บทที่ 53 – หนังสือเวท
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในงานเลี้ยงฉันก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะชนะการแข่งขันให้ได้.. ไม่สิ อย่างน้อยก็ขอแค่ขึ้นไปเป็นอันดับต้นๆ ได้ก็พอ
วันนี้คือวันพักผ่อนตามสบาย ใครจะออกไปพักผ่อนด้านนอกหรือในที่พักล้วนแล้วแต่เป็นอิสระทั้งหมด แน่นอนว่าฉันต้องอยู่ที่ห้อง
ตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนเตียงและมีสกาเล็ตลอยอยู่ข้างๆ ด้านหน้าฉันมีอัญมณีอยู่สองชิ้น และชิ้นหนึ่งในนั้นมีสีสองสีตัดสลับกันค่อนข้างแปลกตา
มันดูเป็นเหมือนมีอัญมณีสองชนิดแตกต่างกันอยู่ในอัญมณีชิ้นเดียว.. ใช่มันคืออัญมณีที่เหมือนกับมีทั้งโกเมนและอเมทิสอยู่ในอัญมณีนี้
ส่วนอีกอันคืออัญมณีสีน้ำเงินที่สะอาดตา แสดงให้เห็นว่ามันคืออัญมณีไพลินหรือ ลาพิส อาซุรี่ เจ้าอัญมณีนี้ก็มีคุณสมบัติคล้ายกับอัญมณีอีกอัน
“ว่าแต่นะ การเอาอัญมณีมารวมกันแบบนี้นี่.. มันถูกต้องจริงๆ หรือเปล่านะ”
ฉันพูดถามสกาเล็ตออกไปแบบนั้น.. แต่สกาเล็ตทำได้เพียงส่ายหน้าตอบ
“ไม่รู้สิ.. แต่ข้ารู้สึกว่าถ้าทำแบบนี้มันจะทำให้ข้าเข้าใกล้ความจริงเกี่ยวกับตัวข้ามากขึ้น..”
“หมายความว่ายังไง?”
“อืม.. นั่นสินะ หลังจากที่เจ้าหลอมรวมสองอัญมณีเข้าด้วยกันตอนนั้นข้าก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก จนกระทั่งเห็นอัญมณีชิ้นที่สามนี่แหละ ข้ารู้สึกเหมือนกับว่าต้องให้มันรีบหลอมรวมกับอัญมณีอีกสองชิ้นซะงั้นแหละ..”
“……”
ฉันรู้สึกแปลกๆ กับคำพูดของเธอ ถ้าเธอพูดแบบนั้นมันยิ่งทำให้ทุกอย่างน่าสงสัยขึ้นไปอีกไม่ใช่หรือไง
ถึงฉันจะไม่ใช่คนที่หัวดีขนาดนั้นก็เถอะ แต่การที่จู่ๆ ก็มีของที่ตนเองต้องการหรือสกาเล็ตต้องการมาถวายให้ถึงหน้าแบบง่ายๆ นี่มันก็…
จากคำบอกเล่าในบททดสอบของราชินีที่มอบอัญมณีโกเมนให้… นางไม่ได้บอกเล่าเกี่ยวกับอัญมณีชัดเจนแต่ที่ฉันรู้ก็มีเพียงแค่ว่า อัญมณีแบบนี้มันมีอีกหกชิ้น
แต่ละชิ้นจะมอบบางสิ่งบางอย่างที่ทรงพลังเหนือสิ่งอื่นใด… ตอนนี้ฉันได้มาถึงสามชิ้นแล้ว นี่มันจะง่ายขนาดนี้เชียวเหรอ
แล้วไอ้คนที่มอบให้ฉันนั่นมันเป็นใคร มองไม่ออกเลยนะว่าเป็นคนดี.. ฉันได้แต่ส่ายหน้าด้วยความไม่เข้าใจ
“แต่ว่านะ สกาเล็ตเธอมั่นใจนะว่ามันจะไม่เกิดผลเสียตามมาทีหลัง?”
ก็คนที่ให้มาดูจะไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ เกิดมันเป็นแผนชั่วอะไรบางอย่างพอหลอมรวมแล้วโดนพิษจนตายขึ้นมาอะไรแบบนั้นจะทำไง
เอาเถอะถึงจะว่ากันตามตรงเลยสิ่งที่ฉันกังวลมันคงเป็นไปไม่ได้เลยก็เถอะ แต่ก็แหม จู่ๆ มีคนเอาของวิเศษมาให้แบบงงๆ เป็นใคร ใครก็กังวลใช่ไหมล่ะ
ซึ่งจะให้ฉันไม่ลืมหูลืมตารับของจากคนแปลกหน้าแบบนั้นก็ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ.. หมายถึงข้างในอ่ะนะ
“ข้ามั่นใจว่าเป็นไปไม่ได้.. ถึงข้าจะจำหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างไม่ค่อยจะได้แต่สิ่งที่ข้ามั่นใจเลยก็คืออัญมณีที่ข้าสถิตอยู่ไม่สามารถถูกดัดแปลงหรือแก้ไขอะไรมันได้ หากอัญมณีชิ้นอื่นมีคุณสมบัติแบบเดียวกันก็คงเป็นแบบนั้นเหมือนกัน”
“งั้นเหรอ…”
ฉันพยักหน้ากับคำตอบของเธอ ก่อนจะก้มลงไปมองอัญมณีไพลินที่อยู่ในมือซึ่งมองเผินๆ ก็เหมือนอัญมณีตกแต่งธรรมดา
แต่ก็สัมผัสถึงความแปลกประหลาดได้นิดหน่อย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะฉันไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องอัญมณีเท่าไหร่เลยไม่สามารถเข้าใจว่า
อัญมณีวิเศษนี้มันต่างจากอัญมณีธรรมดาหรือเปล่า สกาเล็ตนิ่งเงียบลงพักหนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้นว่า
“เอาเถอะ เจ้าอย่าพึ่งหลอมรวมจะดีกว่า เพราะหากเกิดอะไรไม่คาดฝันขึ้นเจ้าอาจจะเข้าร่วมงานแข่งขันไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”
“นั่นก็จริง.. แต่ว่า…”
“แต่อะไร?”
“ก็แบบฉันต้องเข้าร่วมงานแข่งขันเฟสเตอร์และได้รับตำแหน่งดีๆ มาเพื่อพิสูจน์ว่าฉันเก่ง.. ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ฉันคิดว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้แข็งแกร่งพอ”
ใช่แล้ว.. ฉันรู้ว่าอัญมณีที่ได้รับมามันมอบความสามารถในการรับรู้บางอย่างให้ฉัน อย่างอัญมณีอเมทิสคือมอบความสามารถในการมองเห็นค่าต่างๆ ได้
และอัญมณีโกเมนก็ให้ความสามารถในการเห็นพารามิเตอร์ความเป็นอยู่ในตอนนั้น จากระยะไหนก็ได้ขอเพียงแค่เคยเห็นกันสักครั้งในชีวิต
ถ้าหากอัญมณีชิ้นนี้เป็นอัญมณีไพลินอีกอันละก็… มันอาจจะมอบความสามารถบางอย่างให้ฉันก็ได้
สิ่งที่ฉันมีในตอนนี้คือเวทมนตร์เล็กๆ น้อยๆ.. และมีมนตราที่สกาเล็ตมอบให้อีกไม่กี่อย่างเท่านั้น
ท่าที่ดีที่สุดของฉันก็คงเป็นเวทมนตร์เสริมกำลังกับเวทมนตร์ในการข้ามมิติเท่านั้นแหละ โชคดีที่เพราะมีอัญมณีอเมทิสเลยทำให้ฉันนมีพลังเวทเยอะ
แต่ก็ไม่สามารถใช้ได้แบบต่อเนื่อง.. เพราะต้องใช้เวลาในการส่งพลังเวทจากอัญมณีมาสู่ร่างประมาณสองสามนาที
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ถ้าจนตรอกจริงๆ เจ้าก็แค่ใช้ข้าก็พอ”
“เฮ้ยๆ อย่าพูดอะไรแบบนั้นออกมาสิ.. ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิดงานแข่งขันนี้ถ่ายทอดสดไปทั่วทุกอาณาจักรบนทวีปแห่งนี้ ขืนเธอโผล่ออกมาแล้วคู่อริเธอเห็นจะทำไงล่ะ”
“ข้ามีคู่อริที่ไหนล่ะ”
“แหม.. ก็เธอเสียความทรงจำใช่ไหมล่ะ”
“ก็ใช่ แล้วมันทำไม?”
“ก็ถ้าที่เธอเสียความทรงจำเป็นเพราะฝีมือของศัตรูเธอล่ะ”
“…อ้ะ จริงด้วย”
พอเห็นยัยคนนี้พึ่งจะตามเรื่องทันฉันก็อดขำไม่ได้.. ยัยคนนี้บางครั้งก็ดูใช้ได้ บางครั้งก็ดูโง่จริงๆ เหมือนใครไม่รู้
ฉันถอนหายใจออกมากับความฉลาดและรอบคอบของตัวเอง สกาเล็ตที่เหมือนพึ่งจะเข้าใจก็เริ่มกังวลขึ้นมาบ้าง
“แย่แล้วสิ ถ้างั้น”
“ก็ใช่ไง ฉันถึงบอก—”
“แย่แล้ว ขืนปล่อยไว้แบบนี้เจ้าคงโดนกระทืบเละ ข้าอดทานอาหารอร่อยๆ พอดีสิ”
“…..นี่จะหาเรื่องกันใช่ไหม”
สกาเล็ตพูดไม่เกรงใจ ทำให้ฉันอดรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะที่กำลังจะตอบโต้หล่อนนั้นเองเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
“อ้ะ.. ใครมาหาเวลานี้เนี่ย?”
ฉันพึมพำพลางลุกออกจากเตียงเก็บของต่างๆ กลับคืนและไล่ให้สกาเล็ตหายไปจากสายตาตัวเอง
หรือจะเป็นไอน์สไตน์ที่มาหาฉันนะ? ในตอนที่คิดแบบนั้นฉันก็เดินไปเปิดประตูและคนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็เป็นคนที่เหนือความคาดหมายฉันมากที่สุด
“อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
มีคนสองคนยืนอยู่ตรงหน้าห้องของฉัน คนที่พูดแบบไม่ค่อยถือตัวเท่าไหร่นักแต่ดูเป็นมิตรพอสมควรไม่ใช่ใครนอกจากท่านเลทิเซีย
ส่วนอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คือ…น้องสาวของท่านเลทิเซีย องค์หญิงอีกคนที่ทั้งความเก่งและความฉลาดนั้นสูงทะลุเป้า
เลวิเนีย ทีน อาเดฟ ตัวประกอบอีกตัวที่พอท่านเลทิเซียมีบททีไร เธอต้องมายืนอยู่ข้างๆ ท่านเลทิเซียตลอด
“พึ่งจะเคยเจอเลวี่สินะ เธอเป็นน้องสาวของฉันชื่อ เลวิเนียน่ะ” ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณอนาสตาเซียสินะคะ?”
เธอพูดอย่างนอบน้อมและให้เกียรติดูมีความเป็นองค์หญิงมากกว่าท่านเลทิเซียซะอีก แถมบรรยากาศที่ดูเป็นมิตรของเธอทำเอาฉันรู้สึกนุ่มฟูไปเลยล่ะ
“เอ่อ.. ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ท่านเลวิเนีย”
“ไม่ต้องมีท่านหรอกค่ะ อีกอย่างเรียกว่าเลวี่เฉยๆ ก็ได้”
“เอ่อ…”
หนัก… หนักเหลือเกินไอ้ความรู้สึกเป็นมิตรกับองค์หญิงเนี่ย ใช่ว่าฉันจะไม่เคยคุยกับองค์หญิงหรอกนะ พี่ของเจ้าอเล็กซานก็เป็นองค์หญิง
แต่เข้าใจป่ะ.. แบบเนี่ยสิ องค์หญิงของจริง บรรยากาศ ท่าทางทุกอย่างล้วนดูเป็นองค์หญิง เกิดมาเพื่อเป็นองค์หญิงโดยเฉพาะ!!
หวนนึกกลับไปหาองค์หญิงคนนั้นที่ดีดดิ้นซะเป็นปลาโดนน้ำร้อนลวก จู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว.. ฉันได้คุยกับองค์หญิงครั้งแรกแล้วล่ะ
“อ่ะแฮ่ม.. ที่ฉันมาที่นี่เพราะมีบางอย่างจะให้เธอ”
พอเห็นฉันเริ่มไม่ปกติท่านเลทิเซียกระแอมออกมาเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้นพร้อมกับยื่นหนังสือหนึ่งเล่มมาให้
“นี่คือ….?”
“มันคืออุปกรณ์เวทมนตร์ที่ฉันสร้างขึ้นมาเอง เป็นรุ่นทดลองน่ะ ฉันอยากให้เธอเอาไปใช้เพื่อเป็นการทดสอบว่ามันใช้งานได้จริงไหม”
“เอ้ะ?”
“แน่นอนว่าฉันไม่ให้เธอช่วยฟรีๆ หรอกนะ ในงานแข่งขันที่จะถึงนี้ สามารถใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ช่วยได้ EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq ได้ง่ายขึ้น”
ฉันลังเลนิดหน่อยแต่ก็ฟังดูสมเหตุสมผลดี แต่ว่าทำไมท่านเลทิเซียถึงไม่ทดสอบด้วยตัวเองหว่า
ในตอนที่พูดแบบนั้นท่านเลทิเซียก็พูดขึ้นว่า
“ฝากด้วยนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ!”
อ๊ะ.. ตอบโดยไม่คิดทันทีแบบนี้อีกแล้วอ่ะ.. EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq แฮะ ฉันได้แค่คิดแบบนั้นในใจ
ว่าแล้วท่านเลทิเซียก็กำลังจะจากไป แต่ก่อนที่จะจากไปท่านเลทิเซียก้เหมือนพึ่งนึกอะไรขึ้นมาได้
“อ้ะ จริงสิ.. เจ้านี่มีชื่อว่า ‘หนังสือเวท’ นะ อย่าจำผิดล่ะ”
ว่าแล้วท่านเลทิเซียก็จากไป…
ฉันมองหลังเธอก่อนจะก้มมองที่หนังสือเวทในมือ.. ก่อนจะมองท่านเลทิเซียอีกรอบ จะว่าไงดีล่ะ..
คนคนนี้เก่งไปซะทุกเรื่องก็จริงนะ.. แต่เซนส์ในการตั้งชื่อนี่… เชยจริงๆ….
…………
[นิยายรายสองสัปดาห์มีจริง — ผู้เขียน]