บทที่ 1371 ลงม้าข่มขวัญ
ได้ยินผู้อาวุโสสามพูดดังนี้ ชายชราชุดขาวกัดฟันกรอด เหมือนอยากพูดอะไร แต่สุดท้ายก็พูดออกมาไม่ได้
“เพียงแต่…” ทันใดนั้น ผู้อาวุโสสามก็เปลี่ยนประเด็น มองเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ยคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ฝ่ายประสานงานภายนอกรับหน้าที่เจรจากับคนข้างนอก ในเมื่อผู้นำเปลี่ยนหัวหน้าฝ่ายประสานงานภายนอกแล้ว การเจรจากับตระกูลเยียนครั้งนี้ ก็ต้องให้พี่น้องที่เข้ารับตำแหน่งใหม่คนนี้ดูแล หากเกิดข้อผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ก็จะต้องให้เขาแสดงความรับผิดชอบทั้งหมด”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หลิวอิ่งขมวดคิ้วเบาๆ เขาเพิ่งมาที่รัฐอิสระได้ไม่นาน ไม่รู้ว่าตระกูลเยียนคือกลุ่มอิทธิพลระดับไหน เทียบกับพันธมิตรอู๋เว่ยแล้วเป็นอย่างไร
ในสถานการณ์ที่ไม่รู้อะไรเลย หากบุ่มบ่ามดำเนินการเจรจา จะต่อพันธมิตรอู๋เว่ยก็ดี ต่อคุณหนูหวันหวั่นก็ดี ล้วนไม่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
“ผู้อาวุโสสามพูดถูก การตัดสินใจของผู้นำ พวกเราย่อมพูดอะไรมากไม่ได้ แต่คนของฝ่ายประสานงานภายนอกถูกเปลี่ยนตัวแล้ว เรื่องนี้ก็ต้องให้ผู้นำรับผิดชอบ” ชายชราอีกคนเอ่ยขึ้น
เวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นกวาดสายตามองพวกผู้อาวุโสในโถงประชุม ตาแก่พวกนี้ฉลาดยิ่งกว่าหมาจิ้งจอก เดิมทีคิดว่าฆ่าพวกเขาได้หนึ่งคนจะเหมือนลงม้าไปข่มขวัญ ไม่นึกว่าพวกเขาจะมีแผนรับมืออยู่
หลิวอิ่งเพิ่งมาถึงรัฐอิสระ แถมยังเพิ่งถูกตนบังคับให้รับตำแหน่งฝ่ายประสานงานภายนอก ให้ไปเจรจาตอนนี้เป็นไปไม่ได้เลย
เหมือนที่ผู้อาวุโสสามพูด เมื่อไรที่เกิดข้อผิดพลาด ไม่เพียงแต่เป็นความรับผิดชอบของหลิวอิ่ง เธอที่เป็นผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยก็ต้องแบกความรับผิดชอบด้วย
“เรื่องนี้ไม่ต้องให้พวกคุณกังวล” ผ่านไปสักครู่ เยี่ยหวันหวั่นก็เอ่ยเสียงเย็น
“ในเมื่อผู้นำตัดสินใจแล้ว พวกเราเหล่าคนแก่ย่อมไม่คัดค้าน” ผู้อาวุโสสามหลี่ซือยิ้มพูด
เยี่ยหวันหวั่นโบกมือทันที “เลิกประชุมได้”
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ทุกคนในโถงประชุมพากันลุกขึ้น ตามผู้อาวุโสสามจากไป
ในโถงประชุมโอ่อ่า เหลือแค่หลิวอิ่งกับกลุ่มทหารรับจ้างห้าคน แน่นอนว่าเยี่ยหวันหวั่นก็ยังไม่ได้ออกไป
“เจ้านาย…”
เวลานี้ เหล่าเจียงมองเยี่ยหวันหวั่น เขาไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้นัก
เยี่ยหวันหวั่นหยิบป้ายเงินหกแผ่นออกมา จากนั้นโยนให้ทุกคน
“บัตรผ่านเข้ารัฐอิสระ ทุกคนเก็บเอาไว้เถอะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก
บัตรผ่านเข้ารัฐอิสระหลอมขึ้นจากเงินบริสุทธิ์ ด้านบนประทับข้อมูลของผู้ถือ แสดงสถานะคนรัฐอิสระของเจ้าของ ถ้าถูกสมาคมพันธมิตรวิถียุทธ์ตรวจค้น แค่แสดงบัตรผ่านนี้ก็พอแล้ว ลักษณะคล้ายกับเอกสารรับรองตัวตนของประเทศอื่น
หลังได้บัตรผ่านเข้ารัฐอิสระไป พวกเหล่าเจียงกับหลิวอิ่งมีสีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย มีของสิ่งนี้อยู่ พวกเขาก็ไปทุกเขตทุกมุมในรัฐอิสระได้อย่างเปิดเผย ไม่จำเป็นต้องหวาดระแวงอีกแล้ว
“เจ้านาย เจ้านี่สวยจังเลย…” โลลิน้อยถือบัตรผ่านไว้ รู้สึกชอบใจมาก
“เหล่าเจียง” เยี่ยหวันหวั่นมองเหล่าเจียงพร้อมเอ่ย “หลังจากนี้ พวกนายไปที่ฝ่ายประสานงานภายนอกของพันธมิตรอู๋เว่ยก่อน ถ้ามีปัญหาอะไรให้ไปหาหลิวอิ่งโดยตรง หลิวอิ่งจัดการไม่ได้ก็ค่อยมาหาฉัน”
“ครับเจ้านาย” เหล่าเจียงพยักหน้า
ฝ่ายประสานงานภายนอกนี้ หลักๆ จะรับผิดชอบการตกลงและเจรจากับภายนอก ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการต่อสู้ใดๆ ค่อนข้างเหมาะกับพวกเขาทีเดียว
กลุ่มอำนาจในรัฐอิสระเช่นพันธมิตรอู๋เว่ยคือเสือซ่อนมังกรเร้น นอกจากฝ่ายประสานงานภายนอก ก็ไม่มีฝ่ายอื่นที่เหมาะสมกับพวกเขาแล้วจริงๆ
แน่นอน นี่ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายประสานงานภายนอกของพันธมิตรอู๋เว่ยมีตำแหน่งไม่สูง ตรงกันข้าม ตำแหน่งของฝ่ายนี้สูงมาก และมีบทบาทที่สำคัญยิ่ง
ขุนนางฝ่ายบุ๋นกับทหารฝ่ายบู๊ ฝ่ายประสานงานภายนอกของพันธมิตรอู๋เว่ยจะรับผิดชอบหน้าที่คล้ายคลึงขุนนางฝ่ายบุ๋นนี่เอง
——————————————————————————
บทที่ 1372 พวกเราไม่มีเงินนะ
“พี่เฟิง เรื่องของตระกูลเยียนนั่น…ควรจัดการยังไงดี?” หลิวอิ่งมองเยี่ยหวันหวั่นและขมวดคิ้วถาม
ก่อนหน้านี้ ผู้อาวุโสสามหลี่ซือชัดเจนว่าไม่ยอมอ่อนข้อให้ จงใจทำให้เรื่องยุ่งยาก
“ในเมื่อนายขึ้นรับตำแหน่งนี้แล้วก็ต้องไปจัดการ…เอาแบบนี้แล้วกัน นัดเวลากับตระกูลเยียน ฉันจะไปด้วยตัวเอง” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยกับหลิวอิ่ง
ได้ยินแบบนั้น หลิวอิ่งก็พยักหน้า ถ้าเยี่ยหวันหวั่นสามารถเจรจาด้วยตัวเองได้ นั่นก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว
“จริงสิ เรื่องของคุณเก้า ค้นเจอข่าวคราวอะไรแล้วหรือยัง” เยี่ยหวันหวั่นมองหลิวอิ่งพลางถาม
“มีข่าวมาบ้างจริงๆ ครับ” หลิวอิ่งคิดครู่หนึ่ง แล้วจึงเงยหน้าเอ่ยปาก “ก่อนหน้านี้ผมกับเหล่าเจียง…บังเอิญผ่านสาขาของตระกูลเก่าแก่ในรัฐอิสระแห่งหนึ่ง เหมือนจะเห็นคุณชายเก้าปรากฏ…แต่ยืนยันไม่ได้ มีคนหลายคนคุ้มกันเขาออกไป พวกเราก็เห็นไม่ชัดด้วย”
“สาขาของตระกูลเก่าแก่?” เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดบางอย่าง
ที่รัฐอิสระ นอกจากกลุ่มอิทธิพลในที่สว่างแล้ว ยังมีตระกูลเก่าแก่ที่เร้นกายจากโลกภายนอกอยู่จำนวนหนึ่ง
และตระกูลเก่าแก่ที่ปลีกวิเวกพวกนั้นเป็นลูกหลานของบุคคลในตำนานที่ก่อตั้งรัฐอิสระขึ้นมา เดิมทีต่างก็มีต้นกำเนิดเดียวกัน แต่ต่อมาเหมือนจะเป็นเพราะสงครามภายใน จึงก่อให้เกิดการแบ่งแยกของตระกูลเก่าแก่ และแยกเป็นอิสระโดยสมบูรณ์อย่างเช่นทุกวันนี้
“ถูกต้องครับ คือตระกูลซือ…” หลิวอิ่งพยักหน้า “สกุลของตระกูลเก่าแก่นี้ค่อนข้างบังเอิญจริงๆ แต่เท่าที่ผมรู้มา น่าจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลซือที่ประเทศจีนมากนัก ส่วนคุณชายเก้ากับตระกูลซือโบราณของรัฐอิสระจะเกี่ยวข้องกันมากหรือเปล่า ยังต้องตรวจสอบต่อไป”
“พวกนายไปสืบมาก่อน มีข่าวอะไรให้บอกฉันทันที” เยี่ยหวันหวั่นบอก
“ครับ งั้นพวกเราขอตัวก่อน” หลิวอิ่งพยักหน้าเอ่ย
“เดี๋ยวก่อน” เยี่ยหวันหวั่นเรียกพวกหลิวอิ่งไว้
“เจ้านาย ยังมีอะไรสั่งการอีกเหรอ?” เหล่าเจียงถามเยี่ยหวันหวั่น
“สถาการณ์ของฉันในพันธมิตรอู๋เว่ย พวกนายก็เห็นแล้ว ตอนนี้อำนาจผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยของฉันแทบจะถูกตาแก่พวกนั้นยึดไปแล้ว…ในตอนนี้ นอกจากตรวจสอบที่อยู่ของคุณเก้า ยังมีเรื่องที่สำคัญมากอีกหนึ่งอย่าง”
“พี่เฟิง เรื่องอะไรเหรอ?” หลิวอิ่งเอ่ยถาม
“รวบรวมกำลังพลให้ฉัน…” เยี่ยหวันหวั่นยกมุมปากน้อยๆ โค้งเป็นรอยยิ้มมีเลศนัย “รัฐอิสระไม่ขาดผู้แข็งแกร่ง…พวกนายรู้ไหมว่าสิ่งที่ขาดคืออะไร”
“ขาดอะไรครับ?” ชายไว้หนวดเคราถามตามจิตใต้สำนึก
“ขาดเงิน” เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะเบาๆ “รัฐอิสระมียอดยุทธ์มากมาย ผู้แข็งแกร่งอยากหาเงินเลยไม่ง่ายดายขนาดนั้น…ไม่เหมือนประเทศจีนที่ขาดแคลนผู้แข็งแกร่ง อยากหาเงิน ไหนเลยจะง่ายแบบนั้น แต่ที่ประเทศจีน แค่แมวสามขาจับหนูไม่ได้อย่างพวกนายก็หาเงินได้ทุกที่แล้ว เป็นทหารรับจ้าง เป็นหัวหน้าบอดี้การ์ดลับอะไรเทือกนั้น”
เมื่อสิ้นเสียงเยี่ยหวันหวั่น พวกหลิวอิ่งกับเหล่าเจียงพลันหน้าแดง
ที่ประเทศจีน อย่างน้อยพวกเขาก็นับว่าเป็นผู้แข็งแกร่ง แต่เมื่อมายังรัฐอิสระ พอเปรียบเทียบกับผู้แข็งแกร่งของรัฐอิสระพวกนั้นแล้ว ฝีมือก็ห่างชั้นราวฟ้ากับเหว ไม่น่าดูแม้แต่น้อย
เป็นอย่างที่เยี่ยหวันหวั่นว่าไว้ อาศัยความสามารถของพวกเขา คาดว่าอย่างมากก็คงเป็นได้แค่พวกบอดี้การ์ดในรัฐอิสระ…
“พวกนายไปรวบรวมกำลังคนให้ฉัน เอาแต่ยอดฝีมือ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยกับพวกเขา
“เจ้านาย พวกเราไม่มีเงินนะ…” ชายผมยาวเอ่ย
“ไม่มีเงินก็ไปเอาที่ฝ่ายการเงิน วันนี้สมาคมพันธมิตรวิถียุทธ์ส่งเงินก้อนหนึ่งมาให้ฉัน จำนวนไม่น้อยเลย ให้เอาไปทั้งหมด…ถ้าไม่พอ ก็เอาเงินของพันธมิตรอู๋เว่ยไปใช้ได้ จำไว้ว่ามีผู้แข็งแกร่งเท่าไรก็รับสมัครเท่านั้น เงินไม่ใช่ปัญหา” เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะเบาๆ
