ตอนที่ 82 – จุดชีวิตและไบโอนิก
คนสามพันกว่าคนทั้งเรือนจำ หลี่ซูถงเพื่อให้นักเรียนสามารถมีเวลาเล่าเรียนเพียงพอในสองวันนี้ พูดว่าไม่ให้พวกเขาออกมาก็ไม่ให้พวกเขาออกมาแล้ว
คล้ายกับว่าความหมายในการคงอยู่ของเรือนจำแห่งนี้ล้วนเป็นเพราะชิ่งเฉินเท่านั้น
รอจนกระทั่งหลี่ซูถงกลับห้องไปนอน หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าวอย่างปลง ๆ ว่า “บอสก็ยังเอาแต่ใจเหมือนที่เป็นมาตลอดเลย”
เยี่ยหว่านคิดแล้วตอบรับว่า “ถึงยังไงก็เป็นเมล็ดพันธุ์โดดเดี่ยวขององค์กรอัศวินตอนนี้ ทำให้บอสเคลื่อนไหวอย่างนี้ก็ไม่ถือว่าเว่อร์”
“จริงสิ” หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าว “นักฆ่าพลีชีพสองคนที่จับได้ก่อนหน้านี้ถูกผมฆ่าทิ้งแล้วนะ”
ชิ่งเฉิน “……?”
หลินเสี่ยวเสี้ยวเอ่ยเสริมว่า “วางใจเถอะ ก่อนพวกมันตายผมก็สอบออกมาแล้ว น่าจะเป็นภูติผีของบ้านสี่ตระกูลชิ่ง แต่สำหรับที่ว่าบ้านสี่ทำไมอยากเอาชีวิตคุณพวกผมก็ไม่รู้แล้ว”
มีเพียงเวลานี้ ชิ่งเฉินถึงได้ตระหนักว่าคนหนุ่มที่ยิ้มแฉ่งอยู่เบื้องหน้าอันที่จริงแล้วก็จิตใจโหดร้ายฝีมืออำมหิตเหนือธรรมดาเหมือนกัน
เพียงแค่ว่าอีกฝ่ายเวลาเผชิญกับศัตรูจะเลือดเย็น ต่อมิตรสหายกลับเป็นมิตร
เวลานี้ จู่ ๆ เยี่ยหว่านกล่าวว่า “มีเรื่องหนึ่งพวกเรารู้สึกประหลาดอย่างผิดปกติมาโดยตลอด ขณะนี้ดูไปแล้วพวกเบื้องบนตระกูลชิ่งล้วนรู้ถึงการคงอยู่ของคุณ แถมคุณยังมีสัญญาแต่งงานกับตระกูลจินได แต่ปัญหาคือ โลกข้างนอกมีคนเคยได้ยินถึงคุณน้อยมาก แต่ก่อนนี้ที่คุณยังไม่ได้ทะลุมิติมา คนที่ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมของตระกูลและเปิดเผยโฉมหน้าสู่สาธารณะเลย เกรงว่ามีเพียงคุณคนเดียว”
ชิ่งเฉินขมวดคิ้ว “อาจจะเป็นเพราะผมไม่สำคัญไหม ดังนั้นไม่เชิญมาพบหน้าค่าตา”
หลินเสี่ยวเสี้ยวส่ายหน้า “บอกว่าคุณไม่สำคัญ คุณก็ยังสามารถแทนที่โควต้าของบ้านสาม เข้าร่วมสังเวียนแห่งเงา บอกว่าคุณสำคัญ แม้แต่สาขารองตระกูลชิ่งยังไม่ถูกเย็นชาใส่อย่างนี้เลย”
“อีกอย่าง” เยี่ยหว่านกล่าว “บนเน็ตเสิร์จข้อมูลอะไรของคุณไม่เจอเลย อย่างกับว่าเป็นมนุษย์ล่องหน ไม่ได้จะบอกว่าคุณเงียบเชียบไร้ชื่อเสียงเกินไป ทว่ามีคนจงใจลบอะไรไป นี่ย้อนแย้งมาก”
พูดจบ เยี่ยหว่านกับหลินเสี่ยวเสี้ยวมองชิ่งเฉิน
ชิ่งเฉินเลิกคิ้ว “มองผมทำไร ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนะ”
“เฮ้อ น่าเบื่อ” หลินเสี่ยวเสี้ยวเดินไปอย่างผิดหวัง “เรื่องนี้ทำให้ผมอยากรู้อยู่พักหนึ่งแล้ว ยังนึกว่าคุณจะสามารถตอบผมได้ซะอีก”
เยี่ยหว่านกล่าวว่า “ไม่เสียเวลาแล้ว เริ่มฝึก ก่อนที่จะเริ่ม ผมอยากเน้นย้ำว่าสิ่งที่บอสพูดไม่ผิด ชีวิตเปราะบางอย่างยิ่งจริง ๆ ขอเพียงคุณสามารถชำนาญวิธีการหนึ่งชนิดก็เพียงพอที่จะฆ่าคนหนึ่งคนตาย”
กระดูกหน้าอกหักจะขัดขวางการหายใจ ถุงลมปอดแตก สุดท้ายหายใจไม่ออกจนตาย
ม้ามฉีกขาดก่อให้เลือดไหลออกมายิ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต ในเวลาอันสั้นก็จะก็ตายแล้ว
ดังนั้นคุณใช้แรงที่เพียงพอโจมตีตำแหน่งใด ๆ ตามใจชอบล้วนเพียงพอให้อีกฝ่ายสูญเสียความสามารถต่อสู้
แต่ทว่ายุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว นักรบมากมายล้วนจะแปรสภาพร่างกายตนเองเพื่อลดจุดชีวิต
มีคนที่จะปลูกถ่ายผิวหนังอัลลอยไบโอนิกที่ลำคอ อย่างนี้จะป้องกันไม่ให้ถูกคนปาดคอ
ยังมีคนแปรสภาพข้อต่อ ให้ตนเองสามารถรับแรงกระแทกที่มากยิ่งขึ้น
แต่มีที่หนึ่งที่มักจะถูกเหล่านักรบจักรกลละเลย : การปกป้องอวัยวะภายใน
ชิ่งเฉินฟังถึงตรงนี้ก็รู้สึกไม่ถูกต้อง “เดี๋ยวนะ พวกเราล้วนรู้ว่าอวัยวะภายในสำคัญยิ่ง ดังนั้นจะต้องมีคนมากมายที่ปลูกถ่ายผิวหนังไบโอนิกสิ”
เยี่ยหว่านกล่าวว่า “อ้อ หลัก ๆ แล้วคือผิวหนังนาโนไบโอนิกแพงเป็นพิเศษ หนึ่งตารางเซนติเมตรก็เป็นเงินแสนกว่าไคว่ ในสถานการณ์ทั่วไปมีไม่กี่คนหรอกที่สามารถปกป้องอวัยวะภายในทั้งหมด เพราะว่าพื้นที่ใหญ่เกินไป”
ชิ่งเฉินตะลึงงัน ที่แท้เป็นความจนที่จำกัดความแข็งแกร่งเหรอ
เยี่ยหว่านกล่าวต่อว่า “ตามที่คุณบรรยาย อวัยวะจักรกลของคนร้ายพวกนั้นไม่ได้เป็นประเภทที่ดีที่สุดเลย ดังนั้นผมประเมินว่าอวัยวะภายในของพวกเขาจะไม่ได้รับการป้องกัน”
พูดอีกอย่างหนึ่ง เยี่ยหว่านรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีตังค์ซื้อผิวหนังอัลลอยไบโอนิกในพื้นที่ใหญ่ขนาดนั้น
“ม้ามไม่เหมือนกัน หลัก ๆ อยู่ที่ตำแหน่งของมันยุ่งยากเป็นพิเศษ กระดูกสันหลังปกป้องมันไม่ได้ ซี่โครงก็ปกป้องมันไม่ได้ ไม่ว่าจะจากด้านหลังหรือว่าด้านหน้าล้วนแทงได้” เยี่ยหว่านอธิบาย “แถมกุญแจสำคัญที่สุดคือ มีคนน้อยมากที่รู้ว่าจะปกป้องมันยังไง”
อีกอย่าง พอคุณยืนยันแล้วว่าแทงเข้าม้ามอีกฝ่าย อย่างนั้นก็ไม่ต้องไปสนใจเขาแล้ว เขาจะตายแน่
เยี่ยหว่านถามว่า “หลังคุณกลับไปจะสามารถหามีดได้ไหม”
ชิ่งเฉินคิด “มีดหั่นผลไม้ได้ไหม”
“ไม่ได้” เยี่ยหว่านคิด “ถ้าเป็นแค่มีดหั่นผลไม้ทั่วไปไม่ได้ลับคม เกรงว่าแม้แต่ผิวหนังของคนร้ายยังแทงไม่เข้าเลย”
ว่าแล้ว เขาเดินขึ้นชั้นหกเปิดประตูเลื่อนอัลลอยบานหนึ่ง คว้ามีดพับหนึ่งเล่มกลับมาจากห้องขังห้องหนึ่ง
นักโทษในห้องขังยังหลับอยู่ หลังจากถูกเสียงประตูเลื่อนอัลลอยเปิดปลุกตื่น ก็นอนมึน ๆ งง ๆ ดูเยี่ยหว่านเข้าประตู คว้ามีด จากไป สำเร็จในรวดเดียว
เยี่ยหว่านเอามีดพับยาวเท่าฝ่ามือวางลงในมือชิ่งเฉิน “ตามที่คุณพูด นี่น่าจะเป็นสิ่งของที่คุณกำไว้แล้วจะสามารถเอากลับไปได้ ใช้ของเล่นนี้มาสู้จริงเถอะ”
ชิ่งเฉินอึ้งไปครึ่งค่อนวัน “ไม่ให้ของที่ได้ฟีลเทคโนโลยีกว่านี้สักหน่อยเหรอ”
เยี่ยหว่านส่ายหน้า “บอสไม่ยอม”
“งั้นตอนซ้อมก็ต้องใช้ของจริงไหม” ชิ่งเฉินถามอีก
“อืม” เยี่ยหว่านพยักหน้า “คุณไม่ใช่แค่ต้องทำความคุ้นเคยกับสไตล์การจู่โจมทั้งหมดกับสไตล์การป้องกันของอีกฝ่าย ยังต้องทำความคุ้นเคยกับอาวุธที่คุณจะใช้ สัมผัสของมัน”
“อืม ตอนนี้พวกเราต้องทำอะไร” ชิ่งเฉินถาม
“อยากจะจู่โจมจุดชีวิต ก่อนอื่นต้องรู้ว่าจุดชีวิตอยู่ที่ไหน” เยี่ยหว่านกล่าว “แต่เพราะว่าร่างกายของคนทุกคนสูงไม่เท่ากัน หนักไม่เท่ากัน กระดูกก็ไม่เหมือนกันทั้งหมด ดังนั้นจุดชีวิตก็ไม่เหมือนกัน คุณต้องฆ่าคนตั้งเยอะ ฝึกหลาย ๆ ครั้งจึงจะสามารถหาได้อย่างแม่นยำ”
ว่าแล้ว เยี่ยหว่านยื่นแว่นตาหนึ่งคู่ให้เขา “ใส่ไว้ ใช้มองไนต์วิชั่น”
จากนั้น เรือนจำทั้งหมดจู่ ๆ มืดลง โลกล้วนตกลงสู่ความมืดมิด
เยี่ยหว่านพาชิ่งเฉินมาถึงหน้าประตูห้องขังห้องหนึ่ง หลังจากประตูเลื่อนอัลลอยเปิดออก แม่เยี่ยคนนี้เดินเข้าไปก่อนแล้วกดนักโทษลงบนเตียงอย่างแน่นหนาเหมือนกับที่กดหลิวเต๋อจู้เลย
เขาไม่ได้ไปใส่ใจนักโทษที่ดิ้นรนสุดแรง เพียงชี้ไปที่ข้างใต้ซี่โครงของนักโทษ กล่าวกับชิ่งเฉินว่า “คุณดู จุดชีวิตม้ามของเขาอยู่ที่ตำแหน่งนี้ หนึ่งมีดเสียบเข้าไปต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”
พูดจบ เยี่ยหว่านพาชิ่งเฉินไปที่ห้องขังถัดไปอีก
ไม่มีคำพูดไร้สาระสักคำ ประหยัดเวลา
กดนักโทษที่ผวาสุดบรรยายลงไปอีก อธิบายให้ชิ่งเฉินถึงส่วนที่ไม่เหมือนกันของจุดชีวิตคนนี้กับคนที่แล้ว รวมทั้งเหตุใดไม่เหมือนกัน จะประเมินส่วนที่ไม่เหมือนกันจากรูปร่างของอีกฝ่ายอย่างไร
จากตี 1 ถึง 6 โมงเช้า เยี่ยหว่านใช้เวลา 5 ชั่วโมงเต็มพาชิ่งเฉินไปสัมผัสนักโทษสามพันกว่าคนทั้งเรือนจำ
ชิ่งเฉินรู้สึกว่าตนเองเหมือนจะศึกษากายวิภาคอยู่ แต่ไม่เหมือนกับสถานการณ์ของนักศึกษาแพทย์ที่ไม่มีศพให้ใช้ เขามี “ศพ” สามพันกว่าศพมาใช้เพิ่มประสบการณ์
สำหรับชิ่งเฉินแล้ว นี่เป็นคืนที่เติมเต็ม
แต่สำหรับนักโทษในเรือนจำหมายเลข 18 ก็ไม่เหมือนกันแล้ว นี่เป็นคืนที่น่าหวาดผวา
พวกเขาทุก ๆ คนล้วนประสบกับเรื่องที่แทบจะเหมือนกัน : ประตูเลื่อนอัลลอยจู่ ๆ เปิดขึ้น โลกเป็นความมืดมิดไปทั้งแผ่นผืน
จากนั้นชายฉกรรจ์คนหนึ่งใช้แรงที่บดขยี้โดยสิ้นเชิงควบคุมพวกเขา กล่าวกับคนอีกคนว่า “คุณดู นี่เป็นตำแหน่งของม้ามเขา ใช้มีดแทงเข้าตรงนี้เขาก็ตายแล้ว”
นี่เทียบกับภาพยนตร์ที่สยองขวัญที่สุดในภาพยนตร์ชีวิตเสมือนแล้วยังสยองกว่าอีก
…………………………………….
ตอนที่ 83 – ต่อสู้กับการรับรู้