ตอนที่ 387 : แกล้งทําเป็นยังไม่แพ้!
เมื่อหวงเหยากวงเห็นรูปทรงของรถคันนี้และแบรนด์เมอร์เซเดสเบนซ์ของมันเขาก็รู้ได้ทันทีว่ารถคันนี้จะต้องแพงอย่างแน่นอน!
และดูแล้วน่าจะเป็นรุ่นจํากัดจํานวนด้วย!
“เจียงเฉินคนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับรถคันนี้?”
“นอกจากนี้ผู้หญิงคนนั้น(ลูซี) มองเพียงแวบแรกก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ธรรมดา เธอจะต้องเป็นหนึ่งในชนชั้นสูงของวงการธุรกิจแน่ๆ แต่ว่าเธอมีความสัมพันธ์อะไรกับเจียงเฉินล่ะ?”
“เจียงเฉินคนนี้เป็นแค่เด็กกําพร้าไม่ใช่หรอ เขาเป็นแค่คนทําธุระไม่ใช่หรือไง?”
สงสัยมาก!
ในอีกด้านหนึ่งคนรวยรุ่นที่สองก็เดินออกมาจากประตูของบริษัทและเมื่อเขาเห็นเจียงเฉินเขาก็โบกมือด้วยความดีใจ
“อาจารย์…”
“ว้าว ท่านอาจารย์นี่มันรถเมอร์เซเดสเบนซ์รุ่นใหม่ล่าสุดไม่ใช่เหรอ? ผมยังจําได้ว่ามันอยู่ใน ขั้นการออกแบบอยู่เลยไม่ใช่หรือยังไงตอนนี้มันเสร็จแล้วงั้นเหรอ?”
“แม้แต่ผมเองยังไม่มีคุณสมบัติมากพอดีซื้อรถคันนี้เลย อาจารย์ทําได้ยังไงกัน?”
“อาจารย์ผมคิดว่าคุณจะต้องเป็นหาเศรษฐีแน่ๆเลยใช่ไหม และการออกมาทําธุระก็เป็นการออกมาสัมผัสประสบการณ์ชีวิตใช่ไหม?”
เกาซวยเอามือลูปไปที่รถเมอร์เซเดสเบนซ์พร้อมกับดวงตาของเขาที่มีแสงส่องเป็นประกายออกมา
เขาสรุปความจริงออกมาได้ในทันที
ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจเจียงเฉินรีบขับรถและพาลูซื้ออกไปทันที
ต้องบอกเลยว่าตอนที่สตาร์ทรถเสียงของเครื่องยนต์นั้นน่าตกตะลึงและมีเสน่ห์มากจริงๆ
ห่างออกไปหวงเหยากวงพยายามมองดูรอบๆและพูดกับคนขับรถว่า “นายเห็นกล้องหรือว่าทีมงานถ่ายทําบ้างไหม?”
คนขับรถ “??? ผมไม่เข้าใจว่าเจ้านายหมายถึงอะไร?”
หวงเหยากวง “ฉันถามว่านายเห็นพวกมันบ้างไหม?”
คนขับรถ “ไม่เลยครับ”
หวงเหยากวงพยักหน้า
เขาเองก็ไม่เห็นเหมือนกัน
นี่จะต้องไม่ใช่การถ่ายทําอย่างแน่นอน
ผู้หญิงคนนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับรถคันนี้?
“ไปหาใครสักคนมาตรวจสอบเจียงเฉินกับผู้หญิงคนนั้นดูว่ามันเกิดไรขึ้นแล้วก็รถคันนั้นด้วย…”
คนขับรถ “รับทราบครับเจ้านาย”
หวงเหยากวงรู้สึกว่ามันจะต้องมีเรื่องบางอย่างที่ไม่ปกติอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง……
หวงเหยากวงก็ได้รับข้อมูลกลับมา
เจียงเฉินนั้นไม่มีปัญหาเขาเป็นเพียงแค่พนักงานทําธุระเท่านั้นหวงเหยากวงแต่ประวัติย่อของ เจียงเฉินหลายครั้งแต่สุดท้ายก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาไม่ได้มีอะไรพิเศษ
ส่วนหญิงสาวชาวต่างชาตินั้นก็ไม่มีข้อมูลอะไรที่ดูน่าสนใจ
แต่ปัญหามันอยู่ที่รถ : รถคันนั้นเป็นรถสปอร์ตรุ่นล่าสุดของเมอร์เซเดสเบนซ์ที่ยังไม่ได้มีการเปิดตัว
เลยเกิดคําถามขึ้นมาว่า….
แล้วรถสปอร์ตคันนั้นมาอยู่ในมือของเจียงเฉินได้ยังไงกัน?
ในเวลานี้เองคนขับรถก็ยื่นเอกสารอีกฉบับหนึ่งมอบให้กับหวงเหยากวง
“เจ้านายผมคิดว่าเหตุผลที่เป็นไปได้อยู่ในนี้แล้ว…”
หวงเหยากวงรับข้อมูลมาแล้วเปิดดู
–เกาซวย เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเกาหยวนฟางหนึ่งในสิบคนที่ร่ํารวยที่สุดในเซี่ยงไฮ้!
-ปัจจุบันเป็นลูกจ้างของบริษัททําธุระและเป็นลูกศิษย์ของเจียงเฉิน
–เขาเป็นคนรวยรุ่นที่สองที่ชอบใช้เงินซื้อทุกอย่างที่เขาต้องการ
“มันจะต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ!”
หวงเหยากวงในที่สุดก็เข้าใจ
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!
รถยนต์คันนั้นจะต้องเป็นของเขาอย่างแน่นอน!
ฉันหวงเหยากวงฉลาดจริงๆ!
(เจียงเฉิน : สุดยอด! ยกนิ้วให้เลย!)
ในเวลานี้เองเจียงเฉินก็ได้รับออเดอร์ทําธุระเข้ามา
เมื่อไปถึงที่หมายเจียงเฉินก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่กําลังเมา
“พี่ชายผมเป็นคนดูแลที่จะพาคุณกลับไปส่งบ้าน”
“อ่ะนี่กุญแจ
เจียงเฉินรับกุญแจรถมาก่อนที่จะเปิดประตูรถและพาเขาเข้าไปข้างในรถ
ขับรถกลับไปที่บ้านของลูกค้า
เคาะประตู
หญิงชราอายุประมาณ 70 ปีเปิดประตูออกมา
“สวัสดีครับสามีของคุณกําลังเมาเขาเลยจ้างผมให้พากลับบ้านครับ”
เจียงเฉินพยุงลูกค้าเข้ามา
หญิงชราบ่นออกมา “ทําไมคุณถึงไปดื่มอีกแล้ว? อย่าบอกนะว่าแค่สังสรรค์!”
ลูกค้า “ภรรยาคุณช่วยลบเครื่องสําอางออกจากหน้าหน่อยได้ไหม”
ภรรยา “???”
เจียงเฉิน “???”
ลูกค้าที่กําลังเมาแล้วก็พูดออกมาว่า “ฉันล่ะอยากจะอ้วกออกมาแต่ก็ทําไม่ได้…”
“………..”
เจียงเฉินสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาต
อุณหภูมิลดลงหลายองศา!
รอยยิ้มที่น่าสะพรึงกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของภรรยาของลูกค้าก่อนที่เธอจะเดินหันหลังแล้วปิดประตูใส่อย่างแรง!
เจียงเฉินเหงื่อตกอย่างบ้าคลั่ง~~
ในเวลานี้เองลูกค้าก็ดูเหมือนว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองทําอะไรโง่ๆลงไป เขารีบวิ่งเข้าไปเคาะประตู และตะโกนออกมา
“ภรรยาจ่า ผมผิดไปแล้ว”
ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง
ภรรยาของลูกค้าโยนเสื้อผ้าและผ้าห่มออกมาที่หน้าประตู
ปัง~
ประตูถูกปิดลงอีกครั้ง
ลูกค้ชาย “…”
เจียงเฉินเดินเข้าไปตบไหล่ลูกค้าและพูดออกมาว่า “พี่ชาย ดื่มครั้งหน้าก็ระวังตัวหน่อยนะ”
หลังจากที่เจียงเฉินทําธุระเสร็จเขาก็กลับลงมาข้างล่าง
“เฮ้ น้องเจียง!”
“อ่าว พี่โจวมาทําอะไรที่นี่หรอครับ?”
คนที่มานั่นก็คือโจวหมิง
“พอดีฉันมีญาติคนหนึ่งในชุมชนนี้น่ะ…” โจวหมิงชี้ไปที่ชั้นบนสุดของอาคารแล้วก็พูดออกมา
“ว่าแต่น้องเจียงกินข้าวหรือยังนี่ก็เที่ยงแล้วนะ”
“ยังเลยครับไปกันเถอะ!”
ทั้งสองพูดคุยกันระหว่างที่เดินออกจากชุมชน
ในเวลานี้เองหวงเหยากวงที่นั่งอยู่ในรถออดี้ก็ผ่านมาอีกครั้ง…
“??? เจียงเฉิน?”
“เดี๋ยวนะ นั้นคนใหญ่คนโตในแวดวงการเงินโจวหมิงจากบริษัทลงทุนกั่วดูไม่ใช่หรอ?”
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่!”
ขยี้ตา!
มองดูอีกครั้ง!
ถูกต้อง!
หวงเหยากวงรู้สึกว่าเขานั้นจะต้องตาฝาดไปแน่ๆ
บอสโจวจากบริษัทลงทุนกั่วคู่นั้นเขาเองก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นร่ํารวยแค่ไหนในอดีตหัวไถ่เมดิคอลของเขาก็ยังต้องพึ่งพาการเงินจากบริษัทลงทุนกั่ว
และจากประสบการณ์นั่นก็ทําให้เขายิ่งรู้จักบอสโจวมากขึ้นไปอีก
“เจียงเฉินไปรู้จักกับบอสโจวได้ยังไงกัน ไม่สิคนๆนั้นต้องใช้บอสโจวแน่!”
ในที่สุดหวงเหยากวงก็เลือกที่จะเชื่อมั่นในตัวเองแล้วขับรถจากไป
เจียงเฉินกับโจวหมิงเดินไปทานอาหารที่ร้านอาหารก่อนที่จะแยกทางกันไป
มีธุระด่วน ซื้อทุเรียน!
เจียงเฉินรีบไปที่ร้านขายผลไม้และเลือกหยิบทเรียนขึ้นมาหนึ่งผล
แล้วก็ไปส่งให้ถึงหน้าบ้านลูกค้า
“สวัสดีครับผมคุณทําธุระผมเอาทุเรียนมาส่งแล้ว”
ชายคนหนึ่งเปิดประตูออกมา
แล้วก็รับเอาทุเรียนจับมือของเจียงเฉินไป
อ๊าก
“เจ็บมาก!!”
ชายที่รับเอาทเรียนไปจากมือของเจียงเฉินก็โดนหนามจากตัวทุเรียนที่มจนร้องออกมา
เจียงเฉินรีบพูด “พี่ชายผมขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าถ้าอยากได้ทุเรียนที่มีเนื้อเยอะ ต้องเลือกผลที่มีหนามคมๆยาวๆนะ! กดดูแล้วเปลือกบางทุเรียนแบบนี้แหละดีที่สุดลองดูที่ผมเลือกมาให้ สีสวยจริงๆนะ!”
ลูกค้าชายพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ขมขึ้น “แต่….ทุเรียนลูกนี้ไม่ได้มีไว้กิน”
เจียงเฉิน “หะ?? ไม่ใช่สําหรับกินงั้นหรอ?”
ทันใดนั้นก็มีหญิงสาวเปิดประตูออกมาจากบ้าน
ดูแล้วเธอคงจะเป็นภรรยาของลูกค้า
ใบหน้าของเธอนั้นเย็นชามากและเห็นได้ชัดว่าเธอนั้นกําลังโกรธ
เธอหยิบทุเรียนมาจากมือของเจียงเฉินและจ้องมองสามีของเธอ
“มานี่เดี๋ยวนี้! ทุเรียนมาถึงแล้ว! คุกเข่าซะ!”
โหดร้าย!
ลูกค้าชายแทบร้องไห้ออกมา
เจียงเฉิน
อะไรกัน!
จะให้คุกเข่าบนทุเรียน?!
ในที่สุดเจียงเฉินก็เข้าใจว่าทําไมลูกค้าชายถึงแสดงออกมาแบบนั้น
พี่ชายผมขอไว้อาลัยให้สามวิ
หลังจากที่ทําธุระไปได้สองรอบฟ้าก็เริ่มมืดเจียงเฉินจึงคิดจะไปหาอาหารเย็นกัน
และทันใดนั้นก็มีเสียงดังออกมา
“หนุ่มน้อย!”
เจียงเฉินหันกลับไปแล้วพบเห็นพ่อของเสี่ยวหรานหวงเหยากวง
“สวัสดีครับลุง.
“นายกินข้าวหรือยัง?”
“ยังครับกําลังจะไปกิน”
“งั้นหรอ ฉันเองก็กําลังจะไปกินข้าว ทําไมเราไม่ไปด้วยกันล่ะ?”
“ได้ครับ”
หวงเหยากวงมองดูเจียงเฉินเดินเข้ามาในรถก่อนจะพูดออกมาในใจว่า
“ฮัม! ฉันจะพานายไปที่ร้านอาหารหรูราคาแพงให้นายได้เห็นวิถีชีวิตของคนรวย ให้นายได้รู้ว่า ช่องว่างระหว่างเรามันกว้างแค่ไหน!”
เจียงเฉินแม้ว่าจะไม่รู้ความคิดของหวงเหยากวงแต่เขาก็รู้ดีว่าหวงเหยากวงไม่ได้มาดีแน่นอน
แต่ฉันเป็นใคร? ฉันคือเจียงเฉินแล้วฉันจําเป็นต้องกลัวด้วยหรอ?
เรื่องแบบนี้ไม่ยอมแพ้หรอกนะ!
เจียงเฉิน “เราจะไปกินกันที่ร้านไหนดีครับ?”
หวงเหยากวง “เสี่ยวเจียง ตอนนี้เรากําลังทํางานทําธุระมันก็คงเป็นงานหนักมากสินะ ดังนั้นวันนี้ฉันจะพานายไปทานร้านอาหารอร่อยก็แล้วกัน มันเป็นร้านมิชลิน 3 ดาว-ซินหรงจี!”
เจียงเฉิน “…”
ซินหรงจี?
เยี่ยม
บังเอิญอะไรขนาดนี้!
หวงเหยากวงโอ้อวดออกมา “ร้านอาหารมิชลินสามดาวแบบนี้ทั้งโลกมีอยู่เพียงแค่ 113 แห่ง เท่านั้น! และไม่ใช่ว่าทุกเมืองทั่วโลกจะมีร้านอาหารแบบนี้ต่อให้เป็นเมืองที่มีประชากรหลักสิบ ล้านคนก็ตาม! นักชิมบางคนต่างก็บอกกันว่ามาตรฐานของร้านอาหารมิชลินสามดาวนั้นต้องลิ้มรสสักครั้งในชีวิต!”
เจียงเฉิน “…”
โอ้อวดเข้าไปเลย!
แต่ถึงอย่างนั้นบนใบหน้าของเจียงเฉินก็ยังมีการแสดงออกประมาณว่า ตกใจ หวาดกลัว “ว้าวนี่มันร้านอาหารระดับไฮเอนด์ไม่ใช่หรอครับ?”
“ใช่แล้ว มันหรูมากเลยนะ” หวงเหยากวงแนะนํา “โดยปกติแล้วการที่จะทานร้านอาหารแบบนี้ต้องมีการนัดจองล่วงหน้าไว้เท่านั้น ซึ่งบางที่อาจจะต้องนัดกันถึงครึ่งปีเลยทีเดียว”
จากนั้นเขาก็ตบไหล่ของเจียงเฉินและพูดอย่างจริงจังว่า “แต่สําหรับคนรวยอย่างฉัน แค่นัดวันเดียวก่อนไปก็เพียงพอแล้วไม่จําเป็นต้องรอถึงครึ่งปี! นี่แหละคือเสน่ห์ของเงิน!”
เจียงเฉินแทบจะหัวเราะออกมาที่เห็นหวงเหยากว โอ้อวดร้านของเขาขนาดนี้
ฉันควรจะบอกเขาดีไหมนะ?
ช่างมันเถอะปล่อยให้เขาอดไปก่อนสักพักก็แล้วกันเพราะท้ายที่สุดแล้วการโอ้อวดนั้นก็จบไม่ค่อยสวยเสมอ
ในที่สุดก็มาถึงร้านอาหารซินหรงจหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง
ลงจากรถ
เจียงเฉินเดินตามหวงเหยากวงเข้าไปในร้านอาหาร
หวงเหยากวงมองไปที่เฉินและพบว่าเจียงเฉินนั้นไม่มีอาการประหม่าเลยแต่กลับเต็มไปด้วยความสบายใจ มันทําให้เขารู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที
เขาอดไม่ได้ที่จะถามออกไป “นายไม่… ไม่รู้สึกตกใจหน่อยหรอ ราคาอาหารที่นี่แพงมากเลยนะอย่างน้อยก็มีห้าถึงหกพันหยวนต่อจาน”
เจียงเฉินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาอย่างตกใจว่า “ว้าว ที่นี่มันหรูหรามากเลย ผมไม่เคยมาสถานที่ที่หรูหราแบบนี้มาก่อนเลยน่าตกใจจริงๆแถมอาหารก็แพงมากด้วย คนทําตัวอย่างผมกินเดือนละครั้งก็คงไม่มีตังค์กินข้าวไปตลอดเดือนแล้ว”
หวงเหยากวง “…”
ปลอมเกินไปหน่อยไหม?
ทั้งสองเดินไปนั่งลงที่โต๊ะ
สั่งอาหาร
ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ
เจียงเฉินถ่ายรูปถ่ายแล้วก็ถ่ายรูปอีกครั้งแน่นอนว่าเขานั้นไม่ได้นําลงไปโพสต์ลงอินเท อร์เน็ตแต่เพื่อส่งให้เสี่ยวหรานและอีกฝ่ายรู้ว่าพ่อของเธอพาเขามา
หวงเหยากวงคิดว่าเทียนเฉินนั้นแค่แกล้งถ่ายรูป ดังนั้นเขาจึงส่ายหัวแล้วหัวเราะออกมาอย่าง หยิ่งยโส “ถ่ายรูปอีกแล้วเหรอ? คนหนุ่มสาวนี่จริงๆเลยนะ….”
เจียงเฉิน “…”
จากนั้นหวงเหยากวงก็ทานอาหารเข้าไปคําแรก หลังจากนั้นเขาก็หลับตาอยู่สักพักก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
“อ่า– ยังมีกลิ่นที่ฉันคุ้นเคย!”
เจียงเฉิน “…”
จะโอ้อวดก็ให้มันเนียนกว่านี้หน่อยได้ไหม?
หลังจากนั้นก็เริ่มกิน…
หลังจากที่กินไปหนึ่งชั่วโมง
พนักงานเสิร์ฟก็เดินเข้ามา “สวัสดีค่ะ ค่าอาหารทั้งหมด 12,568 หยวนแต่คุณลูกค้าได้รับส่วนลดลงเหลือเพียง 12,000 หยวน… ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้ามีบัตรสมาชิกไหมคะ”
หวงเหยากวงส่ายหัว “ไม่มี”
เจียงเฉินยิ้มออกมา “แต่ผมมี….”
หืม?!
หวงเหยากวงหันกลับมามองที่เจียงเฉินด้วยความตกตะลึง
ในตอนนี้ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงเป็นอย่างมาก!!
สงสัยชีวิต!!