เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ – ตอนที่ 395 : ยามรักษาความปลอดภัยคนนี้มีอะไรบางอย่างผิดปกติ?

ตอนที่ 395 : ยามรักษาความปลอดภัยคนนี้มีอะไรบางอย่างผิดปกติ?

แต่น่าเสียดายที่เทพธิดาทั้งสองนั้นจะไม่มีเวลาที่แยกจากกันเลยดังนั้นไม่ว่าผู้ชายคนไหนที่ พยายามเข้าใกล้พวกเธอไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาจบใหม่หรือว่าผู้บริหารที่เต็มไปด้วยความร่ำรวยหรือคนหนุ่มที่มีความสามารถพวกเขาก็ล้วนแล้วแต่ถูกปฏิบัติเหมือนกันทั้งหมด-พวกเขาถูกปฏิเสธ!

เฉินเค่อเฉียนยังพูดอีกว่าพวกเขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่น่าเกลียดกันทั้งนั้น

ซึ่งสาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะคนๆหนึ่งนั่นก็คือ

เจียงเฉิน!

ขณะที่พูดทันใดนั้นเฉินเค่อเฉียนก็เป็นฝูงชนอยู่ตรงหน้าทางเข้าลิฟต์เหมือนกับว่ากําลังมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น

“มีอะไรเกิดขึ้นกัน?”

มู่เฉิงเฉิงและเฉินเค่อเฉียนเดินเข้าไปดูด้วยความสงสัย

ผู้คนที่กําลังรับชมความสนุกเมื่อเห็นพวกเธอพวกเขาก็พากันเปิดทางให้แบบอัตโนมัติ

สาวสวยย่อมได้รับสิทธิพิเศษอยู่เสมอ!

โดยเฉพาะกับเหล่าผู้ชายจากบริษัทการเงินที่พยายามหาทางเข้าหาเทพธิดาทั้งสอง

“หือ? พี่ไปงั้นหรอ? มันกิดอะไรขึ้น?”

เฉินเค่อเฉียนนั้นเห็นพี่ไปก่อน

เมื่อพี่ไปเห็นเทพธิดาทั้งสองเดินเข้ามาความรู้สึกขยะแขยงก็ปรากฏขึ้นมาบนแววตาของเธอ

สูดอากาศ!

ทั้งที่พวกเธอมีอายุน้อยกว่าฉันแต่พวกเธอกลับสวยกว่าแถมยังมีตําแหน่งสวยกว่า!

อิจฉา!

แม้ว่าเฉินเค่อเฉียนกับมู่เฉิงเฉิงจะเข้าทํางานได้ไม่นานแต่พวกเธอนั้นก็มีความสามารถที่สูงและทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพจนทั้งสองได้เลื่อนตําแหน่งอย่างรวดเร็วและสุดท้ายก็แทรงหน้าเธอไปทั้งๆที่เธอนั้นทํางานอยู่ที่นี่มานานกว่า 10 ปี

และด้วยความที่เธอนั้นไม่ใช่คนดีอะไรทั้งนั้นเธอจึงพยายามคิดหาวิธีที่จะมาจัดการกับทั้งสองอยู่ตลอด

ฮ่ม! งั้นฉันลากสองสาวนี่มาสู้กับเจ้ายามรักษาความปลอดภัยนี่ด้วยก็แล้วกัน!

ฉันต้องให้พวกเธอมาอยู่ข้างฉันให้ได้และให้พวกเธอพูดแทนฉัน!

สาวสวยทั้งสองคนนี้ต่างก็ได้รับความนิยมกันทั้งคู่

หากพวกเธอออกมายืนข้างฉันบรรดาผู้ชายที่อยู่รอบๆจะต้องคล้อยตามฉันแน่ๆ

เมื่อมีคนจํานวนมากพูดออกมาในทางเดียวกันมันก็จะมีพลังมากพอที่จะไม่ต้องสนเหตุผลอะไรทั้งนั้น!

ทุกวันนี้ความจริงยังต้องสนใจด้วยหรอ? ขอแค่คนที่มีเสียงดังมากพอก็ได้เป็นคนที่แข็งแกร่งแล้ว!

พี่สาวไปดึงมู่เฉิงเฉิงกับเฉินเค่อเฉียนเข้ามาและเริ่มร้องไห้และเช็ดน้ําตาของตัวเองพร้อมกับพูดออกมาว่า “พวกเธอมาได้ทันเวลาพอดีเลย ดูสิยามรักษาความปลอดภัยคนนี้ไม่ยอมให้ฉันขึ้นไปชั้นบนทั้งๆที่ฉันทํางานที่นี่มาเป็นสิบปีแล้ว”

เธอไม่สนแล้วว่าอะไรถูกอะไรผิดเธอแต่งเรื่องขึ้นมาจากความว่างเปล่ากลับขาวให้เป็นดํา และใส่ร้ายออกมาเต็มที่~~

บลา บลา บลา~~ (ต่อไปอีก 10,000 ค่า)

หลังจากที่พี่ไปพูดจบเธอก็รู้สึกเหนื่อยจนแลบลิ้นออกมา

ให้ตายเถอะ

การแต่งเรื่องมันเหนื่อยขนาดนี้เลยหรอ?

แต่ถึงยังไงหากมันสําเร็จมันก็คุ้ม!

ฮ่าๆ

เธอพูดออกมา “เป็นยังไงบ้างล่ะพวกเธอเข้าใจรึยัง เห็นไหมว่าน้องชายคนนี้จะต้องเกลียดชังฉันเป็นพิเศษแน่ๆ เขาสมควรถูกไล่ออกไหมล่ะ?”

มู่เฉิงเฉิงและเฉินเค่อเฉียนเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ถูกกล่าวหา

ตกตะลึง!

พระเจ้า!

ปรากฏว่าเป็นเจียงเฉิน?

เจียงเฉินกระพริบตาให้พวกเธอ

หญิงสาวทั้งสองคนกลืนความสงสัยและไม่ได้พูดอะไร

พี่ไปยังคงพูดกระตุ้น “พวกเธอสองคนลองแสดงความคิดเห็นหน่อยสิว่าฉันพูดถูกรึเปล่า?”

เธอคิดว่า

มู่เฉิงเฉิงกับเฉินเค่อเฉียนนั้นจะต้องอยู่ข้างเธอแน่ๆ

แต่ใครจะคิด~~

มู่เฉิงเฉิงยังไม่ทันจะได้พูดอะไรแต่เฉินเค่อเฉียนก็ชิงพูดออกมา!

“พี่ไป๋! ฉันคิดว่าพี่กําลังสับสนว่าอะไรถูกอะไรผิดอยู่นะฉันว่าพี่กําลังสร้างเรื่องมาจากความว่าเปล่ามากกว่า! กลับขาวให้เป็นดํา! ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น!”

พี่ไปที่ได้ยินเธอก็พยักหน้าโดยที่ไม่ทันได้คิด “ใช่ ใช่! ทุกคนได้ยินแล้วใช่ไหม พวกเราทุกคนเห็นตรงกันว่านายน่ะกําลังสับสนระหว่างสิ่งที่ถูกกับสิ่งที่ผิด สร้างเรื่องขึ้นมาจากความว่างเปล่ากลับขาวให้เป็นดําและพยายามใส่ร้าย”

“ป๊อป”

ทุกคนรอบตัวพากันหัวเราะออกมาเสียงดัง

“เธอนั่นแหละ!”

“อย่าไปมองคนอื่น มองตัวเองก่อน!”

“ฮ่าๆๆ ตลกเกินไปแล้ว!”

จู่ๆพี่สาวไปก็กลับไปมองที่เฉินเค่อเฉียนด้วยความงุนงง “เสี่ยวเฉิน เธอกําลังพูดถึงฉัน?”

เฉินเค่อเฉียนพูดออกมาอย่างหยาบคาย “ถ้าไม่ใช่แล้วจะเป็นใครอีกล่ะ? ในฐานะที่คุณเป็นผู้จัดการอาวุโสของแผนกทั่วไปของบริษัทคุณควรจะรู้กฎและทําตามกฏได้ดีไม่ใช่หรอแต่นี้คุณ ไม่เพียงแต่ละเมิดกฎเท่านั้นคุณยังดูถูกเหยียดหยามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กําลังทําตามกฏของอาคารความเป็นมืออาชีพของคุณไปอยู่ไหนแล้ว? คุณกล้าดียังไงถึงกลับขาวให้เป็นดําใส่ร้ายคนอื่น? ศีลธรรมขั้นพื้นฐานของคุณหายไปไหน? คุณทําให้บริษัทของเราต้องอับอาย!”

“เธอ เธอ”

พี่สาวไปกระอักเลือดออกมาเต็มปาก!

ใครจะไปคิดว่าเฉินเค่อเฉียนจะไม่ลังเลเลยที่จะยืนอยู่ข้างยามรักษาความปลอดภัย!

ผู้คนที่กําลังดูอยู่ก็ตกตะลึงเช่นกัน!

อย่าบอกนะว่าเฉินเค่อเฉียนจะไปชอบยามรักษาความปลอดภัย?

เกิดอะไรขึ้นกับโลกนี้?!

“เฉินเค่อเฉียนเธอกล้าดูถูกฉันงั้นหรอ?!”

พี่สาวไปตัวสั่นด้วยความโกรธ!

ในเวลานี้เองมู่เฉิงเฉิงก็พูดออกมา

“พี่ไป ในฐานะที่พี่เป็นพนักงานอาวุโสพี่ก็ควรที่จะทําตามกฏ น้องชายคนนี้กําลังทําสิ่งที่ถูกต้องหากพร่ต้องการใช้ต่าแหน่งของพี่ในการข่มขู่เขานั่นหมายความว่าพี่กําลังทําในสิ่งที่ผิดดังนั้น พวกเราจะทําการรายงานการกระทําของพี่ต่อผู้บริหารระดับสูงของบริษัท!”

“เธอ?! แม้แต่เธอมู่เฉิงเฉิงก็อยู่ข้างเดียวกับเขาด้วยหรอ?!”

พี่ไปโดนอีกแล้ว!

ใบหน้าของเธอตอนนี้น่าเกลียดมาก

เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้

ปรากฏว่าตอนนี้สาวสวยทั้งสองคนกําาลังโจมตีใส่เธอ!

มู่เฉิงเฉิงและเฉินเค่อเฉียนสาวสวยทั้งสองคนนี้เป็นเทพธิดาที่เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากเหล่าผู้ชายในอาคารนี้เป็นอย่างมาก!

หลังจากที่พวกเธอแสดงท่าที่จริงจังแบบนั้นออกมาผู้คนที่อยู่รอบๆ โดยเฉพาะพวกผู้ชายก็พากันอยู่ข้างพวกเธอทันที

“ใช่แล้ว!”

“ยัยแม่มดเฒ่า! เธอไม่ยอมทําตามกฎเองแถมยังจะข่มขู่ยามรักษาความปลอดภัยอีกหรอ? นิสัยของเธอมันจะแย่เกินไปแล้วนะ!”

“กล้าข่มขู่เทพธิดาของพวกเรางั้นหรอ? เธอกําลังมองหาความตายใช่ไหม?!”

“พวกเราทุกคนเป็นพยานได้คุณไม่ยอมเคารพกฏเอง!”

ฝูงชนพากันแสดงออกมาอย่างตื่นเต้น

หน้าของพี่ไปซีด…

หัวหน้าโจวมองไปรอบๆเขาไม่รู้จะฟังใครดี

ในสถานการณ์แบบนี้ก็คงต้องเป็น…..เจียงเฉิน!

หัวหน้าโจวไม่กลับหันกลับไปช่วยพี่สาวไปอีก

ในเวลานี้เองเสียงลิฟต์ก็ดังขึ้น

คนๆหนึ่งเดินออกมาจากลิฟต์

พี่สาวไปหันไปมอง

คนที่เดินออกมาจากลิฟต์ก็คือประธานของบริษัทลงทุนต่ํา!

ลู่เจี๊ย!

พี่ไปราวกับว่าตัวเองนั้นได้รับชีวิตใหม่!

วะฮ่าๆๆๆๆ

พระเจ้าเข้าข้างฉันจริงๆด้วย!

เธอนั้นเคยทํางานกับลู่เจียตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ในแผนกต้อนรับมาจนถึงวันนี้ที่เธอได้เป็นผู้จัดการอาวุโส

และลู่เจี้ยนั้นก็ยังเคารพเธอมากแต่ด้วยทักษะความสามารถของพี่สาวไปมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอนั้นจะได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นผู้จัดการอาวุโส แต่ก็ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีของเขากับพี่สาวไปและเนื่องจากเธอทํางานอย่างหนักเพื่อบริษัทมาหลายปีเขาก็เลยเลื่อนขั้นให้กับเธอ

บางทีอาจจะพูดได้ว่าผู้สนับสนุนของพี่สาวไปก็คือลเจียคนนี้

“ประธานลู่!”

ราวกับว่าเธอนั้นได้เจอคนที่จะช่วยให้เธอรอด พี่สาวไปวิ่งเข้าไปคว้าแขนของลู่เจี้ยทันที “ทําประธานคุณต้องตัดสินใจเรื่องนี้ให้ฉันนะคะ ดูยามรักษาความปลอดภัยคนนี้สิเขารังแกฉัน แม้แต่มู่เฉิงเฉิงกับเฉินเค่อเฉียนและคนอื่นๆก็ยังพากันเข้าข้างคนนอก…”

แกล้งร้องไห้ออกมา

ลู่เจี้ยขมวดคิ้ว “มันเกิดอะไรขึ้น?”

ก่อนที่มู่เฉิงเฉิงจะได้พูดอะไรลู่เจี้ยก็หันมาเห็นเจียงเฉินก่อน

ลู่เจีย “…”

พี่สาวไป๋ บลา บลา บลา บลา บลา เล่าเรื่องที่เธอแต่งออกมาเพื่อใส่ร้ายเจียงเฉินอีกครั้ง

ในตอนนี้แม้แต่หัวหน้าโจวก็ยังรู้สึกประหม่ามากเช่นกัน

เพราะเขากลัวว่าคําสั่งของลู่เจียจะทําให้ประธานใหญ่รู้สคกไม่พอใจซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องตลกเลย

แต่ใครจะรู้~~

หลังจากที่ได้ยินการรายงานของพี่สาวไป ลู่เจี้ยก็มองขึ้นไปบนเพดานและพูดออกมาว่า “พี่ไปคุณอยู่ในบริษัทมากี่ปีแล้ว?”

“ฉันทํางานนี้มา 19 ปีแล้ว!”

พี่สาวไปพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ

“แล้วเงินเดือนต่อปีของคุณเท่าไหร่แล้วล่ะ?”

“ตอนนี้ฉันเป็นผู้จัดการอาวุโสดังนั้นฉันจึงได้เงินเดือนมากกว่าหนึ่งล้านต่อปี!”

พี่สาวไปพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ

“อย่างนั้นก็ดีนะ”

ลู่เจียพูดออกมา “พี่ไป๋ คุณอยู่กับผมมานานที่สุด ผมจึงเห็นคุณเป็นคนพิเศษที่สุดคุณคิดว่าผมดีกับคุณไหม?”

“ดีค่ะ” พี่สาวไปคิดว่าลู่เจียจะต้องพูดแทนเธออย่างแน่นอน เธอจึงพูดออกมาอย่างปลื้มใจ

แต่ใครจะรู้ผล

ในวินาทีต่อมาลู่เจียก็เปลี่ยนสีหน้าตัวเองแบบ 180 องศา

“ในเมื่อคุณมีเงินเดือนต่อปีมากถึงหนึ่งล้าน แล้วผมก็ได้ตอบแทนบุญคุณที่คุณได้ทําเอาไว้ก่อนหน้านี้ไปนานแล้วดังนั้นเราก็จะไม่มีอะไรติดค้างกันอีก!”

ลู่เจียพูดออกมาอย่างเย็นชา “ตอนนี้คุณขึ้นไปข้างบนและเก็บของแล้วก็ออกมาจากบริษัทได้แล้ว!”

“อะไรนะ?”

พี่สาวไปตกใจมากจนปากของเธออ้ากว้างจนกรามตกลงไปอยู่ที่พื้น

ดวงตาของหัวหน้าโจวแทบจะหลุดออกมา

คนที่อยู่รอบๆพากันตกต่าหนึ่ง

“พระเจ้า – ไร้ความปราณีแบบนี้เลยหรอ?”

“ประธานคนนี้น่าทึ่งมาก”

“ไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว!”

“ฮ่าๆๆ ไม่ว่าใครจะคิดไม่ถึงว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้!”

“ไม่! ทําประธาน! คุณทําแบบนี้ไม่ได้”

พี่สาวไปกระโดขึ้นและคว้าแขนของลู่เจียและพูดขอร้องออกมา “ประธานลู่ อย่าล้อเล่นกันแบบนี้สิคะ ฉันไม่ได้ทําอะไรผิดเลยนะฉันแค่พูดกับยามรักษาความปลอดภัยตัวนี้ไปไม่กี่ค่าเอง”

“ไม่กี่คงั้นหรอ?”

ใบหน้าของลู่เจียเต็มไปด้วยความมืดมนก่อนจะตะโกนออกมา “ถ้ามันแค่ไม่กี่คําจริงผมก็คงไม่ว่าอะไรเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ผมเห็นมันก็ชัดเจนแล้วว่าคุณกําลังสับสนว่าอะไรถูกอะไรผิด แต่งเรื่องขึ้นมาจากความว่างเปล่ากลับดําให้เป็นขาวและใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น!”

พอคนรอบข้างได้ยินก็พากันหัวเราะออกมา~~

ค่าพูดนี้มันเหมือนกับสองเทพธิดาเมื่อกี้เลยไม่ใช่เหรอ?

ดูเหมือนว่าทุกคนจะเข้าใจนิสัยของพี่ไป๋คนนี้ดีนะ!

พี่ไป๋ “…”

อยากตาย!

ล่เจียมองไปที่เจียงเฉินและพูดชมออกมา

“ฟังนะ ทุกคนคงจะเห็นแล้วว่ายามรักษาความปลอดภัยคนนี้ซื่อตรงแค่ไหน นี่คือพรสวรรค์ที่เราต้องการในฐานะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่จะคอยดูแลพวกเราคนแบบนี้แหละมีคุณสมบัติมากที่สุด (ยกย่องเจียงเฉินต่อไปอีก 10,000 ค่า)”

หัวหน้าโจวที่ฟังการชมเชยเจียงเฉินของลู่เจียก็ยังรู้สึกราวกับว่าตัวเองถูกชมไปด้วย

เช็ดเหงื่อ

ให้ตายเถอะ!

ผู้หญิงคนนี้ทําให้ฉันแทบบ้า

เพราะตอนนั้นฉันต่อว่าเจียงเฉินไปตอนนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

ในตอนนี้ลู่เจียเอาแต่ยกย่องเจียงเฉินในขณะเดียวกันก็พูดต่อว่าพี่สาวไป

ในที่สุดพี่สาวไปก็เริ่มควบคุมอารมณ์ได้

“ท่านประธานฉันผิดไปแล้ว ฉันรู้ว่าฉันคิดผิดได้โปรดให้โอกาสกับฉันอีกสักครั้ง อย่าไล่ฉันออกเลยนะคะ

“ไปได้แล้ว! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”

ลู่เจี๊ยตะโกนออกมา “หลังจากที่เธอได้ทําร้ายคุณเจียง…..เอ่อ….ยามรักษาความปลอดภัยคนนี้เธอยังคิดจะทํางานที่นี่ต่อไปงั้นเหรอ? มันเป็นไปไม่ได้!”

พี่สาวไปตกตะลึง

ยามรักษาความปลอดภัยคนนี้มีอะไรบางอย่างผิดปกติ?

ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือใครกัน?

ไม่สนแล้ว!

เธอเข้าไปคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเจียงเฉิน!

เจียงเฉิน “???”

อะไรกัน?

เมื่อกี้ยังเยอะยิ่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?

ทําไมจู่ๆถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?

พี่สาวไปักอดต้นขาของเจียงเฉินและร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ได้โปรดเมตตาฉันด้วย! ฉันไม่กล้าโอ้อวดอีกแล้วหนุ่มหล่อได้โปรดช่วยพูดให้ประธานของฉันยกโทษให้ฉันด้วยให้โอกาศกับฉันนะ”

เจียงเฉินที่ถูกเธอกอดต้นขาเอาไว้เขาก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

เมื่อกี้ยังคิดว่าตัวเองเป็นราชาอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?

ทําไมขี้ขลาดเร็วขนาดนี้ล่ะ?

คุกเข่า? กอดขาเอาไว้?

แล้วความเย่อหยิ่งเมื่อกี้หายไปไหนแล้วล่ะ?

ในที่สุดพี่สาวไปก็ถูกลากตัวออกไปด้วยคําสั่งของล่เจีย

เศร้า!

งานหาย!

น่าสงสาร!

หลังจากนั้นลู่เจี้ยก็พูดขอโทษเจียงเฉินและเจียงเฉินก็โบกมือแบบไม่ได้ใส่ใจ

ในเวลานี้เองมู่เฉิงเฉิงก็พูดออกมา “เจียงเฉิน นายมาทํางานที่นี่แต่เมื่อไหร่? ทําไมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วนายถึงไม่กลับมาหาฉันเลย?”

เจียงเฉิน “……”

เฉินเค่อเฉียนก็พูดออกมา “ทําไมเมื่อวานอยู่ๆก็หายไปล่ะ?”

เจียงเฉิน “__ !”

หลังจากที่มู่เฉิงเฉิงและเฉินเค่อเฉียนพูดจบ พวกเธอก็ตระหนักอะไรขึ้นมาได้

พระเจ้า!

เมื่อกี้พวกเราเพิ่งคุยเรื่องของเจียงเฉินไปไม่ใช่หรอ? คนหนึ่งก็บอก “ช่วงหลังไม่ได้เจอเจียงเฉินเลย” คนหนึ่งก็บอก “ฉันไม่เจอเขามานานแล้ว….”

ผลลัพธ์

เฉินเค่อเฉียนถามออกมา “เธอเจอเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหรอ?”

มู่เฉิงเฉิงถามกลับ “เมื่อวานเธอเจอเขาเหรอ?”

ในเวลานี้เองเจียงเฉินก็รีบแอบหนีไป

แค่กๆ

เจียงเฉินไอก่อนจะพูดออกมา : ขอบอกไว้ก่อนเลยใครมีแฟนหลายคนพยายามเลี้ยงคนแบบนี้ให้ดีไม่งั้นได้ลําบากแน่!

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

Status: Ongoing
บทนำ ติ้ง! เจียงเฉินได้ส่งพัสดุและได้รับโอกาศสัมผัสกับประสบการณ์จากระบบลงชื่อ! ได้รับรางวัลเป็น Lamborghini Poison “ติ้ง…อีเว้นท์ลับเสร็จสิ้น ทำการลงทะเบียนสำเร็จ รับรางวัลเงินสด 1000 ล้าน!!!” “ติ้ง…อีเว้นท์ลับเสร็จสิ้น ทำการลงทะเบียนสำเร็จ คุณได้รับหุ้น 30% ตามรายการต่อไปนี้!!!” “ติ้ง…….” …… เจียงเฉินไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าเขาจะได้พบกับประสบการณ์แบบนี้!!! เรื่องย่อ “ผมเจียงเฉินผมเป็นคนที่ดูดีเกินไปจนมีผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตของผม“ “สองเดือนก่อนผมเป็นผู้อํานวยการของบริษัท ที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 10,000 หยวน แต่ประธานสาวที่มีความงามที่โดดเด่นของ บริษัทของเราและลูกสาวของเธอตกหลุมรักฉันด้วยกัน“ “เพื่อป้องกันไม่ให้ความสัมพันธ์พังทลายลงระหว่างทั้งสองผมจึงเลือกที่จะลาออกอย่างเด็ดเดี่ยว“ “ตอนนี้ผมมีงานที่ยิ่งใหญ่ต้องทำ…” ลิฟต์มาถึงแล้ว ชั้น 7 เจียงเฉินมองไปที่พัสดุและเคาะประตูห้องหมายเลข 0702 เคาะประตู “เฮ้ มีใครอยู่บ้านไหมครับ“ “คุณเป็นใคร” มีเสียงหวานใสดังออกมา ฟังดูแล้วเป็นเสียงของผู้หญิงที่มีความอบอุ่นและถ้าจะให้คาดเดาจากประสบการณ์ของเขา เสียงนั่นก็ควรจะเป็นเสียงของเด็กสาว “พัสดุส่งด่วนครับคุณ ซู เสี่ยวเสี่ยว ช่วยออกมารับพัสดุด้วยครับ” เจียงเฉินกล่าวว่า ‎“รอฉันก่อนเหลืออีกแค่ 10 คนฉันจะกินไก่เร็ว ๆ นี้!” เสียงประหม่าดังออกมาจากห้อง‎ ‎“งั้นผมจะรอคุณสักครู่ ถ้าคุณยังไม่ออกมา ผมจะทิ้งพัสดุไว้หน้าประตูนะ” เจียงเฉินพิงกําแพงและเล่นกับโทรศัพท์ของเขาในขณะที่‎รอเจ้าของเสียงออกมารับพัสดุ ‎ไม่ถึงสิบห้าวินาที ‎ประตูก็ถูกเปิดออกมา ‎สาวสวยสวมเสื้อยืดสีขาวหลวม ๆ ออกมาด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารักมาก ด้วยคะแนนที่สมบูรณ์แบบ 100 คะแนนสมควรมีคะแนนอย่างน้อย 95 คะแนน‎ ‎“ซู เสี่ยวเสี่ยวใช่ไหม? เพียงเซ็นชื่อที่นี่ ” เจียงเฉิน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นๆ และส่งพัสดุออกไป‎ ‎“ฮึ เพราะนายเลยที่มาเร่งฉันคนนี้จนฉันต้องตาย!” ซูเสี่ยวเสี่ยว เซ็นชื่อและพึมพำอย่างเจ็บปวดเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้เข้ามาเล่นในแรงค์สูงระดับนี้“‎ ‎“มันก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ? ” เจียงเฉินช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกตลกเล็กน้อย‎ ‎ซูเสี่ยวเซี่ยวเงยหน้าขึ้นและเห็นเจียงเฉินหล่อเหลาภายใต้หมวกเบสบอลสีดําทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจอย่างรวดเร็ว‎ ‎หล่อขนาดนี้เลยเหรอ?‎ ‎อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนทำให้ฉันคนนี้แพ้ ไม่ว่าจะหล่อแค่ไหน ฉันคนนี้ก็จะไม่มีวันให้อภัย! ‎”ก็แน่สินายมันเป็นคนส่งพัสดุที่ต้องคอยส่งพัสดุทั้งวันจะเอาเวลาที่ไหนไปเล่นเกมส์กัน”ซูเสี่ยวเสี่ยวพูดออกมา “นี่คิดอย่างงั้นได้ไง คิดว่าคนส่งของแบบผมไม่มีเวลามาเล่นเกมส์งั้นหรอ ผมจะบอกอะไรให้นะ ไม่เพียงแค่ผมจะเคยเล่นเกมส์นี้แต่ผมยังเล่นเก่งมากด้วย”เจียงเฉินพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มที่แสดงถึงความตั้งใจ “จริงหรอ งั้นก็ลองโชว์มาหน่อยสิ”เธอตาของเธอเป็นประกายก่อนจะส่งคำเชิญไปให้เจียงเฉิน ฮิฮิ อย่างน้อยน้องชายหน้าหล่อคนนี้ก็ไม่เลวเลย “ตกลง” เจียงเฉินไม่พูดมากและตอบตกลงอย่างตรงไปตรงมา ซูเสี่ยวเสี่ยวนำเจียงเฉินเข้ามาในห้อง ให้เขาไปนั่งที่เก้าอี้เกมมิ่ง และกดเริ่มเกม ในตอนนี้นิ้วที่เรียวยาวของ เจียงเฉินควบคุมเมาส์และตัวละครในคอมพิวเตอร์ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นฆาตกรที่โหดเหี้ยมในทันที! สาวสวยซูเสี่ยวเสี่ยวที่เห็นก็ตกตะลึงจนค้างไป สายตาของเธอตอนนี้กำลังจ้องสลับระหว่างตัวของเจียงเฉินกับหน้าจอ โอ้พระเจ้า! เขาจะเก่งเกินไปแล้ว เขาสามารถไปเป็นนักแข่งมืออาชีพได้เลยนะเนี่ย!!! เละเทะไปหมดแล้ว!!! ไม่นะ กวางน้อยของฉันกำลังถูกฆ่าแล้ว!!! เธอในตอนนี้ตื่นเต้นเป็นอย่างมากตั้งแต่วินาทีที่เจียงเฉินแตะพื้นเขาก็ไล่ฆ่าแบบไม่เลืกหน้า สามสิบนาทีต่อมาเขาก็สามารถฆ่าผู้เล่นคนสุดท้ายและเขาก็กลายเป็นที่หนึ่ง บนหน้าจอก็แสดงข้อความขึ้นมา “โชคดีและโชคดีคืนนี้กินไก่” ซูเสี่ยวเสี่ยวมองเจียงเฉินด้วยดวงตาที่มีประกายดาวอยู่ในตาของเธอ o(〃‘▽‘〃)o ในช่วงเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง ซูเสี่ยวเสี่ยวก็พบว่าเธอนั้นถูกน้องชายแสนหล่อคนนี้ตกเข้าแล้ว ไม่เพียงแค่เขาหล่อเท่านั้นแต่ยังเล่นเกมเก่งอีกด้วย ซูเสี่ยวเสี่ยวกลอกตาของเธอและยิ้มออกมาอย่างเขินอายและถามออกมาว่า “น้องชาย นายอยากได้อะไรไหม” เจียงเฉินถอดหูฟังออกและถามออกไปอย่างสงสัยว่า “อะไรหรอ” ซูเสี่ยวเสี่ยวยื่นมือไปทางเจียงเฉินก่อนจะก้มหัวและพูดอย่างเขินอายว่า “ฉัน…ถคุณต้องการมัน?” เจียงเฉินเหลือบมองก่อนจะโบกมือ “ผมขอโทษ ผมขอโทษสำหรับอา..” ซูเสี่ยวเสี่ยว “???” เจียงเฉินลุกขึ้นและเตรียมที่จะออกไป และทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ “ยังไงก็ตาม คราวหน้าอย่าให้ใครก็ตามเข้ามาในห้องง่ายๆอีกนะ บางทีคนที่พาเข้ามาครั้งหน้าอาจจะเป็นหมาป่าที่หื่นกระหายก็ได้นะ” หลังจากพูดจบ เจียงเฉินก็เดินออกจากห้องไปอย่างเท่ๆ ซูเสี่ยวเสี่ยวก็ตกใจ ก่อนจะทำการดึงเสื้อของเธอไปด้านหลังเผยให้เห็นรูปร่างที่โค้งเว้าอย่างงดงาม ปกติแล้วคนส่วนใหญ่ก็คิดว่าขนาด 36D ก็ใหญ่มากแล้ว แต่ฉันต้องโทษเจ้าเสื้อตัวนี้เลยจริงๆมันปิดรูปร่างที่ฉันคนนี้ไปซะหมดเลย “น้องชายไปไหนแล้ว เอ๋ น้องชาย ให้พี่ได้อธิบายก่อน มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ!” ซูเสี่ยวเสี่ยววิ่งตามออกไปอย่าร้อนรน และก็พบว่าลิฟทต์นั้นลงไปแล้ว เธอจึงรีบกดปุ่มเรียกลิฟต์ทันทีเพื่อที่จะขอช่องทางการติดต่อของน้องชายคนนี้ …. ในตอนที่เจียงเฉินเพิ่งเข้ามาในลิฟต์ ก็เกิดเสียงดัง ติ้ง ติ้งขึ้นมาในใจเขาเหมือนกับเสียงของซอฟต์แวร์บางอย่าง [ติ้ง…อีเว้นท์พิเศษถูกเปิดใช้งานและทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว] [ติ้ง…แจ้งเตือน : รถยนต์ของคุณกำลังจอดรออยู่ที่ลานจอดรถด้านนอกชุมชน กุญแจรถยนต์ของคุณถูกส่งเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของคุณแล้ว กรุณาตรวจสอบ] ว้าว! เจียงเฉินตกตะลึง,มันคือเรื่องจริง เขานั้นมาส่งของในครั้งนี้ก็เพื่อเปิดอีเวนท์พิเศษ สิ่งนี้คือระบบที่เขามักอ่านเจอในนิยายใช่ไหม ยังไงก็ตาม ตอนนี้เขาหันมาสนใจเรื่องกุญแจ เจียงเฉินเอามือไปสัมผัสที่กระเป๋ากางเกงและพบว่ามันมีบางอย่างอยู่ภายในจริงๆ เขาเอาออกมาดู มันมีรูปร่างเหมือนกุญแจรถทั่วๆไป แต่บนโลโก้ของมันมีกระทิงที่ดูดุดันและก้าวร้าวปรากฏอยู่ และแน่นอนว่ามันเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของแลมโบกินี่ “กุญแจรถยนต์มูลค่า 80 ล้านทำไมมันดูธรรมดาจังเนี่ย!” เจียงเฉินยังคงมีความรู้สึกไม่เชื่อเล็กน้อย แต่เขาก็เอาโทรศัพท์ของเขามาค้นหารูปกุญแจของรถ Lamborghini Poison ดูและปรากฏว่ามันเป็นแบบเดียวกับอันที่อยู่ในมือของเขาจริงๆด้วย พูดตามแนวคิดการออกแบบของมันคือ รถหรูมีความเรียบง่าย เจียงเฉินก็เลยลองขับรถสามล้อไปดูที่นอกชุมชนด้วยความสงสัยทันที ณ เวลานี้บริเวณด้านนอกชุมชนก็มีกลุ่มคนจำนวนมากกำลังมุงถ่ายอะไรบางอย่างกันอย่างบ้าคลั่งอยู่ “ว้าว! มันเท่อะไรอย่างนี้!” “รถสปอร์ตสีเทาเงินคันนี้ดูเรียบๆ มีเกียรติ และหรูหรามันเป็นรถ Lamborghini รุ่นไหนกัน” “ฉันเจอแล้วๆ! มันคือ Lamborghini Poison ตัวท็อปทั้งโลกนี้มีเพียงแค่ 3 คันเท่านั้น เป็นที่รู้กันว่ามันเป็นรถสปอร์ตที่ดูเท่ที่สุด และราคามันอยู่ที่ประมาณ 80 ล้าน!” “โอ้พระเจ้า ราคามากกว่า 80 ร้านหยวนฉันไม่สามารถทำใจซื้อมันได้จริงๆ” “ทุกคนรีบดึงลูกของตัวเองออกไปเร็วอย่าให้พวกเขาไปแตะมัน” “เมื่อกี้ฉันถ่ายรูปมันลงไปในโมเมนต์ มีเพียงแค่ 3 คนในโลกช่างดูเท่อะไรขนาดนี้” “80 ล้านใครกันที่รวยถึงขนาดนั้น ทรัพย์สินของคนคนนั้นต้องไม่ต่ำกว่าพันล้านแน่ๆ หรืออาจจะถึงหมื่นล้านเลยก็ได้ มันมีคนที่รวยได้ขนาดนั้นในชุมชนเราจริงๆหรอ” “แน่นอนว่าถ้ามี ฉันคนนี้จะไปเคาะประตูและเอาของไปให้เขาทุกวันเพื่อสร้างความสัมพันธ์เลยล่ะ” “จะไปกับฉันเลยไหมล่ะ” และในขณะนั้นเองทุกคนก็เห็นคนส่งพัสดุขับรถสามล้อเข้ามา “เฮ้ ระวังๆหน่อย!” “เวรเอ้ย น้องชายอย่ามาทางนี้ ตรงนี้มีรถยนต์มูลค่า 80 ล้านหยวนจอดอยู่ถ้านายทำมันเป็นรอยนายได้ตายแน่” “ใช่ๆ อย่าหาว่าพวกข้าไม่เตือนนะ” ฮึ! เจียงเฉินไม่สนใจก่อนจะจอดรถของเขาตรงช่องที่ยังว่างอยู่ซึ่งมันตรงข้ามกับรถ Lamborghini พอดี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset