บทที่ 1463 มาช่วยเธอแก้พิษ
“หัวหน้าของพวกนายเป็นไงบ้าง” ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างชิวสุ่ยถาม
เป่ยโต่วหันไปมองผู้ชายคนนั้น ราวกับโดนฟ้าผ่าห้าสาย “ชะ…เชี่ย!”
จี้…จี้หวง!
ไม่นึกเลยว่าชิวสุ่ยจะไปตามจี้หวงมาจริงๆ!
ไม่ใช่แค่เป่ยโต่วที่ตกใจ ชีซิงก็ตกใจไม่ต่างกัน
“มัวยืนอึ้งอยู่ทำไม! รีบพาพวกฉันไปหาเสี่ยวเฟิ่งสิ! ไม่มีเวลาแล้ว!” ชิวสุ่ยเร่งเร้า “เสี่ยวเฟิ่งอยู่ข้างในรึเปล่า?”
“เอ่อ…ใช่…แต่ว่า…” เป่ยโต่วยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“งั้นก็รีบเปิดประตูสิ!” ชิวสุ่ยเร่ง
“ชิวสุ่ย เธอสุดยอดเกินไปแล้วมั้ง! หลอกจี้หวงมาได้ยังไงน่ะ?” เป่ยโต่วดึงชิวสุ่ยไปถามด้านหนึ่ง
“นายอย่าเพิ่งสนใจว่าฉันพาเขามาได้ยังไง รีบพาพวกฉันไปเจอเสี่ยวเฟิ่งเร็ว!”
เป่ยโต่วหันไปมองทางประตูห้องนิดหนึ่ง แล้วพูดอย่างลำบากใจว่า “ไม่ได้…ตอนนี้พี่เฟิ่งไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่…”
ชิวสุ่ยรีบบอกว่า “ไม่สะดวก? หมายความว่าไง? พวกนายคงไม่ได้คว้าผู้ชายที่ไหนก็ได้มาให้เสี่ยวเฟิ่งหรอกนะ? ไร้สาระที่สุด! ไหนว่าต้องเป็นผู้ชายที่รักถึงจะแก้พิษได้ไง?”
“เปล่า! ไม่ได้คว้าผู้ชายที่ไหนก็ได้มา…แต่เป็น…” เป่ยโต่วไม่รู้ว่าควรพูดยังไงดี
จะให้เขาบอกได้ไงว่าพวกเขาหลอกนายแห่งอาชูร่าเข้าไปในห้องนั้นแล้ว?
“โครม!!!”
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ เสียงของแตกหักก็ดังออกมาจากในห้อง
“เสี่ยวเฟิ่ง! เสี่ยวเฟิ่งเป็นอะไรไป? เป่ยโต่ว! พวกนายทำอะไรอยู่กันแน่! รีบเปิดประตูสิ!” ชิวสุ่ยแย่งกุญแจไปจากเป่ยโต่ว แล้วรีบเดินไปเปิดประตู
พอเปิดประตู ชิวสุ่ยกับจี้หวงก็รีบเข้าไปข้างใน
เศษถ้วยกระเบื้องแก้วชาแตกกระจายเต็มพื้น เยี่ยหวันหวั่นสีหน้าอิดโรย ชายหนุ่มข้างกายกำลังประคองเธออย่างระมัดระวัง
พอเห็นผู้ชายที่อยู่ในห้อง ชิวสุ่ยก็ตกตะลึง “เอ่อ…นาย…นายแห่งอาชูร่า…”
ทำไมนายแห่งอาชูร่าถึงมาอยู่ที่นี่!!!
ชิวสุ่ยปากอ้าตาค้างหันไปมองเป่ยโต่วกับชีซิง สายตาเต็มไปด้วยคำถาม
ชีซิงกล่าว “นายแห่งอาชูร่ามาเพราะเรื่องตระกูลหยวน”
เป่ยโต่วพูดเสียงเบา “ชิวสุ่ย เธอก็รู้นี่ว่าสถานการณ์ของพี่เฟิ่งคับขัน…พวกฉันก็เลยคิดว่า…ไม่แน่ว่านายแห่งอาชูร่าอาจจะช่วยพี่เฟิ่งแก้พิษได้…”
ชิวสุ่ยหน้าเครียด “พวกนายบ้าไปแล้วเหรอ! เป่ยโต่วทำไมนายถึงได้บ้าบิ่นขนาดนี้!”
เป่ยโต่วรู้สึกไม่ยุติธรรมสุดๆ คนที่บ้าบิ่นไม่ใช่เขาแน่นอน
แต่พอเห็นเสื้อผ้าของทั้งสองยังอยู่ในสภาพเรียบร้อยดี น่าจะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น โชคดีที่หัวหน้าของพวกเขาฉลาด
เยี่ยหวันหวั่นเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาเป็นจี้หวง หน้าตาดูประหลาดใจ “จี้ซิวหร่าน…คุณ…มาได้ยังไง?”
เวรกรรม! ดูท่า…ชิวสุ่ยคงเป็นคนเรียกเขามา!
พอจี้ซิวหร่านมา ทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนโดนจับชู้ได้คาเตียง…
เมื่อเห็นผู้มา ชายหนุ่มข้างกายเยี่ยหวันหวั่นสีหน้าเย็นชาลงหลายส่วน
ครั้งก่อนเขาเคยให้หลินเชวียไปตามสืบ แต่กลับไม่พบว่าจี้หวงกับไป๋เฟิ่งมีอะไรเกี่ยวข้องกัน
แต่พอเห็นท่าทีที่จี้หวงมีต่อเยี่ยหวันหวั่น จะต้องมีอะไรปิดบังอยู่แน่ๆ…
อย่างน้อย จี้หวงกับหวันหวั่นที่ยังไม่สูญเสียความจำ จะต้องเป็นอะไรกันแน่ๆ…
ขณะเดียวกัน จี้ซิวหร่านหันไปมองซือเยี่ยหาน หลังเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็หันไปมองเยี่ยหวันหวั่น แล้วยิ้มจางๆ ดูมีเลศนัย ก่อนจะตอบอย่างใจเย็นว่า “แค่จะมาช่วยเธอแก้พิษ”
ช่วยเธอ…แก้พิษ?
วินาทีที่จี้ซิวหร่านพูดจบ ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยความเงียบอันน่าอึดอัด…
————————————————————————————-
บทที่ 1464 อยากใช้วิธีอื่นก็ได้นะ
แววตาอ่อนโยนของซือเยี่ยหานจางหายไปในพริบตา แทนที่ด้วยความเย็นยะเยือกเหมือนฤดูหนาว
ส่วนเยี่ยหวันหวั่น ได้แต่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น
ช่วยเธอแก้พิษ?
แต่ดูจากความสัมพันธ์ของไป๋เฟิ่งกับจี้หวงแล้ว เหมือนจะไม่ใช่เรื่องผิดนะ?
เป่ยโต่วสำลักอย่างแรง “อะ…อะไรนะ?”
เชี่ย! ไม่นึกเลยว่าจี้หวงจะถูกเชิญมาจริงๆ แต่ยังคิดจะช่วยพี่เฟิ่งแก้พิษอีก? นี่เขารู้แน่เหรอว่าที่พูดนั่นหมายความว่ายังไง!
ชายหนุ่มกระดกมุมปากยิ้งจางๆ “มีปัญหาอะไรเหรอ?”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
เยี่ยหวันหวั่นกล้าบอกว่ามีปัญหาที่ไหนล่ะ
ถ้าพูดออกไป ก็เท่ากับเปิดเผยว่าเธอไม่ใช่ไป๋เฟิ่งน่ะสิ…
ขณะที่สถานการณ์กำลังกระอักกระอ่วน ชายชราคนหนึ่งเดินมาจากข้างหลัง แล้วถามว่า “รบกวนถามหน่อย คนที่โดนพิษกู่พิษคือท่านไหน?”
จี้หวงผายมือให้ชายชรามาข้างหน้า “คนนี้ครับ รบกวนผู้อาวุโสชีด้วย”
“เอ่อ ผู้อาวุโสท่านนี้คือ?” เยี่ยหวันหวั่นมองชายชราผมขาวตรงหน้าด้วยความสงสัย
“หมอที่ฉันเชิญมาแก้พิษให้เธอ ผู้อาวุโสชีเชี่ยวชาญเรื่องแก้พิษกู่พิษ” จี้หวงตอบ
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็ถอนหายใจ แล้วตบหน้าอกตัวเองอย่างโล่งใจ “เอ่อ ที่แท้คุณก็พาหมอมาแก้พิษให้ฉันนี่เอง…”
ตกใจหมดเลย…
จี้หวงยิ้มอย่างไม่ยี่หระ “ไม่งั้นเธอคิดว่าฉันจะแก้พิษให้เธอยังไงล่ะ?”
เยี่ยหวันหวั่นกระแอมเบาๆ “เอ่อ…”
จี้หวงยิ้มแล้วบอกว่า “ถ้าเธออยากใช้วิธีอื่นก็ได้นะ”
เยี่ยหวันหวั่นบอก “เปล่าๆๆๆ!”
เยี่ยหวันหวั่นรีบยื่นมือให้หมอตรวจชีพจร
ชายชราวางนิ้วมือลงบนข้อมือของเยี่ยหวันหวั่น แล้วเริ่มการตรวจชีพจร
เวลาผ่านไปหนึ่งถ้วยน้ำชา ชายชราตรวจชีพจรเสร็จในที่สุด สีหน้าดูตกตะลึง เหมือนเจอเรื่องที่ไม่คาดคิด “นี่มัน…”
“ผู้อาวุโสชี พิษกู่สองใจเป็นหนึ่งเสี่ยวเฟิ่งมีวิธีแก้ไขไหม? คนสร้างกู่พิษบอกว่าแก้ไม่ได้!” ชิวสุ่ยพูดด้วยความกังวล
ชายชราผมขาวยกมือลูบเครา แล้วพูดด้วยสีหน้าเครียดๆ “ตอนแรกก็ยังมีวิธีแก้ได้ แต่พิษที่หัวหน้าไป๋โดน…ไม่ใช่พิษกู่สองใจเป็นหนึ่ง!”
เป่ยโต่วบอก “อะไรนะ? ไม่ใช่ งั้นอะไรล่ะ?”
วินาทีนั้น ทุกคนในห้องหันไปมองชายชรา
“หัวหน้าไป๋ไม่ได้โดนพิษกู่สองใจเป็นหนึ่ง แต่โดนพิษที่ร้ายแรงที่สุดในบรรดากู่พิษ คือกู่พิศวาส!” ชายชราบอก
เป่ยโต่วกับชีซิงทำหน้าประหลาดใจ “กู่พิศวาส!!!”
เยี่ยหวันหวั่นเอามือยันโต๊ะ “กู่พิศวาสคืออะไรอีกล่ะ?”
เยี่ยหวันหวั่นไม่ทันสังเกตเห็นว่าตอนที่ซือเยี่ยหานได้ยินคำว่า ‘กู่พิศวาส’ สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
จี้หวงหันไปมองหญิงสาว แล้วอธิบายว่า “อาจจะไม่ค่อยมีคนรู้จักกู่สองใจเป็นหนึ่ง แต่กู่พิศวาสที่เป็นราชาแห่งกู่พิษกลับมีคนรู้จักไม่น้อย คนจากเผ่ากู่เหมียวหลายคนที่จะฝึกกู่พิศวาสสำเร็จครั้งหนึ่งในชีวิต”
“แก้ยังไง?” เยี่ยหวันหวั่นถาม
ชายชราผมขาวกล่าวว่า “กู่พิศวาสเป็นของที่ผู้หญิงทำเพื่อให้ชายที่ตนชอบมารักใครลุ่มหลงตัวเอง จะลงไว้บนตัวคนที่ชมชอบ กู่แม่อยู่กับตัวผู้หญิง กู่ลูกอยู่กับตัวผู้ชาย ภายในสามเดือนฝ่ายผู้ชายจะต้องตกหลุมรักตนเอง ไม่อย่างนั้นพิษจะออกฤทธิ์จนตายกันทั้งคู่”
ซือเยี่ยหานเงียบ
เยี่ยหวันหวั่นฟังจบก็อึ้งตาค้าง
‘กู่สองใจเป็นหนึ่ง’ ขอแค่เธอชอบก็พอแล้ว แต่ ‘กู่พิศวาส’ อีกฝ่ายต้องรักเธอเท่านั้น
อันหนึ่งเป็นโหมดง่าย อีกอันเป็นโหมดยากชัดๆ!