บทที่ 1399 ไม่ใช่โจรกันหมดเหรอ
“งั้น…จอมยุทธ์อี้อยากให้ฉันทำอะไรเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปากถามอย่างสงสัย
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับด้านอำนาจของตระกูลเนี่ย ฉันเคยสาบานว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกองกำลังใดนอกเหนือจากตระกูลโบราณรัฐอิสระ ถึงคุณทำธุรกิจค้าขายประตูแต่น่าจะมีช่องทางกับข่าวล่ำลือมากกว่าฉันไม่น้อย ฉันก็ไม่มีเพื่อนอะไรเลยอยากไหว้วานให้คุณช่วยลูกศิษย์คนนั้นของฉันตรวจสอบสักหน่อย” อี้สุ่ยหานมองเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ย
ได้ยินอี้สุ่ยหานพูดแบบนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่รู้จะพูดอะไร สถานการณ์ของเธอในตอนนี้ค่อนข้างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตอนนั้นที่ถังถังอยู่ประเทศจีน เธอเป็นคนเลี้ยงดูเขา ทำให้คุณนายเนี่ยกับแม่แท้ๆ ของถังถังมีอคติกับเธออยู่บ้าง…
ถ้าเวลานี้เธอไปตรวจสอบแม่แท้ๆ ของถังถังอีก…
แต่ถ้าเป็นอย่างที่อี้สุ่ยหานพูดจริง แม่ของถังถังเป็นตัวปลอมจริงๆ เพื่อถังถังแล้วเธอก็ไม่บ่นอะไร
แต่ถ้า…แม่ถังถังไม่ใช่ตัวปลอมแต่เป็นตัวจริง เธอบุ่มบ่ามตรวจสอบ เกรงว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ของถังถังกับแม่แท้ๆ ของเขาเลวร้ายลงได้…
“จอมยุทธ์อี้ เรื่องนี้มีระดับความน่าเชื่อถือเท่าไร” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วถาม
“ไม่แน่ชัด” อี้สุ่ยหานส่ายหน้า “นอกจากตระกูลโบราณรัฐอิสระ ฉันก็ไม่คุ้นเคยกับทุกกองกำลังในรัฐอิสระเลย ที่รู้มีน้อยมาก เพราะงั้นเลยอยากให้คุณช่วยลูกศิษย์ฉันตรวจสอบดูที”
เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดอยู่เนิ่นนานและสุดท้ายก็พยักหน้าเอ่ย “ในเมื่อเป็นแบบนี้…งั้นฉันจะลองดูสุดความสามารถ…”
บังเอิญพอดี อีกไม่กี่วันเธอก็จะไปหาถังถังที่บ้านตระกูลเนี่ย ถึงตอนนั้นสามารถตรวจสอบดูสักหน่อยได้ ก็ไม่ได้มีอุปสรรคใหญ่โต
“ขอบคุณ” อี้สุ่ยหานพยักหน้า “แล้วก็ความสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์ของฉันกับเนี่ยถังเซียว ขอคุณเยี่ยช่วยเก็บเป็นความลับด้วย”
“ตกลง…” เยี่ยหวันหวั่นรับปาก
ออกจากที่อยู่ของอี้สุ่ยหานก็ใกล้เป็นเวลาเย็นแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ วันนี้มาหาอี้สุ่ยหานเดิมทีอยากให้อี้สุ่ยหานช่วยตัวเองจัดการนายของอาชูร่า ไหงสุดท้ายกลายเป็นว่าอี้สุ่ยหานไม่ได้ช่วยเธอ แต่เธอกลับต้องช่วยอี้สุ่ยหานแทน…
การค้าครั้งนี้ขาดทุนย่อยยับ…
ไม่นานรถยนต์สองคันก็จอดลงที่ข้างถนน
ชีซิงเป่ยโต่วหนึ่งคัน กองทหารรับจ้างดาวลงทัณฑ์หนึ่งคัน
เยี่ยหวันหวั่นก้าวเดินขึ้นหน้า เดินไปยังรถคันเล็กที่ชีซิงขับ เข้าไปนั่งที่หลังรถ
ก่อนหน้านี้เยี่ยหวันหวั่นแจ้งเป่ยโต่วแล้วว่าเมื่อใกล้ถึงเวลาให้เขามารับตัวเองเข้าร่วมงานประชุมอาชูร่า
“ชีซิง ออกรถ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
รถยนต์เดินเครื่องแล่นไปข้างหน้าทันที
“พี่เฟิง…เป็นไงบ้าง เจ้าสวะหมายอมช่วยไหม…” เป่ยโต่วถามเยี่ยหวันหวั่น
เป่ยโต่วนี่ไม่พูดซะยังดีกว่า พอพูดเยี่ยหวันหวั่นก็โกรธแล้ว
เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าเคร่งขรึม มองเป่ยโต่วขึ้นลง หลังผ่านไปนานจึงค่อยเอ่ยปาก “ซ่อมประตูมีความสุขดีไหม”
ได้ยินแบบนั้นเป่ยโต่วมีสีกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เหมือนรู้ว่าเยี่ยหวันหวั่นจะพูดอะไร
“ติดตั้งประตูนิรภัย นายเรียกเขาหนึ่งแสน นายเป็นโจรเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นจ้องเป่ยโต่วเขม็ง
แต่เป่ยโต่วกลับส่ายหน้ารัว “ใช่…พี่เฟิง ผมเป็นโจรนะ พวกเราคนของพันธมิตรอู๋เว่ยก็เป็นโจรกันหมดไม่ใช่เหรอ…”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออกชั่วขณะ หมดคำจะโต้ตอบจริงๆ
“พี่เฟิง พี่ดูสิ พวกเราสู้เจ้าสวะหมาไม่ได้แต่เอาชนะด้วยปัญญาได้ เจ้าสวะหมาเป็นคนมีหลักการมาก ผมหลอกเขาว่าประตูเป็นประตูสั่งทำรุ่นจำกัด ราคาเต็มสองแสน ผมจะเก็บเขาหนึ่งแสน เขาต้องรู้สึกขอบคุณผมแน่ ว่ากันในบางมุมแล้ว ผมใช้สติปัญญาเอาชนะเจ้าสวะหมาได้เชียวนะ”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
นายแค่หน้าไม่อายเท่านั้นแหละ
—————————————————————————————————-
บทที่ 1400 ข่าวสะเทือนฟ้า
เยี่ยหวันหวั่นไม่คิดจะฟังเป่ยโต่วพูดเหลวไหลต่อ ยังดีที่อี้สุ่ยหานร่ำรวยและไม่ได้ใส่ใจ
ผ่านไปประมาณสามชั่วโมงชีซิงก็ขับรถไปถึงคฤหาสน์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
วันนี้งานประชุมอาชูร่าจัดในคฤหาสน์หลังนี้
เวลานี้หน้าประตูคฤหาสน์มีคนเนืองแน่น รถหรูนับไม่ถ้วนแล่นมาที่นี่จากนั้นก็จอดใกล้กับคฤหาสน์ เจ้าพ่อกองกำลังเขตใหญ่ต่างๆ ทยอยกันลงจากรถแล้วเข้าไปในคฤหาสน์
นอกจากหัวหน้าแต่ละกองกำลังใหญ่แล้วก็ยังมีองค์กรสื่อที่ค่อนข้างพิเศษของรัฐอิสระจำนวนหนึ่งอยากมาจับตาดูหาข่าวสะเทือนฟ้าด้วย
“พี่เฟิงถึงแล้ว” ชีซิงหันมาเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น
ได้ยินดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็พยักหน้าน้อยๆ ไม่รีบร้อนลงจากรถแต่นั่งอยู่ที่เบาะหลังประเมินสถานการณ์ภายนอกคฤหาสน์
ไม่นานก็มีคนมุงสังเกตเห็นรถที่ซิงชิงขับมา สีหน้าพวกเขาอดเผยความตกใจไม่ได้
“ชีซิงของพันธมิตรอู๋เว่ย…เขาเป็นคนขับรถ…งั้นคนมา…คงไม่ใช่ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยแบดเจอร์หรอกนะ!”
“แบดเจอร์ไป๋เฟิง? ล้อเล่นแล้ว ไป๋เฟิงหายตัวไปนานหลายปีแล้วไม่ใช่เหรอ คงเป็นเบื้องบนสักคนของพันธมิตรอู๋เว่ยมากกว่า”
“ฮ่าๆ เจ้าโง่ ผู้นำพันธมิตรกลับมาก่อนหน้านี้สักพักแล้ว นี่แกไม่รู้แม้แต่เรื่องนี้เลยเรอะ”
“ใช่ สามวันก่อนทูตของอาชูร่าไปเก็บส่วยที่พันธมิตรอู๋เว่ยยังถูกผู้นำพันธมิตรตะเพิดออกมาอยู่เลย…”
เวลานี้รวมไปถึงองค์กรสื่อพิเศษของรัฐอิสระเล็งกล้องไปยังรถที่ซีชิงอยู่เรียบร้อยแล้ว
ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยกลับมา นี่เป็นข่าวสะเทือนฟ้าจริงๆ
ในช่วงที่ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยกลับมารัฐอิสระยังนับว่าอยู่เงียบๆ วันนี้เป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวมาร่วมงานประชุมของกองกำลังใหญ่รัฐอิสระอย่างนี้และปรากฏตัวในที่สาธารณะ
องค์กรสื่อของรัฐอิสระใกล้เคียงกับของประเทศจีน เพียงแต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่นิดหน่อย
เรื่องราวที่องค์กรสื่อรัฐอิสระพวกนี้สนใจมีแค่ข่าวคราวระหว่างกองกำลังใหญ่ต่างๆ และข่าวพวกนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ชาวรัฐอิสระให้ความสนใจด้วยเช่นกัน
ถ้าเป็นที่ประเทศจีนบางทีองค์กรสื่ออาจจะใช้เวลาในวงการบันเทิง แต่ที่รัฐอิสระกองกำลังใหญ่ต่างๆ ก็เท่ากับวงการบันเทิงของประเทศจีน ว่ากันในบางมุมแล้วความหมายก็คล้ายคลึงกัน
“ตอนนั้น…อาชูร่าถูกกองกำลังใหญ่ต่างๆ ล้อมโจมตี พันธมิตรอู๋เว่ยก็โจมตีโหดเหี้ยมที่สุดรื่นเริงที่สุด… นายของอาชูร่ากลับมาแล้วไม่มีทางปล่อยผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยไปง่ายๆ แน่ ครั้งนี้นายของอาชูร่าสั่งการ รวบรวมกองกำลังมากมายขนาดนั้นให้เข้าร่วมงานประชุม ผู้นำพันธมิตรก็ถึงกับกล้าเข้าร่วม…ออกจะใจกล้ามากไปหน่อยแล้ว”
“ฮ่าๆๆ…ถึงผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยจะน่ากลัว แต่พันธมิตรอู๋เว่ยวันนี้กลับห่างไกลจากพันธมิตรอู๋เว่ยที่รุ่งเรืองเมื่อตอนนั้นแล้ว อีกอย่างนะ ถึงเป็นพันธมิตรอู๋เว่ยในช่วงรุ่งเรือง เจอกับอาชูร่าเข้าก็เปล่าประโยชน์…ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยนี่ยังเหมือนเหมือนตอนนั้นไม่มีผิด ไม่เกรงกลัวฟ้าดิน แต่ครั้งนี้เกรงว่าคงจ่ายค่าตอบแทนไม่ไหวแล้วแหละ”
“ฮ่าๆๆ ฉันเดาว่าครั้งนี้เกรงว่าอาชูร่าคงจะไม่ปล่อยผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย ไม่แน่ว่าวันนี้ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยอาจจะต้องตายอยู่ในงานประชุมนี้ก็ได้”
ขณะที่ทุกคนพากันส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เป่ยโต่วก็ลงจากรถก่อนเปิดประตูด้านซ้าย
เยี่ยหวันหวั่นแต่งชุดผ้าตาข่ายสีดำเดินออกมาจากรถอย่างช้าๆ
เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่น สายตาของคนที่มุงดูไม่น้อยก็พากันตกลงบนร่างของเธอ รวมทั้งนักข่าวขององค์กรสื่อพิเศษรัฐอิสระบางส่วนก็เข้ามารุมล้อมเธออย่างรวดเร็ว