“ผู้บัญชาการ?”
ดูเหมือนเธอจะติดเรียกคำนี้แล้ว จึงเรียกอีกครั้ง ยังคงใช้โทนเสียงธรรมดา เจือไปด้วยความเย็นชานิดหน่อยตามความเคยชิน
ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าขึ้น ดวงตาขยับ
เห็นเด็กสาวหันหน้ามามองเขา EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq วูบไหวแพรวพราว
สะท้อนรับแสงแดดนอกหน้าต่าง คล้ายภูเขาเขียวชอุ่มหลังฝนตก ดอกไม้ที่เบ่งบานหลังฝนกระหน่ำ กลิ่นหอมอบอวลไปถ้วนทั่ว
ความงดงามกับความเย็นชา สองบุคลิกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงได้ผสมผสานอย่างลงตัวอยู่ในตัวเธอ
ไร้ซึ่งความขัดแย้งใดๆ กลับงดงามจนน่าตะลึงเสียด้วยซ้ำ
พอเห็นเขามองมาเธอก็เลิกคิ้ว
“หืม? คนคนนั้นยื่นข้อเสนออะไรล่ะ” นิ้วของฟู่อวิ๋นเซินที่หนีบหน้าหนังสืออยู่ชะงักลง เหลือบมองด้วยหางตา “พี่ชายให้สองเท่า โอเคไหม”
ระบบป้องกันของไอบีไอถูกเพิ่มความแข็งแกร่งเมื่อตอนที่เขาเพิ่งคลุกคลีกับเทคนิคแฮกคอมพิวเตอร์
ถ้าปล่อยให้บอสใหญ่ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามแฮกเข้าไปได้จริง ก็เท่ากับเขาทำมันสูญเปล่า ถึงแม้เขาจะไม่เคยประลองฝีมือในเน็ตกับอิ๋งจื่อจิน EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq ถ้าลงมือจริงก็มีความเป็นไปได้สูงว่าไฟร์วอลจะเอาไม่อยู่ และตอนนี้เขาก็ไม่ยุ่งเรื่องที่เกี่ยวกับการแฮกแล้วด้วย
ถ้าไฟร์วอลของไอบีไอเกิดข้อผิดพลาด แบบนั้นคนที่หลบซ่อนอยู่ในมุมมืดทั่วโลก รวมถึงอิทธิพลที่คิดจะมาแทนที่ไอบีไอก็คงจะโผล่พ้นน้ำออกมาอย่างต่อเนื่อง
“งั้นอาจจะไม่ได้” อิ๋งจื่อจินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เขาบอกว่าเขาจะให้ยาพิษที่เพิ่งคิดค้น”
หยุดเล็กน้อยแล้วพูดต่อ ยังคงจริงจัง “คงไม่มีนักปรุงยาพิษคนไหนเก่งไปกว่าเขาอีกแล้ว”
ฟู่อวิ๋นเซินหุบยิ้ม หรี่ตาลง “คนที่ขายครีมกันแดดเหรอ”
เขารู้ว่าอันดับสามของชาร์ตนักปรุงยาพิษคือใคร
เขาคิดมาตลอดว่าโรงพยาบาลบ้าที่ไหนสักแห่งคงปิดประตูไม่สนิท คนป่วยก็เลยหนีออกมาได้ ปกตินักปรุงยาพิษจะทำตัวลับลมคมใน ปรากฏว่าหมอนี่กลับเปิดเผยขายครีมกันแดดอยู่ที่ชายหาด ถ้าไม่ติดว่าหมอนี่ไม่ได้ทำเรื่องผิดกฎละก็ คงโดนจับไปนานแล้ว
แต่ก็ไม่มีนักปรุงยาพิษคนไหนที่เก่งไปกว่าคนนี้แล้วจริงๆ
นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งไม่เคยปรากฏตัว ไม่มีแม้แต่ร่องรอย
ส่วนนักปรุงยาพิษอันดับสองเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยมไอบีไอล่าตัวมานาน แต่ก็จับนักปรุงยาพิษอันดับสองเข้าคุกไม่ได้สักที
เพราะคนทั่วไปไม่มีทางรับพิษไหว
ต่อให้สภาพร่างกายของพวกนักสืบกับตำรวจสากลจะเกินคนปกติยังไงก็ไม่มีทางเป็นอมตะถูกพิษแล้วไม่เป็นไรได้
“เขานั่นแหละ” อิ๋งจื่อจินหาวออกมา ถามด้วยความสนใจ “อยากช่วยเขาไหม”
“เด็กน้อย ใจร้ายอีกแล้วนะ” ฟู่อวิ๋นเซินปิดหนังสือ นั่งที่เก้าอี้กินข้าว “พวกเรารู้จักกันมานานขนาดนี้ เธอกับเขาเพิ่งจะรู้จักกันนานเท่าไร นี่ก็จะช่วยคนนอกรังแกพี่ชายแล้วเหรอ”
แต่เขากลับรู้จุดประสงค์ที่เธอขอซื้อยาพิษจากคนบ้าคนนี้
เพื่อหยั่งเชิงนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง
ตระกูลเบวินบอกว่าติดต่อนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งที่ลึกลับคนนี้ได้แล้ว แต่เขาขี้เกียจสืบ ก็ไม่รู้ว่าตัวจริงหรือตัวปลอม
แต่มีความเป็นไปได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าตัวปลอม ตอนนี้เขาไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรกับพวกนักปรุงยาพิษ จึงไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไร
“ก็แค่ถามดู” อิ๋งจื่อจินไม่รีบร้อน เธอเคาะแป้นพิมพ์ “ผู้บัญชาการอย่าถือสาเลยนะ”
ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว สีหน้าเอื่อยเฉื่อย “เยาเยา จงใจแกล้งพี่ชายใช่ไหม”
“เปล่านะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “แค่ลองถามดูจริงๆ ถ้าคุณยอมฉันก็จะทำ”
ฟู่อวิ๋นเซิน “…”
ได้…เด็กน้อยของเขาเห็นแก่เงินไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ แต่ก็ดีอย่างน้อยความเป็นไปได้ที่จะถูกหลอกก็ไม่มากเท่าไร บนหน้าจอคอมพิวเตอร์
แอทเชิญมากินยา : [ว่าไง ท่านเทพ เพื่อนผมคนนั้นไม่ได้ทำอะไรผิดเลยจริงๆ พวกผมเป็นพลเมืองดี ไม่ทำผิดกฎหมาย เขาก็แค่ปลอมเป็นนักโทษหนีคดีคนหนึ่งเพื่อเข้าไปในสำนักงานใหญ่ไอบีไอ]
แอทเชิญมากินยา : [ใครจะไปรู้ว่าฝีมือการแปลงโฉมของเขาดีเกินไปจนถูกคิดว่าเป็นนักโทษหนีคดีคนนั้นจริงๆ ท่านเทพช่วยหน่อยนะ ช่วยเด็กมันหน่อยปล่อยเขาออกมาเถอะ]
แอทโค้กชานมเฟรนช์ฟรายส์ : [เรื่องนี้ไม่ได้]
แอทเชิญมากินยา : [ทำไมไม่ได้ท่านเทพ ท่านเทพฝีมือดีถึงขั้นแฮกเข้าระบบของเว็บบอร์ดเอ็นโอเคได้เลยนะ! เก่งกว่าบอสใหญ่สมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามที่อ่อนหัดนั่นไม่รู้ตั้งเท่าไร]
แอทโค้กชานมเฟรนช์ฟรายส์ : [เพราะว่าฉันเองก็อ่อนหัด]
แอทเชิญมากินยา : […]
แอทเชิญมากินยา : [ท่านเทพ อย่าใช้น้ำเสียงแบบข้าก็คือพ่อผู้กากเดนของพวกเจ้าแบบนี้ได้ไหม พูดอะไรน่าท้อแท้แบบนั้น]
แอทเชิญมากินยา : [เฮ้อ ช่างเถอะ ผมพอเข้าใจได้ ยังไงซะผู้บัญชาการสูงสุดคนนั้นของไอบีไอก็เก่งจริงๆ เกิดผมส่งท่านเทพเข้าไปติดแทน ผมได้กลายเป็นคนเลวเลยนะ]
แอทโค้กชานมเฟรนช์ฟรายส์ : บอกราคายาพิษของคุณมา]
แอทเชิญมากินยา : [ให้ฟรีแหละ ท่านเทพ ผมส่งข้อมูลให้ในโซนซื้อขายแล้ว ท่านเทพไปดูที่นั่น ไว้ถึงเวลาช่วยอุดหนุนครีมกันแดดของผมหลายๆ หลอดหน่อยนะ (อีโมชันเขินอาย)]
อิ๋งจื่อจินไม่ตอบเขาอีกไปที่โซนซื้อขายแล้วกดสั่งของ ข้อมูลการจัดส่งสินค้าขึ้นว่าพรุ่งนี้เช้าของน่าจะมาถึง ความเร็วเท่านี้ถือว่าช้ามากแล้ว เพราะของอย่างยาพิษต้องใช้ความระมัดระวังมากในการขนส่ง โดยเฉพาะยาพิษที่นักปรุงยาพิษสติเพี้ยนคนนี้ทำขึ้น มีหลากหลาย แถมแปลกประหลาด
อิ๋งจื่อจินปิดคอมพิวเตอร์แล้วหันไปมองหนังสือที่อยู่ในมือฟู่อวิ๋นเซิน
ตำนานเทพเจ้าเคลติก
เธอก็เคยอ่านหนึ่งในนั้นเป็นเรื่องที่รู้จักกันในวงกว้าง ซึ่งก็คือกษัตริย์อาร์เธอร์กับอัศวินโต๊ะกลมของเขา อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด เทน้ำผลไม้หนึ่งแก้ว
“มิน่าคุณถึงซื้อหนังสือเด็กให้ฉัน”
ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง คล้ายกับไม่เข้าใจในทันที “หืม?”
ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาถึงนึกเรื่องตอนแรกสุดออก เขาจงใจแกล้งเธอเลยซื้อหนังสือนิทานส่งไปให้เยอะแยะ อิ๋งจื่อจินดื่มน้ำผลไม้จนหมด ได้ข้อสรุป “คุณนั่นแหละที่ชอบ”
จากนั้นเธอก็เรียกออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ “เด็กน้อย”
“…”
…
ชิงจื้อไม่ได้หารือเรื่องตัวแทนลงแข่งไอเอสซีอยู่นานนัก
อย่างไรเสียทั้งโรงเรียนก็มีอยู่คนเดียว ต้องส่งนักเรียนที่เก่งที่สุดในโรงเรียนไปอยู่แล้ว ยังจะเลือกใครได้อีกนอกจากอิ๋งจื่อจิน หาได้ยากที่ความเห็นของพวกอาจารย์ชิงจื้อจะเป็นไปในทางเดียวกัน แม้หลายคนปกติจะเป็นพวกชอบค้านหัวชนฝาก็ตาม
“อาจารย์ อิ๋งเย่ว์เซวียนนักเรียนห้องผมได้ยินพวกเราคุยกันเรื่องตัวแทนลงแข่ง” อาจารย์สวีดันแว่นตา
“เธอสงสัยว่าทำไมพวกเราไม่เลือกเธอ บอกว่าอยากแข่งกับอิ๋งจื่อจินด้วยความยุติธรรมครับ”
“แข่งอย่างยุติธรรมเหรอ” อาจารย์ฝ่ายวิชาการพูด “แข่งยังไง”
ถ้ามีตัวเลือกมากกว่านี้พวกเขาย่อมจัดการแข่งขันคัดเลือกภายในโรงเรียน แต่นี่ไม่มีใครเทียบอิ๋งจื่อจินได้เลยในเรื่องความรู้วิชาการ ยังต้องแข่งอีกเหรอ
อาจารย์สวีก็จนปัญญา “งั้นอาจารย์ว่าไงดีครับ”
“ไม่ต้องเสียเวลาหรอก” อาจารย์ฝ่ายวิชาการส่ายหน้า “อีกอย่างงานแข่งนานาชาติของไอเอสซีก็จัดก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วย ให้เธอตั้งใจเตรียมสอบกับเตรียมตัวไปดีกว่า”
“ให้เธอแบ่งสมาธิมาเตรียมตัวเรื่องนี้มันไม่คุ้มกัน”
อาจารย์สวีพยักหน้า “ผมก็คิดแบบนั้นครับ งั้นผมจะไปบอกเธอ”
“ไปเถอะ” อาจารย์ฝ่ายวิชาการส่ายมือ “ผมจะไปหา ผอ.”
เขาฮัมเพลงมาตลอดทางจนถึงห้องทำงานผู้อำนวยการโรงเรียน เคาะประตูเสร็จก็เดินเข้าไป
“ผอ.ครับ เรื่องตัวแทนลงแข่งไอเอสซีพวกเราตัดสินใจแล้วครับว่าจะให้นักเรียนอิ๋งจื่อจินลงแข่ง” เขาพูด
“ส่งรายชื่อเลยนะครับ”
พอได้ยินแบบนี้ผู้อำนวยการก็เงียบไปชั่วขณะ
“อาจารย์รอเดี๋ยวนะ เรื่องนี้ผมต้องโทรถามเธอก่อนว่ายอมไปหรือเปล่า”
“หา!” อาจารย์ฝ่ายวิชาการถึงงุนงง
“ยังต้องถามความยินยอมด้วยเหรอครับ โอกาสดีขนาดนี้! แบบนี้เข้าวงการวิชาการได้เลยนะครับ”
ผู้อำนวยการกลับไม่คิดแบบนั้น กังวลใจ “ผมยังต้องขอร้องเลยนะ ไม่อย่างนั้นเธอไม่อยากแม้แต่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย”
อาจารย์ฝ่ายวิชาการช็อก “…”
ผู้อำนวยการยกหูโทรศัพท์โต๊ะทำงานแล้วกดหาเบอร์
ดังอยู่สามครั้งก็มีคนรับ
“ค่ะผู้อำนวยการ”
“ผอ.เองนะ นักเรียนอิ๋งจื่อจิน” ผู้อำนวยการอึกอัก
“ทางโรงเรียนมีเรื่องอยากให้เธอช่วยหน่อย อยากให้ช่วยลงแข่งงานวิชาการระดับนานาชาติ งานแข่งนี้ยากมาก นอกจากเธอแล้วทางโรงเรียนก็ไม่เห็นว่าจะมีใครเหมาะสมอีก”
อิ๋งจื่อจิน “ได้ค่ะ”
“ถ้าเธอไม่มีเวลา งั้นก็…” ผู้อำนวยการเบิกตาโพลง กลืนคำพูดที่กำลังจะพูดต่อ “เธอรับปากแล้วเหรอ”
“ค่ะ” ดูเหมือนอิ๋งจื่อจินจะยังง่วงมาก เธอหาวออกมา
“ก็ช่วยทางโรงเรียนไม่ใช่เหรอคะ”
“โอเคๆ!” ผู้อำนวยการตื่นเต้น “งั้นอีกเดี๋ยวจะให้คนส่งข้อมูลการแข่งขันให้เธอนะ”
เขาวางสายอยากจะลุกขึ้นมาเต้น
อาจารย์ฝ่ายวิชาการก็โล่งอก “งั้นส่งรายชื่อเลยไหมครับ”
“ส่งเลย” ผู้อำนวยการพยักหน้า “ดูท่างานแข่งระดับนานาชาติครั้งนี้ ชิงจื้อจะต้องได้สักรางวัลแน่นอน”
อาจารย์ฝ่ายวิชาการก็ออกไปด้วยความดีใจ พอเขากลับถึงห้องทำงานก็เห็นมีคนรอเขาอยู่หน้าโต๊ะทำงาน อิ๋งเย่ว์เซวียนโด่งดังมาก อาจารย์ฝ่ายวิชาการจำได้ในทันทียังไม่ทันที่เขาจะได้ถามอะไรเธอก็พูดขึ้น
“อาจารย์คะ ได้ตัวแทนแล้วเหรอคะ”
“ใช่ ได้แล้ว” อาจารย์ฝ่ายวิชาการไม่ปิดบัง “ตอนนี้อาจารย์จะส่งชื่อนักเรียนอิ๋งจื่อจินไป”
อิ๋งเย่ว์เซวียนสูดลมหายใจเข้าลึก
“สรุปว่าแม้แต่สิทธิ์ให้หนูได้แข่งกับเธอพวกอาจารย์ก็จะไม่ให้เหรอคะ แบบนี้ยุติธรรมเหรอคะ”
เธอไม่แย่งไม่ชิงดีชิงเด่นกับใคร แต่โควตานี้สำคัญกับเธอมาก
ถ้าเธอไปแข่งแล้วได้มาสักรางวัล แบบนั้นก็จะเข้าวงการวิชาการได้อย่างมั่นคง
“นักเรียนอิ๋งเย่ว์เซวียน ทางโรงเรียนเลือกตัวแทนก็ย่อมต้องคำนึงถึงหลายด้าน” อาจารย์ฝ่ายวิชาการหุบยิ้ม “ทำไมถึงไม่เลือกเธอ เธอก็น่าจะรู้นะ”
“หนูไม่รู้ค่ะ” อิ๋งเย่ว์เซวียนเม้มริมฝีปาก “หนูรู้แค่ว่า ยังไม่ทันที่หนูจะได้แข่งกับเธอ พวกอาจารย์ก็ตัดสินว่าหนูแพ้แล้ว”
พอได้ยินแบบนี้อาจารย์ฝ่ายวิชาการก็อึ้ง “เดี๋ยวนะ…เธอไม่รู้จริงๆ เหรอ”
อิ๋งเย่ว์เซวียนมือเกร็ง เธอรู้สึกงง “อาจารย์หมายถึงอะไรเหรอคะ”
“ได้” อาจารย์ฝ่ายวิชาการพูด “งั้นเธอมาดูเอาเองแล้วกัน”
เขาเปิดคอมพิวเตอร์แล้วค้นผลคะแนนรวมถึงการจัดอันดับของการสอบกลางภาคเทอมที่แล้วออกมาให้อิ๋งเย่ว์เซวียนดู