ตอนที่ 94 – ดูแลตัวเอง
บนเขาเหล่าจวิน ในบ้านชาวไร่ชาวนาแห่งหนึ่ง
วิทยุสื่อสารที่ชิ่งเฉินวางไว้บนโต๊ะจู่ ๆ ดังขึ้นมา “สวัสดีครับ ผมคือลู่หยวนของคุนหลุน”
เขามองดูเงียบ ๆ แต่ไม่ได้สนใจเลย
ณ ขณะนี้ ชิ่งเฉินกำลังนอนหงายบนเตียงสีขาวบริสุทธิ์ เขากัดผ้าขนหนูหนึ่งผืน สีหน้าซีดขาว
ตรงปลายเตียง เจียงเสวี่ยหยิบไอโอดีนหลายขวดกับสำลีที่ซื้อมาเมื่อเช้าออกมา ร้องไห้พลางทำความสะอาดบาดแผลบนเท้ากับขาของชิ่งเฉินพลาง
เสี้ยนไม้เล็กละเอียด, เศษแก้วแตก, ฝุ่นดิน
ถูกเจียงเสวี่ยทำความสะอาดไปทีละนิด
เม็ดเหงื่อใหญ่เท่าเม็ดถั่วกลิ้งลงจากหน้าผากของชิ่งเฉิน หลี่ถงอวิ๋นที่อยู่ด้านข้างเช็ดให้เขาไม่หยุด
เด็กหญิงก็กำลังร้องไห้
พวกเธอไม่ได้กลัวหรือว่ามีอารมณ์อย่างอื่น แค่เจ็บปวดใจแทนชิ่งเฉินเกินไป
เมื่อคืนเด็กหนุ่มฝืนร่างกายกลับมาที่ข้างนอกรีสอร์ท เพื่อไม่ให้คนหาตนเองเจอโดยอาศัยเงื่อนงำจากเท้าเปล่าเขา เขาถึงขนาดฝืนทรมานใส่รองเท้า หาบ้านชาวไร่ชาวนาแห่งใหม่มาพักอาศัย
เพิ่งจะเข้าห้อง เขาก็สลบลงไป
หมดแรง ความหวาดกลัวและแตกตื่นหลังจากฆ่าคนเป็นครั้งแรก ราคาของการหลั่งอะดรีนาลีนเบื้องหลังความเลือดเดือด สมองเลยวูบขึ้นมา
เขาใช้วิชาหายใจตลอดการต่อสู้ หลังการต่อสู้เอนโดรฟินปริมาณมหาศาลหลั่งออกมาจากต่อมใต้สมอง ทำให้เขาลืมความเจ็บปวดไปชั่วคราว
แต่เช้าตรู่ตอนที่เจียงเสวี่ยทำความสะอาดบาดแผลให้เขา ยังคงทำเอาเขาเจ็บจนตื่นขึ้นมาอีก
เดิมทีเจียงเสวี่ยก็อยากให้ชิ่งเฉินพักผ่อนมาก ๆ หน่อย แต่บาดแผลนี้จำเป็นต้องจัดการโดยเร็ว ถ่วงช้าไปอีกครู่หนึ่งก็ไม่ได้
เจียงเสวี่ยเช็ดน้ำตาพลางกล่าวพลาง “คุณดูร่องเลือดบนไหล่คุณนี่สิ ลงไปอีกนิดเดียวกระดูกไหปลาร้าคุณก็จะแตกแล้ว”
ชิ่งเฉินไม่มีคำพูด เพียงทนรับความเจ็บปวดไปเงียบ ๆ
อันที่จริงอาการบาดเจ็บของเขาดูน่ากลัว แต่ตัวเขาเองรู้ว่านั่นล้วนเป็นอาการบาดเจ็บเพียงผิวหนัง จะหายดีโดยเร็ว
โดยเฉพาะ ตลอดการต่อสู้เขาใช้วิชาหายใจ กำลังวังชาที่สูญเสียไปค่อย ๆ ฟื้นฟูมาแต่เช้ามืดแล้ว
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะปกติที่เขาต่อสู้ล้วนใช้วิชาหายใจหรือไม่ สัมผัสกับความเจ็บปวดอันมหาศาลอีกแล้ว
ชิ่งเฉินรู้สึกอย่างเลือนรางว่า ปราณก้อนนั้นในร่างกายตนเองเหมือนจะแกร่งขึ้นมาหน่อย เดิมทีอาจจะใหญ่เพียงกำปั้น ปัจจุบันนี้กลายเป็นหนึ่งกำปั้นครึ่งแล้ว
อีกอย่าง ร่างกายเหมือนกับกำลังแปรเปลี่ยน แผ่นหลังที่ปวดร้าวทั้งตัวหรือแม้แต่กระดูกล้วนเหมือนกับกำลังลั่นเปรี๊ยะนิด ๆ
สามชั่วโมงให้หลัง ในที่สุดเจียงเสวี่ยลงความเห็นว่าบาดแผลที่เท้าชิ่งเฉินสะอาดหมดจดแล้ว เธอกล่าวกับชิ่งเฉินว่า “คุณนอนอีกหน่อย ฉันจะไปยืมครัวทำอาหารบำรุงให้คุณกินหน่อย”
“อืม ขอบคุณครับน้าเจียงเสวี่ย” ชิ่งเฉินกล่าวอย่างอ่อนระโหย
หลี่ถงอวิ๋นที่อยู่ด้านข้างกล่าวว่า “พี่ชิ่งเฉิน ตอนที่พี่กลับมาเช้ามืดทำหนูกับแม่กลัวแทบตายแน่ะ ยังนึกว่าพี่จะไปซะแล้ว”
ชิ่งเฉินร้องอืมคำหนึ่ง
ต่อมาได้ยินเด็กหญิงกล่าวว่า “จากนั้นแม่เช็คอาการบาดเจ็บบนตัวพี่ ค้นพบว่ามีเพียงตรงไหล่กับเท้าที่หนักที่สุด พวกเราเลยวางใจหน่อย ครั้งหน้าอย่าแลกชีวิตอย่างนี้ดีไหมคะ ถ้าพี่ไม่อยู่ หนูก็จะกลัว”
ชิ่งเฉินยิ้มอย่างฝืดเฝื่อน “วางใจเถอะ ฉันจะไม่เป็นไร”
จนกระทั่งเจียงเสวี่ยจากไป หลี่ถงอวิ๋นลดเสียงลงกล่าวว่า “พี่ชิ่งเฉิน หนูน่าจะเดาตัวตนของพี่ออกแล้วล่ะ เพียงแต่ไม่เหมือนกับข่าวที่หนูได้รับมาก่อนหน้านี้ไปหน่อย หนูยังต้องยืนยัน”
ชิ่งเฉินอึ้งไป เหมือนกับว่าตอนที่เขาอยู่ในโคม่า มีเรื่องอะไรที่ถูกอีกฝ่ายค้นพบแล้ว
แต่นี่ก็ไม่สำคัญ อันที่จริงเขาไม่ได้แคร์มากเลยว่าเด็กหญิงจะรู้ตัวตนของตนเอง
เขาเพียงอยากรู้นิดหน่อย “ทำไมดึงดันอยากจะหาฉันที่โลกภายในขนาดนี้ล่ะ”
กลับได้ยินหลี่ถงอวิ๋นกล่าวต่อว่า “เรื่องที่หนูกลายเป็นนักท่องเวลาบอกแม่ก็ไม่ได้ พี่ก็ไม่อยู่ข้างกาย กลางคืนหนูอยู่คนเดียวในบ้านหลังเบ้อเริ่มจะนอนก็กลัวมาก รอหนูหาพี่เจอก็จะไม่กลัวแล้ว พี่ชิ่งเฉินพี่รู้ไหม หนูอยู่โดดเดี่ยวเดียวดายในโลกภายในนั่น……”
ชิ่งเฉินคิด ๆ ดู “เริ่มแผนทุกข์ระทมแล้วเหรอ”
หลี่ถงอวิ๋นทำปากบุ้ย “น่าเบื่อ!”
“เธออยู่ที่โลกภายในมีเพื่อนใหม่ไหม” ชิ่งเฉินเอ่ยอย่างอยากรู้
“มีพี่ชายกับพี่สาวที่ดีกับหนูมากเลย ปู่ตระกูลหลี่ก็ใจดีกับหนูเป็นพิเศษ” หลี่ถงอวิ๋นงึมงำ “แต่ว่า กลุ่มการเงินตระกูลหลี่เหมือนกับว่าซับซ้อนมากเลย ปู่ที่ดีเป็นพิเศษคนนั้นสุขภาพแย่มาก คนเยอะแยะแอบปรึกษากันถึงเรื่องหลังจากที่เขาจากไป”
ชิ่งเฉินครุ่นคิด พี่ชาย, พี่สาว, ปู่ที่พูดนี่น่าจะเป็นเครือญาติสายตรงในกลุ่มการเงินตระกูลหลี่ทั้งหมดสินะ
เขาเคยได้ยินหลี่ซูถงพูดว่า ผู้นำตระกูลรุ่นปัจจุบันของตระกูลหลี่แก่มากแล้ว สุขภาพถดถอยลงทุกวัน
ผู้นำตระกูลคาชิมะน่าจะอายุมากที่สุด ไม่อาจยืนยันอายุ วิธีการต่อชีวิตของอีกฝ่ายเหมือนจะไม่โปร่งใสเลย
ชิ่งเฉินไม่อยากครุ่นคิดถึงเรื่องพวกนี้ชั่วคราว
เขาหันหน้ามองไปทางไหล่ของตนเอง ตรงนั้นผูกผ้าพันแผลผืนใหม่แล้ว
ทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้านี้ล้วนย้ำเตือนเขาว่า มันผ่านไปหมดแล้ว
เดี๋ยวนะ ชิ่งเฉินยังมีเรื่องหนึ่งที่ต้องทำ
“เสี่ยวถงอวิ๋น ช่วยฉันหากระดาษกับปากกาได้ไหม” ชิ่งเฉินถาม
“ในกระเป๋านักเรียนของหนูมี” หลี่ถงอวิ๋นกล่าว
ชิ่งเฉินเอนพิงหมอนสองใบช้า ๆ จากการพยุงของเธอ เขาใช้โทรศัพท์มือถือเสิร์จหาวิธีการถอดรหัสมอร์ส จากนั้นอาศัยความทรงจำเขียนรหัสมอร์สที่สมาชิกคุนหลุนเคาะในคืนนั้นออกมา
นิ้วชี้เคาะคือเคาะสั้น นิ้วกลางเคาะคือเคาะยาว การเคาะทุก ๆ ชุดของพวกมันล้วนแสดงถึงตัวอักษรหนึ่งตัว หรือว่าตัวเลข
อย่างเช่น เคาะนิ้วชี้ เคาะนิ้วกลาง ก็คือตัวอักษร A
และจังหวะการเคาะที่ดูไร้ระเบียบวรรคนั้นก็ได้ประกอบจนกลายเป็นข้อความสำคัญ
ชิ่งเฉินก็ไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ ตนเองอยากจะถอดรหัสมอร์สวรรคนั้น เขาเพียงรู้สึกว่า ตนเองเหมือนจะพลาดเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งไปอย่างหนึ่ง
เรื่องนั้นทำให้คนมีเงินอย่างหูเสี่ยวหนิวทิ้งชีวิตขอร้องให้เขาแก้แค้นให้สมาชิกคุนหลุนสองคน
ชิ่งเฉินย้อนทบทวนจังหวะการเคาะในสมองอย่างรวดเร็วแล้วถอดข้อความ
“ชีวิตนี้ไม่เสียใจ พี่น้องรักษาตัว”
“ต๊อกต๊อกต๊อก, ต๊อก, ต๊อก” (ผมทบทวนเป็นรอบสุดท้าย)
“ชีวิตนี้ไม่เสียใจ พี่น้องรักษาตัว”
นี่เป็นข้อความที่สมาชิกคุนหลุนซึ่งได้รับบาดเจ็บบนพื้นถ่ายทอดให้พวกพ้องที่อยู่ในเหตุการณ์อีกคน
ชิ่งเฉินที่นั่งอยู่บนเตียงจู่ ๆ คิดว่า ที่แท้เริ่มตั้งแต่พริบตาที่อีกฝ่ายถูกยิงก็เตรียมใจจะตายเอาไว้แล้ว
เขาทอดมองท้องฟ้าสีครามอันสดใสนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าบนภูเขาคล้ายจะอยู่ต่ำกว่าในเมือง แล้วก็กว้างขวางกว่า
แต่ไม่รู้ยังไง อารมณ์ของชิ่งเฉินดิ่งลงอยู่บ้าง
เขาพับเศษกระดาษที่ถอดรหัสเสร็จแล้วแผ่นนั้น ให้หลี่ถงอวิ๋นช่วยเอาไปใส่กระเป๋าสตางค์ของตัวเอง
…………………………………….
(ไม่รู้เรียกสปอยล์ไหม แต่ใส่ไว้หน่อยแล้วกัน)
ถึงจะชนะแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีการสูญเสียล่ะนะ ยิ่งวันเวลาผ่านไป เนื้อเรื่องจะยิ่งเข้มข้นและตึงเครียดค่ะ อย่าได้เห็นว่าตอนแรก ๆ ตบมุกกันโบ๊ะบ๊ะ พระเอกทำอะไรก็สบาย ๆ วิน ๆ ไปหมด แล้วเรื่องนี้จะเฮฮาเหมือนวิ่งในทุ่งลาเวนเดอร์ทั้งวัน ขอบอกว่าเราเสียน้ำตาไปหลายหยดแล้วกับเรื่องนี้
จะว่าไปเรื่องนี้อารมณ์ประมาณแฮรี่ พอตเตอร์อะ เล่มแรกกับเล่มสุดท้ายต่างกันแค่ไหนล่ะ…… (นี่ยังทำใจที่เฮ็ดวิกกับด๊อบบี้ตายไม่ได้เลย)
ตอนที่ 95 – คีย์เวิร์ด