จอมมารแค่อยากเป็นคนดี – ตอนที่ 57 ดาร์ก เดม่อนค้นพบสิ่งที่น่าสนใจ

บทที่ 57 ดาร์ก เดม่อนค้นพบสิ่งที่น่าสนใจ

ตรงมุมนั้นดาร์ก เดม่อนไม่ได้จากไปจริง ๆ

ทันทีที่พ้นสายตาของเวอร์เธอร์และโรเบิร์ต เขาก็หยุดเดินและฟังสองคนนั้นพูดกัน

เวอร์เธอร์และโรเบิร์ตไม่ได้คุยกันเบา ๆ ดังนั้นดาร์กจึงได้ยินบทสนทนาระหว่างพวกเขาทั้งหมด

“ปรากฏว่าการ์ดดอกไม้มีฟังก์ชันใหม่ ซึ่งสามารถดูความชื่นชอบของผู้คนได้”

“เดี๋ยวก่อนนะ นี่ไม่ใช่ฟีเจอร์ที่ตัวละครเอกของเกมจีบสาวต้องมีไม่ใช่เหรอ? มันปรากฏออกมาในรูปแบบนี้จริง ๆ เหรอ?”

“แล้วเขาก็แค่ต้องการเพิ่มความชื่นชอบของฉันเองงั้นเหรอ?”

“มีรางวัลอะไรรึไง? หรือเขาจะสามารถปลดล็อกฉากคัตซีน CG ได้? ฮ่า ๆๆ เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ”

“ถึงจะดูไร้ประโยชน์ไปหน่อย แต่จะปล่อยให้เขาสอดแนมจิตใจฉันอย่างนี้ไม่ได้”

“ดูเหมือนจะมีศาสตร์ลับใน <ภาพยนตร์แนวโรงเรียนเวทมนตร์> ซึ่งเป็นเวทมนตร์ปิดกั้นจิตใจ ทำให้คนอื่นใช้เวทมนตร์อ่านใจกับตนไม่ได้ มันสามารถจำลองความทรงจำปลอมแปลงได้ เพราะงั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่โลกนี้จะไม่มีมันด้วย”

ดาร์กยังคงฟังอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อสังเกตเห็นว่ามีคนเข้ามาในทางเดินมากขึ้น เขาก็รีบออกไป

“คาบเรียนต่อไปคือ คาบเรียนของศาสตราจารย์เคเซอร์ ถ้าการ์ดดอกไม้ไม่เกี่ยวกับศาสตราจารย์เคเซอร์ บางทีฉันอาจจะขอข้อมูลบางอย่างจากเวอร์เธอร์ได้”

เมื่อดาร์กมาถึงห้องเรียนเวทมนตร์พื้นฐาน เอ็มม่า มอร์ติสก็นั่งอยู่แถวหน้าแล้ว

เขาคลี่ยิ้มและนั่งอยู่ในแถวสุดท้ายริมหน้าต่างเช่นเดิม รอการมาถึงของเวอร์เธอร์และโรเบิร์ต

ตามพฤติกรรมของเวอร์เธอร์และโรเบิร์ต เขาเดาว่าแม้ว่าเวอร์เธอร์จะได้ผลประโยชน์จากการเพิ่มความชอบของผู้อื่นจริง ๆ แต่ก็น่าจะได้เฉพาะคนพิเศษบางคนเท่านั้น

เช่น ตัวละครหลักในเกม!

และจากการคาดเดานี้ เอ็มม่าก็ควรเป็นหนึ่งในนั้น

เมื่อคาบเรียนกำลังจะเริ่มขึ้น เวอร์เธอร์และโรเบิร์ตก็เดินเข้ามาในห้องเรียนผ่านประตูหน้า นี่คือสิ่งที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมาก่อน

อีกทั้ง เวอร์เธอร์ยังจงใจถือ [ความรักต้องห้าม] ไว้ในมือ

แม้ว่าเขาจะแสร้งทำตัวตามสบาย แต่เห็นได้ชัดว่าเขา ‘ตรวจสอบ’ เอ็มม่าด้วย [ความรักต้องห้าม]!

จากนั้นเวอร์เธอร์และโรเบิร์ตก็รีบเดินไปอีกด้านหนึ่งของแถวสุดท้ายของห้องเรียน

ก่อนที่ทั้งคู่จะวางกระเป๋านักเรียน พวกเขาก็สุมหัวตรวจสอบการ์ดกัน

[ชื่อ: เอ็มม่า มอร์ติส]

[ความหายาก: SSR]

[ความชื่นชอบ: 31]

โรเบิร์ตรู้สึกประหลาดใจ “สามสิบเอ็ดงั้นเหรอ ก็เหมือนหลาย ๆ คนแหละเวอร์เธอร์ ดูเหมือนว่าเอ็มม่าจะไม่ได้เกลียดนายมาก ฉันอยากรู้จริงว่าเธอชอบฉันแค่ไหน บางทีเธออาจจะไม่ได้เกลียดฉันขนาดนั้นก็ได้!”

เวอร์เธอร์เหลือบมองเขาและยิ้มอย่างเชื่องช้า “ฮ่า ๆ”

แต่แล้ว เขาก็สังเกตเห็นว่ามีแม่กุญแจในการ์ด!

แม้ว่ามันจะไม่ใช่แม่กุญแจสีทองเหมือนของดาร์ก แต่ก็ยังคงเป็นแม่กุญแจสีส้ม

เขาเอื้อมมือไปแตะมันทันที จากนั้นประโยคก็ปรากฏขึ้นด้านล่างแม่กุญแจ: ปลดล็อกความชื่นชอบ 80 หน่วย

“เพราะความหายากอย่างนั้นเหรอ?”

เวอร์เธอร์สังเกตเห็นจุดสำคัญทันที

“ความหายากของดาร์กคือ UR ดังนั้นมันเลยเป็นแม่กุญแจสีทอง ความหายากของเอ็มม่าคือ SSR ดังนั้นจึงเป็นแม่กุญแจสีส้ม แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าอันไหนหายากกว่า แต่มันเกี่ยวข้องกับความหายากอย่างไม่ต้องสงสัย”

โรเบิร์ตยังตระหนักถึงหน้าที่ของแม่กุญแจ และใบหน้าของเขาก็ดูน่าเกลียดเล็กน้อย “ถ้างั้น ที่ไม่มีแม่กุญแจในข้อมูลของฉันก็เพราะว่า…”

เวอร์เธอร์รีบปลอบ “อย่าคิดมากน่าโรเบิร์ต ไปตรวจสอบคนอื่นดีกว่า บางที เอาเป็นศาสตราจารย์เคเซอร์ไหม?”

ดวงตาของโรเบิร์ตเป็นประกาย “เอ็มม่าและดาร์กมีกุญแจ ศาสตราจารย์ก็ต้องมีกุญแจด้วย”

เวอร์เธอร์กระซิบ “ลดเสียงลงหน่อย พอศาสตราจารย์มา เราค่อยคิดทำอะไรสักอย่าง”

“ความหายากของฉันคือ UR และความหายากของเอ็มม่าคือ SSR เหรอ?”

ดาร์กยกปากกาขึ้นและเขียนเกรดลงในสมุดบันทึกของเขา: N, R, SR, SSR, UR

“มันเกี่ยวกับระดับความหายากสินะ”

“หากระดับความชอบถึงแปดสิบก็จะปลดล็อกรางวัลบางอย่าง มันน่าจะมีเงื่อนไขการปลดล็อกรางวัลเพิ่มเติมไปอีก เช่น ระดับความชอบที่เก้าสิบ และระดับความชอบที่หนึ่งร้อย”

“ช่างเป็นโลกที่มาจากเกมจีบสาวจริง ๆ มีองค์ประกอบหลายสิ่งอยู่เต็มไปหมดเลย”

“แต่ความนิยมในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นไม่ง่ายที่จะเพิ่มขึ้นเหมือนกับตัวละครในเกม”

“นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจจริง ๆ”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ [โทสะ] ในใจเขาก็เบาขึ้นมาก

“เวอร์เธอร์ กาวด์เป็นคนที่น่าสนใจจริง ๆ”

ศาสตราจารย์เคเซอร์มาถึงห้องเรียนสายไปครึ่งนาที และยังมีผ้าพันแผลสีขาวอยู่บนหัวของเขา

เวอร์เธอร์และโรเบิร์ตต่างหวังว่าศาสตราจารย์เคเซอร์จะก้าวลงจากแท่นโพเดียม เพื่อที่พวกเขาจะได้ตรวจสอบอีกฝ่ายโดยใช้การ์ดดอกไม้ได้

แต่ศาสตราจารย์เคเซอร์ไม่ได้ก้าวออกจากแท่นเลย เว้นแต่เขาจะสั่งการบ้าน

→เหตุผลคือแท่นวางเท้าบนโพเดียม

ในคาบเรียนนี้ ศาสตราจารย์เคเซอร์ได้พูดคุยเกี่ยวกับ ‘วิธีการสร้างการ์ดวิญญาณทั่วไป’ และแนะนำหนังสือ ‘กลั่นวิญญาณ – คู่มือทั่วไป’ ให้กับนักเรียน

จอมเวทฝึกหัดส่วนใหญ่ตั้งใจฟัง

ดาร์กก็ให้ความสนใจเช่นกัน

ความรู้ส่วนนี้มีความสำคัญมากสำหรับจอมเวท และสิ่งที่พวกเขาสามารถเรียนรู้ได้จากตำราเรียนนั้นก็มีจำกัดมาก

ศาสตราจารย์เคเซอร์ได้สอน ‘วิธีการกลั่นขั้นพื้นฐาน’ เป็นหลัก ซึ่งรวมวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์หลาย ๆ วงเข้าด้วยกัน และสุดท้ายก็จบลงด้วยวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์หมายเลข 1 หลังจากใส่น้ำยา ชิ้นส่วนพืช ฟันปีศาจ ผม เลือด และลูกตาลงในวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์ จากนั้นกระบวนการกลั่นก็จะเริ่มต้นขึ้น

เพียงแต่ว่าวิธีการกลั่นแบบนี้ไม่มีตัวเลือกตายตัว ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ล่วงหน้าเลยว่าจะได้อะไรในท้ายที่สุด

ดาร์กจึงเรียกมันว่า ‘วิธีการกลั่นแบบสุ่ม’

ในทางตรงกันข้าม ‘กลั่นวิญญาณ – คู่มือทั่วไป’ ที่ศาสตราจารย์เคเซอร์กล่าวถึงได้บันทึก ‘วิธีการกลั่นขั้นพื้นฐาน’ ที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก

ในหนังสือเล่มนั้น วิธีการทำการ์ดวิญญาณจะแบ่งย่อยออกตามเผ่าพันธ์ุและคุณสมบัติ

มีทั้งหมดสิบห้าเผ่าพันธุ์ ยี่สิบคุณสมบัติ และวิธีการกลั่นพื้นฐานที่แตกต่างกันสามร้อยวิธี!

“เยี่ยมไปเลย นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ”

ดาร์กจดชื่อหนังสือและเตรียมจะยืมจากห้องสมุดหลังเลิกเรียน

หลังจากศาสตราจารย์เคเซอร์สอนบทนี้เสร็จแล้ว เขาก็ให้เวลานักเรียนจดข้อมูลจากกระดานดำ

จากนั้นเขาก็เดินออกจากแท่นโพเดียมเพื่อดูว่านักเรียนกำลังจดบันทึกอย่างจริงจังหรือไม่

เมื่อเขาเดินไปที่ดาร์ก เขาก็เหลือบมองที่โน้ตที่หนาเตอะแต่เรียบร้อยแล้วพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปอีกด้านหนึ่งของห้องเรียน

เวอร์เธอร์และโรเบิร์ตนั่งอยู่ตรงนั้น

ทั้งสองรีบแสร้งทำเป็นจดบันทึกโดยรอให้ศาสตราจารย์หันหลังกลับ เมื่อศาสตราจารย์เดินจากไป ในที่สุดเวอร์เธอร์ก็รู้ว่านี่คือโอกาสของเขา

เขาหยิบ [ความรักต้องห้าม] ขึ้นมาทันทีและตรวจสอบศาสตราจารย์เคเซอร์

อึดใจต่อมา

ตู้ม!

หมอกสีชมพูพุ่งออกมาจากผิวการ์ด [ความรักต้องห้าม] และการ์ดก็สั่นอย่างบ้าคลั่ง

เวอร์เธอร์ตกใจและรีบเอาการ์ดลง

ศาสตราจารย์เคเซอร์ขมวดคิ้วและสายตาจ้องมองมาที่เขา

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง จอมมารแค่อยากเป็นคนดีระหว่างทำพิธีคัดสรรเลือกบ้าน ในที่สุด 'ดาร์ก เดม่อน' ก็ได้รับความทรงจำของชีวิตก่อนกลับคืนมา ปรากฏว่าเขามาเกิดใหม่โลกของเกม ทั้งยังเป็นเกมที่ลอกเลียนแบบธีมภาพยนตร์และอนิเมะชื่อดังอีกด้วย! แต่เหมือนพระเจ้ายังไม่พอใจ เพราะบทบาทของ 'เขา' ในเกมนี้คือว่าที่ 'จอมวายร้าย' ที่ร้ายสุดในเกมนี้! ด้วยค่ามหาบาปทั้งเจ็ด [เกียจคร้าน ริษยา ราคะ ตะกละ โลภะ โทสะ และอัตตา] เมื่อค่าหนึ่งในเจ็ดบาปพวกนี้พุ่งทะลุหลอดตัวชี้วัด ดาร์กก็จะกลายร่างเป็น 'จอมมาร' ตลอดไป! หากเป็นยุคแห่งความโกลาหลก็คงไม่เป็นอะไรหรอก แต่ตอนนี้มันใช่ยุคนั้นเสียที่ไหนเล่า! ในยุคสมัยของเซนต์แมเรียนที่สงบสุขเช่นนี้ และจอมมารก็ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ไปนานแล้ว เขาที่กำลังโดนระบบจอมมารปั่นหัวให้กลายวายร้ายจะต้องทำเช่นไรล่ะทีนี้!?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset