Eight Desolate Sword God EDSG ตอนที่ 159 ต่อสู้กับสองปรมาจารย์จ้าวตําหนัก
“รีบหนีเร็ว!”
เมื่อเห็นพลังโจมตีที่น่ากลัวของเย่เฉินเฟิง ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์หลายคนได้วิ่งไปที่ทางออกของห้องโถง
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาจะออกจากพื้นที่ค่ายชั่วคราวแห่งนี้ พวกเขาก็ถูกบล็อกโดยรูปแบบก่อตัวที่เปิดขึ้น
“เร็วเข้า รีบปล่อยให้พวกเราออกไปเดี๋ยวนี้”
ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์จํานวนมากต่างหวาดกลัว พวกเขาได้ส่งเสียงตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวังและอยากจะออกจากพื้นที่แห่งนี้โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม รูปแบบก่อตัวนี้ได้ครอบคลุมไปทั่วพื้นที่ทั้งค่าย การโจมตีแบบปกติไม่สามารถทําลายมันลงได้
เย่เฉินเฟิง ไม่สนใจผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์คนอื่น ๆ จุดประสงค์หลักของเขาก็คือการฆ่า โหย่วเหวินหยวน และคนอื่น ๆ ของนิกายเพลิงผลาญฟ้า
“ตายซะ!”
เย่เฉินเฟิง กรีดร้องออกมาร่างของเขาพุ่งออกไปเหมือนกับคมดาบใส่ผู้เชี่ยวชาญจากนิกายเพลิงผลาญฟ้า
ผู้อาวุโสนิกายเพลิงผลาญฟ้าสองคนที่ต้านทานการโจมตีของ เย่เฉินเฟิง พวกเขาถูกฟันขาดออกเป็นเสี่ยง ๆ และตกตายท่ามกลางแอ่งเลือด
“มีคนตายเพิ่มอีกสองคน!”
เมื่อเห็นแอ่งเลือดจํานวนมากปรากฏขึ้น ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ กลายเป็นเสียวสันหลัง พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเย่เฉินเฟิง
“เหวินหยวน พวกเราจะทํายังไงกันดี เย่เฉินเฟิงแข็งแกร่งมาก พวกเราไม่ใช่คู่มือของเขา” อาวุโสจากนิกายเพลิงผลาญฟ้าคนนึงกล่าวพูดออกมาอย่างหวาดกลัว
“จะให้ทํายังไงอีก รีบเปิดรูปแบบก่อตัวนี้และออกจากที่นี่เร็วเข้า”
แม้ว่าโหย่วเหวิ่นหยวนจะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้เขาไม่ใช่คู่มือของเย่เฉินเฟิง แม้แต่น้อย
“ฟุบ!”
ทันใดนั้นพื้นที่ส่วนหนึ่งของรูปแบบก่อตัวก็ถูกเปิดออก ขณะที่โหย่วเหวิ่นหยวน เตรียมจะหลบหนี ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน และปรมาจารย์จ้าวตําหนักโหย่วก็กลับมาพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญจากนิกายเพลิงผลาญฟ้ามากกว่าหนึ่งโหล
“ปรมาจารย์จ้าวตําหนักโหย่ว, ปรมาจารย์จ้าวตําหนักเทียน ในที่สุดพวกท่านทั้งสองก็กลับมา ”
เห็นเทียนชื่อจินและโหย่วเทียนกู่ โหย่วเหวินหยวนกลายเป็นโล่งอกอย่างมาก เขารีบรายงานเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“สารเลวน้อย เจ้ากล้ามากที่ฆ่าผู้อาวุโสจากนิกายเพลิงผลาญฟ้าของข้า”
ได้ยินว่าอาวุโสจากนิกายเพลิงผลาญฟ้าหลายคนตกตาย รวมถึงคนจากตําหนักหยินหยางของเขา ปรมาจารย์จ้าวตําหนักโหย่ว กลายเป็นโกรธเคืองทันที
” ทําไม ? หรือว่ามีเพียงคนของเจ้าที่ได้รับอนุญาติให้ฆ่าผู้อื่น ข้าไม่มีสิทธิ์จะฆ่าเจ้าเลยว่างั้น ไม่ใช่ว่าพวกเจ้านิกายเพลิงผลาญฟ้าเอาแต่ใจเกินไปหน่อยหรือ?”เย่เฉินเฟิงไม่ได้สนใจคําพูดของโหย่วเทียนกู่แม้แต่น้อย
“ปรมาจารย์จ้าวตําหนักโหย่ว อย่าเสียเวลาสนทนากับสารเลวน้อยนี่เลย พวกเรามาร่วมมือจัดการมันกันเถอะ”
ขณะนั้นเอง เทียนซือจินก็ได้นําดาบอาวุธวิญญาณระดับปฐพีขั้นกลางของเขาออกมา มันมีความยาวมากกว่า 6 ฟุต
“ถ้ามันตกอยู่ในมือของข้าเมื่อไหร่ข้าจะถลกหนังมันทั้งเป็น
โหย่วเทียนกู่เองก็เรียกอาวุธวิญญาณระดับปฐพี่ขั้นกลางของเขาออกมา และพุ่งโจมตีเย่เฉินเฟิง
” ปรมาจารย์จ้าวตําหนักโหย่ว โปรดระวังด้วย อาวุธในมือของสารเลวน้อยนี่คืออาวุธวิญญาณระดับสวรรค์” โหย่วเหวิ่นหยวนกลัวว่าปรมาจารย์จ้าวตําหนักทั้งสองคนจะเสียท่า ดังนั้นเขาจึงกล่าวเตือน
“อาวุธวิญญาณระดับสวรรค์!”
ได้ยินคําพูดของโหย่วเหวิ่นหยวน ใบหน้าของเทียนซือจินเองก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
“ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์!”
ขณะที่ เทียนชื่อจิน กําลังตกใจ โหย่วเทียนกู่ ก็กลายเป็นตกตะลึง เพราะที่พวกเขาเห็นนี้คือปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ ทั้งมันยังรวมเข้ากับดาบสวรรค์จูเสวี่ย
“วายุฟาดฟัน!”
พลังดาบได้ถูกฟาดฟันออกเป็นรูปจันทรา พุ่งไปยังตําแหน่งของโหย่วเทียนกู่ และเทียนซื้อจิ
พลังของปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ และอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์นั้นแข็งแกร่งมาก โหย่วเทียนกู่ ได้ยกอาวุธวิญญาณของเขาขึ้นมาต้านทานการโจมตี
โหย่วเทียนกู่นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ชั้น 6 แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับต้องอาศัยความแข็งแกร่งทั้งหมดของตัวเอง เพื่อต้านทานการโจมตีของเย่เฉินเฟิงอย่างเต็มกําลัง
“ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ สารเลวน้อยนี้สามารถฝึกฝนปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ได้จริง ๆ
ที่ด้านข้าง เทียนซื้อจิน ที่ตอนแรกเห็น ปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ ในใจเขาก็ยังไม่เชื่อ แต่พอเห็นอนุภาพการโจมตีที่ร้ายกาจของเย่เฉินเฟิง ทําให้เขารู้สึกสั่นกลัวจากภายใน
ในช่วงเวลาที่เย่เฉินเฟิงอยู่ในอาณาจักรลับวิญญาณ แท้จริงนั้นเขาได้ฝึกฝนปราณดาบได้เพียง 3 ชั้น เท่านั้น แต่หลังจากผ่านไปไม่กี่เดือนเขาสามารถฝึกฝนปราณดาบสวรรค์สมบูรณ์ได้ พรสวรรค์ระดับนี้ยากเกินกว่าที่คนธรรมดาจะเข้าใจ
“เกิดอะไรขึ้นกับเย่เฉินเฟิง ในดินแดนลับวิญญาณแท้จริงกันแน่”
เทียนซื้อจินรู้สึกว่าเย่เฉินเฟิง จะต้องได้รับโอกาสบางอย่างในอาณาจักรลับวิญญาณแท้จริงอย่างแน่นอน หากเขาสามารถปล้นโอกาสที่เย่เฉินเฟิงได้รับมา บางทีเขาอาจจะทะลวงระดับพลังกลายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับสูงสุดขั้น 1
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ดวงตาของเทียนซือจินก็เผยเจตนาฆ่าฟันที่รุนแรง
” ฟวั่บ!”
เสียงที่แหลมคมของ อาวุธวิญญาณระดับปฐพี่ขั้นกลางได้พุ่งโจมตีใส่ด้านข้างของเยเฉินเฟิง
เย่เฉินเฟิงที่กําลังจัดการกับโหย่วเทียนกู่อยู่ เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่รุนแรงจากการโจมตีของเทียนชื่อจิน เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาล เห็นฉากที่เกิดขึ้น บรรดาผู้ชมจํานวนมากต่างแทบจะหายใจกันไม่ออก
พวกเขาไม่คิดเลยว่า เสาหลักอย่างสองปรมาจารย์จ้าวตําหนัก จะร่วมมือกันจัติการกับ ผู้เยาว์คนนึง เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของนิกายเพลิงผลาญฟ้า
” ทักษะร่างแปลงเงา!”
เย่เฉินเฟิง รู้ตัวดีว่าความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถปะทะกับปรมาจารย์จ้าวตําหนักถึงสองคนได้ ดังนั้น เขาจึงได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหนี
” พันธนาการหยินหยาง!”
เมื่อเห็นเย่เฉินเฟิงเตรียมจะหลบหนี โหย่วเทียนกู่ได้ระเบิดพลังทักษะวิญญาณของเขาออกมา แส้พลังขนาดใหญ่ได้พุ่งเข้าไปรัดพันเยเฉินเฟิง ส่งผลให้ความเร็วของเขาลดลงอย่างมาก
เมื่อเย่เฉินเฟิงถูกพันธนาการหยินหยางเล่นงาน เทียนซือจินก็ใช้โอกาสนี้ โจมตีใส่เย่เฉินเฟิงทันที
“ตายซะ!”
เทียนซื้อจิน ได้ทุ่มพละกําลังทั้งหมดของเขาใส่ลงไปในอาวุธวิญญาณระดับปฐพีขั้นกลาง เขาได้พุ่งกระแทกการโจมตีใส่หน้าอกของเย่เฉินเฟิง
” หนึ่งดาบสังหาร!”
ในช่วงเวลาสําคัญ เย่เฉินเฟิงได้ขยับแขนขวาและผสานทักษะเข้ากับดาบสวรรค์จูเสวี่ย
ทักษะพลังวิญญาณที่ทรงพลัง ได้พุ่งเข้าปะทะการโจมตีของเทียนซือจินอย่างรุนแรง ส่งผลให้ร่างของคนสองคนกระเด็นถอยไปไกล
“ฟูว!”
พลังโจมตีของ เทียนซื้อจินนั้น อาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นรองเพียงปรมาจารย์จ้าวตําหนัก ที่เป็นจ้าวนิกายเพลิงผลาญฟ้า แต่ถึงอย่างนั้นพลังของเขากลับถูกสะท้อนกลับมาและทําให้ตนเองล่าถอยไปไกล
“สารเลวน้อย เย่เฉินเฟิง ได้รับบาดเจ็บแล้ว!”
เย่เฉินเฟิง ได้เช็ดโลหิตที่มุมปากของเขา เมื่อเห็นเช่นนี้ โหย่วเหวิ่นหยวนกลายเป็นตื่นเต้นอย่างมาก เขาอดที่จะนึกถึงตอนที่เยเฉินเฟิงตกอยู่ในมือของเขาไม่ไหวแล้ว
“คลื่นหยินหยางทําลายล้าง!”
เห็นเย่เฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บ โหย่วเทียนกู่ได้ใช้อาวุธวิญญาณและทักษะวิญญาณของเขาพุ่งโจมตีใส่เย่เฉินเฟิง
ในเวลาเดียวกัน เทียนชื่อจินก็พุ่งเข้าโจมตีใส่เย่เฉินเฟิงเหมือนกัน การโจมตีของทั้งสองคนได้เข้าประชิดร่างกายของเย่เฉินเฟิง
” ทักษะร่างแปลงเงา!”
เย่เฉินเฟิง ได้ใช้ทักษะร่างแปลงเงาของเขา พุ่งหลบการโจมตีของปรมาจารย์จ้าวตําหนักทั้งสองคน และเตรียมที่จะหลบหนีออกไปจากที่นี่
“ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีปีกเจ้าก็ไม่สามารถหนีรอดออกไปได้”
เทียนซื้อจินและโหย่วเทียนกู่ เมื่อเห็นเย่เฉินเฟิงเตรียมจะหลบหนี ธรรมชาติพวกเขาย่อมไม่เปิดโอกาสให้เย่เฉินเฟิงหลบหนี
ส่วนเย่เฉินเฟิง เขารู้ดีว่าเขาสามารถเปลี่ยนกระแสสงครามได้โดยการใช้ทักษะกลืนกินพลังชี วิตและใช้ทักษะ 7 อํานาจแห่งดาบ เพื่อจัดการโหย่วเทียนกู่ และเทียนซือจิน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ต้องการเผาผลาญพลังชีวิตอย่างสิ้นเปลือง เพราะเขาไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีเรื่องให้เขาต้องใช้ออกโดยทักษะนี้อีกหรือไม่ ส่วนทักษะ 7 อํานาจแห่งดาบนั้นก็สูบกลืนพลัง วิญญาณของเขามากเกินไป เขาไม่กล้าเสี่ยงที่จะใช้มันโจมตี
” หนึ่งดาบสังหาร!”
เย่เฉินเฟิง ได้พุ่งหลบหนีออกไป ก่อนที่จะใช้ดาบสวรรค์จูเสวีย และทักษะวิญญาณของเขาพุ่งโจมตีไปยังจุดที่อ่อนที่สุดของรูปแบบก่อตัว
“เหอะ คิดจะทําลายรูปแบบก่อตัวนี้ แม้ว่าเจ้าจะใช้พลังทั้งหมดก็เกรงว่าจะไม่สามารถทําลายได้” เทียนชื่อจินที่รู้ว่าเย่เฉินเฟิงกําลังจะทําอะไร เขารู้สึกหัวเราะในใจ
อย่างไรก็ตาม สีหน้าที่เย้ยหยันของเขาก็กลายเป็นแข็งค้าง เพราะพวกเขาเห็นรูปแบบก่อตัวได้ถูกทําลายภายใต้การโจมตีของเย่เฉินเฟิง
พวกเขาไม่คิดเลยว่าเย่เฉินเฟิงสามารถทําลายรูปแบบก่อตัวที่มีอํานาจพลังพอจะต้านทานการโจมตีของผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดได้ เรื่องนี้ได้เหนือเกินกว่าความเข้าใจของพวกเขา