้เล่นแถวนั้นดูเผื่อจะได้ตําแหน่งของพวกที่มีค่าหัว”
“ได้เลยไม่มีปัญหา จริงสิ เดี๋ยวบ่ายสามผมจะเข้ามาที่ร้านเพื่อเข้าเล่นแดนสงครามนะเจ”
“อืม” ซาเรียพยักหน้าเป็นอันรับรู้เบา ๆ
“ถ้าอย่างนั้นผมกลับบ้านก่อนนะครับ” กายพูดจบก็ผลักประตูเดินออกจากห้องเกมมา
ในตอนนั้นเองก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ออสตินออกมาจากแคปซูลเกมพอดี สายตาของออสตินมองไปที่กายก่อนจะเข้าไปทักทาย
“เฮ้นายคือคนที่ใช้แคปซูลเกมในห้องเกมส่วนตัวสินะ”
“มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า ฉันแค่อยากรู้ว่านายสนใจมา แลกเครื่องเล่นกันไหมในครั้งหน้า” ออสตินพูดพร้อมกับยิ้มที่ดูแปลกพิลึกพอสมควร
“เรื่องนั้นนายต้องไปคุยกับเจ้ซาเรีย ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อน พอดีนี่ก็ดึกมากแล้ว” กายเดินหลบออสตินและออกนอกร้านไปในทันที
ออสดินมองแผนหลังกายที่กําลังจะเปิดประตูร้านไป สายตาของเด็กหนุ่มดูไม่ชอบท่าทีของกายเล็กน้อย
หมอนี่คงจะเล่นเกมราชันสงครามออนไลน์ แต่จากท่าทางน่าจะเป็นพวกอ่อนหัด ไว้ค่อยหาโอกาสเข้าไปสั่งสอนในแดนสงคราม ดูสิว่าจะยังทําท่าทางหยิ่งแบบนั้นอีกหรือไม่ถ้าแพ้ให้กับฉันคนผู้ที่เลื่อนเป็นนักรบฝึกหัดขั้น 1 แล้ว
ออสตินยิ้มเยาะกายจากทางด้านหลังด้วยท่าที่มั่นใจ
กายออกมาจากร้านเกมเสมือนจริง หมายเลข 8 ก่อนจะเรียกรถแท็กซี่นั่งกลับบ้าน หลังจากถึงบ้านกายก็จัดการมื้อดึกและนอนหลับในทันทีด้วยความง่วงนอน
วันที่ 30 เมษายน ปีที่ 70 นับเป็นวันที่สิ้นเดือนที่อากาศสดชื่นกว่าทุกเดือนที่ผ่านมา แต่กว่ากายจะตื่นขึ้นมาในเวลา 9 โมงเช้า เขาลุกขึ้นมาแต่งตัวและออกไปวิ่งข้างนอกในทันที
ที่นับเป็นวันที่ 5 แล้วหลังจากเกิดเรื่องต่อยตีกับกลุ่มนักเลง กายพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองและหันมาออกกําลังกายมากขึ้น
หลังจากวิ่งราว ๆ 6 กิโลเมตรกายก็กลับมาที่บ้านและเริ่มการฝึกฝนแบบในเกมที่คุ้นเคยนั้นคือการฝึกศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟัน กายไม่ได้หวังว่ามันจะต้องมีพลังแบบในเกม แต่ยิ่งเขาฝึกมากเท่าไหร่ กล้ามเนื้อและจังหวะการหายใจก็เริ่มคุ้น ชินกับการเคลื่อนไหวมากเท่านั้
ในตอนนี้ถ้ากายต้องสู้กับนักเลงพวกนั้นเขาคงจัดการพวกมันได้ไม่ยาก กายใช้ท่อเหล็กที่เหลือจากการซ่อมแซมบ้านในครั้งที่ย้ายเข้ามาอยู่แทนดาบเพื่อฝึกฝน เสียงฟาดท่อเหล็กใส่อากาศด้านหน้าดัง วีด ๆ อย่างต่อเนื่อง
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา กายหยุดฝึกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครที่เป็นผู้ที่โทรเข้ามา
เบอร์นี้มัน…เมญ่าไม่ใช่หรือไง?
“สวัสดีเมญ่ามีอะไรหรือเปล่า”
“กาย ตอนนี้ไทเลอร์แย่แล้ว!!! ฮือออ…”