บทที่ 137 เพื่อนบ้านไปมาหาสู่กัน
อันที่จริงไข่ไก่เป็นสิ่งที่หาง่ายในหมู่บ้าน แต่ก็ยังถือเป็นของมีมูลค่า ฟองหนึ่งมีมูลค่าเหรียญหนึ่งเลยล่ะ
จวี๋ฮวาคิดได้ว่าบ้านจางซิ่วเอ๋อไม่ได้เลี้ยงไก่ จึงเอาไข่ไก่มาให้
จางซิ่วเอ๋อรู้ว่าถ้าตัวเองไม่รับไว้จวี๋ฮวาคงไม่สบายใจ จึงไม่ได้บอกปัดอะไรแต่รับไว้ตรง ๆ
ตอนแม่หวังกลับมา จวี๋ฮวาทำกับข้าวไว้เสร็จแล้ว
ของที่จางซิ่วเอ๋อเอามาให้นางแค่อุ่นก็เอามาตั้งได้
“จวี๋ฮวา เนื้อนี่มาจากไหนกัน” แม่หวังตกใจเมื่อเห็นกับข้าวที่เพิ่มมา
จวี๋ฮวาตอบตามตรง “ซิ่วเอ๋อเอามาให้เจ้าค่ะ บอกว่าขอบคุณท่านแม่ที่ช่วยนางตอนเรื่องหูครึ่งเซียน”
แม่หวังได้ยินแล้วยิ้ม “เป็นเด็กที่รู้จักเอาใจจริง ๆ”
ตอนที่จางซิ่วเอ๋อกลับถึงบ้าน ก็เห็นชุนเถากำลังกุลีกุจอเอาของให้แม่โจว
จางซิ่วเอ๋อเห็นมือที่แม่โจวยื่นออกมารับถ้วยข้าวแล้วสีหน้าเย็นเยียบลงทันใด แน่นอนว่าไม่ได้มีสาเหตุจากการที่จางชุนเถาตักข้าวให้แม่โจวเต็มถ้วย
ที่สีหน้านางย่ำแย่ลงฉับพลันเป็นเพราะว่านางเห็นมือของแม่โจวขาวซีดแถมยังมีรอยย่น
เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะแช่น้ำนานถึงได้เป็นแบบนี้
จางซิ่วเอ๋อรีบถาม “ท่านแม่ ตั้งแต่กลับไปท่านต้องทำอะไรบ้าง? ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะเจ้าคะ?”
จางชุนเถาที่กำลังคีบกับข้าวให้แม่โจวได้ยินเข้าก็มีสีหน้าดำคร่ำเครียดลงทันใด “พี่ ยังต้องถามอีกเหรอ พวกย่าของเราน่ะสิ ท่านแม่เพิ่งกลับไปก็ใช้ให้ซักผ้า ข้าเห็นกับตา ผ้ากองเป็นตั้ง ต้องใช้เวลาซักนานมาก เสื้อผ้าสกปรกช่วงที่พวกเราไม่อยู่หมักหมมไว้ให้แม่ซักหมด”
จางซิ่วเอ๋อได้ฟังแล้วก็หน้าเขียวด้วยความโมโห นี่ตระกูลจางยังเห็นแม่โจวเป็นคนอยู่ไหม?
แม่โจวกำลังท้องกำลังไส้อยู่นะ ให้นางทำงานยังไม่เท่าไร แต่กลับให้นางต้องแช่มือในน้ำเย็นเป็นเวลานาน!
คนในหมู่บ้านเวลาซักผ้าต้องไปที่ลำธารเล็กหลังหมู่บ้าน ต่อให้ตอนนี้เป็นหน้าร้อน น้ำในลำธารที่ไหลลงมาจากเขาก็ยังเย็นอยู่!
ต่อให้เป็นคนปกติก็ไม่กล้าซักผ้าในน้ำเป็นเวลานาน!
จางซิ่วเอ๋อตบโต๊ะเสียงดังลั่น พูดอย่างกราดเกรี้ยว “ข้าจะไปคิดบัญชีกับพวกเขา!”
แม่โจวเห็นท่ารีบวางถ้วยลงและดึงจางซิ่วเอ๋อไว้ “ซิ่วเอ๋อ เจ้าอย่าไป…..”
จางซิ่วเอ๋อมองแม่โจวอย่างสงสัย
แม่โจวถอนหายใจ “ถ้าเจ้าไป หลังจากนี้ข้ากับซานหยาคงอยู่กันลำบากยิ่งกว่านี้”
จางซิ่วเอ๋อได้ฟังก็ใจเย็นลง เมื่อครู่นางแค่ใจร้อนไปหน่อยตอนรู้เรื่องถึงได้วู่วามแบบนั้น พอใจเย็นลงนางถึงรู้ว่าตัวเองไม่ควรไป
แต่ถ้าไม่ทำอะไรสักหน่อย จางซิ่วเอ๋อก็อัดอั้นตันใจจริง ๆ!
แล้วจะปล่อยให้คนตระกูลจางรังแกแม่โจวอยู่แบบนี้เหรอ?
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้นางแอบเอาของกินดี ๆ บำรุงแม่โจวตลอดก็ยากจะรับประกันได้ว่าแม่โจวจะไม่เป็นอะไรไปตอนคลอดลูก
ราวกับสัมผัสถึงความกังวลของจางซิ่วเอ๋อได้ แม่โจวรีบบอก “ซิ่วเอ๋อ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้ารู้ดีแก่ใจ ตอนคลอดพวกเจ้าก็ผ่านกันมาแบบนี้แหละ……”
สมัยนั้นต่อให้เป็นตอนอยู่ไฟก็เคยซักผ้ากับน้ำเย็นเหมือนกัน แล้วจะเอาอะไรกับตอนนี้
จางซิ่วเอ๋อได้ฟังแล้วรู้สึกปวดใจ
หลายปีมานี้แม่โจวต้องผ่านอะไรบ้าง
นางรับปากต่อหน้าว่าจะไม่ไปมีเรื่อง แต่ในใจคิดว่าจะทำอย่างไรไม่ให้คนตระกูลจางรังแกแม่โจว
นางเป็นคนไปอาละวาดคงไม่เหมาะ ถึงเอาปังตอไปวิ่งไล่ฟันคนตระกูลสวี่ได้ อย่างมากคนอื่นก็แค่กล่าวหาว่านางดุร้าย แต่นางเอาปังตอไล่ฟันคนตระกูลจางไม่ได้
คนพวกนี้กล่าวหานางว่าเป็นคนอกตัญญูได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าเรื่องจริงจะเป็นอย่างไร สำหรับคนโบราณแล้ว การที่นางลงมือกับผู้ใหญ่ในบ้านเป็นเรื่องที่ผิดจารีตอย่างมหันต์
จางซิ่วเอ๋อหรี่ตา ในเมื่อนางลงมือไม่ได้ ก็ต้องให้คนอื่นลงมือ
ที่คนตระกูลจางกล้ารังแกแม่โจวขนาดนั้นก็เพราะแม่โจวรังแกง่าย ไม่มีใครหนุนหลังน่ะสินะ?
ถ้า…..ตามคนตระกูลโจวมาได้……
โดยเฉพาะหยางชุ่ยฮวาที่พลังรบเต็มสูบ……
ถึงตอนนั้นคนตระกูลจางน่าจะเพลา ๆ ลงบ้าง
เวลาแบบนี้ต้องให้คนบ้านตัวเองออกหน้าสินะ
พอคิดได้แบบนี้จางซิ่วเอ๋อก็มีแผนในใจ แต่เรื่องนี้คงไม่สำเร็จในเร็ววัน ต้องผ่านเรื่องยากตรงหน้านี่ไปก่อน
จางซิ่วเอ๋อทำอะไรไม่ได้จึงเลือกวิธีที่โง่ที่สุด เอาเสื้อผ้าที่เหลืออยู่ของแม่โจวมาช่วยกันซักกับจางชุนเถา
พอจางซิ่วเอ๋อเห็นกองเสื้อผ้าสกปรกแล้วก็มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
ไม่พูดถึงตัวอื่น ลำพังแค่เสื้อชั้นในของจางอวี่หมินยังจะให้พี่สะใภ้ตัวเองซัก ช่างหน้าไม่อายจริง ๆ!
จางซิ่วเอ๋อมองด้วยสายตาเย็นชา สุดท้ายก็ซักไม่ลง จึงเลือกชุดนอกอีกตัวมาซัก
แม่โจวกลับดูชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว ตอนนี้กำลังซักอย่างคล่องแคล่ว
การซักผ้าในยุคโบราณ โดยเฉพาะหมู่บ้านเล็ก ๆ ตามป่าตามเขาแบบนี้ไม่ต้องใช้กะละมัง แค่วางบนหินแล้วเอาท่อนไม้ตี
ทำแบบนี้นอกจากจะเปลืองแรงเปลืองเวลาแล้ว ยังซักไม่สะอาดด้วย
จางซิ่วเอ๋อซักไปนึกอุทานในใจไป ถ้ามีผงซักฟอกหรือสบู่ก็คงจะดี
แต่จางซิ่วเอ๋อก็แค่นึกในใจเท่านั้น ถึงแม้นางจะมาจากยุคปัจจุบัน ทว่าความสามารถในการทำสบู่และผงซักฟอกนางไม่ได้ซึมซับมา
นางทำอะไรพวกนี้เป็นที่ไหนกันล่ะ?
ที่จริงยุคโบราณมีแผ่นสบู่ใช้ เป็นพืชที่ขึ้นตามต้นไม้ ถือว่าเป็นสบู่พืชจากธรรมชาติโดยแท้ แต่ผลลัพธ์แตกต่างจากสบู่ในยุคปัจจุบันมาก
ข้อดีเพียงอย่างเดียวเห็นจะเป็นธรรมชาติแท้ไม่มีสารปนเปื้อนกระมัง?
คิดแบบนี้แล้วจู่ ๆ ดวงตาจางซิ่วเอ๋อก็เป็นประกาย
นางทำสบู่ไม่ได้ แต่ทำอย่างอื่นได้นี่
อย่างอื่นที่ว่าก็คือกระดานซักผ้า
ใช่แล้ว อาวุธในการทรมานผู้ชายของผู้หญิงยุคปัจจุบัน กระดานซักผ้า!
กระดานซักผ้าสลักโดยไม้แท้ได้ หากซักผ้าด้วยกระดานซักผ้าก็ไม่ต้องใช้ท่อนไม้ตีแล้ว และประหยัดแรงว่าใช้มือขยี้เยอะ
และที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องมีความสามารถอะไรมากมาย
แค่หาช่างไม้และไม้ดี ๆ ก็ทำได้แล้ว
ส่วนช่างไม้เหรอ? ก็มีแล้วนี่ โจวเหวินอย่างไรล่ะ!
จางชุนเถามองจางซิ่วเอ๋อที่หัวเราะโง่ ๆ อยู่อย่างสงสัยแล้วถามขึ้น “พี่ คิดอะไรอยู่เหรอเจ้าคะ?”
จางซิ่วเอ๋อได้สติกลับมา จึงบอกนางไป “ถ้ามีเวลา เราไปเยี่ยมน้าเล็กในเมืองกัน”
แม่โจวชะงักมือก่อนจะเอ่ยขึ้น “ก็ดี ไปมาหาสู่กับน้าเล็กพวกเจ้าบ่อย ๆ อีกหน่อย……”
อีกหน่อยแต่งงานแล้วจะได้ไม่เป็นคนที่ไร้คนที่บ้านหนุนหลัง
แม่โจวไม่ได้พูดออกมา แต่ในใจคิดแบบนี้จริง ๆ
ใช่แล้ว ถึงแม้ตอนนี้แม่โจวต่อกรกับคนตระกูลจางไม่ได้ แต่ในใจไม่คาดหวังกับคนตระกูลจางแล้ว นางคิดว่าตอนลูกสาวตัวเองแต่งงานออกไปและหากโดนบ้านสามีรังแก คนตระกูลจางไม่ออกหน้าให้หรอก
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ขอให้แผนน้องสำเร็จนะคะ จะได้ปลดแอกให้แม่โจวได้เสียที
ไหหม่า(海馬)