บทที่ 48 ดาร์ก เดม่อนถูกจับได้ว่ากินป๊อปคอร์น
หลังจากนั้น เอ็มม่าก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก
ทว่าบรรยากาศระหว่างเวอร์เธอร์กับโรเบิร์ตกลับหยุดนิ่งในทันที!
…
‘⊙▽⊙’
ดาร์กรู้สึกประหลาดใจ
เมื่อรวมสิ่งที่เขาเห็นในวันจันทร์และพฤติกรรมแปลก ๆ มากมายระหว่างพวกเขาทั้งสองฝ่ายเมื่อเร็ว ๆ นี้ดาร์กก็พอเข้าใจแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจคือ ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนแย่ลงจนแตกหักได้อย่างไร
‘เป็นเพราะดาร์กไม่ได้กดดันพวกเขาในฐานะวายร้ายใช่หรือไม่’
‘เป็นไปไม่ได้ใช่ไหม?’
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นดาร์กก็เริ่มสนใจในถึงสิ่งที่จะตามมา
เอ็มม่าทำลายความสัมพันธ์ของเธอกับเวอร์เธอร์และโรเบิร์ตอย่างสิ้นเชิง หนำซ้ำ ความสัมพันธ์ระหว่างเวอร์เธอร์กับโรเบิร์ตก็ร้าวฉานเพราะคำพูดสุดท้ายของเอ็มม่า
เช่นนั้นแล้วเวอร์เธอร์จะหันไปคบกับเอ็มม่าเพื่อสร้างความสัมพันธ์แบบเก่า หรือเขาจะยังเป็นเพื่อนกับโรเบิร์ตต่อ?
‘เหมือนดูละครเลย!’
ดาร์กคิดว่าเขาสามารถไปที่ถนนนักเดินทางทีหลังได้ ส่วนตอนนี้เจ้าตัวตัดสินใจที่จะเฝ้าดูเหตุการณ์ตอนต่อไปว่ามันจะพัฒนาไปอย่างไรในขณะที่กินป๊อปคอร์น
…
ไม่ว่าจะในแง่มุมไหน เวอร์เธอร์ก็เชื่อฟังคำพูดสุดท้ายของเอ็มม่า กุญแจสำคัญคือ พฤติกรรมของโรเบิร์ตที่ทำให้เขาลำบากซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันจึงทำให้เขาตระหนักได้ว่าคำเตือนของเอ็มม่าไม่ได้ไร้มูลความจริงเสียทีเดียว
ใช่แล้ว เวอร์เธอร์ค่อย ๆ ตระหนักถึงที่มาของปัญหา
นี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้บรรยากาศระหว่างพวกเขาค่อย ๆ แย่ลง
ก่อนที่อากาศจะแข็งตัวอย่างสมบูรณ์ ในที่สุดโรเบิร์ตก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เวอร์เธอร์ อย่าบอกนะว่านายเชื่อคำพูดของเอ็มม่าจริง ๆ และอยากจะ…”
เวอร์เธอร์หัวเราะอย่างเคอะเขินแล้วตบไหล่โรเบิร์ต “นายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร โรเบิร์ต? เราเป็นเพื่อนรักที่คบกันมาตั้งแต่เปิดเทอม หนี้บ้า ๆ นี้หมดไปแล้ว เราจะไปซื้อของที่ถนนนักเดินทาง หรือกลับไปเล่นหมากรุกเวทมนตร์ที่หอกันสักรอบดีล่ะ?”
“เฮ้อ อย่าทำให้ฉันกลัวสิ” โรเบิร์ตถอนหายใจอย่างโล่งอก “แน่นอนว่าเราต้องกลับไปที่ห้องสมุด…”
เวอร์เธอร์ผงะไปทันทีและพูดด้วยความประหลาดใจ “พูดจริงเหรอ? ห้องสมุดน่ะนะ?”
โรเบิร์ตหัวเราะอย่างเชื่องช้าและพูดว่า “การบ้านวิชาคณิตศาสตร์และประวัติศาสตร์เวทมนตร์ยังไม่เสร็จเลยใช่ไหม?”
เอ็มม่าคงไม่เคยคิดมาก่อนว่าคำพูดที่เธอพูดกับเวอร์เธอร์จะส่งผลต่อโรเบิร์ตมากกว่าเวอร์เธอร์เสียอีก!
ขณะที่บรรยากาศแทบจะหยุดนิ่ง ในที่สุดโรเบิร์ตก็ตระหนักว่าถ้าตัวเองไม่เปลี่ยนแปลงใด ๆ เขาก็จะสูญเสีย ‘บุตรแห่งวีรบุรุษ’ ในฐานะเพื่อนไปโดยสิ้นเชิง
…
เมื่อเห็นทั้งสองคนมุ่งหน้าไปยังห้องสมุดจริง ๆ สายตาของดาร์กก็ค่อย ๆ แปลกขึ้น และเขาก็เดินออกจากมุมห้องพร้อมกับครุ่นคิด
‘หือ? สงสัยจริงว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน’
เมื่อความสัมพันธ์มีรอยแตกร้าว มันย่อมไม่สามารถประสานคืนได้โดยง่าย
ดาร์กขบคิดขณะเดินไปตามทางที่เอ็มม่าหายตัวไป
‘พูดถึงเรื่องนั้น เอ็มม่าอยากจะไปงานเลี้ยงน้ำชาของสาว ๆ จริงเหรอ? อะไรที่ทำให้เธอเปลี่ยนไปกัน?’
…
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงของเอ็มม่า มอร์ติสเป็นเพราะคำพูดของดาร์กหลังจากชนะการแข่งขัน เธออยากลองสิ่งที่เรียกว่า ‘การจัดสรรเวลาอย่างเหมาะสมสำหรับการเรียนและการพักผ่อน’
นั่นคือ การใช้กิจกรรมที่น่าสนใจเพื่อผ่อนคลายจากการเรียนที่น่าเบื่อ มีเวลาพักสมองบ้าง เพื่อให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เธอรู้เกี่ยวกับงานเลี้ยงน้ำชาที่ถนนนักเดินทางจากใบปลิวที่สาวใช้ตัวน้อยมอบให้เมื่อเธอเดินผ่านร้านกาแฟป่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เวลานั้น เธอโยนใบปลิวทิ้งไป แต่ความทรงจำของเธอกลับดีเหลือเกิน
ร้านกาแฟป่าเป็นร้านกาแฟในธีม ‘ป่าแท้จริง’ ตราบใดที่แขกก้าวเข้าไปในร้าน พวกเขาก็จะเข้าไปในขอบเขตของ [การ์ดเวทมนตร์แห่งทุ่งป่า]
เพลิดเพลินกับกาแฟหอมกรุ่นในสภาพแวดล้อมอันเงียบสงบของต้นไม้ใหญ่ซึ่งมีเสน่ห์เฉพาะตัว
ครั้งนี้งานเลี้ยงน้ำชาของสาว ๆ จัดขึ้นโดยนักเรียนรุ่นพี่ในนามชมรมหนังสือ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างสาว ๆ ภาควิชาวรรณกรรมเป็นหลัก
เอ็มม่ารู้สึกว่าความบันเทิงประเภทนี้อาจเหมาะกับเธอ
ดังนั้นเพื่อที่จะเก่งขึ้น เธอจึงก้าวออกจากกรงความคิดที่เรียกว่า ‘แสวงหาความรู้’
…
นิสัยของมนุษย์ไม่ได้มีมาแต่กำเนิด
แม้แต่ตัวละครที่มีบุคลิกตอนต้นในหนังสือก็เปลี่ยนไปตามพัฒนาการของหนังสือ
จะเป็นการถดถอยหรือการเติบโต?
มันก็ขึ้นอยู่กับตัวละครทั้งนั้น
…
ดาร์กเข้าใจดีเช่นกัน
เขาเข้าไปในศาลากลางทะเลสาบคล้อยหลังจากเอ็มม่า เลือกโต๊ะหินตัวใดตัวหนึ่งจากสองโต๊ะ จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี้หินตัวหนึ่ง บิดสะโพกเล็กน้อย และโชคดีไปที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ในครั้งแรก
มันเป็นอีกครั้งที่เขาเดินออกจากศาลาริมทะเลสาบและข้ามสะพานสไตล์สวนที่รู้จักกันในชื่อ ‘สะพานเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย’ แล้วจึงมาถึงถนนนักเดินทาง
ไม่ได้มาแค่สัปดาห์เดียว ถนนนักเดินทางก็ดูจะแปลกตาไปเล็กน้อย
ดาร์กไม่รีบร้อนไปที่ร้านมอร์แกน แต่ตัดสินใจเดินไปมาในร้านขายกระถางต้นไม้แทน
มีกฎว่าห้ามเลี้ยงสัตว์ในปราสาทของสถาบันเซนต์แมเรียน แต่ไม่มีใครห้ามไม่ให้ปลูกดอกไม้และต้นไม้ แม้แต่ศาสตราจารย์ทอมป์สันจากวิชาปรุงยาก็ยังกล่าวถึงต้นไม้กระถางที่น่าสนใจในชั้นเรียนเป็นครั้งคราว ทั้งยังแนะนำให้นักเรียนลองปลูกดู
เช่น ต้นที่อยู่ตรงหน้าดาร์กพันธุ์นี้ มันคือ… หญ้าแมว!
ทันทีที่เขาเข้าไปในร้านนี้ ความสนใจของดาร์กก็ถูกดึงไปโดยต้นหญ้าแมวที่วางอยู่ในที่ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด และทำเอาเขาเกือบลืมจุดประสงค์ที่จะมาหาต้นไม้หนอนที่ร้านแห่งนี้
หญ้าแมวที่ว่านี้เป็นพืชที่ดูเหมือนแมวยกเว้นหางของมันซึ่งเป็นเหง้า!
ทุกฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ดอกไม้สวยงามจะงอกงามอยู่บนยอดหญ้าแมว
สถาบันห้ามเลี้ยงแมว แต่อนุญาตให้เลี้ยงหญ้าแมวได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องลึกลับ
แม้ว่ารากหญ้าแมวจะต้องปลูกในดิน แต่ตราบเท่าที่พวกมันต้องการ พวกมันก็สามารถเคลื่อนที่ได้โดยการลากกระถางดอกไม้ไปด้วย…
แม้จะออกจากดินไปครู่หนึ่ง มันก็ไม่เหี่ยวแห้งในทันที
ที่สำคัญกว่านั้น พวกมันยังร้องเหมียว ๆ และมีนิสัยส่วนใหญ่ของแมวด้วย ยกเว้นแค่การขับถ่ายและการกินที่ต่างออกไป
→พูดอีกอย่างก็คือ ไม่จำเป็นต้องเก็บอึและซื้ออาหารแมว
แต่ก็มีน้ำยาที่เรียกว่า ‘น้ำยาแมว’ แทน
แค่เท ‘น้ำยาแมว’ ลงบนหญ้าแมวทุกวัน แล้วนำไปตากแดดก็เพียงพอแล้ว!
เท่าที่ดาร์กรู้ หลังจากการเปิดถนนนักเดินทางเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เด็กผู้หญิงหลายคนก็มีหญ้าแมวอยู่ในหอพักแล้ว
ตัวอย่างเช่น โรส เธอซื้อการ์ฟิลด์สีส้มไป
“แมวเป็นเพื่อนที่สามารถรักษาจิตใจได้ดีจริง ๆ”
ดาร์กเกาคางของแมวหูสั้นและอดไม่ได้ที่จะพูดพึมพำ
“นายคิดอย่างนั้นด้วยเหรอ?”
มีกลิ่นคุ้นเคยยืนอยู่ข้างหลังเขา และดาร์กก็สั่นเทาราวกับลูกแมวที่เจอสิงโต แม้แต่นิ้วเท้าก็เกร็งขึ้นมา
ราวกับว่ากลิ่นหอมกำลังลูบไล้หลังคอของเขา และแม้ว่าดาร์กจะไม่ได้มองย้อนกลับไป เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่ทาบทับลงมาอย่างหนักหน่วง!
มือของเด็กชายยังคงลูบไล้แมวต่อไป และเอ่ยถามด้วยความสงสัย “รุ่นพี่ ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ?”
แพนดอร่าหัวเราะเบา ๆ “ฉันตามเธอมา”
ดาร์กถามต่อ ” อืม คุณมาซื้อน้ำยาแมวเหรอครับ?”
รุ่นพี่สาวว่า “หลอกเธอยากจริง ๆ!”