บทที่ 152 ช่วยคน
ในตอนนี้ เว่ยฉิงเชินได้ปล่อยพลังของนายพลวิญญาณขั้นสูงให้ประจักษ์
เพียงช่วงเวลาสั้นๆ เกราะชั้นพลังงานของจระเข้เขี้ยวยักษ์ได้แตกละเอียดยิบ พร้อมกับเลือดที่ไหลซิบจากกลางหัว
เมื่อเห็นว่าการโจมตีได้ผล เว่ยฉิงเชินก็ได้ใช้พลังยกตัวเองขึ้นและลอยอยู่กลางอากาศ และไล่ตามไปในทันที ไม่นาน เธอก็ได้ไปลอยอยู่เหนือกึ่งกลางแม่น้ำแล้ว
ในตอนนี้ เธออยู่ห่างจากฝั่งมากกว่าเจ็ดสิบเมตร ด้วยเทคนิคท่าเท้าของเธอนั้น หากไม่มีแรงหนุนอะไรบางอย่างล่ะก็ เธอจะไม่มีทางลอยกลับไปได้ถึงฝั่งอย่างแน่นอน
ตอนนี้แม้แต่สาวๆทั้งสี่ก็ยังเป็นกังวลและรีบตะโกนออกมา “ศิษย์พี่ฉิงเชิน รีบกลับมาเร็วๆเข้า มันอันตรายเกินไปแล้ว”
เป็นตอนนี้ที่เว่ยฉิงเชินตระหนักได้แล้วว่าเธอนั้นหุนหันเกินไป
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเธอพลาดแล้ว เธอก็ทำได้เพียงพยายามแก้สถานการณ์ให้จงได้
ผ้าไหมสีแดงของเธอนั้นได้ฟาดลงไปบนหัวของจระเข้เขี้ยวยักษ์อีกครั้ง นี่ทำให้มันนั้นตกอยู่ในสภาพมึนงงไปชั่วขณะ และเมื่อเห็นแบบนี้ เว่ยฉิงเชินจึงคิดที่จะแตะเท้าซ้ายของเธอบนหัวของจระเข้เขี้ยวยักษ์ เพื่อที่จะใช้เป็นฐานของท่าท้าวเธอและบินกลับไป
และเป็นตอนนี้เองที่อันตรายได้ปรากฏขึ้นมา
จากเดิม จระเข้เขี้ยวยักษ์ที่กำลังดูเหมือนจะมึนงงอยู่นั้น แต่ในทันทีที่เว่ยฉิงเชินใช้ปลายเท้าแตะที่หัวของมัน มันได้สลัดหัวก่อนที่จะอ้าปากกว้าง และใช้โอกาสนี้ในการกัดชายกระโปรงของเธอไว้ ก่อนที่จะหันหัวมุดลงน้ำไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นฉากนี้ ท่าทางของเว่ยฉิงเชินนั้นเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกอย่างสุดขีด
หากว่ามันทำสำเร็จ จะมีโอกาสอย่างมากที่เธอจะถูกรุมโจมตีจากงูลายทอง และต้องพบเจอกับชะตากรรมเดียวกับหลิวฉีอย่างไม่ต้องสงสัย
และด้วยช่วงเวลาวิกฤตนี้เอง เฉินเฉียงที่มองอยู่ไกลก็เริ่มเคลื่อนไหวในที่สุด
ทักษะการขุดรูได้ถูกปลดปล่อย เฉินเฉียงได้พุ่งเข้าใส่หัวของจระเข้ยักษ์ในทันที พลังงานสายเลือดที่เคลือบมือของเขาไว้ได้ตัดชายกระโปรงที่โดนกัดของเว่ยฉิงเชินในบัดดล
เป็นตอนนี้ที่ศิษย์สำนักวิหคอสนีบาตคนหนึ่งที่ใช้ผ้าไหมเป็นอาวุธเหมือนกันได้ใช้ผ้าไหมโอบรัดเอวของเว่ยฉิงเชินอย่างนุ่มนวลและดึงเธอเข้าฝั่งในทันที
เว่ยฉิงเชินที่พึ่งจะถึงฝั่งก็ได้เห็นศิษย์พี่คนหนึ่งที่มาจากแผนกเดียวกันได้กุมปากของเธอไว้อย่างตกใจและมองไปยังทิศทางที่จระเข้เขี้ยวยักษ์ตนนั้นอยู่อย่างหวาดกลัว
เว่ยฉิงเชินได้รีบหันหลังกลับไปมองก็ได้พบเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังพุ่งไปบนชายฝั่งหลังจากที่พุ่งทะลุผ่านหัวของจระเข้ยักษ์ไปได้
แต่ด้วยการที่จระเข้ยักษ์ตื่นตัวสุดขีดในระหว่างต่อสู้ ตอนที่มันรู้สึกเจ็บปวด ด้วยสัญชาตญาณ มันได้ฟาดหางของมันไปโดนเฉินเฉียงอย่างหนักหน่วง และนี่ทำให้เขานั้นสูญเสียการทรงตัว
เฉินเฉียงที่โดนหางฟาดไปเต็มๆได้พ่นเลือดไปกลางอากาศพร้อมร่างที่ร่วงหล่นไปในแม่น้ำทรายดูด
“มัน….จบ…แล้ว”
เหล่าศิษย์สำนักวิหคอสนีบาตได้มองไปที่ร่างของชายหนุ่มที่พึ่งช่วยเว่ยฉิงเชินไปอย่างหมดปัญญาจะช่วยเหลือ ไม่นานนัก แม่น้ำบริเวณที่เฉินเฉียงได้จมลงไปก็ได้กลายเป็นสีแดงฉาน
เว่ยฉิงเชินในตอนนี้มีใบหน้าที่ถอดสีในทันที เธอรู้สึกไม่ยินดีเลยสักนิดที่เธอนั้นสามารถรอดชีวิตมาได้โดยการที่ต้องแลกกับชีวิตของผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือเธอแบบนี้
“ศิษย์พี่จาง พี่เห็นรึเปล่าว่าคนคนนั้นมาจากสำนักไหน”
จางชีส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดตอบ “ศิษย์น้องฉิงเชิน คนนั้นปรากฏตัวออกมาอย่างฉุกละหุก ตอนแรกพวกเรายังคิดว่าเขานั้นอาศัยจังหวะนี้มาโจมตีพวกเราด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเขาต้องการช่วยเจ้าแบบนี้”
แต่ที่พอจะบอกได้คือพวกเราไม่เคยเห็นและคุ้นหน้าเขามาก่อน ข้าไม่รู้จริงๆว่าเขานั้นมาจากสำนักไหน
อย่างไรก็ตาม เว่ยฉิงเชินนั้นรู้สึกได้อยู่รางๆว่าเธอคุ้นเคยกับความเร็วที่รวดเร็วขั้นสุดแบบนี้มาก่อน มันเหมือนกับวิชาของเฉินเฉียงมากๆ
แต่ตอนที่เธอเห็นใบหน้าของเขาชัดๆนั้น กลับกลายเป็นคนแปลกหน้า
“ศิษย์น้องฉิงเชิน พวกเราอย่าอยู่ที่นี่ต่อเลยนะ พวกเรารีบไปกันดีกว่า”
“นั่นสิ ศิษย์พี่ฉิงเชิน พวกเราเสียเวลาอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว ในเมื่อจระเข้เขี้ยวยักษ์นั่นตายไปแล้ว พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป”
“ยิ่งไปกว่านั้นคือพลังงานสายเลือดของศิษย์พี่เหือดแห้งไปจนเกือบหมด จะดีกว่าถ้าพวกเราหาที่ปลอดภัยให้ท่านได้ฟื้นฟูพลัง”
เว่ยฉิงเชินนั้นแม้จะลังเลในขณะที่กำลังจ้องมองไปยังบ่อเลือดที่ปรากฏอยู่ในแม่น้ำทรายดูดแห่งนี้ แต่ด้วยการช่วยกันพูดของศิษย์ร่วมสำนัก แม้จะปวดใจอย่างหนักแต่เธอก็ทำได้เพียงเลือกที่จะจากไป
ส่วนเฉินเฉียงนั้น แม้ว่าหลังจากที่เขาใช้ทักษะขุดรูสังหารจระเข้เขี้ยวยักษ์ระดับนายพลขั้นกลางลงไปได้ แต่ด้วยการดิ้นรนก่อนตายของมันทำให้เขาโดนหางของมันฟาดไปเต็มๆ ทำให้หลังจากพ่นเลือดออกมาคำโต ร่างของเขาก็ได้ดำดิ่งลงไปในแม่น้ำทรายดูด
ในทันทีที่ร่างของเขาแตะผิวน้ำ เฉินเฉียงก็รับรู้ได้ด้วยกระแสจิตในทันทีว่างูลายทองกว่าสองร้อยตัวได้เร่งรีบพุ่งเข้ามาที่เขา
ความรวดเร็วของพวกมันนั้นยังเร็วกว่าทักษะขุดรูระดับสูงของเขาซะอีก
ในห้องข้อมูลของสำนักเต่าดำ เฉินเฉียงได้รับรู้ถึงพลังโจมตีถึงระดับขั้นทำลายล้างของงูลายทองนี่มาแล้ว และยังรู้อีกว่าพลังของมันนั้นสามารถทะลวงชั้นพลังงานของมนุษย์ได้อย่างง่ายดายและสามารถเข้าไปในร่างของมนุษย์ผู้บ่มเพาะได้ เมื่อมันเข้าไปในร่าง มันจะเข้าไปโจมตีในพลังงานสายเลือด ราวกับว่ามันคือลูกบอลไฟที่โดนโยนเข้าไปบนก้อนน้ำแข็ง มันจะหลอมรวมและขจัดพลังสายเลือดในร่างกายมนุษย์ไปจนหมด
และด้วยระดับของมันแล้ว แม้แต่นักรบสายเลือดระดับนายพลวิญญาณขั้นสูงก็ต้องตกตายในทันที
ถึงแม้ว่าเขานั้นเข้าใจความเสี่ยงในการช่วยเหลือเว่ยฉิงเชิน แต่เขานั้นก็ไม่คิดว่าจะต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้จริงๆ
เมื่อเห็นงูลายทองกว่าสองร้อยตัวพุ่งมาที่ตน เฉินเฉียงจึงหวังพึ่งแรงที่เหลืออยู่และทักษะการควบคุมสายน้ำรีบเร่งทิ้งห่างราวกับปลาว่ายหนีตาย
แต่ด้วยการที่เขานั้นโดนหางของจระเข้เขี้ยวยักษ์เข้าไป ทำให้หลังของเขานั้นเจ็บหนัก แม้กระทั่งเกราะชั้นพลังงานของเขาก็ยังแตกออก และนี่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของทักษะควบคุมสายน้ำอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้นคืองูลายทองพวกนี้ใช้พลังของมันดีดตัวเองใส่เขามาตั้งแต่ตอนที่พวกมันอยู่ห่างเฉินเฉียงเพียงหนึ่งเมตรเท่านั้น ตอนที่เฉินเฉียงกำลังจะหนีนี้ งูลายทองหลายสิบก็ได้ชอนไชร่างกายของเขาเข้าไปแล้ว
เฉินเฉียงหน้าซีดเผือดในทันทีที่รู้สึกตัว เมื่อได้เห็นว่างูทองที่เหลือกำลังจะเข้าถึงตัว เขาจึงรีบใช้ทักษะคลื่นเสียงทำลายวิญญาณในทันที
ในทันทีที่งูทองนับร้อยโดนทักษะนี้เข้าไป พวกเหยียดตัวตรงและหมุนวนไปมาราวกับเส้นด้ายที่ไหลไปตามน้ำ
แต่งูทองสิบกว่าตัวที่เข้าถึงตัวเขาแล้ว พวกมันกับกำลังชอนไชเข้าไปในร่างของเขา
การกระทำของพวกมันนั้นไม่ได้สร้างความเจ็บปวดแต่อย่างใด หากไม่ใช่เพราะว่าเฉินเฉียงมีทักษะการตรวจจับด้วยกระแสจิตที่สูงล้ำ เขาคงไม่รู้ว่าพวกมันได้เข้าไปในร่างกายของเขาแล้ว
แต่ถึงจะรู้เขาก็ทำอะไรพวกมันไม่ได้
ภายใต้การรับรู้ของเฉินเฉียง พวกเขานั้นเห็นงูทองสิบกว่าตัวนี้ที่เข้าไปในร่างกายของเขาได้เร่งทำลายเซลล์กล้ามเนื้อ และเพียงช่วงเวลาสั้นๆ กล้ามเนื้อส่วนหนึ่งของเขาได้ถูกทำลายไม่มีชิ้นดี
มันจบแล้วสินะ
ในตอนนี้ต่อให้เขามีวิธีการกำจัดพวกมันนับพัน แต่ก็ไม่อาจทำอะไรงูลายทองเหล่านี้ในตอนนี้ได้
ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เฉินเฉียงใช้โอกาสนี้ในการรวบเอางูลายทองที่ยังตกอยู่ภายใต้ทักษะคลื่นเสียงทำลายวิญญาณของเขาอยู่นั้น มาฉีกกระชากให้ขาดเป็นสองท่อน
และเมื่อกำลังเห็นว่างูลายทองเหล่านี้กำลังจะฟื้นคืนได้สติ เฉินเฉียงเองก็เตรียมที่จะใช้คลื่นเสียงทำลายล้างอีกครั้ง โดยมุ่งหมายจะฆ่าล้างพวกมันก่อนที่เขาจะตกตายไป เป็นการแก้แค้นให้ตนเองล่วงหน้า
แต่ก่อนที่เขาจะได้ใช้คลื่นเสียงทำลายวิญญาณออกไปนั้น เขาก็พบว่างูทองทั้งหมดชักดิ้นชักงอตกตายลงไปโดยไม่ทราบสาเหตุ