บทที่ 68 การปะทะกันครั้งแรกของดาร์กและเวอร์เธอร์
“หือ! คิดว่าฉันจะปล่อยให้นายตามทันงั้นเหรอ?”
ช่องว่างความแข็งแรงระหว่างพวกเขา เผยออกมาให้เห็นตั้งแต่ตอนวิ่งรอบโถงในคาบวิชาการประลองแล้ว
ดาร์กวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ตื่นตระหนก และบางครั้งเขายังหันกลับไปมองเวอร์เธอร์ซึ่งอยู่ด้านหลัง มองดูบุตรแห่งวีรบุรุษวิ่งอย่างเอาเป็นเอาตายและหอบหายใจไม่ทัน
แต่เวอร์เธอร์ไม่ได้โง่
เมื่อเห็นความแตกต่างระหว่างพวกเขา เด็กชายก็นึกถึงกวางของตน!
เวอร์เธอร์ปีนขึ้นไปบนหลังกวางและอดทนต่อความรู้สึกไม่สบายระหว่างขายามมันวิ่ง ผ่านดวงตาของหน้ากากไอ้แมลงวัน เขาจ้องมองไปข้างหน้าอย่างดุดันราวกับว่าจะแทงชายเบื้องหน้าตนให้ได้!
แต่ทันใดนั้นเอง ดาร์กที่วิ่งไปข้างหน้ากลับเลี้ยวหายไปตรงหัวมุม
ตั้งแต่วินาทีที่เวอร์เธอร์ปีนขึ้นไปบนกวาง ดาร์กก็รู้ทันทีว่าการแข่งจบลงแล้ว
อย่างที่ทราบว่า การอัญเชิญสปิริตออกมาเป็นเวลานานนั้นจำเป็นต้องใช้พลังเวทมนตร์อย่างต่อเนื่อง
ส่วนพรสวรรค์ด้านพลังเวทมนตร์ของบุตรแห่งวีรบุรุษก็เพียงพอที่จะสนับสนุนเขาตลอดทั้งคืน
อาศัยการเลี้ยวหัวมุมของดาร์ก เขาอาจจะสามารถทิ้งระยะออกห่างเล็กน้อยได้สักพัก แต่ให้สลัดอีกฝ่ายหลุดไปเลยมันก็ยังคงเป็นเรื่องยากอยู่ดี
เมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว ดาร์กจึงตัดสินใจสู้กลับทันที
ในวินาทีที่แปด สไลม์ขยะปรากฏตัวขึ้นในมือของเด็กชาย
หลังจากเลี้ยวอีกมุมหนึ่ง อีบุยเริ่มออกตัววิ่งตามเขาและมันก็วิ่งไปข้างหน้า
ที่ทางแยกต่อไป สัญลักษณ์ของอัตตาปรากฏบนหน้าผากของอีบุย
ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นและหายตัวไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
ในที่สุดเวอร์เธอร์ กาวด์ก็ได้เห็นแผ่นหลังของดาร์กอีกครั้ง เขาถ่ายโอนพลังเวทมนตร์เข้าไปในกวางอย่างต่อเนื่อง เพราะเขามีการ์ดดอกไม้พิเศษอยู่ในมือแล้ว
[ความรักต้องห้าม]!
ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายลดลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อเวอร์เธอร์คิดว่าเขาตามคนข้างหน้าทันแล้ว เจ้านั่นกลับถอดหมวกทรงสูงออกแล้วปามันมาทางเขา!
หมวกทรงสูงสีดำสนิทหมุนไปในอากาศ และเกือบจะชนกับเวอร์เธอร์ที่ขี่กวางไล่มาด้วยความเร็วสูง
เวอร์เธอร์ไม่มีเวลาตอบสนอง แต่กวางกระโดดไปทางขวาทันที ช่วยให้เจ้านายมันหลบหมวกทรงสูงที่กำลังมาถึงหน้าได้ในวินาทีสุดท้ายพอดี
แต่ทันใดนั้นเอง! มวลน้ำของวัตถุซึ่งคล้ายสไลม์สีเขียวพลันปรากฏขึ้นจากด้านหลังของหมวกทรงสูง และสาดเข้าใส่ใบหน้าของเวอร์เธอร์
เมื่อวิสัยทัศน์ของเด็กชายถูกบดบัง ความตื่นตระหนกก็บังเกิดขึ้นในหัวใจเขาทันที
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก
เขาเห็นเงาเล็ก ๆ แวบไปมาอยู่ในอากาศ จากนั้นกวางของเขาก็กรีดร้อง ก่อนจะถูกกำจัดออกไปทันทีโดยไม่อาจสู้กลับได้แต่อย่างใด
จากนั้นสไลม์สีเขียวบนใบหน้าเวอร์เธอร์ก็หายไป
เขาตกลงมาจากอากาศ
โชคดีที่กวางหยุดเคลื่อนไหวทันทีเมื่อการมองเห็นของเจ้านายมันถูกบดบัง มิฉะนั้น หากมันยังพุ่งไปข้างหน้าเช่นเดิม เวอร์เธอร์อาจตกลงมาบาดเจ็บสาหัสได้
…
ที่มุมทางเดิน
หลังจากที่ดาร์กโบกมือ จุดแสงสองจุดก็พุ่งกลับเข้ามาในการ์ดเวทมนตร์
นี่ถือเป็นการต่อสู้ที่เรียบง่าย
“ฉันว่าเขาไม่น่าเห็นอะไรหรอกมั้ง”
ดาร์กเหลือบมองบุตรแห่งวีรบุรุษที่ล้มไปนอนกับพื้น ก่อนจะพึมพำเสียวแผ่วเบา
เด็กชายเดินอ้อมไปบนทางแยกอีกทาง มือหยิบหมวกทรงสูงสีดำขึ้นจากพื้น หันหลังให้กับเวอร์เธอร์พลางปัดฝุ่นออกจากหมวก เมื่อสะอาดแล้ว เขาจึงสวมมันอย่างสง่างามและสงบนิ่ง
…
จากนั้นดาร์กก็เลิกสนใจเพื่อนร่วมชั้น และรีบกลับไปที่วิหารเล็ก ๆ
ตอนนี้ ‘ภาคี’ อาหารทะเลนั่นออกไปแล้ว และ ‘ปัจจัยไม่แน่นอน’ อย่างเวอร์เธอร์ก็ถูกขจัดออกไปแล้ว หากดาร์กไม่ใช้โอกาสนี้ศึกษาวิหาร มันคงจะเป็นการทำให้ ‘ของขวัญจากศาสตราจารย์เคเซอร์’ เสียเปล่าจริงไหม?
ดาร์กไม่สนใจจุดประสงค์ของภาคีนั่น
เขาแค่มาหาต้นตอสาเหตุของ ‘การ์ดดอกไม้’
ตอนนี้มันชัดเจนมาก รูปปั้นเทพธิดาในวิหารนี้เป็นต้นตอที่ว่าของ ‘การ์ดดอกไม้’!
เมื่อดาร์กก้าวเข้ามา คบไฟที่ดับไปก็สว่างขึ้นอีกครั้ง มันส่องสว่างไปทั่วทุกซอกมุมของห้องโถง
ดาร์กเรียกรุกกี้เดวิมอนออกมา และปล่อยให้มันบินไปรอบ ๆ วิหารเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครซ่อนตัวอยู่
ในทางกลับกัน เขาก็เดินไปที่ด้านหน้าของรูปปั้นและสังเกตเทพธิดาอย่างระมัดระวัง มันทำให้รู้สึกถึง ‘ความศักดิ์สิทธิ์’ ได้ในทันที
เธอเอามือกุมหน้าอก ดวงตาหลับตาพริ้มและก้มหน้าเล็กน้อย ราวกับหญิงสาวที่บริสุทธิ์กำลังสวดมนต์อยู่ในโบสถ์
รัศมีอันนุ่มนวลที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเธอทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจมาก
แต่ดาร์กกลับไม่รู้สึกถูกแรงดึงดูดจากเทพธิดาได้ง่าย ๆ เช่นเวอร์เธอร์ เขาสังเกตอย่างระมัดระวังอยู่ครู่หนึ่ง และเริ่มพิจารณาว่านี่น่าจะเป็นวิหารของเทพธิดาสักองค์
“พลังของการ์ดดอกไม้มาจากสิ่งนี้ ความใคร่ลดลงเพราะถูกชำระให้บริสุทธิ์ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์งั้นเหรอ?”
เพื่อยืนยันข้อสันนิษฐานของเขา ดาร์กจึงหยิบการ์ด [ราคะ I] ออกมา
แต่เมื่อพลังเวทมนตร์ถูกถ่ายโอนเข้าไปใน [ราคะ I] รูปปั้นเทพธิดาพลันเปล่งประกายออกมาพร้อมกัน!
ดาร์กหลับตาลง แต่แล้ว [ราคะ +1] กลับล่องลอยผ่านวิสัยทัศน์อันมืดมิดของเขาไปอย่างรวดเร็ว
สิ่งนี้ทำให้เขาตอบสนองทันที และหยุดการป้อนพลังเวทมนตร์ให้กับ [ราคะ I] แทบจะในตอนนั้น!
“หือ! ปรากฏว่ามันเป็นพลังจากรากฐานเดียวกัน!”
สีหน้าของดาร์กเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขารู้ว่ามันคืออะไร
ภายใต้รูปลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของเทพธิดาองค์นี้ กลับมีมหาบาป [ราคะ] ที่หนาแน่นกว่าที่เขามีในตอนนี้!
ปรากฏว่าเหตุผลที่การ์ดดอกไม้สามารถลดค่า [ราคะ] ได้ หาใช่ถูกทำให้บริสุทธิ์ แต่เพื่อดูดซับต่างหาก!
ณ ตอนนี้
การใช้การ์ด [ราคะ I] เป็นสื่อกลาง ปริมาณของ [ราคะ] ที่สะสมอยู่ในตัวเทพธิดาพลันหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของดาร์ก!
ราวกับมวลน้ำหลากที่ไหลลงสู่เบื้องล่าง และจะหยุดมันได้ก็ต่อเมื่อต้องเข้าสู่สภาวะสมดุลเท่านั้น!
โชคดีที่การ์ด [ราคะ I] ก็เป็นแค่การ์ด [ราคะ I] มันทั้งเล็กและเปราะบางเกินไปในฐานะ ‘ท่อ’ ส่งพลังงาน ดังนั้นตอนนี้มันถึงเป็นเพียง [ราคะ +1] เท่านั้น
เพียงแต่ว่าท่อส่งได้เชื่อมต่อกันแล้ว แม้ว่าดาร์กจะหยุดป้อนพลังเวทมนตร์แต่ก็ไม่สามารถปิดมันได้อยู่ดี
ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้
ดาร์กดึงการ์ด [อัตตา I] ออกมา
หลังจากผ่านไปหกวินาที ดวงตาของรุกกี้เดวิมอนก็เปลี่ยนไป
ดาร์กโยนการ์ด [ราคะ I] ขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยไม่ลังเล
และรุกกี้เดวิมอนผู้ซึ่งไม่พอใจกับการ์ดเวทมนตร์ใบนี้มาเป็นเวลานาน ก็กระพือปีกโจมตีมัน กระบอกฉีดยาที่มีหัวฉลามสามอันพุ่งเข้าหาการ์ดสีชมพูและขยี้จนแหลกเป็นชิ้น ๆ!
“ฮ่า ๆๆๆ!”
เสียงหัวเราะอันดุร้ายของรุกกี้เดวิมอนดังก้องไปทั่ววิหาร
“ข้าคือรุกกี้เดวิมอน สิ่งมีชีวิตชั้นสูงโดยธรรมชาติ เจ้าเป็นแค่การ์ดเวทมนตร์ กล้าดียังไงมายั่วโมโหข้า”
“ถ้ามีการ์ดใบไหนกล้ามายั่วโมโหข้าอีก มันก็จะจบลงเช่นนี้แหละ!”
“โฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
…
“เฮ้อ…”
เมื่อการ์ด [ราคะ I] แตกสลาย การเชื่อมต่อระหว่างดาร์กกับเทพธิดาก็พังทลายลง
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่สายตาที่มองไปยังเทพธิดากลับมืดครึ้มมากขึ้น
“มีตัวตนเช่นนี้อยู่ในเซนต์แมเรียนได้ยังไงกัน?”
“ศาสตราจารย์เคเซอร์คงรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เขากำลังคิดอะไรอยู่?”
“หรือต้องการให้ฉันทำลายสิ่งนี้?”
“แล้วใครคือเทพธิดา?”
คำถามแล้วคำถามเล่าผุดขึ้นมา
ดาร์กเล่นกับการ์ด [อัตตา I] ในมือพลางครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่
ตอนนั้นเอง…
จู่ ๆ ก็มีความคิดผุดขึ้นมาในหัวของเขา
“ถ้าฉันใช้เทพธิดาองค์นี้ ฉันจะสามารถสร้างการ์ด [ราคะ] ระดับสูงกว่านี้ได้ไหมนะ?”